รักษาสิว ที่เกิดจากการแพ้ครีมจนหน้าพัง ภายใน 6 เดือน ให้กลับมาหน้าใสกิ๊ก
Apzaa155ขอเกริ่นเรื่องสภาพผิวหน้าก่อนนะคะ เป็นคนผิวมันมาก รูขุมขนกว้าง เป็นสิวได้ง่าย เป็นสิวอุดตัน และอักเสบอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่มากนัก มีสิวเสี้ยนตรงจมูกและข้างแก้มเยอะมาก เมื่อก่อนจะแต่งหน้าด้วยแป้งผสมรองพื้นเกือบทุกวัน และเติมแป้งระหว่างวันๆละ 2 รอบ ซักพัปบ้างถ้ารู้สึกว่าไม่สะอาด และมีความคิดผิดๆ ที่ว่าล้างหน้าด้วยโฟมอย่างเดียวพอ แต่ล้าง 2 รอบ แค่นั้นก็คิดว่าสะอาดมากแล้ว ไม่เคยใช้คลีนซิ่งเลย ไม่เข้าใจว่ามันมีความสำคัญยังไง ก็เลยทำให้เป็นสิวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ถือว่าปกติ สำหรับสาวหน้ามัน
ส่วนการใช้ครีม จะใช้อยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อที่วางขายตามห้างทั่วไป ได้แก่ สมูท อี/ โอเลย์/ กานิเย่/ พอนส์ ใช้หมุนเวียนกันอยู่แค่นี้ แล้วแต่ช่วง
ส่วนครีมกันแดด ใช้ นีเวีย นูโทรจินา ประมาณนี้
โฟมล้างหน้า ใช้ สกาแคร์ นูโทรจินา พอนส์ เปลี่ยนไปมา แล้วแต่อารมณ์
ก็ใช้แบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียน จนมาทำงาน จนกระทั่งมีคนมาแนะนำให้ใช้ครีมสมุนไพรยี่ห้อนึง มีส่วนผสมของขมิ้นเป็นหลัก คุณสมบัติคือ รักษาสิว ฝ้า กระ ทำให้หน้าใส และไม่กลับมาเป็นสิวอีก ไอ้เราก็ไม่เคยใช้ครีมแบบนี้มาก่อน แต่เห็นคนที่แนะนำเค้าหายเป็นสิว เราก็อยากจะหน้าใสบ้างอะไรบ้าง สั่งมาลองเป็นแบบแบ่งใส่ตลับเล็กๆ ใส่ในซองพลาสติกขายยา มีกระดาษแผ่นแล็กๆอยู่ในซอง บ่งบอกถีงสรรพคุณและวิธีการใช้ ตลับละ 120 บาท ใช้ไปประมาณ 6 ตลับ เริ่มมีคนทักว่าทำไมหน้าดีจัง ใสมากเลย สิวก็ไม่มีแล้ว คือแบบเริ่ดอ่ะ ก็สั่งมาใช้อีก เพื่อนๆ ญาติๆก็ขอแบ่งไปใช้บ้าง ใช้มาสักประมาณ 3 เดือน รู้สึกว่าหน้าดีแล้ว ก็เลยหยุดใช้ พอหยุดเท่านั้นแหละ คือแบบสิวบุกคร้า มากกว่าเดิมเป็นสิบๆ เท่า ไม่รู้มาจากไหน ขึ้นเป็นรายวันเลย อันเดิมยังไม่หาย อันใหม่ผุดๆๆๆๆๆยังกับดอกเห็ด ช่วงนั้นจิตตกมาก จากที่มีคนทักว่าหน้าใส ตอนนี้กลายเป้นหน้าผี วันนึงมีคนมาทักว่า "ทำใมหน้าลายจัง" "ทำไมไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยให้เป็นเยอะขนาดนี้" แพ้อะไรมา พี่มีครีมดีๆ แนะนำ สนมั้ย" ฮือๆๆๆๆๆๆ คือสูญเสียความมั่นใจ ไม่อยากออกจากบ้านเลย แล้วเราต้องไปทำงานทุกวัน เจอลูกค้าทุกวัน จะไปหน้าสดก็กลัวลูกค้าตกใจ ก็ต้องแต่งหน้า ยิ่งแต่งยิ่งเห็นชัด ยิ่งแต่งยิ่งอุดตันมากขึ้นๆ
จึงเริ่มหันมาหาข้อมูลในเน็ต ดูรีวิวของคนที่เป็นสิวหนักๆเหมือนเรา เค้าทำยังไง ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง รักษาหมอไหน ดูมาหมด ก็ลองมาปรับใช้กับตัวเอง
เริ่มต้นจากการไปคลินิคเพื่อรักษาสิว ที่นิติพลคลินิค (อยู่ใกล้ที่พัก) ซื้อคอร์สสำหรับผิวแพ้ง่าย คือเน้นกดสิวอย่างเดียวและให้ยามาทา และทานด้วย คอร์ส ราคา 5,000 บาท ทำหน้าได้ 10 ครั้ง รับยา 10 ครั้ง อาจมีคนสงสัยว่า ทำไมต้องหาหมอกดสิว กดเองไม่ได้เหรอ?
สิวประเภทนี้มันอุดตันอยู่ใต้ผิวเรา รอวันผุดออกมาเรื่อยๆ เราต้องกดมันออก กดออกไปเรื่อยจนกว่าอาการแพ้ครีมเราจะหาย แล้วสิวก็จะเริ่มหมดไป เหมือนการถอนพิษอ่ะ ในการกดสิวต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ถ้ากดเองก็ออกไม่หมด เพราะสิวอุดตันต้องใช้เข็มสะกิดเพื่อเปิดหัวสิว และการกดสิวให้มีประสิทธิภาพจะต้องควบคู่กับการใช้ครีมละลายหัวสิว ที่ไว้ทาก่อนล้างหน้า 15 นาที เพื่อให้ผิวบริวณหัวสิวบาง และกดสิวออกง่ายๆ ผิวจะได้ไม่ช้ำมาก ไม่เป็นรอยดำมากเวลาหาย และทานยาลดความมันปด้วย เพื่อให้ไม่เป้นสิวเพิ่มมากขึ้น (จะลงรูปในขั้นตอนการดูแลผิวประจำวันอีกทีนะคะ)
รวมเวลาที่ไปรักษา ไปทุกอาทิตย์ไม่เคยขาด กดสิวทุกวัน และทายาละลายหัวสิวทุกวัน ใช้เวลา 6 อาทิตย์ ในการไปคลินิค แล้วสิวใหม่ก็ไม่ขึ้นมาอีก เหลือไว้แค่รอยที่ต้องรักษาต่อไป
สิวใหม่ไม่ขึ้นแล้ว เหลือรอยด่างดำทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แต่โชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นที่หน้าผาก ถ้าเป็นที่แก้มเยอะๆอาจจะทำให้หน้าเป็นหลุมได้ ถ้าเป็นหลุมนี่คงหมดเงินรักษาเยอะเลย
หลังจากสิวใหม่ไม่ขึ้นแล้ว ก็ไม่ได้ไปหาหมออีก คอร์สที่เหลือก็เก็บไว้ทำตอนที่เป็นสิวอีกได้ ไม่มีวันหมดอายุค่ะ มาพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และวิธีการรักษาผิวหน้าตั้งแต่เริ่มรักษาสิว เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทีละสเตปเลยค่ะ
1.ขั้นตอนในการล้างเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือ วันไหนไม่ได้แต่ง ใช้แค่ครีมกันแดด ยังไงก็ต้องใช้คลีนซิ่งนะคะ เพราะครีมกันแดดจะเกาะอยู่ที่หน้าเราโฟมล้างหน้าอย่างเดียวเอาออกไม่หมดหรอก
อันดับแรกเลย หลังเลิกงาน หรือทำกิจกรรมแต่ละวันเสร็จ จะต้องรีบกลับมาล้างเครื่องสำอางอย่างไวเลยนะคะ อย่าปล่อยให้เครื่องสำอางและฝุ่นที่เกาะบนหน้าหมักหมม นานๆเด็ดขาด ถ้าจำเป็นต้องมีปาร์ตี้ต่อ ให้ล้างเครื่องสำอางที่อยู่บนหน้าตั้งแต่เช้าออกก่อน แล้วค่อยแต่งใหม่ อย่าอาศัยการแต่งเพิ่ม เพราะยิ่งทิ้งไว้หลายชั่วโมง เชื้อแบคทีเรียบนหน้ามันกำลังก่อตัว อุดตัน และเป็นสิวในที่สุดค่ะ
ขั้นตอนการล้างหน้า
- ใช้ Biore คลีนซิ่งน้ำนม กดมาสัก 2 ปั้ม แล้วนวดขณะหน้าแห้ง นวดวนๆให้ทั่วหน้า การนวดโดยนิ้วจะดีกว่าการใช้สำลี เพราะสำลีจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย ตัวนี้อ่อนโยนใช้กับปากและเปลือกตาได้ไม่แสบค่ะ ล้างออกได้ดี แต่มาสคาร่าแบบกันน้ำต้องใช้ออยเช็ดอีกทีนะคะ
พอนวดเสร็จก็ล้างน้ำออก จะรู้สึกว่าเครื่องสำอางออกเกือบหมดแล้ว แต่ยังไม่หมดค่ะ
-ตามด้วยคลีนซิ่งแบบน้ำ Bifesta กดลงบนสำลีให้ชุ่มเช็ดต่ออีกประมาณ 2 แผ่น จนสำลีสะอาด สูตรนี้อ่อนโยน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องใช้คลีนซิ่งตั้ง 2 ตัว เพราะถ้าใช้ Biore อย่างเดียว ยังไม่สะอาด 100% ถ้าใช้ Bifesta อย่างเดียว คนที่แต่งหน้ามา คิดว่าจะต้องใช้สำลีกี่แผ่น กว่าจะสะอาดหมดจด ไม่ต่ำกว่า 7 ค่ะ เปลืองด้วย ระคายเคืองด้วย แล้วหน้าเราช่างนี้แพ้ง่าย ไม่ควรมีอะไรมาเสียดสีหน้ามากๆ ถึงจะใช้สำลีที่นุ่มมากๆก็เถอะ การใช้สำลีถูไปมามากๆไม่ดีต่อผิวนะคะ จึงต้องใช้ 2 อย่างเพื่อให้สะอาดและลดการเสียดสีของผิวหน้าค่ะ
-ตามด้วยครีมละลายหัวสิวค่ะ มี 2 ตัวที่ใช้อยู่ คือ Benzac จะมีตั้งแต่ 2.5% - 5% ค่ะ คนที่พึ่งเริ่มใช้หรือผิวบอบบางใช้ 2.5% ก่อน คนที่ใช้มานานแล้วก็ใช้แบบแรง 5% ได้ค่ะ ราคา 2XX กับอีกตัวคือ Acne Clear-L ของนิติพล มีสีส้มสำหรับสิวบอบบาง สีแดงสำหรับผู้แก่วิชาแล้ว 555 ราคาหลอดเล็ก 70 บาท หลอดใหญ่ 250 บาท
วิธีใช้ คล้ายๆกัน คือทาก่อนล้างหน้า ในบริเวณที่เป็นสิว และมักเป็นสิวบ่อยๆ ระยะเวลาทิ้งไว้สำหรับคนเริ่มทาใหม่ๆให้ทิ้งไว้สัก 5 นาทีก่อน ถ้าไม่แพ้ ก็ค่อยๆเริ่มเพิ่มเวลาขึ้นทีละ 5 นาที สำหรับแอ๊ปทิ้งไว้ 30 นาทีค่ะ ตัวนี้ช่วยให้หัวสิวโผล่และกดออกได้ง่ายขึ้น ลดการบอบช้ำของใบหน้าค่ะ จะได้ไม่เป็นรอยดำมาก
ตัวนี้ใช้ทาทุกวันเลยค่ะ ถึงตอนนี้ไม่มีสิวแล้วก็ยังใช้อยู่ ทาบางๆตรงที่สิวชอบขึ้นบ่อยๆ
ขั้นตอนการล้างหน้า
-ใช้ Acne - Aid ค่ะ มี 2 สี ผิวบอบบางใช้สีฟ้า คนเป็นสิวบ่อยๆใช้สีแดง ราคา 160 บาท ใช้ควบคู่กับการรักษาสิวได้อย่างดี คือตั้งแต่ใช้มาไม่ค่อยมีสิวอุดตันเลย ใช้มา สิบกว่าขวดแล้วไม่เปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ ล้างเสร็จยังรู้สึกหน้าชุ่มชื่นไม่แห้งตึงด้วย
-ล้างน้ำตามปกติ แต่ปิดท้ายด้วยน้ำดื่มสะอาด ยิ่งเป็นน้ำเย็นยิ่งดีช่วยกระชับรูขุมขนค่ะ ทำไมต้องล้างน้ำดื่ม เพราะน้ำประปาที่เราใช้อยู่มีคอรีน ระยะยาวอาจทำให้หน้าเหี่ยว อีกทั้งคราบสิ่งสกปรกที่มาตามท่อน้ำ ถึงเค้าจะบอกว่าน้ำประปาไทยดื่มได้ก็เถอะ ยังไม่มีใครกล้าดื่มเลย บางทีน้ำไม่ไหล พอไหลก็เป็นสีขุ่นบ้าง เหลืองบ้าง ไม่น่าไว้ใจค่ะ อีกอย่างเวลาไปต่างจังหวัดน้ำตามโรงแรมก็ไว้ใจไม่ได้นะ ซื้อน้ำเปล่าขวดเล็กติดรถไว้ด้วยก็ดีค่ะ ใช้ประมาณ 1 เหยือกเล็กก็พอค่ะล้างปิดท้ายเฉยๆ
-เช็ดหน้า นี่ก็สำคัญค่ะ ใครที่ใช้ผ้า 3 in 1 ผืนเดียวเช็ดทั้ง ผม ตัว หน้า หยุดเลยค่ะ สาเหตุหลักของสิวเรื้อรังเลย ถึงคุณจะซักทุกอาทิตย์ก็ยังไม่สะอาดพอค่ะ ใช้ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าดีที่สุด ใช้แค่ประมาณ 2 แผ่นก็แห้งแล้วค่ะ ไม่เปลืองหรอก รักษาสิวเปลืองกว่านี้อีกนะเชื่อเรา
ล้างหน้าเสร็จ ขั้นตอนการบำรุง ช่วงนี้งดครีมจำพวก ไวเทนนิ่ง ไปก่อนนะคะ เอาให้หน้าหายดีก่อน อย่าพึ่งขาวใสตอนนี้
-เพื่อความมั่นใจว่าหน้าเราสะอาดหมดจดแล้ว เช็ดด้วยโทนเนอร์อีกรอบก่อนทาครีมค่ะ ใช้ของ SMOOTH E ค่ะ เป็นโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิว มีตัวยารักษาสิว และฆ่าเชื้อสิวด้วย แต่มีแอลกอฮอล์นะ ใครแพ้หาตัวอื่นทดแทนนะคะ เช่น บางคนแนะนำน้ำเกลือสำหรับล้างแผล อันนี้แล้วแต่คนนะส่วนตัวยังไม่เคยลอง แล้วก็ นูโทรจินา ก็มีโทนเนอร์สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ ลองเลือกดูค่ะ ตัวนี้ใช้หยดบนสำลีใช้แค่ 1 แผ่นพอ เช็ดเบาๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคราบอะไรติดสำลีแล้ว เช็ดตามแนวรูขมขนนะคะ
-ตามด้วยครีมบำรุง อย่างที่บอกไม่เน้นขาวค่ะ เน้นให้น่านุ่ม ชุ่มชื่น และรักษารอยสิว ใช้หลักๆ คือ SMOOTH E ครีม หลอดสีเขียวสูตรดั้งเดิมค่ะ เพราะใช้แล้วไม้แพ้ แล้วก็หน้าชุ่มชื่นดี อีกตัวคือ ALOE GEL เจลว่านหางจระเข้ ช่วยลดรอยแผลเป็นจุดด่างดำได้ดีค่ะ
ถ้าใครแพ้หาตัวช่วยอื่นนะคะเช่น
ครีมกันแดด ควรใช้แบบอ่อนโยนและไม่อุดตันค่ะ แนะนำตัวนี้เลย
อยู่ในเครือเดียวกับโฟมล้างหน้า Acne - Aid สำหรับผิวบอบบาง SPF 30 อย่าพึ่งใช้ค่าสูงมากนะคะเพราะจะยิ่งเพิ่มความอุดตันมากขึ้น ราคา 2XX
ในช่วงรักษาสิว เราก็ต้องออกพปะผู้คน จำเป็นต้องแต่งหน้า เครื่องสำอางที่ใช้ช่วงหน้าพังแล้วไม่อุดตันเพิ่ม เป็นตัวนี้ค่ะ
เป็น DD ครีม ค่ะ บางเบา คุมมัน ทาแล้วหน้าเนียนใสไม่โบ๊ะ ปกปิดดี เค้าการันตีว่าผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ พร้อมสารบำรุงมาในตัว ยิ่งใช้ยิ่งเป็นการบำรุงผิวไปด้วยค่ะ มีสารกันแดดมาให้ด้วย ราคา 810 บาท ค่ะ ปัจจุบันใช้มา 9 หลอดแล้ว วันไหนทา มีแต่คนทักว่าทำไมหน้าเด้งตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ทั้งที่ไม่ได้เติมแป้งด้วยนะ ปลื้ม^^
ส่วนแป้ง ใช้แป้งฝุ่นบ้าง แป้งอัดแข็งบ้าง ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะรองพื้นเป๊ะอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้หลงรัก ศรีจันทร์ มากๆเลย ไม่หนา ทาแล้วผ่องทั้งวัน ยิ่งเติมยิ่งผ่องเหมือนแต่งหน้ามาใหม่ๆเลย ชอบๆ แต่ไม่แนะนำให้เติมแป้งบ่อยๆนะคะ ระหว่างวันหน้ามัน มีฝุ่นเกาะ พอทาแป้งยิ่งกลบสิ่งสกปรกเข้าไปบนหน้าอีก แถมพัฟที่ใช้มีเชื้อแบคทีเรียสะสมอีกด้วย
ยาที่ทานควบคู่การรักษา คือตัวนี้ค่ะ คุณหมอที่ นิติพลให้มา เป็นยาควบคุมความมัน ทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหาร ทานไปเริ่มเห็นผลในสัปดาห์ที่ 2 หน้าจะไม่มันเลย ปกติใช้กระดาษซับมันวันละ 5 แผ่น เหลือแค่ครึ่งแผ่น เอง ไม่ซับเลยก็ยังได้ แฮปปี้มาก รู้สึกเหมือนกลายเป็นคนผิวธรรมดาเลย ชอบๆ พอหน้าไม่มัน การแต่งหน้าก็ง่าย เนียนเป๊ะทั้งวัน ไม่ต้องเติม ไม่ต้องซับหน้า ไม่เป็นสิวเพิ่มด้วย แต่มีข้อควรระวังนะคะ ตอนรับยาครั้งแรกหมอจะให้อ่านผลข้างเคียงและให้เซ็นต์รับทราบด้วย ข้อความตามใบในภาพเลยค่ะ ห้ามทานติดต่อกันเกิน 3 เดือน เพราะเสี่ยงต่อตับอักเสบ ทานครบ สิวหาย หยุดได้เลย แต่ถ้าต้องการทานต่อ ให้เว้นช่วง สัก 1 เดือนค่อยเริ่มทานใหม่ แต่แพทย์ผิวหนังบางคนก็บอกว่าไม่อันตรายขนาดนั้น โดสยาเท่ากับยาพาราทั่วไป กินวันเว้นวันก็ได้ เพื่อควบคุมความมัน แต่แอ๊ปก็ทานแล้วหยุดเป็นพักๆตามหมอสั่ง สบายใจกว่าค่ะ ราคาในนิติพล 7 เม็ด ราคา 280 บาท ร้านขายยาทั่วไป เม็ดละ 30 - 40 บาท ค่ะ บอกว่าซื้อยากินลดความมันค่ะ
ส่วนการรักษารอยด่างดำจากสิว นอกจากทาครีมแล้ว แอ๊ปก็อาศัยกรดผลไม้จากสูตรพอกหน้าธรรมชาติค่ะ มี 2 สูตร
- มะขาวเปียก ผสมน้ำผึ้ง และนมผง ทาให้ทั่วหน้าทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น
-โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมน้ำมะนาว บีบลงประมาณ 2-3 หยด พอค่ะ ทาให้ทั่วหน้าทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น
ทั้ง 2 สูตร พอกเสร็จ ตามด้วยใช้คลีนซิ่งตามขั้นตอนการล้างหน้าเริ่มต้นเลยค่ะ เพราะใช้น้ำเปล่าอย่างเดียวอาจอุดตันได้ ถ้าใครแพ้ อาจแต้มเฉพาะจุดที่เป็นรอยดำก็ได้ค่ะ ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเร่งให้ผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น รอยดำจะได้หายไวๆ ไม่ต้องเสียตังค์ทำเลเซอร์ไม่อันตรายด้วยค่ะ
ข้อควรปฏิบัติระหว่างรักษาสิว
1.อย่าแต่งหน้าเกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าจำเป็นต้องไปงานหรือปาร์ตี้ต่อ แนะนำให้ล้างอันเก่าออกแล้วแต่งใหม่ค่ะ จะได้ไม่หมักหมม
2.อย่างออกกำลังกายทั้งที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่บนหน้า สิวบุกนะคะ ล้างออกดีๆ เหลือไว้แค่คิ้วกับตา ปากก็ได้ค่ะ แต่หน้านี้ห้ามเด็ดขาด เค้าเตือนแล้วนะตะเอง
3.อย่านอนดึกเกิน 4 ทุ่ม ซึ่งมันทำยากมากกก แต่ก็พยายามนอนให้พอนะคะ ให้ร่างกายได้พักผ่อน
4.ดื่มน้ำเยอะๆ กรณีทานยาลดความมัน จะได้ไม่มีสารตกค้างสะสม
5.แต่งหน้าบางๆพอ ให้ผิวได้หายใจบ้าง
6.ใน 1 สัปดาห์ควรพักหนังหน้าอย่างน้อย 1 วันนะคะ ถือว่าเป็นวันปล่อยผี (หน้าสดน่ากลัวอ่ะ 555)
7.ล้างทำความสะอาดแปรง พัฟ แต่งหน้า ครั้งใหญ่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
8.อย่าเติมแป้งระหว่างวัน ยิ่งเติมยิ่งหมักหมม พัฟก็สกปรกด้วย
9.อย่าใช้เครื่องสำอาง หรืออุปกรณ์แต่งหน้าร่วมกับคนอื่น
10.ซื้อแปรง พัฟ มาใหม่ ล้าง ก่อนใช้นะจ๊ะ
11.ก่อนลองครีม หรือเครื่องสำอางใหม่ เทสการแพ้ด้วย ถ้าใช้แล้วแพ้ทิ้งเลยค่ะ อย่าเสียดาย
12.อย่าลืมน้ำเปล่าล้างหน้าตบท้ายนะคะ
13.ที่สำคัญที่สุดคือ วินัย ค่ะ อย่าขี้เกียจที่จะทำ อย่าคิดว่ายุ่งยาก อย่าคิดว่าเสียเวลา เพราะสิ่งที่ได้มามันคุ้มค่ามากค่ะ หน้าดี ชีวิตก็ดี๊ดี
ขอบคุณ ที่ติดตามนะคะ ถ้าสงสัยตัวไหนสอบถามได้เลย ขออภัยที่บางรูปเอามาจากในเน็ต เพราะช่วงนี้อบรมต่างจังหวัด ของที่ใช้จะแบ่งใส่ขวดเล็กมาค่ะ ขอให้ทุกคนที่กำลังประสบปัญหานี้ ขยัน และอดทนหน่อยนะคะ รับรองผลที่ได้คุ้มค่ามากๆเลย สู้ๆค่า เพื่อหน้าขาวใสตลอดไป
Discussion (5)