[เตือนภัยประสบการ์ณจริง] อันตรายจากคอนแทคเลนส์
junnjao 27 20สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ภัยอันตรายจากคอนแทคเลนส์ค่ะ
ขอบอกก่อนว่านี่มาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
โนสแตนอิน อันที่จริงเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรามาหลายปีแล้ว
เคยเขียนไว้ในบล็อคอันเก่า แล้วเปิดไปอ่านเจอแล้วรู้สึกว่า
ถึงเรื่องมันจะเกิดขึ้นกับเรานานแล้วแต่มันก็ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนอื่นๆได้เหมือนกัน
เพราะยิ่งปัจจุบันก็มีคอนแทคเลนส์หลากสีมาให้ใส่เพื่อความสวยงาม
แม้จะไม่ได้มีปัญหาทางด้านสายตา ใครๆก็สามารถใส่ได้
เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เตือนภัยให้กับสาวๆจีบันกันค่ะ
*กระทู้นี้อาจจะดูน่าเบื่อเพราะมีแต่ตัวอักษรเต็มไปหมด
แต่อยากให้อ่านจนจบเป็นอุทาหรณ์จะได้ระวังๆกันนะคะ*
เริ่มจากเมื่อก่อนเนี่ยมีอยู่ช่วงนึง จกท. มีเหตุที่จะต้องทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน
คือไปร้องเพลงกับคณะนักร้องที่ต่างประเทศเป็นเวลาประมาณ 20 วัน
ซึ่งเราเองก็ไม่อยากจะใส่แว่นเพราะก็อยากจะถ่ายรูปวิวสวยๆกับเพื่อนๆด้วย
แล้วก็ต้องแต่งหน้าขึ้นเวทีอะไรประมานนี้
ซึ่งปกติถ้าอยู่ไทย จกท.จะใส่คอนแทคเลนส์ตอนประมานหกโมงเช้า
พอสักห้าหกโมงเย็นก็ได้เวลาถอดใส่แว่นแทน แต่พอไปอยู่ที่นู้น
ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันเพื่อเดินทางไปอีกเมือง ก็ใส่คอนแทคตั้งแต่ประมานตีห้าถึงหกโมง
แต่ตอนเย็นเนี่ยสิ คอนเสิร์ตมันเลิกประมานห้าทุ่มเที่ยงคืน กว่าจะกลับถึงบ้านโฮสต์
ก็ปาไปประมาณเที่ยงคืนครึ่งถึงตีหนึ่ง แถมแต่งหน้าทุกวัน
คือบอกเลยว่าเหนื่อยมากจนยอมรับเลยว่ารักษาความสะอาดไม่ดี
บางคืนเพลียมากก็ล้างเครื่องสำอางค์บริเวณซอกขนตาไม่หมด (เราเขียนอินเนอร์)
ถอดคอนแทคนอนได้ไม่กี่ชม.ตื่นมาก็ใส่ใหม่อีกแล้ว
จนได้เวลากลับมาไทย คราวนี้ก็ยังสติลใส่คอนแทคเลนส์อยู่
ผ่านไปได้ไม่นาน เราก็เริ่มรู้สึก ปวดตาข้างซ้ายหนึบๆ
และก็มีอาการบวมนิดๆแต่เราก็ยังไม่ได้สังเกตอะไร
ก็ยังคงใส่คอนแทคเลนส์ต่อไป - -
หลังจากนั้นได้สองสามวัน ตาข้างซ้ายก็เริ่มบวมมากขึ้น
บวมมากแบบปูดออกมาเหมือนตาปลาทองเลยอะ
เรารู้สึกแปลกๆจึงหยุดใส่คอนแทคเลนส์หันมาใส่แว่น
แล้วก็ไปหาครูที่ห้องพยาบาล ก็ได้หยอดตา
แล้วก่อนนอนก็ไปขอยาป้ายตาจากห้องพยาบาลอีกรอบ (อยู่ร.ร. ประจำ)
ตอนนี้ก็เลยพอสรุปได้ว่า อิฉันเป็นตากุ้งยิงนะฮะ
ก็ฟังดูเหมือนจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก
วันรุ่นขึ้นพอดีกับเราลากลับบ้านไปเรียนพิเศษ
จึงโดดเรียนแล้วจูงมือพ่อกะแม่ให้พาไปหาหมอ
หมอก็ส่องตาตรวจๆ
ผลปรากฎว่า...
.
.
.
เป็น ตาอักเสบ ทั้งสองข้าง
สาเหตุเนื่องจากคอนแทคเลนส์ไปครูดกับตา
ซึ่งพอเป็นตาเอกเสบนี่ก็แย่แล้ว พออักเสบมันก็เลยติดเชื้อง่าย
ก็เลยเป็นสาเหตุให้เป็นตากุ้งยิง
พอหมอพูดจบปุ๊บ คือเราเป็นหนองอยู่ข้างใน ก็บอกว่าต้องผ่าตัดเล็ก
เตรียมตัวขึ้นเขียงได้เลย
ขอบอกก่อนว่านี่มาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
โนสแตนอิน อันที่จริงเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรามาหลายปีแล้ว
เคยเขียนไว้ในบล็อคอันเก่า แล้วเปิดไปอ่านเจอแล้วรู้สึกว่า
ถึงเรื่องมันจะเกิดขึ้นกับเรานานแล้วแต่มันก็ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนอื่นๆได้เหมือนกัน
เพราะยิ่งปัจจุบันก็มีคอนแทคเลนส์หลากสีมาให้ใส่เพื่อความสวยงาม
แม้จะไม่ได้มีปัญหาทางด้านสายตา ใครๆก็สามารถใส่ได้
เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เตือนภัยให้กับสาวๆจีบันกันค่ะ
*กระทู้นี้อาจจะดูน่าเบื่อเพราะมีแต่ตัวอักษรเต็มไปหมด
แต่อยากให้อ่านจนจบเป็นอุทาหรณ์จะได้ระวังๆกันนะคะ*
เริ่มจากเมื่อก่อนเนี่ยมีอยู่ช่วงนึง จกท. มีเหตุที่จะต้องทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน
คือไปร้องเพลงกับคณะนักร้องที่ต่างประเทศเป็นเวลาประมาณ 20 วัน
ซึ่งเราเองก็ไม่อยากจะใส่แว่นเพราะก็อยากจะถ่ายรูปวิวสวยๆกับเพื่อนๆด้วย
แล้วก็ต้องแต่งหน้าขึ้นเวทีอะไรประมานนี้
ซึ่งปกติถ้าอยู่ไทย จกท.จะใส่คอนแทคเลนส์ตอนประมานหกโมงเช้า
พอสักห้าหกโมงเย็นก็ได้เวลาถอดใส่แว่นแทน แต่พอไปอยู่ที่นู้น
ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันเพื่อเดินทางไปอีกเมือง ก็ใส่คอนแทคตั้งแต่ประมานตีห้าถึงหกโมง
แต่ตอนเย็นเนี่ยสิ คอนเสิร์ตมันเลิกประมานห้าทุ่มเที่ยงคืน กว่าจะกลับถึงบ้านโฮสต์
ก็ปาไปประมาณเที่ยงคืนครึ่งถึงตีหนึ่ง แถมแต่งหน้าทุกวัน
คือบอกเลยว่าเหนื่อยมากจนยอมรับเลยว่ารักษาความสะอาดไม่ดี
บางคืนเพลียมากก็ล้างเครื่องสำอางค์บริเวณซอกขนตาไม่หมด (เราเขียนอินเนอร์)
ถอดคอนแทคนอนได้ไม่กี่ชม.ตื่นมาก็ใส่ใหม่อีกแล้ว
จนได้เวลากลับมาไทย คราวนี้ก็ยังสติลใส่คอนแทคเลนส์อยู่
ผ่านไปได้ไม่นาน เราก็เริ่มรู้สึก ปวดตาข้างซ้ายหนึบๆ
และก็มีอาการบวมนิดๆแต่เราก็ยังไม่ได้สังเกตอะไร
ก็ยังคงใส่คอนแทคเลนส์ต่อไป - -
หลังจากนั้นได้สองสามวัน ตาข้างซ้ายก็เริ่มบวมมากขึ้น
บวมมากแบบปูดออกมาเหมือนตาปลาทองเลยอะ
เรารู้สึกแปลกๆจึงหยุดใส่คอนแทคเลนส์หันมาใส่แว่น
แล้วก็ไปหาครูที่ห้องพยาบาล ก็ได้หยอดตา
แล้วก่อนนอนก็ไปขอยาป้ายตาจากห้องพยาบาลอีกรอบ (อยู่ร.ร. ประจำ)
ตอนนี้ก็เลยพอสรุปได้ว่า อิฉันเป็นตากุ้งยิงนะฮะ
ก็ฟังดูเหมือนจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก
วันรุ่นขึ้นพอดีกับเราลากลับบ้านไปเรียนพิเศษ
จึงโดดเรียนแล้วจูงมือพ่อกะแม่ให้พาไปหาหมอ
หมอก็ส่องตาตรวจๆ
ผลปรากฎว่า...
.
.
.
เป็น ตาอักเสบ ทั้งสองข้าง
สาเหตุเนื่องจากคอนแทคเลนส์ไปครูดกับตา
ซึ่งพอเป็นตาเอกเสบนี่ก็แย่แล้ว พออักเสบมันก็เลยติดเชื้อง่าย
ก็เลยเป็นสาเหตุให้เป็นตากุ้งยิง
พอหมอพูดจบปุ๊บ คือเราเป็นหนองอยู่ข้างใน ก็บอกว่าต้องผ่าตัดเล็ก
เตรียมตัวขึ้นเขียงได้เลย
(ตกใจมากอะคือไม่เคยผ่าตัด ไม่ได้เตรียมใจด้วยย
)
เหมือนหมอเค้าจะผ่าด้านในของเปลือกตา
ก็เอาผ้าคลุมเสร็จสรรพ เอาอะไรไม่รู้มายึดตาไว้ไม่ให้ปิดตา
แล้วหมอก็บอกมองลงนะครับจะ ฉีดยาชา
ซึ่งขอบอกว่า เจ็บม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!
ตอนนี้นึกย้อนไปยังรู้สึกเจ็บเลยยย YY ตอนผ่าตัดรู้สึกถึงมีดที่กรีดลงมาเลยอะ
แต่ก็ไม่เจ็บหรือรู้สึกอะไรแล้วเพราะยาชา ผ้าตัดเสร็จหมอก็เอาผ้าก๊อซเยอะมาก
มาปิดๆกดๆไว้กันเราลืมตาแล้วก็บอกว่า อีกสองชม.
ถึงจะเปิดผ้าปิดตาได้ ซึ่งหลังจากยาชาหมดฤทธิบอกเลยว่า
ปวดมากก ปวดนรกเลยอะ เป็นช่วงเวลาที่มึนและอึนมาก
ก็ได้ยามาทั้งหมดทั้งมวลเป็น ยาฆ่าเชื้อ ไทลินอลแก้ปวด
และยาหยอดตา ซึ่งหลังจากนั้นบอกเลยว่าชีวิตเราวุ่นว่ายกับยาหยอดตามาก มี
4. การใช้สายตาหนักๆอย่าง เล่นคอม กดไอโฟน บีบี อ่านหนังสือ
เหมือนหมอเค้าจะผ่าด้านในของเปลือกตา
ก็เอาผ้าคลุมเสร็จสรรพ เอาอะไรไม่รู้มายึดตาไว้ไม่ให้ปิดตา
แล้วหมอก็บอกมองลงนะครับจะ ฉีดยาชา
ซึ่งขอบอกว่า เจ็บม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!
ตอนนี้นึกย้อนไปยังรู้สึกเจ็บเลยยย YY ตอนผ่าตัดรู้สึกถึงมีดที่กรีดลงมาเลยอะ
แต่ก็ไม่เจ็บหรือรู้สึกอะไรแล้วเพราะยาชา ผ้าตัดเสร็จหมอก็เอาผ้าก๊อซเยอะมาก
มาปิดๆกดๆไว้กันเราลืมตาแล้วก็บอกว่า อีกสองชม.
ถึงจะเปิดผ้าปิดตาได้ ซึ่งหลังจากยาชาหมดฤทธิบอกเลยว่า
ปวดมากก ปวดนรกเลยอะ เป็นช่วงเวลาที่มึนและอึนมาก
ก็ได้ยามาทั้งหมดทั้งมวลเป็น ยาฆ่าเชื้อ ไทลินอลแก้ปวด
และยาหยอดตา ซึ่งหลังจากนั้นบอกเลยว่าชีวิตเราวุ่นว่ายกับยาหยอดตามาก มี
ยารักษาตาอักเสบ - วันละสามครั้ง
ยาหยอดตา (น้ำตาเทียมแบบใช้แล้วทิ้ง) - ทุกสอง ชม.
ยาหยอดตาแบบเจล - ก่อนนอน ...เพื่อให้ตาชุ่มชื้น
แล้วเวลาหยอดยาหยอดตาแต่ละตัวเนี่ย
พอหยดเสร็จปุ๊บ ตัวถัดไปก็ต้องรออีกประมาณ ห้านาทีถึงสิบนาทีประมาณนี้แหละ
ถึงจะหยอดยาหยอดตาตัวถัดไปได้
และขอบอกเลยว่าสองสามวันแรกต้องกินไทลินอลตลอดเพราะปวดตามากจริงๆ
เวลาจะล้างหน้านี่ลำบากมาก ห้ามใช้น้ำประปา ต้องใช้น้ำดื่ม
แล้วเราอยู่ประจำไงเลยต้องพกๆขวดน้ำเอาไว้สำหรับล้างหน้า
หลังจากนั้นเราก็เลยหยุดใส่คอนแทคเลนส์ไปพักใหญ่ๆ ประมานสองปีเลยแหละ
จะใส่เฉพาะมีงานหรืออะไรจริงๆเท่านั้น บางครั้งก็ไม่ใส่เพ่งตาเอาด้วยซ้ำ = =;
ตอนนี้เรากลับมาใส่คอนแทคเลนส์เหมือนเดิมแล้ว
เราดูแลรักษาอะไรๆดีขึ้นกว่าเดิมมาก เราใช้น้ำเกลือล้างคอนแทคเลนส์หละ
เพราะเรารู้สึกว่ามันสะอาดดี แต่ห้ามใช้แช่เด็ดขาดเลยนะ
สำหรับประสบการณ์และเกร็ดความรู้ในวันนั้นที่เราได้มาจากคุณหมอ คือ
1. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เกินวันละ 6 ชม. จะดีที่สุด
2. หมั่นหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ เพื่อป้องกันการครูดกับผิวตาของเรา
3. เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับตาควรรีบมาพบแพทย์
(เพราะคนเรามีดวงตาแค่คนละคู่เท่านั้นนะ ดูแลกันดีๆ)แล้วเวลาหยอดยาหยอดตาแต่ละตัวเนี่ย
พอหยดเสร็จปุ๊บ ตัวถัดไปก็ต้องรออีกประมาณ ห้านาทีถึงสิบนาทีประมาณนี้แหละ
ถึงจะหยอดยาหยอดตาตัวถัดไปได้
และขอบอกเลยว่าสองสามวันแรกต้องกินไทลินอลตลอดเพราะปวดตามากจริงๆ
เวลาจะล้างหน้านี่ลำบากมาก ห้ามใช้น้ำประปา ต้องใช้น้ำดื่ม
แล้วเราอยู่ประจำไงเลยต้องพกๆขวดน้ำเอาไว้สำหรับล้างหน้า
หลังจากนั้นเราก็เลยหยุดใส่คอนแทคเลนส์ไปพักใหญ่ๆ ประมานสองปีเลยแหละ
จะใส่เฉพาะมีงานหรืออะไรจริงๆเท่านั้น บางครั้งก็ไม่ใส่เพ่งตาเอาด้วยซ้ำ = =;
ตอนนี้เรากลับมาใส่คอนแทคเลนส์เหมือนเดิมแล้ว
เราดูแลรักษาอะไรๆดีขึ้นกว่าเดิมมาก เราใช้น้ำเกลือล้างคอนแทคเลนส์หละ
เพราะเรารู้สึกว่ามันสะอาดดี แต่ห้ามใช้แช่เด็ดขาดเลยนะ
สำหรับประสบการณ์และเกร็ดความรู้ในวันนั้นที่เราได้มาจากคุณหมอ คือ
1. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เกินวันละ 6 ชม. จะดีที่สุด
2. หมั่นหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ เพื่อป้องกันการครูดกับผิวตาของเรา
3. เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับตาควรรีบมาพบแพทย์
4. การใช้สายตาหนักๆอย่าง เล่นคอม กดไอโฟน บีบี อ่านหนังสือ
เป็นการกระตุ้นต่อการเกิดเยื้อบุตาอักเสบ
และในวันนั้นคุณหมอได้บอกกับเราว่าเราโชคดี
เพราะถ้าเรายังคงใส่คอนแทคเลนส์ต่อไป ไม่มาพบแพทย์
แล้วหนองแตกขึ้นมา...
ตอนนั้นหละ ตาก็อักเสบ หนองก็สกปรก สิ่งสกปรกก็กองกันอยู่ในตาเรา
เรามีสิทธิสูญเสียการมองเห็นไปเลย
เพราะฉะนั้นจึงอยากเอาประสบการณ์เก่ามาบอกเล่าสู่กันฟัง
จะได้ระมัดระวังและรักษาความสะอาดดีๆนะคะ
นอกจากนี้คุณหมอยังได้บอกกับเราอีกว่า
*ปัจจุบัน จะพบคนไข้ที่สูญเสียการมองเห็น
เพราะคอนแทคเลนส์
เฉลี่ย 1 คน ต่อ 1 อาทิตย์
ขอให้สาวๆทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ :)
และในวันนั้นคุณหมอได้บอกกับเราว่าเราโชคดี
เพราะถ้าเรายังคงใส่คอนแทคเลนส์ต่อไป ไม่มาพบแพทย์
แล้วหนองแตกขึ้นมา...
ตอนนั้นหละ ตาก็อักเสบ หนองก็สกปรก สิ่งสกปรกก็กองกันอยู่ในตาเรา
เรามีสิทธิสูญเสียการมองเห็นไปเลย
เพราะฉะนั้นจึงอยากเอาประสบการณ์เก่ามาบอกเล่าสู่กันฟัง
จะได้ระมัดระวังและรักษาความสะอาดดีๆนะคะ
นอกจากนี้คุณหมอยังได้บอกกับเราอีกว่า
*ปัจจุบัน จะพบคนไข้ที่สูญเสียการมองเห็น
เพราะคอนแทคเลนส์
เฉลี่ย 1 คน ต่อ 1 อาทิตย์
ขอให้สาวๆทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ :)
Comment
เขียนความเห็นได้เลยจ้า..
Recent comments ความคิดเห็นล่าสุด