(°ο°)~ เอาอยู่ด้วย………งบ 10,000 บาท กับการตะลุยฮ่องกง 3วัน 2 คืน

19 18
 
♡ สวัสดีค่าสาวๆที่น่ารักทุกคนและหนุ่มๆทุกคน  

✿.วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก อยากจะมาเล่าประสบการณ์การไปฮ่องกงให้ฟังคะ
เพื่อเพื่อนๆบางท่านอาจจะได้ปิ้งไอเดียต่อยอดในการไปเที่ยวนะคะ 
กระทู้แอบไร้สาระสุดๆ เพราะมีแต่รูป ครอบครัวเจ้าของกระทู้เยอะมาก 

อยากเป็นอีก 1 เสียงว่าเราสามารถไปเที่ยวฮ่องกง ด้วยงบประมาณที่ประหยัดได้ค่า 
แต่น่าจะมีคนอื่นไปได้ประหยัดกว่าเรานะคะ 
อะไรประหยัดได้เราประหยัดเพื่อที่จะได้มีเงิน ไปเที่ยวสนุกส่วนอื่น แต่ก็ไม่ได้งก จนตัวลีบแบนนะคะ
(^人^)

หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัย มา ณ.ที่นี้คะ
รูปชัดบ้างเบลอบ้างใช้หลายกล้องมากคะIpod Iphone กล้องดิจิตอล

 
วันที่ 1
       จองตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-ฮ่องกง   ของแอร์เอเชีย ตกคนละ 4200บาท เวลาสวยงาม เครื่องออกแต่เช้า ขากลับ กลับดึกเที่ยวได้เต็มที่ ไปช่วงกลางเดือน พฤษภาคม  อากาศไม่ร้อนไม่หนาวถ้าฝนตกก็แอบเย็น
       ลงจากเครื่องก็ เดินตามคนหมู่มากไปเลย แล้วก็ต้องไปต่อนั่งรถบัสเล็กๆไปที่ตัวอาคารผ่าน ตม.เรียบร้อย ออกมาปุป ตรงดิ่งไปเค้าเตอร์ให้ เช่า ซื้อบัตรปลาหมึก (มีค่ามัดจำ+ใส่เงินตามที่ต้องการ )




 

ด้านหลังเป็นเค้าเตอร์ต่อคิวเช่าบัตรปลาหมึก
อ้างอิง เพิ่มเติม https://www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=23.0
 

แล้วก็เดินไปตามทางจะมีป้ายบอก  ขึ้นรถบัสเข้าเมืองหรือขึ้นรถไฟฟ้า  เหตุผลที่ขึ้นรถบัส เพราะ ประหยัด และชมทัศนียภาพบ้านเมืองด้วย   ก่อนไปต้องศึกษาก่อนว่า โรงแรมที่พักนั้นอยู่เขตไหนนั่งรถบัสสายอะไร   ของเรานั่งสายA21 ลงถนนนาธาน ย่าน มงก๊ก เดินไม่ไกลมากก็ถึงโรงแรม     ชื่อ รอยัลพลาซ่าโฮเทล  

​อ้างอิงเพิ่มเติม  การใช้รถบัสเข้าเมืองคะ
https://www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=96.0
 

 
 




Royal plaza hotel  ตั้งอยู่ที่  ถนน prince Edward west ,kawloon,mong kok   เป็นโรงแรมที่เพรียบพร้อมครบครันมากคะ มีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ บริการซาวน่า ให้ลูกค้า ห้องที่พัก นอนได้4 คน  เตียง 2เตียงขนาด6ฟุต  มาถึงโรงแรมก็เกือบเที่ยง แต่โรงแรมให้เช็คอิน เอาของเข้าห้อง บ่าย2 โมง เราเลยแค่เช็คอินไว้และฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรม พอถึงเวลา ให้เค้าขนขึ้นห้องให้
 

 

 


มีรถไฟฟ้าใต้ดินสายmong kok east ติดโรงแรมเลยคะแต่เราเดินคะ  เดินจากโรงแรมไปไม่ไกลมาถนนชื่อ       Fa yuen street      ตอนบ่ายเย็นจะตั้งแผงลอยขายของ หลายหมวดหมู่มากและมีร้านรองเท้าราคาไม่แพงแต่สวยงาม ติดๆกัน    เดินหาร้านข้าวคะ  ชื่อร้านอะไรไม่รู้ (อ่านไม่ออก555) เป็นร้านห้องแถว ติดแอร์คนเยอะ  เมนูอาหารก็ไม่แพงมาก ราคา 100 – 200 บาทต่อ จาน ถูกกว่าบ้านเราคะ แต่ปริมาณ ไม่ต้องพูด จานเดียวอิ่ม และอร่อยมาก
 
 


 
อาหารมื้อแรกคะ


ข้าวหน้าห่านคะ (จำได้อยู่เดียว 55)
 




 
เมื่อท้องอิ่ม เราก็ขึนรถไฟฟ้าไป ลงสถานี diamond hill  เพื่อไปชมสวน  Nan Lian  garden และต่อด้วยวัดนางชี (อยู่ตรงข้ามกันเลยคะ )

 



 
หน้าวัดนางชี     ข้างในถ่ายไม่ได้คะ



เดินเสร็จเย็นมาก นั่งรถไฟฟ้ากลับ เหนื่อยมากๆ  ตอนนั้นเวลาประมาณ4 โมงกว่า กะจะพักผ่อนที่โรงแรมสะหน่อยไปว่ายน้ำซาวน่ากัน


 





เย็น เราไปที่ถนนนาธาน เดินแทบจะทุกซอยย่อยๆ ชมไปเรื่อย ดูสภาพบ้านเมือง  เดินจน สองทุ่ม ท้องร้อง รีบหารานข้าวด่วน  เจอร้านในตึกแถว เราก็เข้าไปนั่งร้านนี้ลำบากตรงที่ เมนูเป็นภาษาจีน   งง  สิคะ จิ้มรูปเอาเลยแล้วเด็กเสริฟก็ถามเป็นภาษาจีน  แอร๊กฟังไม่ออก  จน สุดท้ายรู้ว่า  เค้าคงจะถามว่า เอา เนื้ออะไร  หมู  ไก่ เนื้อวัว  แล้วก็เดินกลับ ไกลมากๆๆตอนเดินขามาเล่นๆเดินได้ ขากลับชั่งยาวไกลเสียจริง  ถึงขาจะเพลียแต่ใจยังสู้แวะช็อปข้างทาง   เดินผ่านตลาดเลดี้มาร์เก็ตคะ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินจตุจักร  พอเริ่มดึกก็เริ่มเงียบ เงียบแบบกริบ  (ต้องขออภัยไม่มีรูป)
 





วันที่2
ฝนตก เสียใจ ตั้งใจจะไปโอเชี่ยนปาร์ค พยายามรอให้ฝนเพลาๆฝนก็ยังพล่ำๆไปเรื่อย เลยนั่งรถไฟฟ้าลงสถานนีcentral  รถไฟฟ้าที่นี่ ไม่มีแอร์ข้างในหมุนลมธรรมชาติเข้ามาเวลารถไฟฟ้าวิ่งจะมีลมเย็นผ่านเข้ามา
 สร้างตึกร้านขายของ คล้ายกันเชียว
เดินหาร้านข้าว เช้ามากไปหน่อยร้านยังเปิดน้อย (ขอรวบรูปภายในรถไฟ + อาหารเช้าเลยแล้วกัน)
 
ขึ้นมาย่าน Central เหมือนยุโรปไหม (ตามองอ่าเหมือนน๊าค่า)
 


ขึ้นรถรางไปทางซ้าย จนสุดทางชมเมืองตื่นตาตื่นใจจริงๆพอสุดทาง  จึงลงและเดินย้อนกลับมา
ขึ้นรถรางนั่งไปทางขวา(ลืมบอก การมีบัตรปลาหมึกจะใช้จ่าย แทนเงินสดสะดวกมาก เพราะระบบจะหักเงินอัตโนมัติ)  เดินไปเจอย่านการค้า timesqure เข้าแวะ  ก็เหมือนห้างบ้านเราเดิน แปปเดียวออก ต่อด้วยเดินไป Causeway bay  เป็นแหล่งช็อปปิ้ง คนพลุกพล่าน   จัดร้านค้าสวยงาม  เสร็จแล้วก็เดินต่อไปอีกหน่อย

แวะเข้าภัตตาคาร Din Tai Fung  ราคาอาหารก็ ขยับขึ้นมานิดนึงคะ  ที่ต้องสั่งมาคือ เสี่ยวหลงเปา  ขอเรียกว่าซาลาเปาน้ำแตก  ต้องกินทั้งคำ กัดไม่ดีน้ำซุปหกเสียดาย อร่อยมากนะคะ  ที่สั่งอย่างอื่นก็มีซุปเนื้อ ขนมจีบไส้ข้าว(ไม่อร่อยเลย) เกี๊ยวกุ้ง

ไส้ข้าวที่บอก =_+



เสร็จแล้วเดินหาป้ายรถเมล์จะไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่RepluseBay  แต่ยืนรอรถเมล์นานมากเลยตัดใจ ขึ้นรถรางกลับCentral  จึงเดินเล่นย่าน Centralต่อนิดหน่อย

ย่านRepluseBay  เหมือนเยวราชคะ

 
ย่านCentral มีรถรางคะสีน้ำตาลๆ
 


 
เดินไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ ข้ามกลับไปฝั่งเกาลูน  ลงท่าเรือที่มาย่าน Tsim Sha Tsui  ขึ้นจากเรือจะเจอห้าง  Harbour  city แต่ไม่ได้เข้าไปหรอกนะคะ
 
 

 

ภายในเรือ

 

 

 

 


 
 
ย่าน Tsim Sha Tsui กว้างขวางมาก  ตามความเข้าใจของเรา จะแบ่งโซน ร้านไฮโซแบนเนมสุดหรูและ ร้านธรรมดาเราเน้นเดิรร้านธรรมดาดีกว่า อิอิ เครื่องสำอางบางชิ้นก็ถูกกว่าเมืองไทย ต้องดูราคาดีๆ บางชิ้นราคาพอที่ไทย ต่างกัน 50 บาท   เหอๆ  เดินวนๆเดินเล่นสนุกมากเลยคะ
  


คนที่นี่ ข้ามถนนต้องมีไฟจราจรด้วยไม่ข้ามมั่ว  

 
 
ย่านที่ขายของถูกหน่อย คนจะพลุกพล่านน่าเดินสุดๆ
 
ผ่าน  1881 Heritage  Premier  Shopping  Mall สวยมาก ตอนแรกคิดว่าโรงแรมถ่ายรูปเสร็จเดินผ่าน  เหนื่อยแต่ชอบเราเดินจนเกือบ 1ทุ่มครึ่งแล้ว ไปรอดู  ซิมโฟนีออฟไลต์แสงสีเสียง 






เป็นการแสดงโชว์ของตึกด้วยเปิดไฟ พร้อมบรรเลงเพลง เพื่อความเป็นมงคล สวยงามมากคะ (แต่การถ่ายรูปยังต้องปรับค่าอีกมาก ถ่ายออกมาจึงไม่ค่อยสวยนัก) โชว์เสร็จก็กลับที่พัก ระหว่างทางจะขึ้นรถไฟฟ้าเจอ รถขายไอศครีม ช่างอร่อยจริงๆ

 

ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลภาพสวยเชียว
 







วันที่ 3
ตื่น สายหน่อยลงไปเล่นน้ำว่ายน้ำของโรงแรม จน เช็คอินออกจากที่พักแต่ยังฝากของไว้กับโรงแรมได้ ดีจริงๆ เดินรอบๆ ที่พักซึ่ง เป็นการเก็บตกการซื้อของฝาก  เดินไปมา เดินไปดูป้ายรถเมล์ที่ไปสนามบินด้วย สัก 4โมง จึงเตรียมตัวกลับ เครื่องออก 3ทุ่ม เราถึงสนามบินตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆแล้ว ก็เดินเล่นในสนามบินนั่งรอ
ถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัยเวลา ประมาณเที่ยงคืน
 




ร้านนี้มีขนม เครื่องสำอาง  ขนมของไทยก็มีคะ เช่น ป็อกกี้ แถมติดข้างกล่องชิงโชคลุ้นบลาๆ 


บ้านเมืองสะอาดดีแท้



สนามบินขาออก







ขออธิบายข้าวหน้าห่านหน่อยนึงนะค่า
อยู่เมืองไทย ไม่เคยได้ลิ้มลองข้าวหน้าห่าน พอไปฮ่องกงเป็นเมนูที่ต้องลอง (ร้านไหนก็ได้ ที่ดูจีนหน่อยสั่งโลดคะ)

สั่งมาหน้าตาละม้ายคล้าย ข้าวหน้าเป็ดมากๆ แต่พอลิ้นได้สัมผัสปุป โอ๊ยน้ำตาแทบไหล คืออร่อยมากค่า
เราสั่งมาพร้อมข้าวหน้าเป็ด(ไม่ได้ถ่ายรูปมา) ชิมเทียบกันไป เป็ดเนื้อจะนุ่มๆกว่า แต่ห่านจะเนื้อแน่น หวานกว่า และเหนียวกว่า ไม่คาวไม่สาบนะคะ  หนังจะกรอบๆหยุ่นๆ(ไม่ใช่กรอบแบบ ข้าวเกรียบนะคะ ไม่รู้จะใช้คำอย่างไร) ตอนไปจะมีคนใดคนนึงสั่งข้าวหน้าเป็ดและห่านมาด้วยเสมอ รสชาติจะไม่ต่างกันมาก อร่อยคะ แล้วให้เยอะมากกกกกกก ไม่ใช่วิญญาณแล้วก้ตบจนแบนลีบ น้ำที่ราดก็จะออกหวานๆหน่อยๆ แต่น้ำไม่ข้นมากเหมือนน้ำตาล   ต้องลองนะจ๊ะ



 
สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่าตั๋วไปกลับ 4200 บาท/ คน
2.ค่าที่พัก 2 คืน 3000 บาท/ คน (2 คืน 12,000บาท นอน 4คน)
3.ค่าอาหาร มื้อล่ะ 150 บาท ( 8 มื้อ = 1,200 บาท)
4.ค่าเดินทาง จากสนามบิน เข้าที่พัก ไปกลับ 300 บาท
5.ค่าเดินทางขณะท่องเที่ยวโดยใช้รถไฟฟ้า ไม่เกิน 200 บาท
6.ค่ารถราง+ค่าเรือข้ามฝาก  100 บาท
7.ค่าซื้อขนมทานเล่นระหว่างทาง 500บาท
รวม 9500 บาท
                                                                               ☆☆☆☆
ขอบพระคุณที่ติดตามรับชมนะคะ
 
หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัย มา ณ.ที่นี้คะ

เป็นกระทู้แรกในการเขียนนำเสนอเชิงท่องเที่ยวของคุณแม่กับเรา

✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿
 



 
 


fariccbertun

fariccbertun

you can call me beer

รับสอนพิเศษ วิทย์ อังกฤษ
ภาษาซี mobile app

FULL PROFILE