REVIEW จัดเต็มกับ YSL FUSION INK

สวัสดีค่ะวันนี้บีมจะมารีวิวแบบจัดเต็มกับรองพื้นที่ออกมาใหม่นั่นก็คือ YSL FUSION INK

ซึ่งเจ้า YSL FUSION INKเริ่มนำมาจำหน่ายก่อน 100 ขวดแรก ที่สาขาพารากอน ตั้งแต่วันที่ 5 ที่ผ่านมาค่ะทีแรกบีมต้องบอกก่อนเลยว่า บีมไม่ได้ปลาบปลื้มหรือรู้สึกอยากได้เจ้านี้แม้แต่นิดเดียวเลยค่ะ ขนาดเพื่อนทักแชทใน fb มาบอกว่าอยากได้มาก บีมตอบกลับเพื่อนไปว่า เฉยๆ ไม่เห็นน่าสนใจอะไรเลย และช่วงนั้นพี่ฟลุ๊ค alwaysfluke ได้อัพใน fb ส่วนตัวว่าเจ้าตัว FUSION INK นี่ดีควรซื้อมาก (บีมแอบส่องอย่างเงียบๆ) จนเมื่อวาน(วันที่9) บีมได้มีโอกาสไปเดินที่พารากอน ทีแรกเลยบีมลองที่ข้อมือตามสเต็ปเลยค่ะ โดยใช้พายที่อยู่กับขวดแต้มมาแค่นิดเดียวค่ะ ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ แต่มันเกลี่ยได้ทั่วข้อมือเลยค่ะ วินาทีแรกที่สัมผัสคือ เนื้อเหลวเป็นเนื้อ ลิขวิด ฟูอิดมากกกกก (เน้น ก.ไก่เลยค่ะ) แบบเกลี่ยได้ทั่วสบายๆเลย แต่เรื่องปกปิดถือว่าดีเยี่ยม ถ้าเทียบกับเนื้อที่บางเบามากขนาดนี้ แต่ตอนนั้นหลังจากเกลี่ยเสร็จเหมือนจะตกร่องเล็กน้อย เลยเดินไปดู NARS ตัวใหม่ พอลอง NARS ที่ข้อมืออีกข้างแล้วเอามาเทียบกัน ตกใจค่ะ วินาทีนั้น FUSION INK เค้าเนียนกริบไปกับผิวแล้วจากที่แรกนึกว่าตกร่อง พอเทียบกัน บีมว่า FUSION INK ชนะขาดลอยเลยค่ะ เพราะว่าของ NARS เท่าที่ลองนี่คือเนื้อหนากว่า FUSION INK ปกปิดได้พอๆกันค่ะ แต่ NARS ตกร่องกว่าค่ะ บีมเลยกลับไปลอง FUSION INK ที่หน้าเลยค่ะ โดยขอทางพี่เมคอัพอาร์ติส พี่เค้าก็ใจดีให้ลองที่หน้าทั้งบีมและเพื่อนเลยค่ะ คือลองที่หน้าเพื่อนบีมก่อน บีมก็ยืนมองแบบเฮ้ย เนียนไปกับผิวจริงๆ แล้วพี่ก็พาไปดูแสงธรรมชาติด้วยว่ารองพื้นสีกลืนไปกับหน้าจริงๆ โดยลงแค่ครึ่งหน้าเพื่อเปรียบเทียบค่ะ (พี่ลงทับหน้าเพื่อนของบีม โดยที่ไม่ล้างหน้าค่ะ เพื่อนบีมผิวมันๆก็ลงทับไปอย่างนั้นเลย) ผลที่ได้คือผิวแมตขึ้นมาทันทีเลยค่ะ แต่ไม่ได้แมตแบบแข็งกระด้าง แมตแบบสวยค่ะ (บอกไม่ถูกเลย ต้องไปลองเองค่ะจริงๆ) แล้วพี่เมคอัพอาร์ติสก็มาลงที่หน้าบีม โดยที่หน้าบีมลงรองพื้นและแป้งไว้ประมาณ 12hr แล้ว ตอนนั้นหน้าบีมมันและมีคราบเล็กน้อย พี่เค้าใช้แค่ทิชชูซับหน้าบีมแล้วลง FUSION INKทับเลยค่ะ ใช่ค่ะ ลงทับเมคอัพเก่าเลยค่ะ ผลที่ได้คือ มันเนียนสวยมาก ผิวแมตขึ้น กลืนไปกับผิว ผิวหน้าเด้งมากตอนนี้เริ่มลังเลว่าจะเอาดีไหม แล้วพี่เค้าก็บอกว่าถ้าซื้อวันนี้ลด 10% พอพูดแค่นี้บีมควักเงินเลยค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเลย 5555555 เพื่อนบีมยังงงเลยว่า อ้าวไหนแกว่าเฉยๆไง ไหนควักเงินซื้อเลย บีมใช้เบอร์ B60 ส่วนเพื่อนบีมใช้เบอร์ B50 แต่ดันหมดสะก่อน(จริงๆน่ะมีแต่พี่เค้าเก็บไว้วันงานวันที่10) เลยอด เม้าท์มาเยอะแล้ว มาดูภาพรีวิวรัวๆเลยค่ะ

ขวดเป็นทรงเหลี่ยมๆ ขนาดจับพอดีมือเลยค่ะ ส่วนข้างๆนั่นเป็นกระจกค่ะ พี่เค้าแถมมาให้ด้วย(ใจดีที่สุดเลยค่ะ)

เวลาใช้งานก็ดังฝา ใช่ค่ะดึงฝาออกมาแล้วจะเจอฝาหมุนสีดำอีกที

เบอร์ ที่บีมใช้คือ B60 หลายๆคนถามว่าถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น บีมใช้ estee#37 chanel#30(ตอนนั้นขาวกว่าตอนนี้ค่ะ) THREE#206 ค่ะ ลองเทียบๆกันดูนะคะ ใช้แป้ง mac #meduim plus ค่ะ

พอหมุนฝาออกจะเป็นไม้พาย(บีมเรียกแบบนี้5555) เค้าดีไซน์ออกมาให้เหมือนกับปากกา บีมว่ารูปทรงมันเหมือนกับลิปจิ้มจุ่มมากๆ 555555 ถามว่าใช้ง่ายไหมถ้าเทียบกับหัวปั๊ม บีมว่าง่ายนะคะ แถมเราสามารถกะปริมาณรองพื้นได้ง่ายกว่า เพราะอย่างที่บอกค่ะว่าเนื้อสัมผัสค่อนข้างเหลวมาก ทำให้เกลี่ยง่ายและใช้ปริมาณที่น้อย ถ้าเป็นแบบหัวปั๊มก็จะกดออกมาเยอะเกิน แต่ข้อเสียแบบไม้พายแบบนี้คือ ถ้าเราเอาออกมาป้ายบ่อยๆแบบป้ายมือบ้างหน้าบ้าง(ไม่รักษาความสะอาดเท่าไร) อาจจะสกปรก มีเชื้อโรคติดไปกับไม้พายได้

เนื้อเหลวเกลี่ยง่ายมากๆค่ะ ถ้าเทียบกับข้อมือเหมือนสีจะเข้มมาก จริงๆแล้วพอดีกับผิวหน้าบีมเลยค่ะ หน้าบีมคล้ำกว่าคอ55555555

มีคู่มือการใช้งานและรายอะเอียดมาให้ด้วยค่ะ ความรู้สึกเหมือนใบกำกับยาวิธีลงรองพื้นให้เนียนค่ะ ใช้ไม้พายป้ายตรงหน้าผากด้านซ้ายและขวาอย่างละจุด หน้าแก้มข้างซ้ายและขวาอย่างละจุด สันจมูก1จุด บริเวณร่องแก้มซ้ายขวาอีกข้างละจุด และที่คางอีก1จุดค่ะส่วนวิธีเกลี่ยรองพื้นให้เรียบเนียนคือ ถ้าใช้แปรงให้ใช้แปรงขนแม่นวนๆในแต่ละจุดที่ทารองพื้นไว้ค่ะ หรือถ้าใช้นิ้วก็ทำคล้ายๆกันคือวนนิ้วเป็นลงกลมแล้ววนออกกรอบหน้าค่ะ

ด้านซ้ายคือผิวก่อนลง ด้านขวากลง YSL FUSION INK 1 รอบค่ะ ใช้1ไม้พาย(จุ่มแล้วเอาขึ้นมาป้ายๆทั้งหน้าค่ะ) โดย สภาพผิวบีมคือ เป็นคนผิวมันมากถึงมากที่สุด มีรอยสิว รอยแดงรอยดำปะปนกัน สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้างบริเวณข้างจมูกตรงหน้าแก้มค่ะ

ด้านซ้ายคือถ่ายเปิดแฟลช สวยสู้แฟลชสบายๆค่ะ ถือว่า YSL FUSION INK ถ่ายรูปขึ้นมากๆเลยค่ะ ด้านขวาแสงธรรมชาติไม่เปิดแฟลชค่ะ เห็นได้ว่าผิวค่อนข้างแมต

เทียบระหว่างก่อนลงรองพื้นกับหลังลง คือก่อนลงผิวมีน้ำมันอยู่ค่ะ พอลงผิวจะแมตขึ้นทันที โดยบีมไม่ได้ปัดแป้งทับค่ะทาแค่รองพื้น YSL FUSION INK ตัวเดียวค่ะ แล้วมีปัด ไฮไลท์ แมรี่ลูทับที่จุดกระทบแสง มีหน้าแก้มสันจมูก และคางค่ะ

มาเริ่มทดสอบความทนและเรื่องควบคุมความมันกันดีกว่า

ด้านซ้าย หลังลงรองพื้น ขวา หลังจากลงรองพื้นผ่านไป 1hr เห็นความแตกต่างไหมคะ? บีมว่ามันแทบไม่ต่างเลย ผิวยังคงแมตเหมือนเดิม

เทียบรวมให้เห็นทั่วหน้าเลยค่ะ

พอผ่านไป 6hr เริ่มมัน แต่ไม่ได้เยิ้มนะคะ ผิวออก glowๆสวยงามมากค่ะ ดูฉ่ำๆ

เทียบระหว่างหลังลงรองพื้นกับผ่านไป 6hr บีมว่าบีมให้ผ่านเรื่องคุมมัน ถือว่าคุมมันได้เด็ดดวงมากค่ะ ปกติบีมใช้ estee เวลาไม่เกิน 2-3 hr ที่หน้ามันเยิ้ม เน้นว่าเยิ้มแล้วค่ะ 6hrนี่หน้าเมือกเลยค่ะ ถ้าถามว่าตัวไหนคุมมันดีสุด บีมแนะนำ YSL FUSION INK เท่านั้นค่ะ

สรุป

ที่ทาง แบรนด์เคลมไว้คือ "เบาบางราวขนนก ติดทนนานราวน้ำหมึก" ถือว่าเยี่ยมยอดตามคำเคลมเลยค่ะ ทั้งบางเบา ติดทน แถมยังคุมมัน ถือเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งให้สาวๆได้ไปลองกันนะคะ

อ่อจริงๆลองพื้นตัวนี้เหมาะกับทุกเพศ และทุกสภาพผิวด้วยค่ะ สามารถลงรองพื้นโดยไม่ต้องลงแป้ง เพราะลุคที่ได้จะแมตเหมือนลงแป้งแล้วค่ะ ดังนั้นถือว่าประหยัดค่าแป้งไปอีก

ราคาอยู่ที่ 2,400 บาทค่ะ แต่บีมซื้อได้รับส่วนลด 10% เหลือขวดละ 2,160 บาทค่ะ

ขอลาไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่รับชมนะคะ ทุกอย่างในกระทู้นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของบีมล้วนๆนะคะ แต่ละคนอาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน บีมแนะนำว่าไปลองเองและตัดสินกันเองดีที่สุดค่ะ

Discussion (13)

โอ้ย ย ย ย ย ย ย ย หยั่กได้ ฮือออออออออ เก็บตังแพพ นี่เสียเงินไปกับนางซินและลิปติก กะของไร้สาระเยอะมากช่วงนี้ ฮ่าๆๆๆ 

ขอถามนอกเรื่องค่ะ รองเท้าซื้อที่ไหน ชอบอีกแล้ว ฮ่าๆๆ
เริศมากอ่าค่าาา
@lovel3erry  ใช่ๆๆ พี่บีเอบอกว่าเด็ดมาก เรางี้หูพึ่งอีกอันเข้าเดือนหน้าอะ
@solarbeam งั้นเดี๋ยวต้องรอดู Dior nude air ถ้าเนื้อเหมือนกันคงต้องจัดดด
@KwonSoPloy  ต้องไปลองเนื้อดูก่อนนะว่าชอบตัวไหนมากกว่า แต่บีมคิดว่า NARS เค้าหนักไปและเหมือนจะตกร่องมากกว่า แถมตัว YSL เค้าบอกว่าติดทน 24 hr ส่วน NARSติดทน 16 hr เลยเอา YSLแบบไม่ลังเลใจเลยค่ะ

@lovel3erry  เหมือนว่าจะไม่ลดแล้วอะจอย ลดถึงวันที่10อะ รอเข้ามาอีกรอบน่าจะลดนะ