แชร์ประสบการณ์ลดความจากเด็กอ้วนที่เคยหนักเกือบร้อยโลค่ะ

3 2

ตั้งแต่เด็กเป็นเด็กที่ชอบกินมากกินมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือของหวาน เท่าที่จำได้เงินที่ให้ใช้จ่ายเวลาไปโรงเรียนจะหมดไปกับขนม เย็นๆ เวลาหลังเลิกเรียนก็จะกินขนม น้ำหวาน เยอะมากเลยค่ะ แล้วอีกเป็นลูกสาวคนเล็ก บวกกับตอนนั้น เป็นหลานคนเล็ก (ปัจจุบันไม่ใช่หลานสาวคนเล็กแล้วค่ะ มีลูกพี่ลูกน้องเพิ่มอีกหนึ่งคน) ทุกคนเลยตามใจ อยากกินอะไรก็ให้กินไม่ค่อยมีใครห้าม

จำได้ว่าประมาณ ป. ห้า หรือ ป. หก คุณพ่อกับคุณแม่พาไปหา หมอเด็ก ไปตรวจว่าเป็นโรคอ้วนหรือเปล่า ผลก็คือไม่ได้เป็นโรคอ้วนค่ะ แต่อ้วนเกินมาตรฐาน หมอก็ให้ควบคุมอาหาร ทุกอย่าง แต่ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ เท่าที่จำได้กินเม็ดแมงลัก เป็นขวดๆ กินเนื้อสัตว์ ข้าวตามปริมาณที่กำหนด

คุณหมอ บอกว่า ถ้าเด็ก ไม่อยากลดเอง ทำยังไงก็ไม่ลด ก็เป็นแบบที่คุณหมอ บอกนะค่ะ คือไม่อยากลด บังคับหรือ ทำยังไงก็ไม่ลด

พอขึ้นมัธยม ตอนนั้น น้ำหนักก็เก้าสิบห้ากิโลค่ะ แต่เป็นคนตัวสูงเลยดูไม่ถึง สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบเอ็ดค่ะ ) ช่วงแรกๆก็ยังไม่คิดลดน้ำหนักนะค่ะ แต่พอเห็นเพือนรอบกาย ตัวเล็ก น่ารักมีคนมาจีบเยอะแยะ มาดูตัวเอง อ้วน กินทั้งวัน เวลาถ่ายรูปแบบว่า ช้างน้ำที่ไหนกัน หลังจากนั้นเริ่มฮึดลดน้ำหนัก ปีแรก ลดได้ สิบห้ากิโล กินน้อยลง และก็วิ่งออกกำลังกายแถวบ้านค่ะ แต่ก็ยังคงกินน้ำหวาน ขนมหวาน บ้างค่ะ แต่หลังจาก ลดไปสิบห้าโล ก็คงน้ำหนักไว้ที่แปดสิบ ลดเพิ่มได้ค่ะ เหมือนจะมาลดลงตอนช่วงที่กำลังจะขึ้นมัธยมปลายค่ะ จำได้ว่าน้ำหนักอยู่ประมาณ เจ็ดสิบค่ะ ไม่ได้ ฮวบฮาบภายในปีเดียวเหมือนช่วงแรก แต่ค่อยๆลดลงค่ะ

พอขึ้นมัธยปลาย น้ำหนักก็อยู่ที่เจ็ดสิบกิโลไม่ลดลงเลยค่ะ ช่วงนั้นเรียนหนัก เครียดแล้วก็กิน แล้วเป็นคนชอบกินของทอดมาก ไก่ทอดนี่ขาดไม่ได้เลยค่ะชอบมากๆ อารมณ์แบบ ลดไงลดไม่ก็กินละกัน แต่ก็พยามยามไม่ให้เพิ่มขึ้นค่ะ ก็ออกกำลังอยู่เรื่อยๆ

จบมัธยมปลายเข้ามหาลัยน้ำหนักลดลงมาเหลือ หกสิบปลายๆ แต่ก็ไม่ได้ลงไปกว่านี้ ก็ประคองน้ำหนักแบบนี้ไปเรื่อยไม่ลดก็ไม่ให้เพิ่มขึ้น ยอมรับนะ ว่าบางทีก็ท้อใจ ไม่ลดไม่ลง ที่บ้านก็บอกว่า แค่นี้ก็โอแล้ว ลดลงมาเยอะแล้ว แต่ตัวเองรู้สึกยังไม่พอใจ เพราะ เสื้อผ้าก็ห้าไซส์ยากเหมือนเดิม ใส่เสื้อผ้าน่ารักเหมือนคนอื่นเค้าไม่ค่อยได้ เวลาถ่ายรูปบางทีก็ดูตัวใหญ่กว่าใครเค้า

พอเริ่มทำงานบริษัทแรก น้ำหนักลดลงเพราะ เครียดจากงานมาก กินน้อยไม่ค่อยกิน เครียดจนปวด นอนร้องไห้ ป่วยเลยค่ะ ไปพบหมอ ทางบ้านเป็นห่วงเลยให้ออกจาก มาพักผ่อน ค่อยหางานใหม่ น้ำลดลงไปสี่โล แต่นะ ลงเพราะป่วยสุขภาพแย่ ช่วงนี้ไม่ได้ทำงานก็กลับกิน ไม่ได้ทำไรมากกิน นอน ทั้งวัน น้ำหนักก็กลับมาหกสิบปลายๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนค่ะ

หลังจากนอนอยู่บ้านได้สองเดือน ก็เริ่มทำงานที่ใหม่ค่ะ ก็พยายามควบคุมน้ำหนักเรื่อยๆนะคะ ถ้าให้พูดตรงๆ ตัวลงแต่ตัวเลขเวลาชั้งน้ำหนักไม่ค่อยเปลี่ยน อยู่หกสิบเจ็ด หกสิบหก แต่ตัวเล็กลง ไซส์เสื้อผ้าเล็ก ก็รู้ว่าก็ยังดีนะ คืออย่างน้อยเสื้อก็เปลี่ยนไซส์ ไรแบบนี้

ปัญหาของสาวออฟฟิศคือ กินแล้วนั่งทำงานทั้งวัน แล้วเวลาทำงานก็กินๆๆๆ พูดเลยว่า การที่จะให้น้ำหนักลงนั้นยากมาก ในเมื่อมันไม่ลงก็อย่าเพิ่มละกัน ตอนทำงานสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กาแฟเย็น ชาเย็นของโปรดเลยค่ะ ต้องมีติดโต๊ะ เวลาสั่งก็จะบอกว่าหวานน้อยค่ะ แต่นะก็ยังคงหวานอยู่ดี

หลังจากเค้าทำงานมา จนถึงวันสุดท้ายที่ทำ ก่อนมาเรียนที่ญี่ปุ่น น้ำหนักอยู่ที่ หกสิบหกถึงหกสิบเจ็ด กลับไปดูรูปตัวเองสมัยแรกๆ ก็ดูเปลี่ยนไปเยอะ ดูผอมลงไป สิ่งที่เห็นได้ชัดคือแขนและก้น แล้วตั้งแต่เด็กชอบโดนทักว่าแก่กว่าอายุ พอน้ำหนักลงไม่ได้ค่อยมีคนทักว่าแก่กว่าอายุ ตัวเลขอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ร่างกายเปลี่ยน ก็ปลาบปลื้มค่ะ

ปัจจุบันน้ำหนักอยู่ ห้าสิบเก้าค่ะ มาญี่ปุ่นน้ำหนักลงไปเยอะมาก มาอยุ่ตั้งแต่เดือนสี่ ก่อนมากลัวอ้วนมากเลยค่ะเพราะว่า คนส่วนใหญ่ที่มาจะอ้วนขึ้น ด้วยความกลับเลยพยายามควบคุมน้ำหนัก

แล้วสิ่งทีทำมากที่สุดของการอยู่ญี่ปุ่นคือ เดินค่ะ เดินมันเข้าไป หอกับโรงเรียนสอนภาษาใช้เวลาเดิน ยี่สิบนาทีค่ะ เดินจนเมื่อยเลย แล้วพอเรียนเสร็จก็สอบเดินเล่นแถวโรงเรียน จะมีร้านขายอาหาร ซุปเปอร์แล้วก็มีห้างค่ะ ก็เดินดูของเข้าหอ ซื้อพวกวัตถุดิบ จริงแถวหอก็มีนะค่ะ แต่แถวหอจะเน้น ซื้อเนื้อสัตว์มากกว่า วันไหนเบื่อๆ ก็ออกมาเดินเล่นข้างนอก หรือนั้งรถไฟไปสถานีใกล้ๆ แล้วก็เดิน ดูของเรื่อยเปื่อย เดินเสร็จกินข้าว นั่งรถกลับหอ เดินกลับหอ คือเดินตลอดเลย

แล้วอีกอย่างอาหารที่กินก็เปลี่ยนค่ะ คือ กาแฟเย็นก็ยังดื่มนะค่ะ แต่ที่นี่เค้าไม่ใช่นมข้มส่วนมากจะนิยมกาแฟดำ เราก็ใส่น้ำตาลเพิ่มแล้วใส่นม ไม่ใช่นมข้มนะคะ นมตามปกติ แล้วก็น้ำดื่นที่นี่ไม่หวานเหมอืนบ้านเรา แล้วอาหารเค้าก็จะมีบอกแคลลอรี่ทุกอย่างเลยค่ะ

แล้วหลังๆ เริ่มกินคลีน แล้วก็ทำอาหารเอง เราก็สามารถควบคุมปริมาณอาหารเองได้ ปรุงตามใจชอบฉบับคลีนแบบบ้านๆค่ะ พวกขนมเค้ก เครป ก็ยังคงกินนะค่ะ แต่กินเสร็จแล้วก็เดินๆ กว่าจะถึงหอ ย่อยหมดค่ะ

บางคนที่อ่านอาจจะแบบว่า ไหนละวิธีลดน้ำหนัก ไม่มีเลย คือให้พูดตรงๆ การลดน้ำหนักที่ทำอยู่คือ กินครบหมู่ แต่ปรับเปลี่ยนบ้าง ไก่ทอดก็กินนะค่ะ กินบ้างไม่ใช่ทุกวัน น้ำมันก็อย่าไปใส่เยอะ ใส่บ้าง ใช้น้ำมันมะพร้าว อะไรที่รู้ว่ากินแล้ว มันไม่ดีต่อร่างกายก็เลี่ยงไป ถ้าอยากกินขนมก็กินได้ แต่ก็ออกกำลังด้วยนะค่ะ แล้วการทำอาหารกินเองควบคุมน้ำหนักได้ดีค่ะ

ที่เขียนแค่อยากให้กำลังคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ค่ะ อย่าเพิ่งท้อค่อยๆ ลดไปอย่าหักโหม แล้วอย่าฝืนค่ะ อยากกินก็กินไป อยากกินเค้กก็กิน อยากกินเครปก็กิน อยากกินของทอดก็กิน กิินบ้างไม่ใช่ไม่กินเลย ลดแบบที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขไปด้วย บางครั้งก็กดดันตัวเองไมไม่ลดลงเลย ไม่อ้วนแบบนี้ คิดแบบเหมือนกันค่ะ แต่พอมาตอนนี้ก็แบบ บางครั้งก็แบบกินไปเถอะ เดี่ยวตายแล้วจะไม่ได้กินนะ ไรแบบนี้ ฮาๆๆ


Mikanyume

Mikanyume

FULL PROFILE