ดูแลสิว ดูแลผิว ตลอดชีวิต

1 1

สวัสดีค่ะทุกคน เป็นสมาชิกจีบันตั้งแต่ปี1 ตอนนี้ปี 4 แล้วค่ะ

สิ่งที่ชอบที่สุดคือเห็นสังคมน่ารักๆ ที่ช่วยเหลือกันในนี้ ชื่นใจดี

ส่วนตัวชอบเกมส์ค่ะ เคยได้รางวัลในเกมส์หัวใจ ดีใจจนแทบจะตีลังกาได้

เอาล่ะ มาถึงหัวข้อกระทู้ที่ตั้งวันนี้

จริงๆแล้ว ไปตอบกระทู้ มา เลยเป็นแรงบันดาลใจมาตั้งกระทู้ในวันนี้

(เป็นคนสื่อสารยังไม่ค่อยโอเคนะคะ ถ้าอ่านแล้วงงๆก็ ขออภัยงามๆ)

อารัมภบทนานนิดนึง

วาระแห่งชาติที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ผู้หญิงต้องเจอ

นั่นก็คือ "สิว" ค่ะ ..สำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จิ๊บๆ

แต่บางคนนี่ สิวเม็ดเดียวสะเทือนถึงดวงดาว

แต่สำหรับตัวผึ้งเอง(ขออนุญาตแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นนะคะ)

สิวก็คือ สิ่งที่อยู่ด้วยกันมานาน จำได้ว่าตอนอยู่ โรงเรียนประจำ

พี่ที่เค้าสวยๆอ่ะค่ะ เค้าต้องยืนหน้ากระจกแล้วชี้สิวเม็ดเดียวบนหน้า

แล้วบอกว่า ฮือ สิวขึ้น ต้องเอายาน้ำใสๆแต้ม ขวดฟ้าเพราะเป็นของคลินิคหมอ

ตัวเองก็คิด แบบ ถ้าจะสวยเท่าเค้าต้องทำแบบพี่เค้า

หมายมั่นปั้นมือไว้เลย ชั้นต้องหาหมอสิวให้ได้ จะได้สวยๆ นั่น ม.1นะคะ

และก็สมหวังค่ะ เม็ดใหญ่ข้างแก้มมาเลย อักเสบเจ็บๆ

ไปเอายาพี่มาแต้ม แต่มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ

มันไม่หยุด และไม่ได้แจ่มว้าวเหมือนพี่คนสวย

กลับบ้านที แม่ก็สงสาร พาไปซื้อเลยผลิตภัณฑ์ ทั้งชุด ...

ปรากฎว่าของนางแรงจริงอะไรจริง หาหมออย่างเดียวค่ะ หาหมอคือคำตอบ

ทาแต่ยาที่ทำให้หน้าขาวเท่านั้น ตัวก่อนล้างหน้า ขี้เกียจ ไม่ทา

และเราก็ตกหลุมรักคลินิคหมอไปเรื่อยๆ

โรแอคคิวเทน ชื่อนี้มีแต่ปากที่แห้ง กินแล้วปากชมพูเลย (มันแห้งจนแดงไง)

มาถึงช่วงปล่อยผ่านของชีวิต ปิดเทอม 4 เดือนก่อนเข้ามหาลัย

ความสวยเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น 4 เดือนนี้อุทิศเพื่อความงาม

เว็บไหนดี เว็บไหนโดน กระทู้ไหนเจ๋ง เสพทุกอย่าง

ขัดมะขามที่ตัว แต่ไปเรียนขับรถตากแดด(ทุกวันนี้แขนยังดำไม่เลิก)

ว่างแล้วต้องสั่งของ แต่ก็ยังไม่งาม สิวยังเหมือนเดิม

ขึ้นปี 1 มีจุดยืนค่ะ "แม่หนูไปหาหมอละนะ เค้าว่าหมอเลี้ยงยา หนูจะหายเอง"

หลังจากนั้น ชุดใหญ่ก็ขึ้นบนหน้า ไม่ยอมแพ้ค่ะ

เอาหน้าที่เราคิดว่าเราอ่ะเป็นสิวน้อยมาก ไปเรียน...

ช่วงพีคคือฝึกงาน ใครว่าหน้าตาไม่ใช่ประเด็นหลักนี่ อาจจะต้องทบทวนนิดนึง

หน้าผึ้งก็ไม่ได้ส่งผลต่อการฝึกงาน แต่ส่งผลต่อการตอบคำถาม

"ไปทำอะไรมา" "แพ้อะไร" "หาหมอยัง"

มีหลายคนชอบถามชีวประวัติ ให้เล่าตั้งแต่ต้นว่ามันมาได้ไง

รู้มั้ยคะ ว่ามันตอบลำบาก มันต้องพูดกันนา่นมากกก

เลยบอกแม่ ไม่ได้แล้วนะ เป็นแบบนี้ต่อไป ภาพลักษณ์นี่มันพูดยากจริงๆ

เปลี่ยนค่ะ หาหมออีกคนนึง รอบนี้ก็ยาคล้ายๆกัน นี่ก็ฉลาดอยู่แล้ว

เลยจัดไป อีกแค่ 2 ครั้ง จากนั้น ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เลือกเอง

บวกกับความรู้ที่ทบทวนวรรณกรรมมาทั้งหมด เอาล่ะ ผึ้งจะสู้

ถ้าจะเป็นสิวก็ เป็นให้มันน่ารักๆ หน่อยยยยยยย

(กระทู้เราย๊าวยาววว บอกแล้วพูดเก่งมากกกกกก)

ที่เคยอ่านมาทั้งหมด

สิว เกิดจากฮอร์โมน การใช้ชีวิต นาฬิกาชีวิต การรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ

รีวิววรรณกรรม

สิวที่เคยศึกษาตามอ่านก็เช่น ของพี่เอิ้ก ของพี่บีม พี่นก พี่สาวสอนน้องสวย

รวมถึงในจีบัน เช่นกระทู้เกี่ยวกับสั่งจิตที่ให้พูดกับตัวเองดีๆ พูดทางบวก

อ่านทุกอย่าง หาซื้อทุกอย่าง แต่ไม่ทำสักอย่าง

แม่คือคนที่สะกิดค่ะ แม่บอกว่า "ถ้ารู้แล้วไม่ทำสักอย่างก็จบ!!!!!"

ก็เลยลองผิดลองถูก

แม่ก็ให้แนวคิดอีก "ถ้ามันดีแล้วลูกจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำไม"

ด้วยความที่เป็นคน เชื่อแม่ง่ายมาก เลยต้องห้ามใจ และใช้แค่ไม่กี่อย่าง

แต่จะทำอะไร นี่จะมีการอ้างถึงตลอด

เป็นคนที่ต้องมีevidence base ในการชี้แจงต่อท่านแม่และท่านพ่อ

(ผู้อนุมัติงบประมาณ) เอาล่ะ มาถึงเรื่องสิวจริงๆจังๆ สักที

คนเป็นสิวมีหลายประเภทค่ะ

ผึ้งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

แต่จะให้คำตอบที่ถ้าคุณทำตาม มันสร้างความผิดพลาดให้คุณน้อยที่่สุด

ในวงเล็บว่า ถ้าคุณทำ !!!!

สิวเกรด A เป็นนิดเดียว ๆ แค่สิวอักเสบ 1 เม็ด (มาจากฮอร์โมนประจำเดือน

หรือแค่สิวเตือนว่าแพ้ แสบๆคันๆ เป็นไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ของหน้าคุณ)

หยุดบ่นนะคะ แต้มยา แล้วก็นอน//มือก็อย่าเอาไปแคะ แกะมัน จบ

เกรด B มากกว่า 10 % ของหน้า สาเหตุ คล้ายข้างบน อาจเพิ่มแพ้มากขึ้น

คุณต้องสังเกตค่ะ ใช้อะไรมา ทำอะไรแปลก ที่นอนซักยัง กินอะไรที่มันไม่ย่อยป่าว

เมนส์จะมารึป่าว หลังจากนั้น>> แต้มยา ล้างหน้าให้สะอาด ถ้ารู้สึก มันชักจะไม่สงบ

หาหมอเพื่อบรรเทา แล้วกลับมาดูแลตัวเองดีๆ ที่นอน อาหารการกิน ดื่มน้ำ ทบทวนวิธีล้างหน้าของตัวเองด้วยนะคะ

มันไม่มีสูตรตายตัวหรอกค่ะ ต่อให้ใครบอกอะไร

ถ้าเกิดคุณไม่คิดจะทำ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่อง คุณก็ต้องไปหาเรื่องที่ใช่สำหรับคุณมาทำ

ที่นี้ตั้งใจจะเขียน 5 ข้อที่ใช้ได้กับทุกคน สิวไม่สิวก็ทำได้

1.จงอดทนใช้ผลิตภัณฑ์อะไรที่มันดีกับหน้า ก็ใช้ไปเถอะค่ะ อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

เว้นว่ามันต้องเพิ่มเติมอะไร ส่วนตัวเชื่อว่าการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ(เหมือนโลเล สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร)

จะส่งผลให้ผิวเหนื่อย เค้าต้องปรับโครงสร้างกันหลายรอบ

ดังนั้นถ้าดีแล้ว อดทนใช้ไป คุณใช้เพิ่มก็ได้

แต่ไม่ใช่ รีวิวเค้าว่าอันนี้ดี ซื้อใช้ตาม อีก 1 เดือน ผลิตภัณฑ์นี่มา โอ้ยใช้ตาม

หน้าคุณนะคะ ไม่ใช่หน้าเค้า เราต้องหวงหน้าเราสิ ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ อย่าปุปปับ

ใจร้อน เราต้องมีสติเยอะๆนะคะ หน้าแย่แล้วแก้ยากนะคะ งัดกันเหนื่อย

2.หมั่นเจริญสติ จะกินอะไร สังเกตค่ะ มันส่งผลอะไรต่อร่างกายบ้าง

การกินนี่มันไม่ได้ส่งผลแค่หน้านะคะ มันยิงยาวถึงสุขภาพ you are what you eat

เป็นประโยคอมตะ ...สังเกตมั้ยคะ ไม่ว่าคนจะเป็นโรคอะไร หนึ่งในคำแนะนำ

ทึ่คุณจะเห็นชัดๆ อาหารค่ะ ห้ามนั่นกินนี่งดโน่น ... ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

ไม่ต้องรอให้มีตรวจร่างกายประจำปี ถึงต้องรอคำแนะนำ//เราจัดการชีวิตตัวเองได้ค่ะ

(แต่ผึ้งก็ยังพลาดในเรื่องอาหารกับตัวเองเหมือนกันยอมรับ)

การนอนด้วยนะคะ เราทุกคนรู้ดี 8 ชม.นะ จริงๆก็เท่าไรก็แล้วแต่ ให้คุณพอ

ถ้านอนเร็วก่อน 4 ทุ่ม ผิวจะดีแบบ ดีจากข้างใน แต่ใช้เวลานะคะ

ไม่ใช่วันนี้อ่านกระทู้เอาล่ะนอนเลย ... ที่เหลืออีก 6 วัน โซโล่ไปเลย ตี1ตี2

เรื่องการดื่มน้ำก็สำคัญ การขับถ่ายด้วย .... นี่แหละค่ะคือเรื่องพื้นฐานที่เราต้องจัดการให้ได้

3.รู้จักตัวเอง คุยกับตัวเองบ้าง แบบไหนมันเรา แบบไหนมันไม่ใช่เรา

สิ่งไหนไม่โอเค อย่าฝืนกับตัวเอง .... ทุกอย่างมีทางออกนะคะ

ถ้าการบ่น มันช่วยให้เราดีขึ้นก็จงบ่น บ่นแล้วก็ต้องลุกมาทำโน่นนี่ เติมพลังให้ตนเอง

เครียดเรื่องสิวไปก็เท่านั้น ต่อให้สิวมันหายไปจากหน้า คุณก็ยังมีเรื่องให้เครียดอีก

ดังนั้น ออกกำลังใจเราค่ะ ..ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เราเข้มแข็ง รู้สึกดี

ตั้งอยู่บนความถูกต้องและไม่เดือดร้อนคนอื่นค่ะ

4.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย อะไรแปลกๆ ประหลาดๆ ก็อย่าไปใช้ก่อน

รอให้เค้าได้อย.หรือ ไปขายบนห้าง อะไรทำนองนี้ก่อน หรือถ้าจะใช้ก็ให้มั่นใจก่อน

ว่าไม่ทำให้เกิดผลเสียกับเรานะ เรื่องผลิตภัณฑ์น่ะพูดยากที่สุด ทุกคนมีตัวตนของตัวเอง

ไปชี้นำชี้แนะ เน้นปลอดภัยต่อทั้งผิวและใจคุณค่ะ แล้วใช้โลดดดดดด ใช้ไปเลย ความสุขคุณ

5.รักษาความสะอาด การอาบน้ำน่ะค่ะ การซักผ้าปูที่นอนปลอกหมอนผ้าห่ม

ล้างแปรงด้วยยยย ที่สำคัญคือก่อนล้างหน้าทุกครั้งแม้ทาแค่กันแดด

ก็เชิญcleansing ที่รัก มาทำหน้าที่ด้วยนะคะ ผลดีระยะยาวเชียว

สาวๆที่เป็นสิว เป็นได้ ก็หายได้

แค่จะหายช้าหรือหายเร็ว แค่นั้นเอง

หายแล้วก็เป็นอีกได้ ไม่เคยเป็นก็เป็นได้

มันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ..เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

อารมณ์บ่นๆ อารมณ์เศร้าๆ ของเราก็เช่นกัน

ดังนั้น พิจารณสิ่งที่เกิด ..มันมีเหตุและมีผล

ทำใจให้มั่นคง พูดกับตัวเองบวกๆ

ยึดมั่นในความดีที่ทำ แล้วก็สู้ให้ถึงที่สุดค่ะ


bee2lovely

bee2lovely

FULL PROFILE