ว่าด้วยเรื่องน้ำที่ดื่มกิน แต่บางคนเอาขวดไปใส่อะไรมา

2 3

วันนี้เรานำกระทู้นึงในพันทิพมาให้อ่านกัน ยาวหน่อย แต่ต้องอ่านนะคะ

เอาล่ะ เริ่มม

เรา...ในฐานะผู้ประกอบการ เป็นผู้ผลิตน้ำดื่ม น้ำดื่มที่มนุษย์จะดื่มกิน ผ่านปากเข้าไป เราเลยมีเรื่องข้องใจเกี่ยวกับมนุษย์อยู่ไม่น้อย

เราช่วยแม่เราทำทุกอย่างในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นตรวจสอบ คิวซี เช็คของ ผลิต บรรจุ บัญชี คือทุกอย่างอ่ะ เราจะรับรู้ถึงปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต่ละครั้ง และเราจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้เป็นอย่างดี

คือโรงงานของเราผลิตน้ำดื่มออกขายแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ถัง ลัง ขวดวันเวย์ ขวดเพ็ท น้ำแก้ว เรียกได้ว่าแทบจะมีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ทางโรงงานของเราจะเน้น และพิถีพิถันเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ เพราะถือว่า "น้ำ" เป็นสิ่งที่ใช้ดื่มกิน ยิ่งไปกว่านั้นคือ "เราก็เอาน้ำที่เราผลิตขายนี่แหละ มาใช้ดื่มกินเหมือนกัน" ถ้าเราทำออกมาอย่างสกปรกให้ลูกค้า สิ่งที่เรากินก็สกปรกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราจึงเน้นเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ

เรื่องของปัญหา เรื่องของขวดวันเวย์ ขวดเพชร และน้ำแก้ว เรียกว่าแทบจะไม่มีปัญหาเลยก็ว่าได้ ในส่วนของที่เป็นปัญหาก็จะมาจากประเภท "ถัง" และ "ลัง"

คืออย่างที่เราบอก เราทำทุกอย่างในโรงงาน เราจึงรู้ทุกเรื่อง อย่างเรื่องที่เป็นปัญหาที่สุดคือน้ำลัง ไอ่น้ำลัง 20 ขวด นี่แหละคะ คือก่อนที่จะนำขวดไปทำความสะอาดภายนอกขวด ทางโรงงานของเราจะทำการตรวจดูว่ามีตะไคร้น้ำขึ้นภายในขวดหรือไม่ โดยใช้วิธีการส่องจากปากขวดเข้าไป ซึ่งวิธีนี้เองจะทำให้ได้ทั้งตรวจดูหาตะไคร้น้ำในขวด หากเจอก็จะทำการทำความสะอาดก่อน และจะได้เจอทั้งกลิ่น คะ"กลิ่นทุกอย่าง"ที่มาจากขวดๆนั้น แต่เราไม่เข้าใจเลยว่า ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมและทำม๊ายยยย!! ทำไมต้องฉี่ลงขวดด้วย!!

คือมันใช่เรื่องไม๊อ่ะที่ต้องไปฉี่ลงขวด มันยากมากเหรอที่จะ"ลุก"ไปฉี่ คือลองคิดดูเล่นๆนะคะว่า สมมตินะคะสมมติ ขวดน้ำที่คุณใช้ดื่มกินทุกวันนี้ มาจากโรงงานที่ไม่ได้ทำการตรวจกลิ่นก่อนบรรจุ แล้วมีขวดหนึงที่เคยมีคนฉี่ใส่มาแล้ว โรงงานนั้นล้างๆขวด บรรจุน้ำ ใส่ให้คุณดิ่มกินอีกที อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!! ไม่อยากคิดภาพอ่ะ จะอ้วกแตกเป็นภาษาอินเดีย!!

ให้ตายดิ ไม่เข้าใจเลย ในหัวคิดอะไรอยู่ ทำไมต้องฉี่ลงขวด ทั้งๆที่รู้ว่า ขวดแบบนี้เขานำกลับไปใส่น้ำต่อ มันไม่ใช่ขวดใสๆ ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งนะ!! มันเป็นที่สุดของที่สุดเลยถ้าวันไหนตรวจเจอและพบว่าเป็นฉี่เนี่ย เจอก่อนเที่ยง แทบกินข้าวเที่ยงไม่ลง ไม่กินก็ไม่มีแรงอีก หรือเจอหลังเที่ยงแทบกระอักไอ่ข้าวเที่ยงที่เพิ่งกินไปออกมา ละไม่ใช่ว่านานๆเราจะเจอไอ่ขวดฉี่นี่ทีนะ มันมาได้แทบทุกวันเลย มันเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาตินะคะเจ้าคู๊ณณณณณณ!!

นอกจากเรื่องฉี่แล้ว ลูกค้าบางคนคะ ชอบเอาไปใส่น้ำอย่างอื่น เช่น เหล้า น้ำชา น้ำส้ม น้ำหมัก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม แฟ้ง ผงซักผ้า น้ำดื่มคลอโรฟิว น้ำมันพืช น้ำมันเครื่อง น้ำมันรถ และอื่นๆอีกมากมาย เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งคะมีลูกค้ามาซื้อน้ำที่โรงงาน เรายกลัง คือ 1กลิ่นหอมอ่อนๆมันมาละ เรายกขวดดู เห็นน้ำก้นขวด มันไม่ใช่น้ำใสๆอย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นน้ำสิ่งม่วงๆอ่อนๆ เปิดดมดู ชัดเลย!! น้ำยาปรับผ้านุ่มยกลังเลยคะ คือป้าคนนี้อะไรกัน!! เอาขวดน้ำไปใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มทุกขวดอ่ะ เราก็บอกเปลี่ยนให้ไม่ได้ ถือว่าเป็ยขวดเสียแล้ว ป้าเอาไปบรรจุอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำ มนุษย์ป้าคนนี้ไม่ยอมคะ ตะคอกเสียงดังใส่เรา

"อะไรกัน!! โรงงานออกใหญ่โต ไม่มีที่ล้างขวดรึไง หรือต้องให้ลูกค้าเอาไปล้างเอง" เราตอบไปนิ่มๆ ตามความสัจจริงคะว่า

"เรื่องที่ล้างขวดโรงงานของเรามีคะ แต่ที่เป็นปัญหาคือ น้ำยาปรับผ้านุ่มมันล้างไม่ออกคะ และคงไม่มีลูกค้าคนไหน อยากดื่มน้ำกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหรอกคะ" ป้าคนนี้หน้าเจื๋อนไปเลย ยอมซื้อขวดใหม่ 20 ขวดแบบไม่พูดอะไรอีกเลย

คือไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอม หรือกลิ่นเหม็น ถ้ามันปะปนไปอยู่ในขวด มันก็คือเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ถือเป็นสิ่งสกปรกอยุ่ดี และคงไม่มีใครอยากดื่มน้ำพร้อมกลิ่นหอมๆของน้ำยาปรับผ้านุ่มหรอกใช่ไม๊คะ

ด้วยปัญหานี้เอง อยากให้หลายๆคนเข้าใจนะคะว่า ทั้งถังและขวด(ตามรูป) คือมันไม่สามารถเอาไปใส่น้ำอะไรอื่นได้นอกจากน้ำเปล่าได้ละคะ คืออย่างน้อยถ้าไม่คิดถึงเราผู้ผลิตและผู้ตรวจสอบ คือเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเถอะคะ สมมติว่าถ้ามีขวดใดขวดหนึง"พลาด"ออกไป มันก็คงไม่ดีต่อผู้ที่ใช้ดื่มกินคนต่อไปแน่ๆคะ

เครดิต https://pantip.com/topic/33486651


big-roseapple

big-roseapple

FULL PROFILE