Review : สรรพสิ่งเกี่ยวกับผม สำหรับคนผมแห้งและเสีย

10 0
สวัสดีค่า (เสียงแบบกั้ง)
วันนี้จะมารีวิวสรรพสิ่งเกี่ยวกับผมให้ได้ยลได้ชมกัน
คือออกตัวก่อนเลยว่า รีวิวครั้งแรกในจีบัน
ผิดพลาดประการใด อภัยให้หนูด้วยนะคะพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคน

สภาพผมของผึ้ง (ดันชื่อผึ้งซะด้วยสิ แย่แล้วเรา)
ผมเส้นใหญ่แต่บางค่ะ เป็นคนผมค่อนข้างดำ แล้วก็ค่อนข้างชี้ฟูด้วย
เมื่อก่อนยืดผม โกรกผมบ่อยมากไม่ค่อยเสีย
เคยโกรกวันนึง 4 สี ผมก็ยังไม่เสียเลย (ตอนนั้นยังเอ๊าะ)
มาเสียเอาช่วง 6 ปีที่แล้ว พลาดไปย้อมแล้วยืด
ทีนี้ยิ่งกว่าไม้กวาดค่ะ ชี้ฟู เสีย แห้งกรอบ และแตกปลายมาก
พยายามอบไอน้ำก็ไม่ค่อยจะช่วยอะไร
ทำได้แค่รอยาวแล้วก็ตัดผมไปเรื่อยๆ กะจะไม่ทำสีไม่ทำอะไรอีก
แต่อารมณ์วัยรุ่นคึกคะนอง ก็ยังจะทำ
สรุปสภาพผมก็ไม่ฟื้นฟูซักที ยิ่งเสียเข้าไปใหญ่ค่ะทีนี้

จนผ่านไปได้ซัก 2-3 ปี ตอนผมก็เริ่มดีขึ้น
แต่...ช่วง dip dye กำลังฮิต ก็ซนอีกจนได้ คือไม่เข็ด?
ไปทำมา 5 สีบนหัว ...ไม่ต้องถามหรือเอ่ย
พินาศสันตะโรค่ะ กลับมาสภาพเดิม คือแห้งและเสียมาก
ใช้เวลาปีกว่า จนค้นพบทางตัวเองจนได้! (พล่ามมาเยอะ เข้าเรื่องดีกว่า)
และนี่คือตัวช่วยของเรา ที่กว่าจะฟื้นฟูสภาพผมกลับมาได้



Moroccan Oil
ไม่ต้องบรรยายอะไรมากค่ะกับตัวนี้ แนะนำเลย
เป็นออยล์ที่ใช้ตอนผมหมาดๆ กลิ่นหอมมาก และที่สำคัญที่สุดคือ
เป็นออยล์ที่ไม่เหมือนกับออยล์ (อ่าว งง!)
คือมันยังงี๊ ใส่ผมไป ผมหอมไม่พอ ละคือดูไม่มันด้วย!
ตัวนี้ผึ้งไม่แน่ใจนะคะว่าที่ไทยมีรึเปล่า เพราะผึ้งซื้อจากออส 30 เหรียญ
ใช้มาปีกว่า ตอนนี้ยังไม่หมดเลยค่ะ ใช้ทีละนิด
แบบหยดใส่แค่เหรียญบาทเท่านั้น



Percy & Reed Volumising Shampoo & Conditioner
แชมพูและคอนดิชันเนอร์ ผึ้งใช้ 2 ตัวค่ะ
ผึ้งไม่แน่ใจว่าที่ไทยหาได้ที่ไหนนะคะ ลองเช็คดูที่ Boots
คือ 2 คนนี้เค้าทำงานในวงการนี้มานานมาก
จนสุดท้ายเค้ามาเปิดไลน์ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม แล้วคือมันเลอค่าอ่ะ!
ราคาแล้วแต่ที่นะคะ ผึ้งซื้อออนไลน์มาเป็นคู่ 20 ปอนด์นิดๆ



และอีกหนึ่งยี่ห้อดัง John Frieda ค่ะ
ตัวนี้ผึ้งใช้แต่แชมพู ควบคู่กับ Morroccan oil ด้านบน
แต่เสียอย่างคือ ผมชอบร่วงอะ! :'((
แต่คือชอบค่ะ ใช้ดีมาก ราคาที่ Boots ที่อังกฤษ 5-6 ปอนด์
ที่ใช้ตัวนี้ เพราะตัวผึ้งเองโกรกผมสีน้ำตาลเข้มค่ะ
กลิ่นหอม ราคาไม่สูงเกินไป คุณภาพคับคั่ง recommend ค่ะ!

ผึ้งเป็นคนไม่เซ็ทผม เลยไม่ได้ใช้มูสหรือแว็กซ์
ตรงนี้เลยแนะนำอะไรไม่ได้เลย
แต่ถ้าใครอยากหาหวีดีๆเริ่ดๆซักด้ามล่ะก็ ต้องไม่พลาดค่ะ


Tangle Teezer Professional Detangable Brush
นางดี นางเริ่ด นางไม่แพง และนางน่ารัก
รางวัลนางมี การันตีนางก็ได้ คือนางน่ารักจริงๆนะพูดเลย
นางเป็นหวีแบบเรียกไม่ถูกอ่ะค่ะ ใช้ในซาลอน
คือคนทำทำเพื่อให้คนผมเสียใช้จริงๆ พวกสังกะตังอะไรยังงี๊
นางเสียอย่างเดียวก็คือ นางโดนฮีทไม่ได้
แต่ขนาดแปรงนางพอดีมือ และนางมีหลายสี (ผึ้งใช้สีนี้ค่ะ รุ่น Original)
Boots ที่นี่ราคาอยู่ประมาณ £10.99 ก็น่าจะ 6-7 ร้อย



สุดท้ายและท้ายสุดสำหรับผมค่ะ
แปรงตัวดัง Mason Pearson ซึ่งไม่ต้องบรรยายไรมาก
นอกจาก แพงมากกกกก! แต่เลอค่ามาก
ผึ้งใช้เป็นตัว Bristle&Nylon ค่ะ ตัวนี้ใช้เวลาไดร์ผมตัวเอง
ตัวนี้ซื้อจากออส David Jones สนนราคา $ 100
คือนางเริ่ดจริงๆนะ ถ้าไม่ติดว่าราคาทำร้ายดาวมากอ่ะ :'((
แต่เสียอย่างคือ บางทีนางสร้างไฟฟ้าสถิตย์
ซึ่งผึ้งต้องใช้ควบคู่กับ Tangle Teezer ด้านบนเพื่อช่วย
แต่หวีแล้ว ผมไม่พันกัน ผมดูมี Volume จริง

ปิดท้ายด้วยสภาพผมก่อนและหลังค่ะ
ผมไดร์ธรรมดา ไม่ได้เซ็ทไม่ได้ใส่มูสอะไรเลยนะคะ 



Before 
เมื่อปลายปี 2012 ค่ะ นี่โกรกมาเป็นสีน้ำตาลแล้ว
ถ้าซูมจริงๆ ผมเสียมากไม่มีน้ำหนักด้วย



After 
ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ อันนี้โกรกสีน้ำตาลเข้มสุด
ช่วงนี้อากาศหนาวฝนตกด้วย 
แต่ว่าโชคดีมากที่ผมไม่แห้ง ดูมีน้ำหนัก และค่อนข้างเป็นทรง

ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ
รีวิวนี้ค่อนข้างเวิ่นเว้อและยาวมาก ยังไงต้องขอบคุณที่อ่านกันค่ะ
มีอะไรติชมกันได้เลยเต็มที่ ดาวไม่กัด อาจฉกบ้าง
ยังไงมีอะไรดีๆจะมาแนะนำกันอีกนะ :))
รอบหน้า จะมารีวิวลิปสติก MAC ในคลังกันบ้างค่ะ
แล้วเจอกันกระทู้หน้านะคะสาวๆทุกคน

ปล. รูปบางรูปเอามาจากเน็ทนะคะ
เพราะว่าหารูปที่เคยถ่ายไว้ไม่เจอ เลยต้องยืมจากเน็ท


babygrac3

babygrac3

I have an angel on my shoulder
but the devil in my head ;)

FULL PROFILE