ผู้หญิงเห็นแก่อนาคต = ผู้หญิงเห็นแก่เงิน เหรอคะ? [ สืบเนื่องจากกระทู้ "ผู้ชายหน้าแหกไม่แปลกที่ผู้หญิงไม่เอา" ]
BB Girl 023ไปเจอมาในพันทิพค่ะ เรานั่งอ่านแล้วแบบว่า จขกท คิดดีมากเลยนะ เพราะการแต่งงานมันต้องคำนึงถึงอะไรหลายๆ อย่าง จริงๆ อ่ะค่ะ แต่เห็นคอมเม้นท์ผู้ชายส่วนใหญ่ก็เข้าไปดราม่าเกิ๊น -"- ปล.อันนี้เรา Copy มาบางส่วนนะคะ ส่วนเต็มๆ อยู่ในลิงค์นี้ค่ะ http://pantip.com/topic/34335557
สวัสดีค่ะชาวพันทิป พอดีดิฉันเพิ่งได้เห็นกระทู้จากเว็บแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "ผู้ชายหน้าแหกไม่แปลกที่ผู้หญิงไม่เอา" เห็นเพื่อนแชร์มาในเฟสบุ๊ค ก็ลองเปิดอ่านดูค่ะ เนื้อหาในกระทู้สรุปได้คือ ผู้ชายทำเซอร์ไพรส์ขอผู้หญิงแต่งงาน แต่กลับถูกปฏิเสธ โดยคนตั้งกระทู้อ้าง ฝ่ายหญิงกล่าวว่า
"พร้อมแล้วหรอ?
แน่ใจแล้วหรอ? ที่จะมาขอแต่งงาน
เงินเธอมีแล้วหรอ?
รถเธอมีแล้วหรอ?
บ้านล่ะมีรึยัง?
เคยคิดวางแผนอนาคตของเราบ้างมั้ย?"
อ่านเนื้อหากระทู้แล้ว ก็ลองอ่าน comment ใน Facebook ที่เพื่อนๆ Comment กันอย่างดุเดือด แล้วมาสะดุดตรงcomment หนึ่งค่ะ comment นั้นกล่าวว่า "ผู้หญิงเห็นแก่เงินแบบนี้ ดีแล้วครับที่ถูกปฏิเสธ แต่งไปก็มีแต่จะเจอปัญหาเรื่องนี้ไม่จบสิ้น" เจอ comment นี้เข้าไป และอีกหลายๆ comment ที่เนื้อหาใกล้เคียงกับ comment นี้ เลยเกิดความคลาแคลงใจค่ะ ว่านี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดจริงๆ เหรอคะ
ต้องบอกก่อนนะคะว่าดิฉันไม่ทราบหรอกว่านี่คือ viral ของแคมเปญอะไรรึเปล่า เพราะเนื้อหากระทู้ไม่ได้ทำให้ดิฉันตื่นเต้นประหลาดใจ สิ่งที่ทำให้ดิฉันเกิดความสงสัยคือ comment ของเพื่อนๆ ใน Facebook มากกว่า
ก่อนจะเข้าเรื่อง ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวคร่าวๆ นะคะ เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปประกอบกับเรื่องราวต่อจากนี้ได้ง่ายขึ้น ดิฉันเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่งค่ะ อายุใกล้ 30 แล้ว หน้าตากลางๆ เป็นคนอารมณ์ดี ไม่ใช่คนซีเรียส เป็นคนรักแมว ทำงานสายวิศวกรรม ไม่ขอลงรายละเอียดลักษณะงานมากนะคะ ได้เงินเดือนก็ไม่เยอะค่ะ 2 หมื่นนิดๆ พื้นฐานครอบครัวก็กลางๆ พี่น้องทุกคนทำงานเป็นลูกจ้าง อยู่บ้านทาวน์เฮาส์ธรรมดา มีรถ 2 คัน มีสมาชิก 4 คน ตอนนี้กำลังร่วมหุ้นกับน้องชายซื้อบ้านใหม่ ตอนนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ ส่วนตัวดิฉันก็มีการฝากประจำอยู่บ้าง เคยมีเล่นหุ้นร้อนบ้างแต่พังยับค่ะ ก็เลยหยุดไว้ก่อน หันมาเล่นหุ้นเย็นแทน
วันว่างๆ ก็นี่แหละค่ะ อ่านอะไรไปเรื่อย แล้วก็ดราม่าอยู่คนเดียว บางทีก็อยากจะแสดงความคิดเห็นนะคะ แต่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่อยากพูดในเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจตัวเองมากพอ บางทีก็หยิบเอาเรื่องราวที่อ่าน ไปอภิปรายกับเพื่อนๆ บ้าง เพื่อนๆ ก็บอกเหมือนกันว่าลองส่งเสียงในโลก Social ดูบ้าง ไม่ได้เสียหายอะไร อาจมีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราพูดก็ได้ ก็เลยมาลองเขียนกระทู้ดูนี่แหละค่ะ
ในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ ก็มีคบหาดูใจกันอยู่ค่ะ แต่ออกแนวเรียนรู้กันอยู่มากกว่าค่ะ ยังไม่อยาก define อะไร เพราะต่างคนต่างวุ่นๆ กับชีวิต เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยว มากกว่า มีปรึกษาเรื่องชีวิตกันบ้าง แต่ด้วยความที่อายุค่อนข้างแตกต่างกัน เขาจึงให้คำปรึกษาได้แค่ในเรื่อง logic แต่เรื่องอารมณ์นี่ต้องช่วยตัวเองค่ะ (ไม่ได้หมายถึงเรื่อง sex นะคะ หมายถึงอารมณ์หญิงค่ะ)
ส่วนตัวแล้วดิฉันไม่เชื่อในเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศหญิงและเพศชายเท่าไหร่ค่ะ ไม่ใช่ไม่อยากได้รับความเท่าเทียมนะคะ ในบางเรื่องดิฉันคิดว่ามันแฟร์ได้ แต่บางเรื่องก็แฟร์ไม่ได้ เหตุผลหลักเลยก็คือสรีระที่เกิดจากธรรมชาติค่ะ ผู้หญิงสามารถมีศักยภาพทางร่างกายและสมองได้เท่าเทียมผู้ชายก็จริงค่ะหากได้รับการฝึกฝน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธรรมชาติร่างกายของผู้หญิงมีข้อด้อยมากกว่าผู้ชาย ตัวอย่างเช่น การต้องมีประจำเดือน การต้องเป็นฝ่ายตั้งครรภ์ ดังนั้น ความเท่าเทียมที่เรามักจะพูดถึง จึงหมายถึงเรื่องสวัสดิการและโอกาสทางสังคมมากกว่า แต่สุดท้ายแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพศหญิงลำบากกว่าเพศชายในหลายๆ จุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อกำเนิดเป็นวัฒนธรรม ประเพณี และหลักของการประพฤติ ที่อาจแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ดิฉันจะขอพูดแค่ในมุมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนะคะ ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นฝ่ายเสียหายในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ผู้ชายง่ายได้ แต่ผู้หญิงง่ายไม่ได้ ผู้ชายควรเป็นฝ่ายดูแลปกป้องผู้หญิง ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายขอผู้หญิงแต่งงาน และต้องมีสินสอดทองหมั้นให้ฝ่ายหญิง
การที่ผู้ชายคนหนึ่งจะขอผู้หญิงแต่งงานจึงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่กับฝ่ายหญิง แต่กับฝ่ายชายด้วยเช่นกัน ถามว่าการแต่งงาน จำเป็นไหมคะว่าต้องมีเงิน?
Discussion (3)
ถ้ามีปัญญาหา ก็หาเถอะค่ะ ผู้ชายมีเงินน่ะ บางคนที่เค้ามีต้นทุนมาดี การศึกษาดี ครอบครัวดี สังคมดี อยู่ในระดับที่มีต้นทุนทางสังคม จะให้เขาไปเอาผู้ชายที่ฐานะด้อยกว่าเป็นแฟน เค้าก็คิดหนักนะคะ คนบางคน เช่นอย่างเรา ไม่ต้องรวยล้นฟ้า แค่ทำมาหากินได้ มีฐานะระดับกลางๆไม่ลำบาก ต้นทุนมาเสมอกัน ก็โอเคแล้ว
เราเป็นคนทำงานได้เงินเดือน หกหลักค่ะ ผู้ชายที่เข้ามา ถ้าหาเงินได้น้อยกว่าเรา เราจะเอามาเป็นผัวทำไมคะ ถามหน่อย
เราเคยเจอผู้ชายบางคนที่เข้ามา นิสัยดี การงานดี เงินเดือนระดับเดียวกับเรา มีความทะเยอทะยาน แต่เค้าเริ่มต้นจากศูนย์ ต้องเริ่มสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง แถมมีภาระที่ต้องส่งเสียครอบครัวอีนุงตุงนัง
กับผู้ชายอีกคนที่ นิสัย และหน้าที่การงานเสมอกันกับคนแรกทุกอย่าง แต่คนหลังนี่ พ่อแม่เค้ามีฐานะ ซื้อบ้านให้อยุ่ ซื้อรถให้ขับ เรียกว่าต้นทุนทางครอบครัวดีกว่ามาก
แน่นอนเราเลือกคนหลังค่ะ เราหน้าเงินมั้ยคะ เราว่าไม่นะคะ ทุกวันนี้ เรามีบ้านอยู่สบาย ลูกเราได้เรียนโรงเรียนดีๆ เงินที่เราหามาได้ เราได้เก็บมันเอาไว้ เพราะสามีเรามีเงินเดือนแบ่งให้เราใช้ และรับผิดชอบเรื่องลูกและค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกอย่าง ซึ่งเราจะไม่มีโอกาสนี้ ถ้าเราอยู่กับอีกคน
ผิดกับเพื่อนสนิทเรา นางแต่งเพราะผู้ใหญ่จัดให้ ผู้ชายดูเหมือนจะดีในตอนแรก แต่ความจริงด้อยกว่ามาก ทุกวันนี้เพื่อนเราใช้เงินที่หามาได้สร้างทุกอย่าง ผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่รู้เท่าไร เรียกว่า เงินเดือนไม่พอใช้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ส่วนสามีเธอน่ะเหรอ ลอยตัวข่ะ ถือว่าเงินเดือนน้อยกว่า เลยไม่คิดจะรับผิดชอบอะไร
จำไว้นะคะ มีผัวผิด คิดจนตัวตาย หาอ่านในพันทิปเลย ตัวอย่างเยอะแยะ