ของที่หมดแล้วต้องซื้อซ้ำใน Watsons

สวัสดีคะ กลับมาพบกับอาชิในวันช่วง Weekend บ้างเนอะ

ทำงานเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ว คงไม่มีอะไรดีไปมากกว่าการได้ไปช้อปปิ้งแน่นอนคะ

แหม นานๆทีจะว่างมาช้อปนี่นา (ไม่ได้แก้ตัวเลยจริงๆนะค่า ฮ่าๆๆๆ – -")

และร้านที่ชิต้องแวะทุกครั้งที่เข้าห้างเลย ก็คือร้าน Watson เพราะมีของกู้ชีพชิทุกอย่างในนั้นแหละ วันนี้ชิกะว่าจะมาซื้อของที่ใช้อยู่แล้ว ตุนไว้ ก็อย่างที่บอกนะคะ นานๆจะว่างมาช้อปนี่นา อยากรู้กันใช่มั้ยละ ว่าชิได้อะไรมาบ้าง งั้นตามไปดูกันเลยคะ

นี่ชิเองก็อยากจะรู้ว่า ตอนทำงานหรือเรียนนี่ตั้งใจเท่าช้อปปิ้งรึป่าวเนี่ย ฮ่า

อะช้อบกันไปเพลินๆ วันนี้ชิช้อปไม่เยอะนะ ประมาณ4-5อย่างเอง แต่เป็นของที่ชิใช้เองอยู่แล้ว แล้วก็ชอบ เลยต้องซื้อซ้ำอยู่ตลอด จะเป็นอะไรบ้างในถุงเขียวนี้ งั้นมาดูพร้อมๆกันเลยจ้า

1.ไอเทมกู้ชีพอย่างแรกคือ Vasaline กระปุกนี่แหละค่า ตัวนี้หมดทุกอาทิตย์ ซื้อทุกอาทิตย์ แต่สาขาที่ชิไป มีแค่กระปุกเล็ก จึงสอยมาแค่อันเดียว เพราะปกติชิใช้ขนาดใหญ่ จะคุ้มกว่าคะ (ไม่ได้งกจริงๆ) ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าถ้าชิมีโอกาสไปต่างประเทศจะซื้อ Vaseline มาตุนเยอะมาก เพราะของนอกจะมีขนาดใหญ่เบิ้มเลยยย และเนื้อสีก็จะอ่อนกว่า มันดูหน้าใช้มากกว่า แต่สุดท้ายแล้วคุณภาพมันก็ดีเท่ากันนี่แหละค่า ฮ่าๆ

อุปกรณ์กู้ชีพตัวนี้ ชิจะใช้ทาบริเวณ ข้อศอก หัวเข่า และก้น (อันนี้ไม่ได้ลามกน้าา) ขอมาแชร์ความสวยความงามละกัน เนื่องด้วยหญิงสาวแบบเราๆเนี่ย เวลาใส่ชั้นในที่รัดมากๆ มันต้องเจอการเสียดสีในทุกๆวัน อาจมีการละคายเคืองจนเกินเป็นผด ผื่นได้ในที่สุด ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงก็คือ การเลือกใส่กางเกงชั้นในแบบไร้ขอบ หรือวิธีการแก้ปัญหาของชิก็คือใช้เจ้าตัวนี้นี่แหละ ประโคมลงก่อนนอนเลยค่า เพราะแค่โลชั่นอย่างเดียวเอาไม่อยู่จริงๆ

2.อย่างที่สอง เป็นสิ่งที่ชิภูมิใจนำเสนอมากคือ คลีนซิ่งตัวใหม่ ที่ตอนนี้เป็นอันดับ 1 ในใจชิเลยค่ะ

Purity micellar cleansing water จากเเบรนด์ Corine de Farme เป็นเเบรนด์ เวชสำอางนำเข้าจากฝรั่งเศสเชียวนะ productของเค้าเป็น natural origin 98% เลยด้วย เห็นทางเเบรนด์เคลมมาขนาดนี้ก็ไม่ลองได้ไม่ได้เเล้ว ชิใช้ตัวนี้มาซักพักเเล้วติดใจมากค่ะ ด้วยความที่เป็นเวชสำอางจากธรรมชาติจึงค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าต้องอ่อนโยนต่อผิว

บอบบางเเพ้ง่ายอย่างชิเเน่นอนเเละที่ประทับใจที่สุดคือกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ทำให้รู้สึกสดชื่นมากเป็นพิเศษ ใครว่าเวชอำอางจะมีกลิ่นไม่ได้ล่ะ!! คือดีจริงๆนะ

โดยส่วนตัวเเล้วชิจะใช้เป็นสูตรน้ำเป็นหลักค่ะ

เเต่เดือนนี้มีโปรโมชั่นเข้าคู่กับ Micellar refreshing gel พอดี

ซึ่งเป็นตัวที่ชิเล็งมานานเเล้วค่ะ เเต่ไม่มีโอกาสได้มาสอยซักที

ขาชอปอย่างชิเลยสอยมาซะเลยค่ะ คุ้มขนาดนี้ไม่มีอีกเเล้ว

ตัว gel ก็เป็นที่ล้างเครื่องสำอางเช่นกันค่ะ เเต่มาในรูปเเบบของ gel

ตัวขวดเป็นหัวปั้ม ขนาด 500ML เหมือนกับ Purity micellar cleansing waterเลยค่ะ

หลังจากที่ปั้มออกมาลอง เนื้อเจลใส ละเอียด เเละมีกลิ่นหอมๆของดอกไม้จากธรรมชาติด้วย ให้ความรู้สึกสดชื่นมากค่ะ

วิธีการใช้สูตรเจล ก็ง่ายมากเลยค่ะ เพียงเเค่ใช้เจลนวดทั่วหน้าเเล้วเช็ดออกด้วยสำลี หรือล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้เลย

อีกอย่างที่ประทับใจมากคือ สูตรนี้ไม่ต้องใช้สำลีก็ได้ เพียงเเค่ล้างออกด้วยน้ำเปล่าก็อันเสร็จเรียบร้อยเลย

สรุปผล Micellar refreshing gel

ชิประทับใจมากค่ะสำหรับการลองใช้ในครั้งเเรก

ประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอาง สะอาดหมดจดดีค่ะ

เเอบเห็นว่า เค้ามี glycerin ที่มีคุณสมบัติรักษาความชุ่มชื้นของผิวเป็นส่วนผสมด้วย จึงทำให้ผิวไม่เเห้งตึงเเละชุ่มชื้น รักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าได้ดี ตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ใช้เลย

มีเคล็ดลับเติมความสดชื่นที่ชิไปอ่านเจอใน Cleo มาด้วยว่า ถ้านำ Micellar refreshing gel ไปเเช่เย็นก่อนใช้ จะเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวของเราด้วย เดี๋ยวชิจะลองเเล้วมาเล่าให้ฟังกันในคราวหน้านะคะ

สรุปง่ายๆเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นตัวสูตรน้ำหรือ สูตรเจล ก็เช็ดเครื่องสำอางออกได้หมดจด เป็นเวชสำอางจากธรรมชาติเหมือนกันค่ะ เเต่ต่างกันที่เพื่อนๆชอบสูตรไหนมากกว่ากันเท่านั้นเอง ค่ะ

เเต่ตอนนี้ชิคงเทใจให้กับสูตรเจลเลยค่ะ

มีข่าวดีด้วยนะ ตอนนี้ watson มี โปรโมชั่นชิ้นที่2เพียงบาทเดียว!!!เเถมสามารถคละได้ทั้งตัวสูตรเจลเเละสูตรน้ำเลยนะ จะรอช้าอยู๋ทำไม เเนะนำให้รีบไปสอยกันเลยค่ะ

3. เข้าสู่โหมดเครื่องสำอางค์กันบ้างนะคะ ตัวนี้ก็คือลิปสติค ที่พูดย้ำบ่อยเหลือเกินนนน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Maybelline รุ่น bold matte สี matt7 ชิชอบเนื้อลิปรุ่นนี้มากที่สุด คือมันกลบสีปากได้มิด ไม่มีกลิ่นมากวนใจ แถมสีคือรอดทุกสถานการณ์ อย่างสีนี้บางคนบอกนู้ดไป สำหรับตัวชิเองแล้ว จะชอบทา tint ด้านในขอบปาก และตบด้วยสีนี้ทาด้านนอก ก็จะได้ปากดูเป็นธรรมชาติสุขภาพดี หรืออีกวิธีนึงนั่นก็คือ ใช้ผสมลิปสีเข้ม ไม่ว่าสีแดง สีน้ำตาล หรือใครที่ชอบแต่งตาจัดๆ บอกเลยว่าลิปสีนี้ทาแล้วเข้าสุดๆคะ

4. ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนบ้าบรัชออนมากกก ถึงมากที่สุด เข้า watsons ทั้งทีจะไม่ซื้อบรัชออนคงเป็นไปไม่ได้ และแบรนด์ที่ชื่นชอบอยู่แล้วก็คือของ Catrice ซึ่งบรัชออนตัวเก่า ต้องบอกตามตรงว่ายังใช้ไม่หมด แต่อยากได้สีใหม่ซะแล้ว เพราะหลงรักทั้งเนื้อสี แพคเกจ และราคาที่ดีงาม พระรามแปดมากๆๆๆ ซึ่งแอบเล็งสีนี้มานานมากแล้ววว เพราะชิว่าสีมันคล้ายกับ blush ของ Dior มากๆ ออกสีชมพูม่วง และโทนสีนี้ก็หาได้ยากตาม Drugstore ด้วย ก็จัดมาเลย ซึ่งได้ลองปัดดูแล้ว มันสวยงามมาก สีช้ำๆตุ่นๆ คือทาสีเดียวเอาอยู่ เนื้อสีชัด แน่น ติดทนงาม สงสัยว่าครั้งหน้าที่เข้า watsons ชิจะต้องไปสอยสีอื่นเพิ่มซะแล้วว (นี่ขนาดยังใช้ไม่หมดนะเนี่ยย บ้ามากเบยยย อร๊ายยย)

5. และสุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแต่งหน้าสำหรับชิเลยก็คือ Concealer ด้วยความที่เป็นโรคภูมิแพ้ ใครที่เป็นภูมิแพ้จะต้องกับปัญหาใต้ตาแห้ง แถมดำคล้ำ ซึ่ง Concealer ที่ชิใช้ได้ จำเป็นจะต้องปกปิดแพนด้าใต้ตาได้เป็นอย่างดี และ Concealer ใช้ทู้กกกวัน หมดก็เร็ว ให้ซื้อ Hi-end มาใช้ใน everyday ก็ไม่ไหว ซึ่งตัวเด็ดมันอยู่ที่แบรนด์ Collection เป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีม ที่ดีงามมาก มีโทนสีให้เลือกเยอะ ทั้งหมด5สี ถือว่าเยอะอยู่น้าาา ตัวนี้ซื้อแล้วซื้ออีกจริงๆคะ รักนางสุดพลังงง

ก็หมดกันไปแล้วนะคะ กับของที่เมื่อไหร่เข้า Watson เป็นต้องซื้อซ้ำๆ วันนี้เนี่ย เราช้อปหมดไปประมาณ 1,596.- ถือว่าคุ้มเพราะได้ของที่ชิใช้แล้วชอบอยู่แล้ว เอาเป็นว่าวันนี้ชิได้เสียทรัพย์ก็นอนหลับสบายแล้วละ ฮ่าๆๆๆ งั้นวันนี้ชิขอตัวลาไปก่อนน้า พบกันใหม่ในรีวิวน้าคะ ขอบคุณที่รับชมนะค่าาา

ของที่ซื้อจาก Watson ทั้งหมด

Petrolium jell – Vaseline ราคา 69.-

Micella cleansing Water – Corine de farme ราคา 849.-

Micella refreshing gel – Corine de farme ราคา 1.-

Bold matte lipstick – Maybelline (เบอร์ Matt7) ราคา 119.-

Defining blush – Catrice (เบอร์ 110 Legend-berry) ราคา 195.-

Lasting perfection concealer – Collection ราคา 223.-

Discussion (3)

@Prangpizz Fiji kaa
รบกวนหน่อยค่ะชิ ชิใช้Nars Sheer Glow สีอะไรคะ