ขอแชร์ประสบการณ์ การรักษาเนื้องอกในเต้าน

8 11
ขอแชร์ประสบการณ์ การรักษาเนื้องอกในเต้านม ของกิ๊ฟเองค่ะ

เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆทุกคนค่ะ (แชร์ได้ตามสบาย เลิกอายแล้ว 555)

เมื่อ5-6ปี ที่แล้ว(ตอนนั้นอายุ16-17) ก็จับเจอก้อนแข็งๆที่เต้านม ก้อนไม่ใหญ่มาก น่าจะใหญ่สัก 1.5ซม. ข้างขวา 1ก้อน อยู่ใต้ๆหัวนมนิดหน่อย(ภาษาง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ) จับเจอได้ชัดเจน ก็ตกใจนะ เลยไปโรงพยาบาล ตอนนั้นพยาบาลก็ถามว่าเป็นอะไรมา ไอ้เราก็เด็กนะเพิ่งเคยไปรพ. เองครั้งแรก (แม่ไม่ว่างค่ะ) อายนะ แล้วก็บอกไปว่า จับเจอก้อนที่เต้านม พยาบาลก็ส่งไปหาหมอโรคเด็ก!! หมอก็ให้ถอดเสื้อนอนบนเตียง มาจับๆแล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก แค่ก้อนไขมัน เดี๋ยวโตก็หายเองแหละ" เราก็สบายใจ...กลับบ้านทันที

ใช้ชีวิตปกติๆต่อมาอีกสัก2ปี ช่วงนั้นใกล้จบมัธยมปลาย เตรียมตัวเรียนต่อมหาวิทยาลัย ก็เริ่มจับๆก้อนนั้นอีกครั้ง "มันใหญ่ขึ้น" จนทำให้นมข้างขวา"เบี้ยว"นิดหน่อย!!! ก็ยังชะล่าใจเพราะถ้าให้ไปรักษาอะไรตอนนั้นก็ไม่มีเงินอ่ะนะ พูดเลย ไหนจะค่าเทอม ค่าหอ ก็สงสารแม่น่ะ เห็นแม่ทำงานเหนื่อยก็ไม่ได้บอกแม่ แล้วก็ไม่ได้เจ็บได้ปวดอะไรเลยปล่อยเลยตามเลย...

ผ่านไปอีก2ปี แหม..กำลังสนุกเลยช่วงนี้ เรียนปี2 อยู่หอ มีเพื่อน มีแฟน เที่ยวไปเรียนไป เมาบ้างอะไรบ้าง!! แล้วก็เริ่มมาสงสัยเต้านมอีกครั้งก็ตอนทำรายงานเรื่องมะเร็งเต้านม ก็เริ่มมาตรวจเต้านมอีกครั้งตามวิธีในอินเตอร์เน็ต บร๊ะเจ้า!!! ช่วยกล้วยทอดด้วย!! เจออีกก้อนที่เต้านมด้านซ้ายจ้าาาา~ ก้อนเล็กๆ น่าจะประมาณ1ซม. หรือน้อยกว่า ตำแหน่งใกล้เคียงด้านขวา ก็เริ่มศึกษาวิธีรักษาแต่ไม่ได้จริงจังนัก สักพักก็...ลืม

ผ่านมาอีก1ปีครึ่ง ใกล้เรียนจบ ก็ได้ไปฝึกงาน ได้พบเจอคนอีกกลุ่มที่โตกว่า เป็นวัยทำงาน ก็มีพี่สาวคนนึงเล่าให้ฟังว่า "ไปผ่าหน้าอกมา เพราะเจอก้อนเนื้อ บลาๆๆ" ไอ้เราก็ฉุกคิด(อีกรอบ) ก็ปรึกษาพี่คนนั้นไปว่าเป็นยังไง เป็นแบบหนูป่าว?? สรุปว่า...ใช่!! พี่เขาก็เล่าให้ฟังเรื่องการรักษา ค่าใช้จ่าย รักษาที่ไหน?? พอได้ข้อมูลก็เก็บมาคิด...ค่ารักษา 100,000กว่าบาท!! แต่ถ้าใช้สิทธิ์ประกันสังคม ฟรี!! อ่าาา~ เหมือนพบทางสว่าง... มาวางแผนไว้ว่าเราจะรอจนกว่าจะมีงานทำ จะได้รักษาฟรี ไรงี้...เห้อ

จนกระทั่ง...เรียนจบ หยุดเที่ยวพักผ่อนอยู่ประมาน3เดือน แล้วจึงได้งานทำ ช่วงนั้นก็คอยตรวจอยู่เรื่อยๆนะ ว่าใหญ่ขึ้นมั้ย เพิ่มขึ้นมั้ย ก็พบว่า "มันใหญ่ขึ้น..นิดหน่อย โดยเฉพาะข้างซ้ายที่เจอทีหลัง รู้สึกได้ว่าใหญ่กว่าเดิม" 

ต่อจากนั้นผ่านมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน ที่ใช้ชีวิตพนักงานออฟฟิศไฟแรง ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน ใช้เดือนชนเดือน เงินเก็บที่มีก็ใช้ไปเที่ยว ตปท. และ ตจว. ที่ไม่เคยได้ไป ก้อนนั้นก็ถูกละเลยอีกครั้ง...แต่ เริ่มมีอาการ"เจ็บ"บ่อยขึ้น!!!  เมื่อก่อนก็เจ็บนะ แต่คิดว่า เจ็บเพราะหน้าอกตึงช่วงมี ปจด. แต่หลังๆมานี่ ไม่มี ปจด. ก็เจ็บมากขึ้น นานขึ้น เจ็บจี๊ดๆภายในเต้านม เหมือนโดนหยิกอะไรแบบนั้น ก็เริ่ม...อยากไปหาหมอ

บังเอิญ ช่วงนี้ได้ไปรพ. เพราะไปเยี่ยมญาติก็เห็นป้ายโปรแกรมตรวจเต้านม ก็ไปตรวจ..คุณหมอแนะนำว่า "ต้องผ่าตัด! แต่ไม่ด่วนนะ ทำง่ายๆแค่ฉีดยาชา แล้วกลับบ้านเลย" แม่เจ้า! ง่ายยิ่งกว่าศัลกรรมอีกวุ้ย! แต่ยังไม่พร้อม ด้วยเวลา และค่าใช้จ่าย เพราะมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหลักหมื่นต้นๆ ไม่ใช่แสนกว่าอย่างที่เคยรู้มา

หลังจากนั้น 1-2 เดือน ก็ตัดสินใจไปหาหมอจริงจัง ก็เริ่มที่...รพ.รัฐแห่งนึงใกล้ที่ทำงาน (ย่านสีลม) เลิกงานแล้วจึงไป แน่นอนเป็นคลินิกนอกเวลา ที่นี่มีคุณหมอระดับ รศ.ดร. เยอะแยะ...วันแรกที่ไปก็แจ้งพยาบาลว่า "จับเจอก้อนเนื้อในเต้านม" พยาบาลก็ย้ำว่า "จับเจอแล้วใช่มั้ยคะ? ไม่ได้แค่มาตรวจคัดกรองใช่มั้ย" พอตอบไปว่า "จับเจอมา5ปีแล้วค่ะ ช่วงนี้เจ็บ เลยมาหาหมอ" เท่านั้นแหละ วี้ดว้ายกระตู้วู้ กระวีกระวาดจัดแจงนัดหมอเฉพาะทางให้ทันที ไอ้เราก็คิดว่าวันนี้คงไม่ได้ตรวจหรอก รพ. นี้คนไข้เยอะจะตาย คนอื่นยังรอคิวตรวจเป็นเดือนๆ แต่...พยาบาลกลับมาถามว่า "สะดวกตรวจวันนี้เลยมั้ยคะ?" เออ..ดีๆ เร็วดี ก็ตอบตกลงไป

เข้าไปในห้องหมอ ด้วยชุดเดรสใส่สูทตามสไตร์สาวออฟฟิศ ปรากฏว่า..ต้องแก้ผ้าหมด เพราะเสื้อถกเฉยๆไม่ได้ อายกว่าเดิมอีก ^^ หมอยังมาถามอีกว่า "ชุดไม่พร้อมเหรอ?" หมอคะหนูอาย อย่ามาถาม!! หมอก็จับๆคลำๆ พรางพูดตลอดว่า "โอ..ใหญ่จัง ทำไมใหญ่อย่างนี้" 555 ตลกอ่า เขินหนักเลยทีนี้ ก้อนเนื้อค่ะก้อนเนื้อ มิใช่ไซส์หรือขนาดนมแต่อย่างใดนะจ้ะ ข้ามมาตอนจับเสร็จเลยดีกว่า...

นั่งคุยกับหมอ ก็เล่าความเป็นมาให้หมอฟังว่าเป็นมานานเท่าไร อัตราการโตของก้อนเนื้อเป็นอย่างไร จากนั้นหมอก็มาอธิบายว่าโรคนี้เกิดจากอะไร ตามที่มีงานวิจัยก็บอกว่า อาจจะเกิดจากวิถีชีวิต จากอาหาร บลาๆ แต่สรุปไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงเป็น จากนั้นก็เล่าถึงวิธีการผ่าตัดคร่าวๆ (ในใจคิด:ยังไงก็ผ่าใช่ม้ายยยย??) หมอเล่าว่าต้องวางยาสลบ (ในใจคิด: ถ้าสลบแล้วจะตื่นมั้ย?) เลยบอกไปว่า "ฉีดยาชาได้ป้ะ?" หมอหน้าเข้มกว่าเดิมแล้วเริ่มเล่า..."ตอนนั้นหมอเพิ่งเคยผ่าตัดเคสแบบนี้เคสแรกเป็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับหนูเนี่ย ใช้ยาชา ร้องซะห้องที่รอจะผ่าห้องข้างๆยกเลิกการผ่ากับหมอหมดเลย!!! มันเจ็บมาก ทั้งกลัว ทั้งเจ็บ เพราะรู้สึกตัวตลอดเวลา จากนั้นหมอสาบานว่า จะไม่ใช้ยาชากับใครอีก เพราะเนื้อหน้าอกมันเยอะ เส้นประสาทเยอะ ยาชาเข้าไปไม่ค่อยถึง" เอาละสิ เอาละสิ้...อะผ่ายังไงก็ผ่าแต่หนูต้องไม่โดนเชือดสดแบบนั้นละกันค่ะคุณหมอ หมอก็บอกว่าอยากให้ไปอัลตร้าซาวจะได้วางแผนการผ่าตัดได้ถูกต้องยิ่งขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะได้คิววันไหนนะ เพราะมีคนไข้รออยู่ประมานหมื่นกว่าคน!! คิวยาวถึงสิ้นปี57 โอ้มายบุดดา!!! หมอก็บอกต่อไปว่า "ถ้ารอคิวก็คงเป็นมะเร็งตายไปแล้ว" ห๊าาาา~ แล้วหมอก็เขียนใบประวัติไปว่า "อัลตร้าซาว ขอด่วนครับ วางแผนผ่าตัด" จากนั้นก็นั่งรอพักนึง พยาบาลมาถามว่า "พร้อมอัลตร้าซาววันนี้มั้ยคะ?" โอ้!! เร็วม๊ากกกกกก โอเคค่ะ 'ซาวโลด! 

รอคิวอัลตร้าซาวตอน 1ทุ่ม หิวและเหนื่อย ก็ไปถอดเสื้อผ้าเตรียมตัว หมอ ผญ. น่าตาน่ารักมาก มือนิ่ม แต่ เย็น! หนูก็สะดุ้งซิคะ ซาวไปก็บ่นไป หน้าก็เริ่มเครียด พรางพูดกลับไปมาระหว่างคำว่า "โอ ใหญ่มาก" และ "โอ เยอะมาก" ห๊ะ!! มีเยอะกว่านั้นอีกเรอะ!! จากนั้นซาวเสร็จ ก็นัดดูผลอีกครั้ง ป้ะ กลับบ้านด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ

5วันต่อมา นัดฟังผล อ่านฟิล์ม พร้อมวางแผนผ่าตัด 
หมอบอกว่า มีเส้นเลือดเข้าไปเลี้ยงในก้อนเล็กด้านซ้าย มีโอกาสโตขึ้นเร็วมาก ก้อนใหญ่ไม่มีแต่ยังไงก็ต้องผ่า!! ต่อมาถึงเวลาตรวจว่าก้อนเนื้อเป็น "เนื้อร้าย" หรือไม่?? แล้วหมอก็บอกว่า "รอเดี๋ยวๆ เผื่อหมอชำนาญด้านย้อมสีเซลล์ยังอยู่หมอจะได้ให้ เจาะเลย!! " โอ้ก็อด!! แปปนึงผ่านไป "อ่ะไปต่อห้องนู้น เตรียมเจาะ" ห๊ะ หนูพร้อมมั้ยหมอคิดจะถามมั้ยคะ T^T

5นาทีต่อมา พยาบาลมาจัดแจงถกเสื้อ จัดท่าทาง บอกรอหมอแปปนึงค่ะ อ่ะ เราก็นอนรอ ใจแป้วๆ จะเจ็บมั้ยหนอ?? หมอสูงวัยก็เดินมาพร้อมเข็ม 3อัน "ข้างซ้ายขอเข็มนึงนะครับ ข้างขวา2เข็ม เจ็บเหมือนมดกัด หายใจเข้าลึกๆครับ อย่าเกร็ง สบายๆ" สาบานเลยหมอพูดแบบนี้ทั้ง3เข็ม อยากบอกว่าเจ็บโว้ยยย หมอ!! 

20นาทีต่อมา ผลตรวจครับ "ไม่เป็นเนื้อร้ายครับ" เฮ้อ..โล่ง และก็วางแผนผ่าตัด หมอก็วาดๆรูปให้ดูว่าจะผ่าตรงนี้ๆนะ อาจเป็นแผลเป็นบ้าง แต่จะพยายามให้แผลสวยที่สุด เคค่ะๆหมอ นัดวันผ่าเลยค่ะ 

10นาทีต่อมา พยาบาลเรียกคุยค่าใช้จ่ายการผ่าตัด ฟังๆๆๆ เพลินๆ หราา หน้ามืดจ้าาา ร่วมๆ85,000บาทไทยแลนด์ เอ้อ เงิบ!! นัดวันตรวจเลือดพร้อมอะไรพร้อม ถามตังค์มั้ย? มีมั้ย? สาบาน(อะเกน) ว่ามีทั้งตัว 15,000 ไม่รวมเงินเดือนเดือนหน้า เห้อ...

อาทิตย์ต่อมา โทรไปยกเลิกการผ่าค่ะ เหตุที่ตังค์ไม่มี

ประมาณ 1 เดือนต่อมา ช่วง มกราคม 2557 ก็เปลี่ยนประกันสังคมมาที่ รพ. ย.ฮ. (ขอชื่อย่อละกัน กลัวโดนฟ้อง) 555 เปลี่ยนเพราะรุ่นพี่คนนึง(กราบขอบคุณที่ให้คำแนะนำค่ะ) พี่เขาเคยผ่า และบอกว่าดีมาก แต่ด้วยดวงเรา หรือ อะไรไม่ทราบ ไปเจอหมอ(ปาก)ไม่ดี เลยเสียเซล์ฟโครตๆ ทั้งๆที่ขอหมอคนเดียวกับรุ่นพี่ แต่ไม่ยอมนัดให้ อ่ะ จะเล่าให้ฟังก็ได้

วันแรกกับ ย.ฮ. 
บอก พยาบาลทำประวัติว่า "เจอก้อนที่เต้านมค่ะ เคยตรวจแล้ว หมอแนะนำให้ผ่า แต่ยังไม่ได้ผ่า จะมาผ่าที่นี่ค่ะ สิทธิประกันสังคมค่ะ" ทำบัตรเสร็จสรรพ ให้ไปรอหมออายุรกรรม กาลครั้งหนึ่งผ่านไปนานนนนน...แสนนาน หมอผญ. ถามๆนิดหน่อย ขอดูผลตรวจเก่า แล้วบอกว่า "จะนัดหมอเฉพาะทางให้ค่ะ" แล้วทำไมไม่ให้เจอตั้งแต่แรก จะนัดมาอาทิตย์หน้าทำไม เสียเวลา ช่างเหอะ! มารอทำบัตรนัด อีกนานนน...ได้บัตรนัดมา แต่ นัดหมอคนเดิมให้ เพื่อ!! เลยไปฉะพยาบาลซะหน่อย โดนย้อนถามมาว่า "แล้วหมอบอกว่าไงคะ" อ้าว อินี่ (อุ๊บส์) พวกหล่อนไม่คุยกันหรอไงยะ หายใจเข้าออกๆ "ค่ะ หมอบอกว่า จะนัดหมอเฉพาะทางให้ค่ะ" นั่งรออีกเกือบชั่วโมง ฟัค!! เสร็จสรรพใบนัดได้ละ 

อาทิตย์ต่อมา นั่งรอคิว อย่าให้พูดเลยนานแสนนานเช่นเดิม จนหิว เปลี่ยนกันนั่งเฝ้ากะคุณแฟน สลับไปทานข้าวฮร่ะ ฟาสฟอร์เวิร์ด มาที่เจอหมอละกัน นั่งรอที่เตียงแบบรูดม่าน พยาบาลจัดแจงถกเสื้อ อีกละ เลิกอายบอกตรง หมอมาละ ผช. วัยสัก 40-50มั้ง จับๆ แล้วถามว่า "ก้อนนี้ใช่มั้ย?" เห้ย หมอ หมอ หมอ หมอ หมอนะเว้ย สตั้นไป5วิ "เอ่อ ค่ะใช่ค่ะ"   หมอ"อ่ะโอเค แต่งตัว" ห๊ะ แค่เนี้ย ใช่หรอเห้ย เดินตามหมอมา ยืนคุยกัน!! ห้องให้คุยอะมีป้ะ ยืนงี้หรอ ใช่หรอ? หมอถามว่า "บ่ายนี้ว่างมั้ย กินข้าวเสร็จเจอกันนะ ผ่าเลย" ง่ายงั้นเลยหรอ มันใช่หรอ? ตาแดงๆไม่คิดว่าจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้ คิดจะตรวจเลือดมั้ย เตรียมตัวก่อนผ่าตัดมั้ย มีมั้ย รวบรวมสติ ถามไปว่า "ผ่ายังไงคะ" "ยาชา" "ไม่วางยาสลบหรอคะ" "ไม่อ่ะ ไม่จำเป็น" "ผ่าตรงไหนคะ" หมอถอนหายใจแบบขอไปที "ก็ตรงนี้ๆๆ เอาดินสอวาดๆในกระดาษ เราก็ทำตาแดงละนะทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งเสียใจเสียความรู้สึก หมอก็มองหน้า พูดว่า "ตรวจชิ้นเนื้อแล้วนิ ไม่เป็นมะเร็ง แล้วยังจะผ่าอีกหรอ?" สะอึกค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำเหล่านี้จากคนที่เรียกตัวเองว่า หมอ! "แต่มันเจ็บและก็โตขึ้นนะคะ" หมอ:"งั้นก็ผ่า ไปคิดดูละกัน ว่างก็นัดมา" หมอหันหลังเดินจากไป... จากนั้นคงเดาออกนะว่าเราจะทำไรต่อ หึๆ กลับบ้านดิเห้ย รอไร

4 เดือนกว่าๆ ต่อมา
เริ่มเจ็บจนแทบร้องไห้ เอาวะ เริ่มต้นใหม่ละกัน หาข้อมูลรพ. ข้อมูลประกันที่มี ค่าใช้จ่าย ได้ข้อมูลปุ๊บ ก็ไปรพ. ปั๊บ ณ รพ. เอกชน แห่งนึงค่ะ กรอกประวัติเสร็จก็วัดความดัน แต่รอบนี้ไม่ชิน เคยแต่นั่งรอฟังเลขคิว รอบนี้เดินไปแจ้งพยาบาลแล้ววัดความดัน ชั่งนน. พร้อมแจ้งว่า ขอพบหมอเฉพาะทางเลยนะคะ รออีกแปป เข้าพบหมอ ผช. อีกละทำไมหมอเชี่ยวชาญด้าน นม เป็นผช. เยอะจังคะ คุยกะหมอแล้วเอาประวัติเก่ายืนไป ก็ได้ความว่า "น่าจะซาวด์ใหม่นะ" ห๊ะ อีกหลายพันอะดิ "อะเคๆ ค่ะหมอ" 

ระหว่างซาวด์ น่าตกใจยิ่งนัก พบก้อนเพิ่มขึ้นอีก 3-4ก้อน หมอซาวด์จึงขอเจาะใหม่ เพื่อดูว่าก้อนนั้นเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมมันเพิ่มจำนวนเร็วจัง นั่นซิๆ ถ้าเงินเดือนหนูเพิ่มเหมือนเจ้านั่นก็ดีซินะ แต่โชคยังดี หมอเฉพาะทางบอกไม่ต้องเจาะหรอก แนวโน้มเป็นเนื้อร้ายมีน้อย "เยสสสส!!" หมอจึงนัดผ่าจ้าาา ก็ถามว่า "อยากผ่าที่ไหน ผ่าที่รพ. รัฐที่เคยตรวจก็ได้ ไม่รีบ ถ้าอยากผ่าที่นี่ก็...นัดเดือนหน้าดีมั้ย?" เดือนหน้าหมายถึงอีก2อาทิตย์อ่ะนะ เลยบอกไปว่า "ขอประเมินค่าผ่าตัดของที่นี่ก่อนได้มั้ย เคลียร์เรื่องประกันด้วย ค่อยตัดสินใจ" หมอน่ารัก หมอโอเค ก็คุยกะพยาบาล ค่าใช้จ่ายคือ "70,000ถ้วน รวมค่าห้อง 1คืน ไม่รวมเคสฉุกเฉินICU" เออ ถูกกว่าผ่ากับ อาจารย์หมอ ที่รพ. รัฐ อีกนะเธอ ก็โอเคนะ ไม่แพงสำหรับ รพ. เอกชน...และก็ได้ถามสิ่งค้างคาใจ ว่า "ถ้าใช้สิทธิประกันสังคมล่ะคะ การผ่าตัดยังเหมือนเดิมมั้ย" พยาบาลงงจ้าา ไม่คิดว่าจะมีใครถามคำถามโง่ๆล่ะซิ "ผ่าเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะใช้สิทธิอะไร" พยาบาลตอบยิ้มๆ ^^ และนัดวันผ่าเรียบร้อย

และแล้ววันนัดผ่าตัดก็มาถึง..คุณหมอนัด 7โมงเช้า ให้งดน้ำและอาหารหลัง7โมง มาถึงรพ. ก็ทำเรื่องเซ็นต์ยินยอมต่างๆ ตรวจเลือด พร้อมใส่น้ำเกลือเลย พยาบาลบอกเส้นเลือดเล็กมาก นั่งตีอยู่นานเลยกว่าจะได้เจาะ ขอบอกว่า เจาะเจ็บมากกกกก....น้ำตาจะร่วง จากนั้นก็ตรวจEKG คลื่นหัวใจ เอ็กซเรย์ปอด และก็ไปนอนรอในห้องค่ะ หมอนัดบ่าย 2 จะมีคนมารับไปห้องผ่าตัด

บ่าย2 มีคนมารับ ให้เราเปลี่ยนชุดเป็นชุดผ่าตัดแบบผูกๆ เปลี่ยนเตียงแล้วโดนเข็นไปห้องผ่าตัด พอมาถึงก็เปลี่ยนเตียงอีกครั้ง เป็นเตียงเล็กๆกับผ้าเขียวๆ นอนๆสักพัก ก็มีพยาบาลหลายๆคนแวะเวียนมาถามชื่อ ถามอาการ เพื่อยืนยันว่าจะไม่ผ่าผิดคน และหมอวิสัญญี (หมอดมยา) ก็มาแนะนำตัว แนะนำวิธีการให้ยาสลบ ก่อนการผ่าตัด 

ถึงเวลา ผ่าตัด พยาบาลจัดแจงท่าทางให้กางแขน2ข้าง เอาเชือกผูกขาติดกับเตียง ฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือ (แสบมากๆ) จากนั้นก็ วูบไปเลย ไม่รู้ตัวอีกเลย...

เริ่มรู้ตัวแบบสลึมสลือ แต่ยังหลับตา รู้สึกว่ามีคนอยู่รอบๆเตียงเยอะแยะ  ระดมเสียงเรียกชื่อเรากันวุ่นวาย เรายังไม่อยากตื่นอ่ะ แต่ต้องตื่นมาเพราะได้ยินเสียงแว่วๆของพยาบาลว่า "เตรียมห้อง ICU เลยมั้ยคะ?" แค่นั้นแหละ ลืมตาทันใด พอลืมตาปุ๊บ ก็เจ็บปั๊บ เจ็บมากๆ แสบ ปวด ระบมไปหมด ตอนนั้นใส่ออกซิเจนที่ปากอยู่ด้วย แต่พยายามร้องๆๆเพราะมันเจ็บมาก หมอก็ถามว่าเจ็บมากหรอ เดี๋ยวฉีดมอฟีนให้นะ ฉีดไป1เข็ม ก็ยังร้องอยู่ จนหมอต้องมาถามอีกรอบ แล้วฉีดให้อีก นอนๆร้องๆอยู่พักหนึ่ง ก็เริ่มดีขึ้น มองไปรอบๆเหมือนโลกมันหมุนๆเอียงๆ มองไปมองมาก็เจอผ้าห่มหนามากกก...ทับตัวอยู่ขยับไม่ได้เลย คันจมูก คันหน้า ยกมือไม่ขึ้นเลย ก็นอนร้องแหกปากมันอยู่งั้นแหละ แต่! หันไปเจอเตียงข้างๆนอนสงบนิ่งเชียว (ไม่รู้สึกเจ็บมั่งไหง๊?) แล้วก็ได้เวลากลับห้องพัก พยาบาลจะพยายามให้เปลี่ยนเตียง เราไม่ลุกอ่ะ ลุกไม่ไหว เลยเข็นออกมาทั้งเตียงผ่าตัดนั่นแหละ

17:30 น. เป็นเวลาถึงห้องพัก ต้องเปลี่ยนเตียงจริงละซินะ พยายาลเลยเรียกคนมาช่วยกันยกเราเปลี่ยนเตียง เช็ดตัว เปลี่ยนชุด พยาบาลก็ยกอาหารมาให้ ถึงตอนนี้ก็ยังเจ็บมากอยู่ดี นอนน้ำตาไหลจ้าาา~ 

พยาบาลยกข้าวต้มมาให้พร้อมกับข้าวอีก 3 อย่าง กินเองไม่ได้จ้า แค่หายใจก็เจ็บแล้วอ่ะ (มอร์ฟีนหมดฤทธิ์ไวเกิ๊นนน) ต้องให้คุณแฟนป้อนข้าวจ้า ทำให้ข้าว รพ. อร่อยขึ้นอีก 10 เท่า คริๆ จากนั้นก็กินยา พอกินยาก็ดีขึ้นหน่อยนึง หลับๆตื่นๆทั้งคืน พรุ่งนี้กลับบ้าน เย้!!

หมอให้พักฟื้นต่อ 5 วัน อาการดีขึ้นเรื่อยๆ เจ็บนะแต่พยายามไม่เจ็บ จะได้ไม่เป็นภาระคนอื่น เบื่อยา เบื่ออาหาร เบื่อนอน อยากวิ่ง อยากว่ายน้ำ อยากๆๆๆ เห้อ~

ยังไม่เห็นแผลเลยอ่า หมอเอาพลาสเตอร์กันน้ำติดไว้ อีก 7 วันค่อยเปิดพร้อมหมอ โอเคๆ แต่คันพลาสเตอร์ชะมัด อยากแกะๆๆ อ้อ เรื่องอาบน้ำอีก อาบยากไปนะ กลัวแผลโดนน้ำอ่ะ แต่จริงๆแล้วพลาสเตอร์มันกันน้ำได้เว้ยแก (ก็กลัวอ่ะ) ชริ!!

เอาละ แค่นี้ละกัน เผื่อใครๆที่มีอาการเดียวกัน หรือ เอาไว้เตือนตัวเองนะสาวๆ ว่าต้องหมั่นตรวจ น่มน๊ม เป็นประจำ อย่าละเลย ถ้าพบอะไรผิดปกติ พบแพทย์ด่วนจ้า

อีกนิดนึง ไว้ตอนเปิดแผลแล้วจะมาอัพเดตใหม่นะ เพราะตอนนี้รอผลตรวจเนื้อเยื่อด้วย ว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ค่ะ


000000

000000

FULL PROFILE