​******** 5 ขั้นตอนเปลี่ยนแนวคิดจากคนหน้าสิวเป็นคนหน้าใส ********

*********** 5 ขั้นตอนเปลี่ยนแนวคิดจากคนหน้าสิวเป็นคนหน้าใส ***********
                                                   
  

 
ก่อนอื่นต้องขอเปิดตัวด้วยแทยอนนะคะ เพื่อสร้างเเรงบันดาลใจก่อนอ่านว่า หลังจากนี้ชั้นจะหน้าใสแบบนี้นะจ๊ะทุกคน 
(งานมโนสำคัญกว่าความรู้ค่ะ 5555) โอ้ยนอกเรื่องไปนิด ขอกลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
                เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็เป็นค่ะ มีหลายเว็บหลายร้อยกระทู้ที่พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ เพราะยิ่งเป็นช่วงวัยรุ่นสิวนี่ผุดมากกว่าดอกเห็ดจ้า หมดเงินรักษากันไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ บางคนโชคดีหน่อยก็เป็นไม่เยอะ แต่บางคนฮอร์โมนเยอะก็เป็นมากหน่อย กลุ้มกันไปตามๆกันจ้า


                สิวเป็นอะไรที่รักษาให้หายและอยู่ในปริมาณที่ควบคุมได้ค่ะ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ถาวร เพราะสาเหตุการเกิดสิวเกิดขึ้นจากหลายๆปัจจัยที่บางทีเราก็ควบคุมไม่ได้ เช่น ฮอร์โมน มลภาวะ ความเครียด และอาการแพ้ต่างๆของผิวหนัง แต่เราสามารถที่จะดูแลให้อยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ และไม่ส่งผลเสียต่อผิวหน้าระยะยาวได้ค่ะ

วันนี้เลยอยากนำเสนอ 5 ขั้นตอนในการปฏิบัติ เพื่อหน้าใส แบบสุขภาพดีมาแบ่งปันค่ะ
ขอเกริ่นอีกนิด ในที่นี้จะขอไม่พูดถึงวิธีการรักษาสิวแบบดารานะคะ
  • ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์
เพราะเรื่องพวกนี้เราเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้ว จริงอยู่ค่ะ ว่าขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์และอาจจะช่วยให้สิวหายจริงในบางคน แต่ต้องขอเน้นที่คำว่า “อาจ” นะคะ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นค่ะว่าสาเหตุการเกิดสิวของแต่ละคนนั้นต่างกัน

ดังนั้น ขั้นตอนแรกของการเปลี่ยนหน้าสิวให้เป็นหน้าใส คือ
  1. พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของการเกิดสิวที่แท้จริง
         
 แน่นอนค่ะ การหาหมอคือวิธีทางเลือกแรกที่ขอนำเสนอ การหาหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุเป็นสิ่งที่ดีค่ะ บางคนคิดเอาเองว่าตัวเองเป็นสิวเพราะแพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ก็จัดแจงเปลี่ยนครีมเปลี่ยนเครื่องสำอางค์กันยกใหญ่ ทั้งๆที่อาจเป็นสิวฮอร์โมน
บางคนมโนต่อคิดว่าฉันเป็นสิวฮอร์โมนแน่นอน ใช้ครีมใช้เครื่องสำอางแล้วสิวขึ้นก็ไม่สนใจ เพราะคิดว่าก็ฉันเป็นสิวฮอร์โมนนิขึ้นแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทั้งๆที่เป็นสิวแพ้ครีมและเครื่องสำอาง ดังนั้นการหาหมอและเจาะสิวเพื่อนำไปตรวจหาสาเหตุจึงจำเป็น ซึ่งถ้าตรวจตามโรงพยาบาลหรือตามคลินิกดีๆ ที่มีเครื่องตรวจ ราคาก็ไม่ได้แพงเลยอยู่ที่ราวๆไม่เกิน 500 บาทค่ะ

 
  1. เลิก !! หลงเชื่อครีมหน้าใส สวยข้ามคืน
          
 น่าแปลกใจมากจริงๆค่ะ ที่สาวๆสมัยนี้หลงเชื่อครีมหน้าใสที่ทาแล้วสวยใน 7วัน ที่แย่กว่านั้นคือหลงเชื่อซื้อครีมที่ถูกผลิตขึ้นมาจากใครก็ไม่รู้ หรือจากกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียวจำหน่ายใส่กระปุกพร้อมสติกเกอร์และชื่อแบรนด์ที่แปลกตา นอกจากนั้นยังหลงเชื่อโฆษณาจากการที่มีดาราที่ตนชื่นชอบถ่ายรูปคู่กับครีมนั้นๆและอัพลงโซเชี่ยล
จากนั้นก็คิดต่อเองว่าดาราคนนั้นใช้ครีมนี้จริงและหลงซื้อตามมาลองใช้เพราะคิดว่าจะดีตามคำโฆษณา

           บางคนโชคดีค่ะใช้และไม่แพ้แถมยังเห็นผลนิดหน่อย
 บางคนโชคร้ายใช้ปุ๊ปแพ้ปั้บ จะไปโวยวายใครก็ไม่ได้ หมดค่ารักษากันไปตามระเบียบ บางคนอาการหนักก็หลงเชื่อครีมยี่ห้ออื่นมาใช้ต่อเพราะคิดว่าจะเอามารักษาสิวที่เกิดจากอาการแพ้ครีมตัวก่อน หมุนวนเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีหน้าก็แย่จนเกินจะกู่กลับซะแล้ว ต้องหมดตังค์หาหมอกันยกใหญ่เพื่อจะให้ผิวหน้านั้นกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม


         
ถ้าลองคิดตามหลักความเป็นจริงดาราถ่ายรูปคู่ครีมเป็น 10-20 ยี่ห้อ นั้นหมายความว่าเขาต้องใช้ครีมทุกยี่ห้อนั้นหรอ ? และทำไมถึง คิดว่าดาราที่ต้องใช้หน้าตาทำมาหากิน เขาจะมาใช้ครีมกระปุกละไม่กี่ร้อยนั้น ทั้งๆที่พวกเขาเข้าคลินิกรักษาผิวหน้ากันหมดไปเป็นหมื่นๆ ลองคิดดูนะคะขนาดครีมแบรนด์ดังๆ ที่ผลิตได้มาตรฐานและส่งขายมาเป็นสิบๆปีจนเป็นที่รู้จักทั่วโลก ยังมีทั้งคนที่ใช้ดีและคนที่แพ้ส่วนผสมบางอย่างในครีมนั้นเลย แล้วทำไมถึงเราถึงกล้าเอาหน้าเดียวของเราไปเสี่ยงกับครีมที่พึ่งผลิตขายได้ไม่นานเหล่านั้น
 
 ไม่มีอะไรใช้แล้วสวยข้ามคืน ไม่มีอะไรทำให้คนสิวหายภายในไม่กี่วันค่ะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ค่อยๆเป็นค่อยๆไป นะคะ 
  1. หลีกเลี่ยงการโบกเครื่องสำอางหนาเตอะ เกินจำเป็น
         
 การแต่งหน้าเป็นสิ่งที่สาวๆ ชื่นชอบเพราะสามารถเนรมิตความสวยงามให้ใบหน้าได้อย่างมหัศจรรย์ค่ะ แต่ต้องใช้ให้พอดีนะคะ ไม่โบกหรือใช้มากเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้อุดตันได้ ยิ่งในกลุ่มของคนที่เป็นสิวรูขุมขนจะเปิดกว้างและทำให้เครื่องสำอางค์เข้าไปอุดตันได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ได้เป็นสิวนะคะ ประกอบกับสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนกันจนแทบหลอมละลายขนาดนี้ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการอุดตันในรูขุมขนได้ม๊ากมากเลยค่ะ
           
            ดังนั้นถ้าเป็นสิวอยู่จริงๆไม่ควรแต่งหน้าค่ะ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องแต่งจริงๆ ก็แต่งแต่น้อย ใช้เครื่องสำอางค์ปกปิดเฉพาะจุดก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนเป็นสิวค่า
  1. รักษาผิวหน้าให้สะอาด และทายาให้ถูกวิธี
           
สำหรับสาวๆที่เป็นสิว แล้วทำงานหรือเรียนในห้องแอร์ก็ไม่น่าเป็นกังวลมากนักค่ะ เว้นแต่ในชีวิตจริงเราอาจต้องเจอกับแดดอันแรงกล้า ควันรถ ควันหมูปิ้ง เหงื่อไหลทั้งวัน
 หลังจากกลับถึงบ้านแล้วสิ่งแรกที่ควรทำก็คือล้างเครื่องสำอางค์และครีมกันแดดที่ทาไว้ตั้งแต่เช้าออกให้สะอาดหมดจดค่ะ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางค์ที่เหมาะกับผิวหน้าค่ะ และทายาสิวตามขั้นตอนที่แพทย์สั่งในคำจำกัดความของคำว่า “พอดี” บางคนคิดเองว่าฉันอยากสิวหายเร็วฉันจะโบกยาหนาๆและสิวฉันจะหายเร็ว ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
 เพราะยาจะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดเมื่ออยู่ในปริมาณที่เหมาะสม การใช้มากอาจก็ให้เกิดอาการแพ้ แสบแดง หรือคัน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อผิวหน้าแน่นอน และอาจทำให้ทุกอย่างแย่ลง จากสิวที่จะหายก็กลายเป็นแย่ลงๆ  กว่าเดิม 

 
    5. เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว
       
 การเลือกครีมเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆเลยค่ะ เพราะการใช้ครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวในช่วงนั้นๆก็จะส่งผลดีต่อผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะที่เผชิญมาทั้งวัน คนที่เป็นสิวจึงควรเลือกครีมที่อ่อนโยนปลอบประโลมผิวที่บอบบางด้วยผลิตภัณฑ์ที่เน้นความชุ่มชื้น เป็นหลักค่ะ ถ้าเป็นไปได้อาจยังไม่แนะนำให้รีบใช้ครีมไวท์เทนนิ่งหรือเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ เพราะอาจจะมีส่วนผสมบางอย่างค่อนข้างแรงซึ่งยังไม่เหมาะกับสภาพผิวที่เป็นสิว
 
 
     
 
ขอจบ 5 ขั้นตอนเปลี่ยนแนวคิดจากคนหน้าสิวเป็นคนหน้าใส เพียงเท่านี้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังกังวลกับการเป็นสิวอยู่ไม่มากก็น้อยค่ะ

ก่อนจบกระทู้วันนี้ยังไงก็ขอฝากกระทู้เก่าที่เคยเขียนไว้ 2 กระทู้ด้วยนะคะ

กระทู้ : รักษาอย่างมีสติของคนหน้าใสแล้วดันเป็นสิว****สิวไม่ได้มีตั้งแต่เกิด ยังไงก็หายได้
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=172541
กระทู้ : เปลี่ยนแนวคิด เพื่อหน้าใส*****สิวไม่ได้มีตั้งแต่เกิด ยังไงก็หายได้
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=174541
 ขอบคุณค่ะ 

Discussion (3)

พยายามหาครีมหรือโฟมที่มีคุณภาพอ่ะ ละดูว่าสิวเกิดจากไร นอนดึกหรือเปล่า เราล้างหน้าสะอาดมั้ย พวกมลภาวะเราหลีกเลี่ยงมากพอรึยัง อย่างเราอ่ะ สิวเกิดจากล้างหน้าไม่ะสะอาด ล้างพวกสกินแคร์ มลภาวะไม่หมด ก็ปรับเปลี่ยนวิธี ล้างให้นานขึ้น สลับกับใช้แปรงคลาริโซนิคช่วยล้างหน้า เดี๋ยวนี้ล้างนานนาทีสองนาทีเลย
สำหรับคนแต่งหน้าบ่อย makeup remover และ cleasing เป็นสิ่งสำคัญมาก 
เจ๊ยิป ชอบเป็น ผดตลอดเวลาใช้แบบมีน้ำมันผสม 
ตอนนี้ใช้ Bioderma ค่อยยุบลงนิด กับใช้ เซตาฟิล ล้างหน้า 
ผ่านมา 1 เดือน แต่งหน้าสนุกขึ้น หุหุ