ยกโขยงมารีวิว Gucci Cosmetics ครบเครื่องตั้งแต่ต้นจรดปลาย

10 5

สวัสดีค่าาาาทุกคน

วันนี้เรามีเรื่องหน้าตื่นเต้นกันอีกแล้ววว

นั้นก็คือ งานรีวิวผลิตภัณฑ์ของ Gucci นั่นเองค่าาาา

อิอิ แฟรี่คิดว่าตอนนี้ท่านผู้ชมคงรออยู่แล้วแน่นอน

งั้นเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่าา ^^

---------------------------------------------------

ผิวหน้า

Silk Priming Serum

(ราคา $52 ประมาณ 1,750 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

เป็น Primer ที่มีส่วนผสมของ Serum ซึ่งทำให้ตัวผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น มี polymers ที่ช่วยเบลอรอยย่น หรือผิวที่ไม่เนียนเรียบ (พูดง่ายๆว่าทาแล้วช่วยพรางรอย สิว รอยย่น ผิวที่ไม่เรียบเนียนต่างๆได้) ทำให้ใบหน้ามีผิวที่สม่ำเสมอและลง Foundation หรือ Concealer ต่างๆได้ง่ายขึ้น สามารถใช้ช่วงหน้าผาก จมูก แก้ม และคางด้วยปลายนิ้วเบาๆ

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

ตัวนี้เวลาทาลงไป ผิวสัมผัสจะรู้สึกเนียนๆคะ ความรู้สึกเหมือนเวลาทา Porefessional ไพรเมอร์ลดรูขุ่มขนจาก Benefits แต่ตัว Texture มันซึมเข้าไปในผิวเร็วมาก ไม่ได้รู้สึกเหมือน Moisturiser หรือครีมบำรุงสไตล์ Serum เท่าไหร่คะ

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 9/10

หรู เริ่ด อลังการอยู่แล้วกับ Gucci จริงๆแฟรี่ชอบ packaging ของ Gucci ทุก Product คะ เพราะเค้าทำออกมาสวยจริงๆ แต่หักออก 1 คะแนนเพราะฝามันค่อนข้างหลวมๆหน่อยคะ เวลาจับตรงฝาตัวขวดอาจร่วงลงมาได้ ต้องระวังนิดนึงคะ

คุณภาพตามที่โฆษณา: 7.5/10

Product นี้เหมือน Primer ทั่วๆไปคะ ก็ทำให้ Foundation หรือ Concealer ต่างๆเกลี่ยได้ง่ายขึ้นคะ แต่แฟรี่ไม่ได้รู้สึกว่ามันโดดเด่นอะไรขนาดนั้น เหมือนกับ Brand อื่นๆทั่วไป และที่หักเยอะหน่อยคือ ตัวนี้เค้าเคลมว่ามันเป็น Serum ด้วย แต่เวลาทาจริงๆ เนื้อมันมีแต่ Primer มากๆเลยคะ ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นเซรั่มเลย คือทาปุ๊ปมันก็จะหายไปกับผิวเลย ไม่ได้รู้สึกว่ามันเพิ่มความชุ่มชื้น หรือมีคุณสมบัติเป็นเซรั่มได้ ก็เลยเฉยๆคะ

ราคา: 7.5/10

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ราคาระดับนี้เป็น High-end ซึ่งถือว่าแพง และที่หักคะแนนเยอะ เพราะมันแพงแต่มันไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากกว่ายี่ห้ออื่นคะ เลยคิดว่าไม่ค่อยคุ้มราคาเท่าไหร่คะ

คะแนนโดยรวม: 7.5/10

ซื้ออีกมั้ย: ไม่ซื้อแล้วคะ เพราะรู้สึกลองยี่ห้ออื่นแล้วมีดีกว่า อีกอย่างราคาถูกกว่าคะ ตัวนี้แฟรี่เฉยๆคะ ^^

Lustrous Glow Foundation

(ราคา $65 ประมาณ 2,145 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

Foundation นี้จะเพิ่มความเปล่งประกายให้หน้าคุณดูมีออร่ามากขึ้น และมีความ Glow ที่พอเหมาะพอดี โดยที่ทางแบรนด์ได้คิดส่วนผสมของแต่ละส่วนไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Luminous Oil, Powder หรือ Polymers ไม่มีน้ำหอม ซึ่งทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวที่ sensitive

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

ตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างบางเบานะคะ ส่วน coverage จะน้อยถึงกลางคะ แต่สามารถ build เพิ่มขึ้นได้ถ้าต้องการปกปิดมากขึ้น ถึงแม้จะบางเบา แต่ยังรู้สึกว่าเนื้อเกลี่ยยากอยู่คะ เท่าที่ลองมา คิดว่าใช้มือกับฟองน้ำลงจะดีที่สุดคะ ส่วน Finishing ก็ค่อนข้าง Glow อย่างที่เค้าบอกจริงๆคะ ใช้ไปหน้าไม่มันนะคะ ถือว่าใช้ได้คะ ^^

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 9/10

เหมือนตัว Slik Priming Serum เลยคะ packaging สวยดีคะ แต่ฝาหลวมๆดูหลุดง่ายนิดนึง

คุณภาพตามที่โฆษณา: 8.5/10

โดยรวมคิดว่าส่วนที่ดีคือความ glow ของตัวนี้นะคะ คือเค้าจะไม่ได้ฉ่ำมากเกินไป จนดูหน้ามัน แต่ก็ยังมีน้ำมีนวลคะ แต่ที่หักคะแนนเพราะเกลี่ยยากคะ ต้องใช้เวลาเกลี่ยให้ทั่วกันพอสมควรคะ ใช้ไปสักพักระหว่างวันก็มีหน้าดร็อปนิดหน่อยนะคะ แต่ก็ไม่ได้มากคะ เอาแป้งช่วยได้คะ

ปกปิด: 8.5/10

เนื้อค่อนข้างบางเบาคะ ถ้าใครมีรอยเยอะๆก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ ต้องลง concealer หรือ build รองพื้นเพิ่มขึ้นไป แต่สำหรับคนที่มีรอยไม่มาก นิดหน่อยๆ ใช้ตัวนี้ได้สบายคะ หน้าก็จะเรียบเนียนสม่ำเสมอกันดีคะ ^^

ราคา: 8.5/10

จริงๆถ้าเทียบกับแบรนด์ hi-end ด้วยกันก็ปานกลางคะ เพราะเดียวนี้ปากันไปขวดละ 2,400 บาท แต่ที่หักเพราะรู้สึกเฉยๆนะคะ ไม่ได้คิดว่ามันเนียนกริบ ขนาดนั้น เลยคิดว่ายังไม่คุ้มราคาคะ

คะแนนโดยรวม: 8.5/10

ซื้ออีกมั้ย: ไม่ซื้อคะ เฉยๆคะ รู้สึกว่าเดียวนี้ตัวเลือก foundation มีหลายยี่ห้อมากที่ออกมาแข่งกัน และก็ทำได้ดีซะด้วย คิดว่าจะดูยี่ห้ออื่นคะ ^^

Luxe Finishing Powder

(ราคา $55 ประมาณ 1,815 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

ตัวนี้อย่างที่ชื่อบอกเป็น finishing powder ไม่มีรองพื้นเป็นส่วนผสมนะคะ (เพราะฉะนั้นตัวนี้ไม่ปกปิดรอยหรือริ้วรอยใดๆทั้งสิ้นนะคะ) ทางแบรนด์บอกว่า เจ้าตัวนี้จะมีเนื้อเป็น satin คะซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า และมีสูตรพิเศษที่ทำให้เวลาใช้ ตัวเนื้อแป้งจะกลายเป็นส่วนเดียวกับรองพื้นและผิวหน้าไปเลย จะไม่เป็น layer หรือชั้นๆนั่นเองคะ

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

ตัวนี้ดีคะ หลังลง foundation เสร็จ เอาตัวนี้วนทับคือเริ่ดและเนียนมากกกคะ ชอบเลยคะตัวนี้ และที่ชอบที่สุดคือตัวแปรงของเค้าคะ เหมือนในรูปคือแปรงจะเป็นแบบขน ซึ่งมันทำให้เราเข้าถึได้ทุกซอกมุม แม้กระทั่งใต้ตาเลย ขึ้นว่าดีกว่าพัฟมากๆคะ เพราะเวลาเติมระหว่างวันมันจะไม่ดูหนาเหมือนทาทัยเข้าไปอีกหนึ่งชั้นคะ

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 10/10

ชนะเลิศค่าาาา ตัวตลับส่วนเปิดปิดเป็นแม่เหล็กดูด แข็งแรงดีและเปิดง่าย ตลับดูแข็งแรง อยู่ได้ทนนานมากๆคะ ตอนเพิ่งซื้อและใช้ใหม่ๆก็จะเห็นตรา Gucci ตรงตัวเนื้อแป้งด้วย (แต่ใช้ไปเรื่อยๆมันก็จะเลือนหายไป 5555) และอย่างที่บอกไปก่อนหน้าคะ ออกแบบแปรงมาได้อย่างดีคะ ^^

คุณภาพตามที่โฆษณา: 9/10

ตัวนี้ต้องบอกว่าใช้ดีเลยคะ ควบคุมมันได้ดีอย่างที่เค้าโฆษณาไว้จริงๆ และดูใช้แล้วเนียนเป็นผิว ไม่โบ๊ะไม่เป็นชั้นหนาขึ้นมา หักคะแนนเล็กน้อยเพราะเนื้อแป้ง fall out เป็นเกล็ดแป้งลงมาเยอะพอสมควรในตลับเวลาเอาแปรงไปวนๆที่เนื้อแป้ง และหักอีกจุดตรงที่ไม่ได้ทนนานขนาดนั้นคะ อยู่ได้ไม่นานมากก็กลับมาดร็อปได้เหมือนเดิม

ราคา: 9/10

ราคาก็แพงระดับนึงคะ แต่ก็โอเค หักแค่ว่ามันไม่คุ้มที่ตรงใช้แล้วสีดร็อปง่ายคะ ^^

คะแนนโดยรวม: 9/10

ซื้ออีกมั้ย: เป็นไปได้คะถ้ามีโอกาส เพราะชอบตัวแปรงและดีไซน์ของเค้า ใช้ได้แบบจริงๆทุกเวลา

---------------------------------------------------

ตา

crystal copper, magnetic color shadow quad

(ราคา $65 ประมาณ 2,145 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

เป็น eye shadow ที่สามารถใช้ได้ในทุกโอกาสไม่ว่าจะต้องการแต่งแนวธรรมชาติโทนอ่อน ไปถึงโทนเข้มๆอย่าง smokey eyes ประกอบไปด้วยทั้งสีที่เป็น base และ highlight ที่สำคัญคือมี pigment หรือเม็ดสีที่แน่น ลงสีแล้วเห็นได้ชัดถึงแม้จะไม่ลง eye primer ก็ตาม

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

โดยรวมถือว่า eye shadow ของ Gucci เม็ดสีเห็นชัดและแน่นจริงคะ สีสวยมากๆเท่าที่ไปลองมาทุกๆ palette ข้อเสียอย่างนึงคือ pigment มันจะค่อนข้าง fall out เยอะถ้ากดไม่แน่น หรือทาแบบปื้ดเดียว รวมถึงเวลาที่เอาแปรงลงไปแตะ สีค่อนข้างฟุ้งออกมาทีเดียว อีกอย่างคือ ไม่ทนกับน้ำเลยคะ สามารถล้างออกจากผิวหนังได้ด้วยน้ำเปล่าเลย แบบลูบๆ 3 ทีก็ออกแล้ว แต่ถ้าไม่ได้จะร้องไห้ หรือไปโดนน้ำอะไรขนาดนั้นก็โอเคคะ แต่แนะนำให้ลง eye primer ก่อนคะ ไม่ใช่เพื่อให้เม็ดสีชัดขึ้น แต่เพื่อให้ติดแน่นขึ้นไม่ fall out คะ ^^

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 10/10

เริ่ดเหมือนเดิมคะ เลอค่ามากๆ ไม่ดูกิ๊กก๊อกอ่อนแอ และ design สวยคะ

คุณภาพตามที่โฆษณา: 8.75/10

ถือว่าใช้ได้คะ เรื่องที่เค้าประกันคุณภาพเรื่องเม็ดสี และความชัดของสีคะ แต่ต้องหักตรงจุดที่ fall out เยอะคะ แล้วอีกอย่างที่หักคือ ตัวสีทั้ง 4 สีเป็น shimmer หมดเลยคะ นั่นหมายความว่า เวลาใช้ ถ้าใครตาชั้นเดียว หรืออย่างคนเอเชียตาไม่ค่อยลึก มิติน้อยกว่าฝรั่ง ถ้าใช้สีจากในนี้ทั้งหมดตาจะออกมาดูบวมไม่สวยคะ เพราะ shimmer เยอะไป ไม่สามารถเป็น all in one ได้ซะทีเดียว ต้องหาสีแม็ทจากยี่ห้ออื่นมาช่วยด้วยคะ

ราคา: 8.5/10

แพงอยู่พอสมควรคะ ราคาพอๆกับ foundation ขวดนึงเลย แล้วสีมันไม่ได้ใช้แบบ all-in-one ขนาดนั้น เลยเฉยๆคะ

คะแนนโดยรวม: 8.75/10 (fall out ง่าย และสีใช้ด้วยกันไม่ได้เพราะ shimmer หมด)

ซื้ออีกมั้ย: อาจจะซื้อคะ แต่จะเป็นสีอื่นที่สดกว่านี้หรือมีลูกเล่นกว่านี้เพราะเม็ดสีเค้าดี ^^

iconic ottanio, impact long wear eye pencil

(ราคา $32 ประมาณ 1,056 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

ดินสอเขียนอายไลเนอร์ที่ long-lasting โดยมีเม็ดสีและเนื้อที่เข้มข้น โดยที่ยังสามารถวาดไลเนอร์ได้อย่างลื่น และราบเรียบ (smooth) เมื่อวาดลงไปแล้ว จะสามารถใช้แปรงหรือนิ้วเบลนด์หรือเกลี่ยสีให้ฟุ้งได้ภายใน 30 วินาที หลังจาก 30 วินาทีแล้ว ตัวสีจะเกาะติดแน่นและไม่ไหลไปไหนระหว่างวัน สามารถอยู่ได้ถึง 12 ชม และกันน้ำได้ (waterproof) แต่ก็สามารถลบออกได้อย่างง่ายได้ด้วย eye remover เพื่อรักษาผิวรอบดวงตาได้มากที่สุดเช่นกัน

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

เนื่องจากสีที่แฟรี่ซื้อมาเป็นสีฟ้าสด เราจะเห็นว่าเม็ดสีชัดและสวยมากคะ แฟรี่ชอบสีที่ออกมามาก ไม่มีเพี้ยนเลยคะ ส่วนที่เค้าบอกว่าหลัง 30 วินาทีจะติดอยู่บนผิว อันนั้นก็จริงคะ ซึ่งทำให้มือใหม่อาจจะใช้ยากบ้างนิดหน่อยถ้ายังฝึกเบลนด์สีอยู่ เพราะต้องรีบเบลนด์มากๆ

ตัวนี้ถึงแม้ว่าจะบอกว่า waterproof แต่ยังรู้สึกว่ายังไหลอยู่บ้างระหว่างวัน โดยเฉพาะช่วงหางตา ที่ต้องคอยเช็ดอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นข้อแนะนำคือ พยายามอย่ากรีดตาช่วง water line ตรงขอบตาล่างคะ อาจจะทำช่วงโคนขนตา หรือช่วงตาบนได้ และอย่าลงสีเยอะไปจนมันเป็นชั้นหนาเพราะจะทำให้เยิ้มได้ง่ายคะ

อีกอย่างคือ สำหรับคนที่เปลือกตา หรือชั้นตามีที่น้อย และต้องการเขียนอายไลเนอร์เส้นเล็กๆชิดขอบขนตาอาจจะไม่เหมาะนะคะ เพราะตัวหัวดินสอใหญ่พอสมควรคะ เหมาะกับการเขียนอายไลเนอร์แบบเต็มชั้นตา (สำหรับคนที่ชั้นตาน้อย) คะ

และที่สำคัญสำหรับคนตาสองชั้นหลบในหรือคนที่เปลือกตามัน อาจจะเยิ้มได้คะ ยิ่งถ้าลงเนื้อเยอะและเบลนด์ไม่ละเอียด ต้องระวังดีๆคะ (ควรจะลงเป็นชั้นบางๆ ให้เห็นสีที่ชัดแล้วก็กดทับด้วย eye shadow แบบฝุ่น ไม่ควรเน้นละเลงสีจนมีชั้นหนา)

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 8.75/10

ตัว package เองสวยคะ แต่ที่หักคะแนนไปเพราะตัวฝั่งที่ใช้เบลนด์สีที่เป็นฟองน้ำออกมาแข็งมากคะ เวลาเบลนด์ใช้แล้วเจ็บเปลือกตามาก ใช้ได้ไม่ค่อยจริง ต้องใช้แปรงเบลนด์ซะมากกว่า หรือถ้าเบลนด์ได้ก็ออกมาไม่ค่อยฟุ้ง ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่คะ

คุณภาพตามที่โฆษณา: 8.75/10

คะแนนดีที่เม็ดสีแน่น ชัด สวย แต่หักตามจุดที่กล่าวไปในความเห็นคะคือ ยังเยิ้มอยู่พอสมควรตามหางตาล่าง และที่หัวดินสอใหญ่ไม่ค่อยเหมาะกับตาคนเอเชียที่ชั้นตาน้อยกว่าฝรั่ง ซึ่งทำให้เขียนชิดขอบตาได้ยากคะ

ราคา: 9/10

ไม่ถือว่าแพงจนเว่อร์ถ้าดูคุณภาพของเม็ดสี แต่เพราะยังเยิ้มอยู่ไม่ได้สมคำที่บอกไว้เลยหักไปนิดหน่อยคะ ^^

คะแนนโดยรวม: 8.75/10

ซื้ออีกมั้ย: อาจจะไม่ซื้อคะ เพราะเยิ้มเวลาเขียน water line (แต่อย่างที่บอกคะ อย่างอื่นโอเคนะคะ แล้วแต่ความชอบส่วนตัวคะ ^^)

---------------------------------------------------

ปาก

cashmere, audacious color-intense lipstick (050)

(ราคา $39 ประมาณ 1,300 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

ลิปสติกที่มี wax และ rasin เป็นส่วนประกอบ ทำให้สามารถติดทนได้นาน และรู้สึกบางเบาเมื่อทา เม็ดสีแน่น เห็นสีได้ชัดเจน สามารถปกปิดสีที่ไม่สม่ำเสมอกันของริมฝีปากได้อย่างเรียบเนียน

(Gucci จะมีรุ่นที่เป็น intense กับ moisture-rich นะคะ พูดง่ายๆคือถ้าเป็นรุ่น intense จะเข้มข้นกว่าและจะแม็ตต์กว่าอีกรุ่น ส่วน moisture-rich ทาออกมาจะออกแนวชุ่มชื้นวาวๆคะ)

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

สีสวยดีงามมากค่าาา คือจะบอกว่าชอบตัวนี้มากๆเลยคะ จริงๆแล้วแฟรี่เป็นคนปากแห้งนะคะ แต่สามารถทา lipstick รุ่น intense ของ Gucci ได้สบายๆ เพราะเนื้อลิปสติกเค้าจะไม่แห้งและแม็ตต์แบบ 100% จะมีความชุ่มชื้นอยู่บ้างคะ

และด้วยความที่สีปากแฟรี่ช่วงขอบจะค่อนข้างเข้ม แฟรี่เลยมักจะมีปัญหาลิปสติกกลบสีผากไม่หมด หรือไม่สม่ำเสมอ แต่กับตัวนี้ไม่เป็นเลยคะ สีแน่นชัด สามารถกลบสีปากได้อย่างดี ทาแล้วดูอวบอิ่ม ยิ่งใช้ lip pencil ตัดขอบปากก็ยิ่งเป๊ะเข้าไปอีกคะ ที่สำคัญคือมีกลิ่นหอมเป็นธรรมชาติอ่อนๆด้วยคะ ใช้แล้วรู้สึกดี (ถ้าใครแพ้น้ำหอมต้องดูดีๆก่อนนะคะ ^^)

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 10/10

ชนะเลิศศศศศ สวยและเลอค่ามากกก คือจะบอกว่าอย่างแรกที่จะยั่วยวนพวกเราก่อนเลยคือตัว packaging เนี่ยแหละคะ เปิดฝามาแล้วร฿้สึกโดนอะไรสักอย่างเข้าสิงว่าฉันต้องเอาให้ได้ 555555

คุณภาพตามที่โฆษณา: 10/10

อันนี้ต้องบอกว่าชอบมากคะ ทาก็ง่ายด้วยคะ ไม่จำเป็นต้องใช้แปรงเลยก็ยังได้ ใช้สะดวก และตามความเห็นที่บอกคะ เม็ดสีแน่น กลบสีปากดี กลิ่นหอม

ติดทนนาน: 9/10

จริงๆเค้าก็ติดทนพอสมควรนะคะ แต่ถามว่านานนนขนาดนั้นจนแบบแทบไม่ต้องเติมเลยมั้ย ก็ไม่ขนาดนั้นคะ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าซื้อสีโทนเข้มมา อย่างสีแดง ม่วงเข้ม พรุน อะไรแนวนี้น่าจะติดทนนานได้พอสมควรเลยคะ

ราคา: 10/10

คือ ถามว่าแพงมั้ย ก็อาจจะแพงคะ แต่ด้วยความที่คุณภาพเค้าดีมาก เลยคิดว่าคุ้มคะ

คะแนนโดยรวม: 9.75/10

ซื้ออีกมั้ย: แน่นอนค่าาา อิอิ ตัวนี้แนะนำนะคะถ้าใครที่อยากซื้อ

ป.ล. ทั้งนี้ทั้งนั้น ลิปสติกและกลอสของ Gucci ยังมีอีกหลายรุ่นนะคะ ถ้าอยากลองรุ่นอื่นอาจจะต้องดูก่อน และที่สำคัญสภาพริมฝีปากของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางทีผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ออกมาอย่างที่แฟรี่รีวิวเป๊ะๆ ถ้าจะซื้อจริงๆและมีโอกาสไปที่ counter อยากให้ขอลองก่อนทุกครั้งนะคะ ^^

imperial red, sleek contouring lip pencil

(ราคา $32 ประมาณ 1,100 บาท)

คุณสมบัติตามที่แบรนด์บอกไว้

ดินสอเขียนขอบปากที่สามารถช่วยจัดรูปปากของคุณให้ดูเป็นมิติ และได้รูปมากขึ้น โดยเนื้อจะเป็น satin ที่จะช่วยให้ความเนียนนุ่ม และชุ่มชื้น ทำให้สามารถเบลนด์กับ lip stick ได้ง่ายมากขึ้น

ความคิดเห็นหลังได้ใช้

ชอบอีกแล้วค่าาา คือพวก lip pencil ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาคือ เขียนยาก เบลนด์ไม่ดี เพราะดูดินสอมันไม่ได้ออกแบบมาให้วาดได้คมขนาดนั้น แต่ตัวนี้คือคมคะ เลยทำให้เราเขียนได้อย่างแม่นยำแล้วค่อยๆเบลนด์ได้ เนื้อเกลี่ยง่าย และสีติดทนคะ

อย่างที่แฟรี่บอกไปข้างต้นแล้วนะคะ คือปากแฟรี่สีไม่สม่ำเสมอคะ ช่วงขอบปากจะค่อนข้างคล้ำกว่าช่วงกลางๆ ซึ่ง lip pencil ตัวนี้กลบได้อย่างดีคะ และ lip pencil บางทีก็หาตัวที่จะติดทนไปกับลิปสติกเลยได้ก็ยาก แต่ตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีเลยคะ ^^

คะแนนและรีวิวอย่างละเอียดเพิ่มเติม

Packaging: 10/10

ใช้ง่ายดีคะ หยิบจับถนัดมือ แต่ก็ยังคงความหรูหรที่ว่าอยู่ตาม concept ของ Gucci นะคะ ^^

คุณภาพตามที่โฆษณา: 10/10

ดี เริ่ดคะ ชอบมาก แต่ต้องบอกก่อนเลยนะคะ ว่าการใช้ lip pencil อยู่ที่การเกลี่ยของเราด้วย และ lip pencil ของ Gucci สีค่อนข้างชัด ดังนั้นต้องเกลี่ยให้ดีๆคะ ไม่งั้นสีอาจจะโดดออกมา ถ้าเกลี่ยดีแล้วมันจะเริ่ดมาก

ติดทนนาน: 9/10

คล้ายๆตัวลิปสติกที่บอกไปนะคะ คือทนพอสมควรคะถ้าเทียบกับ lip pencil ด้วยกัน แต่ถ้าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนเหมือนลิปสติกเลย ก็ยังไม่ได้ทนขนาดนั้นคะ

คะแนนโดยรวม: 10/10

ชอบคะ เริ่ดคะ นานๆทีจะเจอ lip pencil ที่คมและเม็ดสีชัด แจ่มๆแบบนี้

ซื้ออีกมั้ย: ส่วนตัวซื้อนะคะ ถ้าใครใช้ lip pencil ก็แนะนำคะ แต่อาจจะไม่ได้เป็น must have item สำหรับทุกคน

-------------------------------------------------------

เย้ๆๆๆๆๆ ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับรีวิว Gucci อย่างละเอียดให้เพื่อนๆได้ประเดิมลองกัน

ในครั้งหน้า แฟรี่จะกลับมาพร้อมคลิปรีวิวงานผิวพวก Primer, Foundation, Powder ของ Gucci ที่จะทำให้ดูจริงแบบละเอยีดอีกที อันนี้เอาไปเป็นของว่างรอๆกันก่อน อิอิ

แฟรี่ก็หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ

ถ้ามีใครสนใจหรืออยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวไหนก็สามารถสอบถามกันเข้ามาได้นะคะ

และอย่าลืมนะคะ การรีวิวนี้อยู่บนพื้นฐานของตัวแฟรี่เอง แฟรี่อยากให้ทุกคนวิเคราะห์ปัญหาและสภาพผิวหน้าของตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะผิวหน้า สภาพผิว และสีผิวของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่ได้ออกมาเหมือนกันเสมอไป ถือว่าอันนี้เป็น guideline คร่าวๆนะคะ ^^

ครั้งหน้าเรามาเจอกันใหม่เน้ออออ บ๊ายบายยยยยย ^^


Fairynista

Fairynista

Passionate and too obsessed with makeup and lifestyle. Also, I'm trying to bring great techniques, product review, and interesting lifestyle to the table : )

FULL PROFILE