my FOUNDATIONs review ><*

96 69
สวัสดีค่าา
วันนี้จะมารีวิวรองพื้นทั้งหมดที่นี่มีนะคะ
อาจจะให้รายละเอียดได้ไม่มากเท่าไหร่นะคะ
เป็นความคิดความรู้สึกที่ของนี่เองจากการใช้และรองพื้นอาจจะให้ผลที่ต่างกันสำหรับผิวหน้าแต่ละคนค่ะ
ผิวนี่ผิวผสมนะคะ ช่วงจมูกขึ้นไปจนหน้าผากจะแห้งจนลอกบ้างสว่น แก้ม ถ้าออกไปเจออากาศร้อนๆหน่อยก้มีมันค่ะ
มีรอยแดงข้างจมูกและหน้าแก้มนิดหน่อยค่ะ 

สำหรับนี่แล้วใช้รองเพื่อปรับโทนสีผิวให้เท่ากันกับทำให้สภาพผิวดูดีขึ้น ส่วนการปกปิดก็ จุดที่เป็นรอยมากก็ใช้คอนซีลเลอร์ตามเอาค่ะ :))
*ในรีวิวนี้ไม่ได้ทาอะไรก่อนลงรองพื้นค่ะ หน้าสด หลังจากล้างหน้าเลยค่ะ
ขออภัยด้วยค่ะหากทำให้ตกใจกับหน้าโล้นๆนะคะ 555

*สีรองพื้นที่นี่มีสีจะไม่ใช่โทนเดียวกันทั้งหมดนะคะ บางตัวสว่างกว่าผิวจริงบางตัวเข้มกว่าค่ะ



CHANEL PERFECTION LUMIERE 
สี 20 BEIGE ค่ะ
 เนื้อจะออกนุ่มๆค่ะทาแล้วรู้สึกผิวเหมือนกำมะหยี่นิดๆ เกลี่ยง่ายค่ะ
ปกปิดได้พอสมควรค่ะแต่ถ้าเป็นรอยสิวแดงๆก้ไม่มิดค่ะ คุมมันแต่ไม่ถึงกับมาก
อากาศร้อนๆเหงื่อออกมากๆก้เลือนหายบางส่วนค่่ะ
ชอบทาตัวนี้เพราะทำให้ดูผิวสวย ไม่แมทมากค่ะ
แล้วก้ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงด้วยค่ะ ดูเนียนๆ 
สีไม่เปลี่ยน ไม่ดรอปดีค่ะ ไม่ต้องกลัวหน้าหมอง
packaging เป็นขวดแก้วเคลือบด้านสวยดีค่ะฝาและหัวปั้มเป็น พลาสติกสีดำ ปั๊มง่ายควบคุมได้ค่ะ
มีกลิ่นน้ำหอมแรงใช้ได้เลยค่ะ ใช้แปรงทา กลิ่นติดแปรงเลยค่ะ555




THREE Flawless Fluid Foundation
สี 203 ค่าา
เนื้อเหลวหน่อยค่ะ เกลี่ยง่าย ปกติจะใช้ แปรง stipple ค่ะ ทำให้ดูผิวๆใสๆ ไม่แมทมากไม่หนาค่ะ สบายหน้าดีค่ะ
ปกปิดนิดหน่อย เน้นดูผิวๆ ปกติจะใช้กับ Pristine primer Glow ของ THREE ก็จะได้ลุค dewy ผิวใสๆค่าา
ไม่ค่อยคุมมันค่ะ ตัวนี่ใช้ถ้าไม่ออกแดดหนักก้พอไหวค่ะ อยู่ห้องแอร์สบายๆค่ะ แต่ถ้าลุยคงไม่ไหวอาจจะไหลหาย
สีไม่ดรอปนะคะบนหน้าของนี่ ตกเย็นยังสีเดิมอยู่ โอเคค่ะ
packaging น่ารักดี่ มีฝาหมุนๆ เปิดไปจะมีรูให้เหยาะๆรองพื้น (คล้ายๆที่เหยาะจากขวดน้ำปลาน่ะค่ะ555) คือก้ยากอยู่ค่ะ ไม่ชอบตรงที่ถ้าเคาะลงมือมันจะเลอะต้องมานั่งเช็ดตรงที่เคาะออกมาค่ะ นี่ไม่ชอบให้มันเลอะค่ะ 555
มีกลิ่นหอมๆแต่ไม่แรงมากค่ะ ถ้าตั้งใจดมจริงถึงได้กลิ่นแต่ทาบนหน้าไม่ได้กลิ่นค่ะ




 Burberry VELVET FOUNDATION
สี Trench no. 201
ตัวนี้เนื้อจะรู้สึกเหลวค่ะตอนกดออกมาจากขวดแต่พอทาแล้วจะหนืดๆ
เกลี่ยยากค่ะแล้วก้แห้งเร็วเลยต้องรีบๆหน่อย
ปกปิดได้ดีค่ะสำหรับผิวนี่ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์หลังจากตัวนี้เลยค่ะ 
คุมมันพอสมควรแล้วก็ติดทนทั้งวันค่ะสำหรับผิวนี่  ร้อนมากกกจริงๆถึงจะเยิ้มนิดๆค่ะ 
velvet คือกำมะหยี่แต่ทาแล้วนี่กลับรู้สึกว่าได้ลุค semi-matte คือไม่ด้านยังดูมี sheen นิดๆเวลาแสงกระทบค่ะ
สีไม่หมองไม่ดรอปค่ะ 
packaging ตัวนี้นี่นี่ชอบมากๆค่ะ คือมันสวยค่ะ 555 ด้านๆ ฝาลายเบอเบอรี่ก็ดึงเปิดมามีหัวปั๊มค่ะแล้วที่เจ๋งคือหัวปั๊ยมีล๊อคค่ะ หมุนขวามา 45 องศาจะปลดล๊อกกดๆๆๆออกได้ค่ะ ใช้เสร็จก้หมุนกลับล๊อคก้จะกันเวลาไม่ได้ปิดฟาละพลาดไปกดโดนค่ะ :)
รองพื้นนี้มีน้ำหอมนะคะ ฟุ้งๆละมุนๆ




 GIORGIO ARMANI luminous silk foundation
สี 3 ค่าา
รองพื้นตัวโด่งดัง เนื้อออกหนืดๆนิดๆค่ะ คล้ายๆ burberry ที่กดออกมาแล้วรู้สึกน้ำๆแต่พอลงที่หน้า เกลี่ยแล้วจะออกหนืด แต่เกลี่ยง่ายกว่า burberry ค่ะ 
ปกปิดดีทีเดียวค่ะ แทบไม่ต้องลงคอนซีลเลอร์เลย แต่ถ้าทั้งวันก็มีเยิ้มนิดๆค่ะ
นี่รู้สึกเหมือนตัวนี้แต่งถ่ายรุปสวยค่ะ แต่ดูใกล้ตัวจริงจะเหมือนเน้นผิวที่ลอกแล้วก้รูขุมขนนี่ค่ะ เหมือนเนื้อที่หนืดๆเคลือบผิวไว้เฉยๆ ต้องลงน้อยๆๆค่ะถึงจะโอเค
สีไม่ดรอปนะคะตัวนี้ 
packaging ขวดทรงรีค่ะ เคลือบด้าน สวยดีค่ะ หัวปั๊มก้กดง่ายควบคุมได้ค่ะ
มีกลิ่นน้ำหอมค่ะแต่ไม่มากเท่า chanel




 NARS Sheer Glow
สี Light5 FIJI,  Light6 CEYLAN, Medium1 PUNJAB ในรีวิวสี PUNJAB ค่ะ
ตัวนี้ชอบมากค่ะ มีตั้ง 3 สี ( - - มีทำไม 555) เป็นรองพื้นตัวแรกทีใช้ค่ะ
ทาแล้วผิวดูสุขภาพดีมากค่ะ semi-matte กลืนกับผิวดีมากเลยค่ะ ถ่ายรูปก็สวย ตัวจริงก็สวยค่ะ (ผิวนะคะไม่ใช้คน)
รูขุมขนดูเนียนๆไปเลยค่ะ ตัวนี้ไม่คุมมันเท่าไหร่ค่ะ ร้อนๆนี่เยิ้มเหนอะหนะเลย แต่ติดทนค่ะ คือก็เยิ้มอยู่บนหน้าอย่างนั้นค่ะ  ถ้าห้องแอร์ก็สบายๆเลยค่ะ ผิวแห้งน่าจะดีเลยค่ะ
สีตรงตามขวดค่ะ ทาไปยังไงก้อยู่สีนั้น
packaging จริงๆมีฝาครอบข้างบนอีกค่ะเป็นฝาผิวสัมผัสด้านแต่เลอะง่ายนี่เอาออกให้เปิดใช้งานสดวกไม่เลอะค่ะ มีหัวปั๊มแต่ตองซื้อแยกค่ะ
odourless ไร้กลิ่นค่าา




ESTEE LAUDER Double Wear Stay-in-place Makeup
สี 1W1 BONE, 1W2 SAND
ตัวนี้ เนื้อหนาค่ะ หนืดแต่เกลี่ยง่าย แค่ว่าแห้งเร็วค่ะเหมือนเป็น liquid to powder คือทาลงไปพอมัน set ตัวจะดูแป้งๆค่ะ ไม่ต้องใช้แป้งฝุ่นทับเลย เพราะจะดูยิ่งโบ๊ะ ตัวนี้ถ้าทาเยอะก็จะ ปกปิดแบบสุดยอดเหมือนหน้ากากเลยค่ะ แต่งไปงานแต่งไปรับปริญญาเลยค่ะ และจะได้ลุค แมท แบบสุดๆ จนเกือบจะดูแห้งค่ะ สำหรับนี่ตัวนี้ทาก้กลบรูขุมขนดี แต่ปกติก็จะทาบางๆใช้น้อยๆได้ลุค semi matte พอดีๆค่ะ คุมมันสุดๆคือ มันมากสุดของผิวนี่ก็เอาอยู่ ไม่เยิ้มค่ะ (**ความเห็นจากตัวนี่ที่ใช้นะคะ อาจจะไม่ได้ผลลัพท์ที่เหมือนกันกับคนอื่น :)
สีดรอปนะคะ พอ set ตัวก็ ดูคล้ำขึ้นเลย (เลยมีสองขวดค่ะ เพราะตอนแรกซื้อพอดีผิว ทาเสร็จ หม๊องหมอง ตอนนี้เอามาทาตรงกรอบหน้าค่ะ)
packaging แบบนี้อีกแล้ว ขวดสวยดีฝาก็ดูเลอค่าดี แต่ ไม่มีหัวปั๊มอีกแล้ว อาจจะเพราะเหนื้อข้นเลยไม่เหมาะจะใช้ปั๊มค่ะ ก็เทๆเอา เลอะเทอะ ควบคุมไม่ค่อยได้ค่ะ 555  เทลั่นอยู่บ่อยๆค่ะ เคยเห็นyoutuber ต่างชาติใช้หัวปั๊มของ clinique มาใส่ได้ค่ะ แต่ไม่ทราบว่ารุ่นอะไรหรือของตัวไหนค่ะ ไม่แน่ใจ นี่กะจะหาขวดปั๊มมาถ่านใส่ค่ะ จะได้สดวกหน่อย ^^
มีกลิ่นรองพื้นคล้ายๆ alcohol บอกไม่ถูกค่ะ แต่ไม่ใช่กลิ่นหอมแน่ๆ ทาไปสักพักกลิ่นก็หายค่ะ




URBAN DECAY NAKED SKIN Foundation
สี 3.0, 4.0 ค่ะ
เนื้อ liquid ค่ะ เหลวไหลๆเลยเวลากดปั๊มมา แต่ชอบมากค่ะตัวนี้ บางเบาหน้า เกลี่ยง่ายๆๆๆ ลื่นมากก 
ไม่ค่อยปกปิดอะไร พอ set ตัวก็ได้ semi matte อีกเหมือนกัน ดู นุ่ม กึ่ง กำมะหยี่ที่ satin นิดๆ งงไปหมดแล้ว555
เอาว่าดูธรรมชาติ ไม่แห้งแมท ไม่ฉ่ำวาวค่ะ เบาบาง
ไม่ค่อยติดทนค่ะ ได้ไม่เกิน 5 ชม. บนหน้านี่ก้เหมือนว่าหายไปหมดเลย ไม่รู้ไปไหน - -
ไม่ได้คุมมันอะไรเท่าไหร่ แต่สำหรับนี่ ใช้ได้เลยค่ะ ไม่เยิ้ม 
สีไม่ดรอปค่ะ
packaging ขวดพลาสติกสูงยาว หัวปั๊มกดง่ายยยมากค่ะ ควบคุมได้ดีเลย เหมือนมี ก๊อกสั้นๆที่กดแล้วได้เป็นหยดๆ ปกติก็จะกดเป็นหยดๆเอาค่ะ 
มีกลิ่นนิดๆค่ะ ไม่แรงมาก น่าจะเป็นกลิ่นรองพื้น ทาบนหน้าไม่ได้กลิ่นอะไรค่ะ
*ตัวนี้ นี่ ทาลงผิวตอนแรก จะรู้สึก รอนๆแปลกๆค่ะ แต่ก็ไม่เคยเป็นอะไรนะคะ ไม่แพ้ ไม่มีผื่นหรือรอยแดงอะไรเลย แค่ลงผิวตอนแรกจะรู้สึกงั้น สักพักก็หาย ไม่รู้มีใครเป็นไหมค่ะ




DIORSKIN NUDE
สี 010
เนื้อนุ่มๆเหลวลื่นๆค่ะ ทาไปจะset ตัวเร็วหน่อยค่ะ ได้ semi matte คล้ายๆ naked skin เลยค่ะ แต่ตัวนี้เนียนได้ใจ รูขุมขนก็หายไปเลยค่ะ เกลี่ยง่ายมากๆค่ะ ปกปิด ได้ระดับหนึ่ง ไม่ค่อยคุมมันค่ะ ไม่ค่อยติดทน ร้อนหนักก็เยิ้มเลือนหายค่ะ
สีดรอปมากเลย ทาได้สัก 5 นาที เอาว่าลงรองพื้นไป กว่าจะแต่งสารพัดอื่นเสร็จ ดรอปหมอง นี่เลยต้องใช้เบอร์ขาวๆไว้ค่ะ ตัวนี้นี่ใช้เวลาอยากได้ลุค เบาๆไม่ได้แต่งอะไรมากลงไปผิวๆค่ะ เนียนดีค่ะ
มีกลิ่นหอมแต่ไม่แรงค่ะ ทาสักพักก็หายไม่กวนใจ
package ขวดแก้ว มีหัวปั๊ม ใช่ง่ายดีค่ะ




L'OREAL true match 
สี natural beige W4 ค่ะ 
ตัวนี้ในเนื้อมีชิมเมอร์ละเอียดๆยิบๆค่ะ แต่ทาแล้วไม่เห็นค่ะ เกลี่ยง่าย ลื่นๆ
แต่ลื่นๆๆๆถ้าใช้แปรงจะเหมือนปาดเป็นเส้นไปเป็นเส้นมาไม่เนียนสักที555 ต้องใช้ ฟองน้ำกดๆเอาดีกว่าค่ะ คือเซ็ตตัวช้าค่ะ พอเซ็ทก็ลื่นน้อยลงนิด
นี่ว่าไม่คุมมัน  ตัวมันเองทาลงก็ได้ฉ่ำๆแล้วค่ะ ไม่ติดทนเท่าไหร่ค่ะ โดนหน้าก็ยังรู้สึกลื่น ลื่นติดมือไปบ้างไรบ้าง
แต่ถ่ายรูปสวยยค่ะ คงเพราะมีชิมเมอร์ เป็น light reflective กระจายแสงดีค่ะ 
ทำให้ถ่ายรูปแล้วดูเนียนฟุ้งๆ ได้ลุค satin ค่ะ ใช้ได้วันสบายๆค่ะ
สีไม่ดรอป 
ไม่มีกลิ่นอะไรเลยยย
แพคเกจเป็นขวดเล็กๆ เก๋ดีค่ะ แต่ ก็ต้องเทๆเอาอีกแล้ว เนื้อก็ไหลเหลวอีก เทลั่นเทเกินง่ายค่ะ




หมดแล้วค่าา!!!!
หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างสักนิดนะคะ

ปกตินี่จะล้างแล้วลงใหม่ค่ะ เวลาที่รองพื้นเยิ้ม เพราะไม่ชอบให้อะไรมาเหนอะหนะอยู่บนหน้า จะได้ไม่อุดตันเป็นสิว
(พก wet tissue ที่ไว้เช็ด คสอ. พร้อมกับกระเป๋า คสอ. ที่มีทุกสิ่งไว้ติดตัวอยู่แล้วค่ะ)
การลงรองพื้น ก็ทา primer และกันแดดทุกครั้งค่ะ
ปกติจะใช้ beauty blender ชุบน้ำแล้วลงกับรองพื้นที่เนื้อเหลวๆค่ะ เพราะใช้แปรงจะไม่เนียน ไม่งั้นก็ใช้แปรงหัวตัดแน่นๆหรือ expert face brush ของ real techniques ค่ะ 
ไม่ค่อย set แป้งฝุ่นเท่าไหร่ค่ะ ยกเว้นจะออกไปเพชิญโลกแบบ adventure จริงๆ
ขอบคุณมากที่รับชมนะคะ
ผิดพลาดประการใด ติชมได้เลยค่ะ 
ขอบคุณมากค่าาา 
สวัสดีค่าา><


mmilot

mmilot

FULL PROFILE