Slow Life .. โฮจิมินห์ ซิตี้ ชีวิตเรื่อยๆ ที่เวียดนาม

16 7
เฮโหลววววเป็นยังไงกันบ้างจ๊ะสาวๆ ช่วงนี้ฝนตกโต๊กกกกตกทำอะไรไม่ค่อยสะดวก ไปไหนมาไหนไม่ค่อยจะคล่องตัวเท่าไรเนอะยังไงพกร่มไว้เป็นดีที่สุด แต่ถึงแม้ฝนตกฟ้าจะร้องยังไงอย่าไปสนใจค่ะ ท่องไว้ฝนตกแดดออกยังไงก็เที่ยวได้สบายๆ เพราะฉะนั้นไปเที่ยวกันค่ะ :)

วันนี้จะชวนทุกคนไปบ้านใกล้เรือนเคียงนี่แหละแต่ก็ไม่ได้อยู่ติดไทยแลนด์แดนน้ำนองพระอาทิตย์สองดวงสักเท่าใดนัก นั่นก็คือ "โฮจิมินห์ ซิตี้" หรือเมืองหลวงเก่าของ เวียดนาม นั่นเอง บอกเลยว่าทั้งฝนทั้งแดดเหมือนบ้านเรามาก ..
 

 
เริ่มต้นด้วยความอยาก คือที่จริงแล้วเป็นคนคันมากกกก ทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์อยากออกอยากเที่ยวตลอด ก็เลยคิดเล่นๆ มาตลอดว่าถ้ามีตั๋วเครื่องบินโปรถูกๆ ก็จะไปไม่ว่าที่ไหนก็ไป 555 คือไปคืนเดียวแค่ไปเที่ยวกลางคืนก็ไปมาแล้ว เอาน่า สนุกๆ แค่คิดว่าได้ไปเมืองนอกก็คุ้มล่ะฮ่าาๆ เวลาไปก็บอกเพื่อนไปซิว่าไปเมืองนอกอย่าบอกชื่อ ก็ดูไฮโซล่ะ สรุปว่าได้ตั๋วโปรมา 4 วัน 3 คืน บวกโรงแรมและอาหารเช้า ตกอยู่ที่ 2,750 บาท ถูกน้ำตาจะไหล จองตั๋ว 2 วันล่วงหน้าแล้วเริ่มออกเดินทางกันได้เลยจ้า คือชอบบินแบบไม่ได้เตรียมตัว สนุกดี ทุกอย่างดูลุ้นไปซะหมด
 

 
ทริปนี้มีผู้ร่วมทางทั้งสิ้น 3 คนรวมตัวฉัน แน่นอนว่าคละเพศ เพศชาย 3 คนแต่ทุกคนมีความเป็นผู้หญิงซ่อนอยู่ -3- ฉะนั้นทริปนี้จริงถือเป็นทริปชายหญิงนะ 555 จัดการแลกเงินมาแค่  11,000 บาท/ 3 คน = คนละ 3,667 บาท ไม่มีแลกเพิ่ม !! เพื่อกันงบเกิน ไม่ถือบัตรเครดิตด้วยนะ เพราะไม่มี เกร๋ๆ (จบทริปแลกเงินคืนเหลือคนละ 103 บาท)
ออกเดินทางจากสนามบินในตำนานที่มีระยะเวลาทำการมากว่า 100 ปี DMK ดอนเมืองด้วยสายการบินสีแดง ไม่ต้องคิดไกลค่ะไม่ใช่ Emirates แน่นอน ตอน 7 โมงเช้า มาเกือบไม่ทัน ฉันและดอนเมืองไม่รู้เป็นอะไรต่อกัน ต้องวิ่งตลอด !! ไปถึงเจอกองทัพผู้คนต่อแถวยาวหน้า ตม. เช่นเคย ผ่านมาได้ วิ่งต่อยาวๆ ค่ะ (เวลาต่อแถว ให้สังเกตคนข้างหน้าด้วยนะ เอาแถวที่เราคิดว่าอิคนนั้นจะไม่มีปัญหากับ ตม. ไม่งั้นจะนาน แล้วจะเซ็งบวกลุ้นเกินไป) ขึ้นเครื่องแบบสวยๆ โชคดีครั้งนี้มีทอมรุ่นป้านั่งบ่นอยู่ข้างหน้า บ่นถึงบริการและขนาดของเครื่องบินว่าเล็กอย่างนั้นอย่างนี้ การบินเทย ใหญ่กว่านี้มีโน่นนี่ให้ สั้นๆ "คุณป้าดอกกกกกไม้"
 

ร่ายมายาวถึงเวลาเริ่มเดินทางด้วยการซื้อซิมการ์ดค่ายเวียดนาม Mobifone ราคาประมาณ 250 บาทมิแน่ใจมีขายในสนามบินค่ะ ในซิมมีเงินติดมานิดหน่อยเติมเงินเพิ่มเข้าไปแล้วสมัครโปรได้เลยจ้า ต้องสมัครโปรนะไม่งั้นเงินหมดเร็วมาก ดูวิธีการได้จากเว็บ Mobifone เลย
 

อินเตอร์เน็ตพร้อมฉันพร้อม !! ออกจากสนามบินนานาชาติโฮจิมินห์ด้วยรถเมล์สาย 152 คือเขาบอกว่ามาเวียดนามแล้วจะโดนโกงแต่เราต้องขอขอบคุณทุกๆ รีวิวท่องเที่ยวที่ทำให้การมาเที่ยวเวียดนามครั้งนี้ไม่โดนโกง ฉันเตรียมตัวมาดีจริงๆ ฮ่าา ๆ (คืนก่อนมานั่งอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวเวียดนามตั้งแต่เที่ยงคืน - ตี 3 )


 
    152    
 

นั่งรถแค่ประมาณ 30 นาทีก็ถึงแล้วค่ะตลาดเบนถัน (ชื่อเฉพาะเรียกผิดอย่าได้กล่าวโทษ) จากนั้นตามแผนที่วางไว้คือเดินต่อค่ะระยะทาง 1.8 กิโลเมตรด้วยสภาพอากาศที่มิต่างจากไทยแต่อย่างใดเดินสวยๆ ไปเสื้อเริ่มเปียกจังหวะนี้เสื้อแขนยาว หมวก สำคัญอย่าขาดค่ะ หรือจะกางร่มให้แลดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาจะดีมาก
 

อึดใจเดียวเท่านั้น ถึงแล้วค่ะโรงแรมที่พัก Saigon Zoom Hotel ถูกดี ใกล้แหล่งเที่ยวกลางคืนตามจุดประสงค์คือ ถ.ฟามงูเหลา นั่นเองมาถึงโรงแรมยังเข้าโรงแรมไม่ได้เช้าไปคือเพิ่งจะ 10 โมงเลยไปกินเฝอร้านข้างๆ โรงแรมและนั่นก็ทำให้พบว่าเฝอที่เราเคยกินกันในไทยนั้นสู้ไม่ได้ #นี่พูดเลย
 
 

กินเสร็จไม่ได้ไปไหนต่อเพราะกว่าจะเดินมาถึงทีนี่เหนื่อยเต็มทีนอนก็ยังไม่ได้นอน เลยนั่งรอที่ล็อบบี้โรงแรมค่ะ อารมณ์เหมือนกดดัน(แต่ฉันเปล่านะ) แค่เพียงไม่นานห้องก็พร้อมให้เราได้เข้าพักกันแล้วจ้า พนักงานก็ดีมากทักทายยิ้ม ชวนคุย เต็ม 10 ให้ 10.5 ดีงามทุกอย่าง โรงแรมถูกสุดตั้งแต่เคยพักมาแล้วเป็นแบบเนี้ย !! (ขโมยรูปมาจากเว็บของโรงแรม อันตัวเรามิได้ถ่ายไว้)
 

 
เนื่องจากมีเวลาตั้ง 4 วันเลยไม่รีบไปไหนนอนยาวๆ ไปจนถึงตอนเย็นก็เลยออกไปเดินเล่นรอบๆ รัศมี 2 กิโลเมตร เดินดูผู้คนไปเรื่อยๆ ไม่รีบค่ะทริปนี้เน้น Slow Life เหนื่อยก็หยุด มีแรงก็เดินต่อ เรื่อย เรื่อย เรื๊อยยยย จริง จริ๊งงงง มองดูบ้านเรือน ตึก ต้นไม้ แค่นั้น ... ระหว่างทางเจอนักท่องเที่ยวฝรั่ง จีน ญี่ปุ่นเยอะมาก คิดในใจเวียดนามก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยจริงๆ ถือเป็นอีกหนึ่งปลายทางของชาว Backpacker เลยทีเดียว 
 

เดินเล่นไปมาได้เวลาอาหารเย็นและแน่นอนค่ะว่ายังคงเป็นเฝอ กินให้หนำใจกันไปเลย ครั้งนี้เลือกเฝอร้านดังค่ะ สาขามีทั่วไป ร้าน Pho24 ความอร่อย แพ้ร้านแรกเกือบขาดลอย แต่ที่ร้านนี้ชนะคือราคาค่ะ ต่างกัน 30,000 ดอง วิธีการคิดเงินดองให้ตัด 0 สามตัวท้ายออกแล้ว คูณด้วย 1.5 = 45 บาท จำไม่ผิดเฝอร้านนี้ประมาณ 120 บาทแพงอยู่นะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะแพงบวกกับไม่ค่อยอร่อยไม่ถ่ายค่ะ

จบมื้อเย็นวนไปวนมาจิบกาแฟไปหนึ่งแก้ว ใครมาเวียดนามพลาดไม่ได้เลยจริงๆ กับกาแฟเวียดนามมันอร่อยมาก ชอบสุดๆ หลังๆ ทริปนี้เลยกลายเป็นทริปกินกาแฟไปซะงั้น ..
 

ถึงเวลากลางคืนก็ออกตามหาร้านชิชายอดฮิตตามสเต็ปวัยรุ่นแบดบอยของฉัน และแล้วก็ไปเจอกับร้านนี้เลยค่ะแนะนำ In the Pub II เพลงดี หน้าดี ค็อกเทลอร่อย เต็ม 10 ให้ 15 เพราะคิดว่าที่นี่จะไม่มีแบบนี้ ร้านมี 2 สาขา สาขา 1 ของเขาออกแนวผับแบบเต้นๆ นะคะอยู่ใกล้ๆ กันใครไปเวียดนามสนใจไปได้ ฟามงูเหลา สุดถนน เด็กเสิร์ฟหน้าดีมากกกกกกกกกกกกคอนเฟิร์ม
 

คืนแรกจัดไปเบาๆ 1 ล้านกว่าดองในบิลโดนชาร์ต 10 % เอาเรื่องอยู่ค่ะ แล้วยังต้องทิปนอกอีกนอนหลับสบายเลยค่ะคืนนี้ยิ้มพริ้มละไม เข้าผับแล้วจ่ายเงินล้านกว่า ฝันดีค่ะ ..

ตื่นเช้ามาขอแว่บบบไป มุยเน่ เมืองทะเลทรายซะหน่อยค่ารถ $ 7 = 220 บาท ไปกลับก็เท่ากับ 440 บาท ได้รถแบบรถนอน เปื่อยมากกกกกค่าากว่าจะถึง 6 ชั่วโมงรถเป็นแบบรถนอนนะนอนคือนอนจริงๆ นั่งไม่ได้ เมื่อยกันไปเป็นแถบๆ กว่าจะถึงมุยเน่พลิกซ้ายพลิกขวาหลายตลบ 
 

 
ถึงมุยเน่บ่าย 3 โทษของการไม่เตรียมตัวมาแล้วค่ะ คือการไปยังทะเลทรายมันต้องใช้เวลาโดยจะมีทัวร์เป็นรอบๆ ถ้าเราวางแผนไม่ดีก็มีปัญหาแน่นอนค่ะเจอรถเลทเข้าไปอีกโอ้ยยน้ำตาจะไหล มีปัญหาเยอะค่ะที่มุยเน่เล่าคงอีกนานกว่าจะหมดเอาเป็นว่า มุยเน่สวย สงบ เงียบ น่าเที่ยว เป็นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ ค่ะใครจะไปเตรียมตัวนิสสสนุง จองทัวร์จองรถให้พร้อมอย่าเหมือนฉันเลย 5555
 

 

คืนที่ 2 นอนที่มุยเน่ค่ะ ซื้อตั๋วรถกลับโฮจิมินห์ไว้ตอนตี 1 เลยเปิดโรงแรมนอน 4 ชั่วโมง 200 บาทห้องโอเคมากอีกแล้ว คืนนี้เลยไปจบลงที่เบียร์ไซง่อนจ้าาา กับร้านอาหารบรรยากาศดีอร่อย มามุ่ยเน่ต้องกินอาหารทะเลนะสดจริงๆ
 

นอนดูทีวีไปเรื่อยๆ สรุปไม่ได้หลับแต่อย่างใดได้เวลาไปขึ้นรถแล้วจ้า ก่อนขึ้นรถเขาแจกผ้าห่มให้คนละผืนขึ้นรถปุ๊ปหลับปั๊ปตื่นอีกทีตอนรถจอดแล้วหลับสนิทมากค่ะ และก็เดินกลับโรงแรมไปนอนต่อตื่นมาอีกทีก็ 10 โมงกว่าได้เวลาไปเดินเที่ยวชมเมืองกันแล้ว เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วย กาแฟงูเย็น เจ้าดังราคาเกือบ 100,000 ดอง และมันไม่อร่อยอย่างที่คิดสำหรับเจ้านี้ แต่เขาดังนะ !! 

นั่งละเมียดละไมใช้เวลาตากแอร์จนคุ้มกับค่ากาแฟ 100,000 ดองแล้ว ถึงเวลาออกเดินทางต่อเดินตามถนนมาเรื่อยๆ ไม่นานจะเจอวัดนี้ค่ะคล้ายๆ วัดแขกมีนักท่องเที่ยวเข้าไปไหว้ไม่เยอะอาจเพราะยังเช้าอยู่ และแน่นอนฉันก็ไม่ได้เข้าไป มองจากที่ยืนอยู่เหมือนคนจะขายดอกไม้เยอะอารมณ์น่าจะชอบตื้อหน่อยก็เลยไม่เข้าไปดีกว่า !! แค่มองฉันก็รู้สึกว่าฉันศรัทธาแล้ว พอแล้วค่ะ
 

 
เดินต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้ร่มไม้ริมถนน ชอบที่โฮจิมินห์มีต้นไม้เยอะสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ทั่วเมืองมีสวนสาธารณะ จากที่ดูคนเวียดนามก็ชอบนั่งในสวน เดินเล่น เล่นกีฬาในสวนนะ อูยยยชอบฟิวนี้มากกก
 

 
วันนี้เป็นโปรแกรมเที่ยวชมแลนด์มาร์คต่างๆ ของเมืองไซง่อนหรือโฮจิมินห์ ซิตี้ เมืองหลวงเก่าของเวียดนามกันค่ะ (มา 2 วันแล้วเพิ่งเริ่ม = =')
 

 
ที่แรกที่เข้ามาชมวันนี้คือ Independent Palace คิดว่าเหมือนธรรมเนียบรัฐบาลเพราะใช้เป็นที่ประชุมหารือของรัฐบาลกับสหรัฐอะไรแนวๆ นั้นตอนสมัยสงคราม ที่นี่ปิดทำการตอนเที่ยงถึงบ่ายโมงนะคะ ใครจะมาเยี่ยมชมต้องกะเวลาดีๆ เขาจะแบ่งเป็นสี่ชั้นด้วยกัน(ถ้าจำไม่ผิด) ให้เราขึ้นทางบัดไดปีกซ้าย จะมีลูกศรบอกทางเดินวนไปวนมาเรื่อยๆ จนดูได้ครบทั้งตึก ที่นี่มีลิฟท์ค่ะแต่ให้บริการเฉพาะคนพิการเท่านั้น
 

 
ภายในตึกจะจัดแสดงไว้เป็นห้องต่างๆ แบ่งกันอย่างชัดเจน เราสามารถชะโงกหัวเข้าไปดูได้ค่ะ เขาจะห้ามเราเข้าไปมีที่กั้นๆ ไว้แต่แอบเห็นนักท่องเที่ยวบางคนก็พยายามเข้าไปถ่ายรูป เราต้องไม่ทำแบบนั้นนะคะเข้าไม่ให้เข้าก็อย่าเข้า
 
ชอบ Moment ท้องฟ้าวันนั้นมาก อาจจะประกอบกับวิวสวน และต้นไม้ด้วยแหละ เลยทำให้ทุกอย่างออกมาดี
 
ออกเดินทางต่อเพื่อไปจองตั๋วดูโชว์หุ่นกระบอกน้ำตอนเย็น และก็เป็นเรื่องน่าเศร้าวันนี้ตั๋วเต็มทุกรอบ บ๊ายยย ก็เดินเล่นหาอะไรกินรอบๆ แถวนั้นเพื่อรอเข้า War Museum พิพิธภัณฑ์สงครามกันต่อ ที่นี่จะหยุดพักเที่ยงเวลา 12.00 - 13.00 น. น่าจะเป็นแบบนี้ทุกที่ที่เป็นส่วนของราชการนะ เที่ยงนี้กินเฝออีกเช่นเคยตามด้วยกาแฟชอบจริงๆ กาแฟเวียดนาม 

เข้าวอร์มิวเซียมใช้เวลาในนี้ค่อนข้างนานเกือบ 3 ชั่วโมง มีอะไรให้ได้อ่านให้ได้เรียนรู้เยอะค่ะ เรื่องราวของสงครามอ่านแล้วสะเทือนใจสุดๆ อ่านไปอ่านมาเริ่มงงตกลงสงครามเวียดนามยังไงกันแน่ ปลีกวิเวกตัวเองออกมาด้านหน้าเปิดวิกิพีเดียภาคภาษาไทยอ่านประวัติสงครามก่อนค่ะ ><" ใครมาเวียดนามอย่าพลาดที่นี่ แอบน้ำตาซึมเบาๆ ฝรั่งที่ยืนข้างๆ หล่อแต่ยืนจับมืออยู่กับฝรั่งชายอีกคน จบปึ้งค่ะ !! ชีวิตต้องเดินต่อ ..


รูปภาพด้านในมันน่าสะเทือนใจเอาภาพสวยงามไปดูกันแทนดีกว่า ตัวใหญ่นะอีกนิดเดียวจะบังรถถังมิดละ ~  
 
ออกเดินทางสู่โบสถ์นอร์ธเธอดาม (Notre Dame Cathedral) ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะใหญ่ถึงขนาดนี้นะพอเดินมาถึงแอบตกใจอยู่เหมือนกันมันใหญ่และสวยมากกกก โบสถ์นอร์ธเธอดามน่าจะมีต้นแบบมาจากโบสถ์ที่ฝรั่งเศสค่ะ มาตอนสมัยช่วงสงครามเพราะที่ฝรั่งเศสก็มีโบสถ์ชื่อนี้เหมือนกัน
 


เราชอบมุมนี้ดูเวียดนามดี .. เพราะมีรถมอเตอร์ไซค์เยอะ เหมือนจะดูวุ่นวายแต่ก็สวยงาม
 
ใกล้กันเป็นที่ทำการไปรษณีย์ของเวียดนาม ก้าวแรกที่เดินเข้าไปโอ้โหนี่มัน หัวลำโพง !!!! ที่นี่คนเยอะมากแอบแน่น มีขายของในอาคารด้วยแต่ก็สวยมากค่ะ
 

ถัดมาอีกนิดเดียวจริงๆ เป็น Opera House อารมณ์ทุกอย่างอยู่ใกล้กันมากเหมือนเป็นกระจุก = =' ดีค่ะดีเดินง่าย ถึงตอนนี้อารมณ์เหนื่อย ร้อน หงุดหงิดเริ่มมา แขนเสื้อเต็มไปด้วยรองพื้น 555  ระหว่างทางลืมตัวเช็ด ไม่เป็นผู้หญิงดีๆ เลยอ่ะ แล้วก็ไม่ได้แวะเข้าไปใกล้ๆ นะคะอันนี้ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร มานึกออกทีหลังอ่าวนั่นมัน  Opera House
 

แน่นอนค่ะอีกอึดใจเดียวก็ถึงจตุรัสกลางเมือง ... ซึ่งก็คือ "จัตุรัสโฮจิมินห์" (Tran Nguyen Hai Statue) ณ จุดนี้จะมีรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์กับเด็ก ด้านหลังเป็นศาลาว่าการเมืองสไตล์ฝรั่งเศสอยู่ค่ะ ตัวฉันนั้นมองจากไกลๆ ก็พอแล้ว


 
และแล้วแบตโทรศัพท์มือถือ ก็สิ้นชีวีลงที่นี่อย่างสงบ ... ทริปนี้ทั้งทริปถ่ายรูปกับ Samsung Grand นะจ๊ะ หลังจากแบตหมดก็ไม่มีรูปละจากนั้นก็รีบๆ เดินไป 2 กิโลกว่าเพื่อให้ถึงโรงแรมเร็วๆ อาบน้ำนอนค่ะ เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาและกลับไปร้าน In the pub II อีกคราาานั่นเอง ถือเป็นการส่งท้ายค่ำคืนของโฮจิมินห์ที่นี่ค่ะ ติดใจเด็กเสิร์ฟ 5555

คืนนี้หมดเงินไปกับสิ่งไม่ดีอีก 1.5 ล้านดองสวยๆ แถมทิปเด็กเสิร์ฟอีกนิดหน่อย เป็นอันว่าสิ้นเงินโดยแท้ ... ฝันดีค่ะ
 
วันสุดท้ายที่โฮจิมินห์ซะแล้วสิ ออกมาทานอาหารเช้าของโรงแรมเข้าไปนอนต่อ อาบน้ำและเช็คเอ้าท์ตอน 11 โมงกว่า ตกลงกันว่าต้องย้อนกลับไปกินเฝอร้านเดิมค่ะ แถวๆ โรงแรมนี่แหละ เพื่อเป็นการส่งท้ายเพราะร้านนี้อร่อยสุด แถมยังถูกสุดอีกด้วย ปริ่ม ..
 

 
อำลาอาลัยกับเฝอเจ้าอร่อย จากนั้นก็เดินเล่นรอบเมืองเพื่อฆ่าเวลาต้องไปสนามบินกับรถเมล์รอบ 5 โมงเย็นแถวๆ ตลาดเบนถัน อันที่จริงรอบสุดท้ายคือ 6 โมงเย็นแต่เผื่อเวลาไว้ดีกว่าเดินไปเรื่อยๆ นั่งในสวนบ้าง ร้านน้ำบ้าง ข้างถนนบ้าง เพลินดีค่ะเหงื่อซึมเล็กน้อยพอถูไถ และก็ทำให้พบกาแฟที่อร่อยสุดราคา 10,000 ดองหรือ 15 บาทฟินจริงๆ ไปขึ้นเครื่องบินกันดีกว่า
 



ลาแล้วนะเวียดนาม .. บินตอน 3 ทุ่ม 55 นาที โน้นนนนน




เราชอบเวียดนาม ชอบถนน ชอบคน ชอบอาหาร ... แล้วเจอกันใหม่ :)

 





 


La Kikiz

La Kikiz

"KiKi" Jeban - Daisy
Lifestyle | Travel | Tech

"Data" is the best way to know you :)

FULL PROFILE