Review ทางออกของปัญหาแพ้ลิปสติกยาวนานเป็นปี

20 15
สวัสดีจ้า
เราเป็นคนนึ่งที่เสมือนพระเจ้าลงโทษ มีเงินซื้อลิปสติกสีสวยๆแต่ทาไม่ได้ เหมือนแต่งหน้าแล้วยังสวยไม่เสร็จ เพื่อนทักตลอดว่าไม่สบายเหรอ ทำไมหน้าซีดจัง ฮือๆๆ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้ายาวนานเป็นปี
ไม่ได้ทาลิปสติกเลยยยยย ทาได้แต่ Pure petroleum jelly ที่หมอให้เท่านั้น

ขอเล่าประวัติก่อนเกิดโศกอนาถกรรมบนริมฝีปากก่อนนะค่ะ

แน่นอนว่าเริ่มจากการทาลิปสติกแท่งนึ่ง (แน่นอนอยู่แล้วปะ อิอิ)


แท่งนี้แหละตัวปัญหาของเรา (บางคนอาจใช้แล้วดีนะค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลค่า)
Burt's bee สีแดง(สูตรทับทิม) สีอื่นไม่ทราบเพราะไม่กล้าลองใช้

ซึ่งก่อนหน้านี้เราใช้ผลิตภัณฑ์ของ Burt's Bee มาเยอะนะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
 >> BURT'S BEES Blam tint สี Hibiscus ที่สีสวยมากกกก ชอบสุดๆๆ
           (ซึ่งตอนนี้ลาขาดเลยค่ะ ใช้แล้วปากถึงขั้นน้ำเหลืองไหล)
 >> BURT'S BEE Beewax lip plam ที่เป็นตลับทาแล้วเยนๆ
           (ตัวนี้ทาแล้วเฉยๆนะค่ะ เย็นดี แต่ตอนนี้ก็ลาขาดค่ะ ทาอะไรที่ผสมมินต์ไม่ได้ค่ะ TT)
และอื่นๆอีกค่ะ จำไม่ได้ ขอโทษจริงๆค่ะ
ที่น่าเสียใจกว่านั้นคือ ลิปสติกยี่ห้ออื่นก็ใช้ไม่ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Clinique, MAC, L'Oreal, NYX และอื่นๆอีกมากมาย คือใช้ไม่ได้ทั้งหมด

อาการ

ขั้นที่1 : มีอาการตึงๆที่ริมฝีปาก
ขั้นที่2 : มีเม็ดเล็กๆขึ้นที่รอบริมฝีปาก (เหมือนอาการแพ้อาหารทะเลของเรา ช่วงนี้ยังไม่เอ๊ะใจ)
ขั้นที่3 : เม็ดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ถ้าสังเกตุดีๆจะมีน้ำใสๆอยู่ภายใน
ขั้นที่4 : เม็ดแตก น้ำกระจาย แล้วอาการของโรคขยายวงกว้าง เม็ดขึ้นเต็มริมฝีปาก (คิดว่ามันลาม)
ขั้นที่5 : เม็ดที่แตกเริ่มแห้ง+มีน้ำเหลืองซึมออกมา >> ลามต่ออีก TT
ขั้น 6 ...... ไม่ทราบแล้วค่ะ หนีไปหาคุณหมอก่อน

การรักษา

>>เริ่มจากไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแถวนนทบุรี

คุณหมอบอกว่าอาจเป้นอาการแพ้ยาสีฟันด้วย ให้ใช้ยาสีฟันเด็ก และคุณหมอให้ Pure petroleum jelly กับ Kena-lite 
ซึ่งก็คือยาทาแผลในปาก(ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคือยาทาแผลในปาก)กับเพียววาสลีนนั้นเอง (แพงมาก555)
      เราก้เอามาทาๆ ทาเช้ากลางวันเย็น สรุป หายนะค่ะ แต่พอหาย อาการเป็นปกติ เราก็ทาลิปเหมือนเดิม ผลคือ กลับเป็นเหมือนเดิม (ขั้นที่1) เราก็โอเค ไม่เป็นไร เริ่มทาใหม่ เป็นแบบนี้วนไปวนมาจนยาหมดค่ะ555 (ประมาณครึ่งปี)

>>พอยาหมด ไม่อยากไปหาหมอค่ะ เลยหาอ่านในเน็ตเอาค่ะว่าอะไรช่วยรักษาได้มั้ง ซึ่งช่วงนั้นเราก็ทาแต่เพียววาสลีนที่คุณหมอให้เท่านั้นค่ะ ไม่ได้ทาอย่างอื่นเลย

เราเจอในเนตให้ทาแม่เลียบมั้ง ทาลิปเพสัชมั้ง เราก็ไม่กล้าค่ะ กลัวกลับไปเป็นเหมือนเดิม เลยทาแต่เพียววาสลีน ช่วงนั้นหน้าซีดสุดๆๆๆๆๆๆ

พอเพียววาสลีนหมดเราก็ใช้วาสลีนกระปุกที่ขายตามห้างทั่วไป ผลคือ แพ้ค่ะ (เหมือนต่อสู้กับอะไรสักอย่าง)
ตอนนั้นไปเรียนไม่มีอะไรทาปากและปากแห้งมากๆ เลยเอาลิปมันของเพื่อนมาใช้ เป็นไงเป็นกัน

ผลค่ะ ไม่แพ้ค่ะ (ชนะในรอบปี ฮิฮิ)


แต่ๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจไม่เท่าไรค่ะ มันแข็งแรงกลับมาโคนเราได้ ใช้ได้ซักพัก แพ้อีกจ้าาา 55555

ตอนนั้นเราไปหาหมอที่สถาบันโรคผิวหนังเพราะต้องการปลูกผม เลยถามคุณหมอเรื่องแพ้ลิปสติก

คุณหมอว่า "การที่เราทาลิปสติกมันเหมือนเป็นการกระตุ้นสารเคมีที่อยู่ในริมฝีปากเรา ยาสีฟันก็ด้วยเหมือนกัน บางคนแพ้อาจเป็นปีกว่าจะหาย บางคนอาจเป็นตลอดชีวิตเพราะเราแปรงฟัน ยาสีฟันอาจเป็นตัวกระตุ้นสารเคมีในปากเราได้"

เราก้อโอเค ทำใจ แพ้ตลอดชีวิต 55
กลับบ้านมาแม่(ขอขอบพระคุณคุณแม่มากที่ช่วยให้ลูกชนะสักที) บอกว่าอ่านเจอในเน็ตเขาให้ใช้ยาสีฟันซอลเค็มแต่ดีแล้วก็ใช้ยา 2 ตัว คือ Triamcinolone Acetonide 1 mg.(ไกโคโลน=ยาทาแผลให้ปาก) กับ Desoximetasone 0.25%


ที่แรกใช้ไกโคโลน โอ้ยยยยยย แสบปากค่ะ แต่อดทนเพราะไหนๆไม่มีไรจะเสียละ
ผลคือ เหมือนตัวที่หมอให้มาค่ะ แห้งๆไปแต่ก็กลับมาเป็นอื่น

เนื่องจากไกโคโลนไม่ได้ผล เลยใช้อีกตัวค่ะ นี่แหละค่ะพระเอกขี่ม้าขาว

TOPICORTE Desoximetasone 0.25%


ใช้ครั้งแรกก็ดีขึ้นเลยค่ะ ใช้ประมาณ 3 วันปากหายเป็นปกติ ฮู้เล่!

เราก้อเลยเริ่มทาลิปสติกค่ะ แต่คราวนี้ระวังมากเป็นพิเศษ อันนี้ต้องลองเองค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
สำหรับเรา เราโอเคกับ Canmake lip blam rouge



----------------จบแล้วค่า---------------
ปอลอ 1.ยาวนิดนึ่งเนอะ อยากให้ทุกคนที่เป็นแบบเราหายจากโรคนี้ค่ะ ทรมานค่ะ อยากสวยแล้วสวยไม่เสร็จ อิอิ
          2.ยืมรูปมาจากอินเทอเน็ตนะค่ะ ขออภัยค่า



สรุปค่ะ
1.TOPICORTE Desoximetasone 0.25% ใช้แล้วหายค่ะ แต่อย่าทานานเกิน 4 วัน (ในใบกำกับยาบอกไว้)
2.พก Pure petroleum jelly ติกตัวไว้ตลอดนะค่ะ
3.หาลิปสติกที่ตัวเองไม่แพ้ค่ะ ต้องอดทนและทดลองค่ะ มียี่ห้อที่เราใช้แล้วไม่แพ้แน่นอนค่ะ (แนะนำไม่ควรใช้เนื้อแมทกับเนื้อลิควิคนะค่ะ)
4.อดทน อดทน อดทนค่ะ สู้ๆ

 

 


m.socoollike

m.socoollike

FULL PROFILE