[REVIEW] วันฝนตกกับ M.A.C เกือบ 30 ชิ้นในกรุ

74 21
 

สวัสดีค่าา

วันนี้กลับมา Review ให้อ่านกันนะคะ หลังจากไม่ได้เข้ามาใน Jeban
น่าจะเกินปีได้แล้ว เนื่องจากวันนี้ว่าง และนึกขึ้นมาได้ว่าอยากทำกระทู้
Review รวมสารพัดสิ่งเกี่ยวกับเครื่องสำอางแบรนด์โปรดของออน นั่นก็คือ
 "M.A.C" ให้ดูกัน เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ออนใช้ M.A.C มาเยอะมาก
ดังนั้นเลยคิดว่าน่าจะเป็นไอเดียที่ดี เผื่อใครกำลังสนใจแบรนด์นี้อยู่

สำหรับคนที่อ่านในบล็อกของออน หรืออ่านใน Facebook จะพอทราบกัน
อยู่แล้วว่าออนชอบแบรนด์นี้มาก ถึงแม้ราคาจะสูงนิดนึง แต่คุณภาพมันคุ้ม
ราคา เหมือนกับว่าเวลาที่เราซื้อมา โอกาสที่คุณภาพมันจะไม่ดีนั้นมีน้อยมาก
เช่น 80/20 คือ 80% ดี และ 20% อาจจะไม่ดี คุณภาพที่พูดถึงคือความติดทน
ประเภทของเครื่องสำอาง เฉดสี และตัวเลือก่ต่างๆ คือแบรนด์นี้เค้ามีครบ
เรียกว่าเดินเข้าไปแล้วมีทุกอย่างที่ต้องการเกี่ยวกับการแต่งหน้า
(ถึงแม้ว่าบางคนจะต้องเซ็งกับ BA ที่บริการไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ออนมี BA ประจำ
ที่สนิทกันตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ออนเลยได้รับคำแนะนำที่ดีมาตลอดจาก BA ค่ะ)

บอกได้เลยว่าในกระทู้นี้เป็นกระทู้รวมจากกระทู้เก่าๆ บล็อกเก่าๆ รวมถึง
ของใหม่ที่พึ่งได้มาเป็นของขวัญจากเพื่อน จากแฟน และของที่ชอบซื้อเอง
อยู่ตลอด ดังนั้นไม่มีของสปอนเซอร์ใดๆทั้งสิ้นค่ะ

มาเริ่มกันเลยยยย



M.A.C Hydro-Charged Moisturizer Hydratang SPF30 PA+++ (30ml)

กันแดดที่เน้นในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้น และมี SPF30 PA+++



เนื้อกันแดดเป็นสีขาวครีม ทาแล้วซึมหายไปกับผิว ไม่ได้ปรับสีผิว หรือช่วย
อะไรเท่าไหร่ สำหรับออน ตัวนี้เฉยๆ ไม่เวิร์ก เพราะแดดประเทศไทยแรง SPF
ที่จะเอาอยู่ทั้งวันควรเป็น SPF50 PA+++ และที่สำคัญถ้าบางคนผิวหน้ามัน
ใช้ตัวนี้อาจจะยิ่งมันได้ ดังนั้นตัวนี้เฉยๆ ออนยังชอบกันแดดเนื้อมูส ที่มีสีเนื้ออ่อนๆ
เหมือนกับทาแล้วลื่นไปเลย แถมปรับสีผิวเราให้กระจ่างใสนิดนึง และสามารถ
ทาแป้งทับได้เลย โดยไม่ต้องใช้รองพื้นอะไรให้วุ่นวาย



M.A.C Studio Finish Concealer (ราคา 600-700 กว่าบาท)

คอนซีลเลอร์สำหรับปกปิดรอยคล้ำใต้ตา ตัวนี้เป็นเนื้อครีมแบบหนา
เหมาะสำหรับการปกปิดได้ ที่สำคัญตัวนี้ได้รับรางวัลเยอะมาก Beauty Guru หลายๆ
คนก็เลือกใช้ เพราะทาปุ้บ ปิดรอยคล้ำดำได้สนิททันที



เนื้อคอนซีลเลอร์จะเป็นเนื้อครีมหนาแบบนี้ค่ะ เหมาะกับการใช้นิ้วมือเกลี่ยที่สุด
แบบใช้นิ้วปาดไปเลย ไม่ต้องมาแท๊ปๆทีละนิด จะได้ลุคที่ฉาบ เนียน แน่น สำหรับออน
ตั้งแต่ที่ใช้คอนซีลเลอร์มาหลายยี่ห้อ รุ่นนี้ของ M.A.C ปกปิดได้ดีที่สุดค่ะ ทนน้ำ ทนเหงื่อ
แต่ถ้าใครมีปัญหาใต้ตาเหี่ยว หรือแห้ง หรือมีร่อง ควรทาบำรุงพวกอายครีมก่อน เพื่อให้
ทาคอนซีลเลอร์ไปแล้วไม่ตกร่อง



M.A.C Charged Water Skin Hydrating Mist (100ml) ราคา 900 บาท (ถ้าจำไม่ผิด)

ตัวนี้เป็นสเปรย์ฉีดหน้า คล้ายกับน้ำแร่ฉีดหน้าของ M.A.C ที่ออนชอบที่สุด ในบรรดา
น้ำแร่ฉีดหน้าต่างๆที่ลองมา เพราะตัวนี้จะให้ความสดชื่น เติมความชุ่มชื้นกับผิว
ด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญออนจะฉีดตัวนี้ก่อนลงแป้ง (คือฉีดหลังลงพวกกันแดดอะไรแบบนี้)
จะช่วยให้แป้งติดทน แบบทนมากกก ทนสนิท ทนทั้งวัน เช้ายันเย็นเลย และพอแต่งหน้า
เสร็จ ก็ฉีดตัวนี้ทับอีกที เพื่อให้หน้าชุ่มชื้นเบาๆ แต่ไม่มัน และช่วยให้เครื่องสำอางติดทน
ทั้งวัน ตัวนี้ใช้มาประมาณขวดที่ 4 แล้วค่ะ



M.A.C Mineralize SkinFinish (แป้งผสมมิเนรัล + ผสมรองพื้นอ่อนๆ)

บอกเลยว่าแป้งรุ่นนี้ ใช้มาเกิน 4-5 ตลับแล้ว ใช้ติดต่อกันมาหลายปี
และยังหาอันอื่นเทียบไม่ได้ แป้งรุ่นนี้เหมาะกับใช้กับแปรง Kabuki เพราะ
เวลาเกลี่ยแป้ง จะช่วยให้แป้งติดทนมากกกกก ถ้าใช้แปรงธรรมดาจะได้ลุค
ใสๆทั่วไปค่ะ สำหรับออน ออนคิดว่าแป้งตัวนี้มันปกปิดระดับกลางๆ แต่
ช่วยทำให้ผิวเนียนมากกก โดยที่ไม่ดูหนา และไม่หนักหนา



เนื้อแป้งจะเป้นแบบนี้ค่ะ แนะนำว่าถ้าเลือกสีแป้งรุ่นนี้ ควรเลือกเฉดสีให้
สว่างกว่าหน้าตัวเอง 1 เฉดสี เพราะแป้งรุ่นนี้ตอนทาแรกๆจะดูวอก แต่ผ่าน
ไปซัก 10 นาที  แป้งจะเซ็ตตัวค่ะ ดังนั้นถ้าเราเลือกเฉดสีที่พอดีกับหน้าเราลย
ซักพักสีจะดร็อปลง ทำให้หน้าหมองได้ค่ะ



M.A.C PowerPoint Pencil Eyeliner

อายไลเนอร์ดินสอของ M.A.C ที่ออนไว้ใช้เขียนขอบตาล่าง แต่ก่อนชอบมาก
เลิฟที่สุด ใช้มาหลายแท่งอยู่ แต่ว่าตอนนี้เจอตัวอื่นที่ทนกว่า และถูกกว่าแล้ว



รุ่นนี้เป็นดินสอแบบเหลาค่ะ สีที่ได้จะฟุ้งๆ ไม่ใช่เส้นแข็งๆแบบพวก
หัวออโต้ แต่ข้อเสียคือต้องมานั่งหากบเหลาดินสอ หรือพกไว้ตลอด เพราะบาง
ทีเดินทางไปไหน แล้วไม่ได้พกกบเหลาดินสอ เขียนไม่ได้เลย บาดตา TT
จะใช้คัตเตอร์เหลา ก็เสียดายเนื้ออายไลเนอร์อีก เพราะแพง



อันนี้คือสีดำที่ได้ สำหรับขอบตาล่างค่ะ



มาดู Lipstick กันดีกว่า แต่ก่อนออนสะสมลิปสติกของ M.A.C ค่ะ
บ้าซื้อมาก ซื้อตลอด ในรูปข้างบนเป็นเพียงแค่ส่วนนึง เพราะทั้งหมดที่มีตอนนี้
ถ้าจำไม่ผิดคือ 22 แท่งค่ะ แต่บางแท่งก็ให้คนอื่นไป บางแท่งก็หาย หรือ
ตกหล่นอยู่ตามกระเป๋าต่างๆ เวลาที่เปลี่ยนกระเป๋า

เหตุผลที่บ้าซื้อลิปสติก M.A.C มาก เพราะเนื้อติดทนมาก มีเนื้อหลายประเภท
ให้เลือกตั้งแต่ใสๆเบาๆไม่ปกปิด จนกระทั่งปกปิดชนิดล้างเกือบไม่ออก และมี
หลายสีมากๆตั้งแต่อ่อนเกือบขาวสุด จนเข้มปิ๊ดปี๊ แต่สีที่ออนชอบซื้อคือโทน
นู้ด-ชมพู-ส้มค่ะ มาดูกันว่ามีสีอะไรบ้าง เผื่อจะเป็นไอเดียได้

ความแตกต่างของเนื้อลิปสติกของ M.A.C

อันนี้ออนทำความเข้าใจด้วยตัวเองนะคะ จากการที่ใช้มา ถ้าอะไรผิดพลาดไป
ยังไงแจ้งออนด้วยนะคะ จะได้แก้ข้อมูลให้ถูกต้อง อยากให้อ่านตรงความแตกต่างของ
เนื้อลิปสติก เพราะสีบางสีใกล้เคียงกันมาก แต่เนื้อลิปสติกต่างกัน บางสีด้าน บางสีวาว
บางสีเป็นแบบครีม ดังนั้นจะได้พอจะรู้แนวทางว่าแบบไหนที่เราต้องการ

Matte : เนื้อแมท จะเป็นแบบแห้งๆ ด้านๆ แต่จะปกปิดได้ดีกว่า สีติดทน
Sheen Supreme : เนื้อเป็นแบบไม่แห้ง มันๆ ลื่นๆ ค่อนข้าง moist แต่สีติดไม่ทนมาก
Satin : เนื้อจะไม่ค่อย moist แต่ก็ไม่ Matte ปกปิดได้ในระดับนึง แต่ไม่เท่า Matte
Amplified : เนื้อจะลื่นกว่า Satin ในระดับนึง แต่ไม่บาง ปกปิดได้ แต่ไม่เท่า Matte
CremeSheen : เนื้อครีม บาง ไม่ปกปิด เนื้อ Moist ติดไม่ทนเท่าไหร่
Frost : เนื้อบาง และ Moist สีชัด ติดทนในระดับนึง




สี Chatter Box กับ Fan Fare
โทนสีชมพูทั้งคู่ แต่ Chatter Box จะเข้มกว่า หนักกว่า ปกปิดกว่า Fan Fare ค่ะ



สังเกตุจากในรูป Fan Fare จะให้เนื้อดูใสๆ วาวๆ กึ่งทาลิปมันบำรุง หรือลิปกลอสทับ
แต่ Chatter Box สีจะเข้ม แลดู Matte ด้าน และปกปิดสุดพลัง



ลองปาดสีมาให้ดูที่ข้อมือบางส่วน

Cherish Me = สีนู้ดน้ำตาล ปกปิด เนื้อ Matte

Saint Germain = สีชมพูตุ๊กตานมสด ปกปิดระดับกลาง เนื้อ Moist นิดหน่อย
ทาเดี่ยวๆ ถ้าแต่งหน้าไม่เข้ม ไม่แซ่บจริง อาจจะดูหลอก หรือดูดับได้

Please Me = สีโปรด ที่ออนว่าใช้ได้กับทุกคน ไม่ว่าจะสีผิวโทนไหน หรือ
แต่งหน้าแบบไหน เป็นสีชมพูกลางๆ ปกปิด เนื้อ Matte ไม่โดด ไม่อ่อน ไม่เบา
สีนี้ออนใช้บ่อยสุดค่ะ พกติดตัวไว้ตลอด ใช้แทบจะทุกวันเลย

Angel = สีชมพูใสๆ เนื้อ Sheer มีความวาว ไม่ปกปิด เหมาะสำหรับคน
ที่ชอบทาลิปแนวลิปกลอส ลิปมัน วาวๆ อ่อนๆ ไม่เน้นสีมากนัก



M.A.C Happy Hibicus

สีชมพูนมแบบตุ๊กตาญี่ปุ่น สีนี้ถ้าแต่งหน้าอ่อนๆ จบเลย ดับเลย
ต้องแต่งโทน Smoky eyes เข้มๆ หนักๆ เต็มๆ ถึงจะไหวค่ะ เพราะทาไปแล้ว
ออกแนวขาวเลยมากกว่า แทบจะไม่มีความเป็นสีชมพูเวลาทาไป


 

สี : Overtime
เนื้อ : Pro Longwear

ลิปสติกสีชมพูตุ๊กตา เนื้อมันวาว แต่ไม่มาก ติดทนในระดับนึง
กลบสีปากได้เกือบมิด สามารถทาเดี่ยวๆได้ เป็นคล้ายๆการเอาสี
Honey Love ผสมกับ Saint Germain คือจะได้นู้ดที่ไม่ป่วยเกินไป
และไม่ชมพูจนเกินไป


 

สี : Supreme Style
เนื้อ : Sheen Supreme

สีนู้ดน้ำตาลอมชมพู ทาออกมาแล้วจะวาวๆ กำลังสวย เหมาะสำหรับทาทับสีนู้ด
อีกที และสามารถใช้เป็นสีที่ทาได้ในทุกวัน


 

สี : Fashion City
เนื้อ Sheen Supreme

ลิปสติกโทนสีส้ม เป็นเนื้อวาวๆ มันๆ ลื่นๆ ไม่ปกปิด สีติดไม่ทนเท่าแบบ Matte
เป็นสีส้มกำลังสวย เหมาะสำหรับทาทับบนสีนู้ดด้วย ทาได้ในชีวิตประจำวัน

สี : Angel
เนื้อ : Frost

เป็นสีชมพูคล้ายๆกับ Please Me แต่ว่าเนื้อต่างกัน เนื้อรุ่นนี้จะมีความมันวาวมากกว่า
เนื้อ moist มากกว่่า แต่ไม่ปกปิดเท่าสี Please Me ที่เป็นเนื้อ Matte


เปรียบเทียบลิปสติกสี Please Me กับ Angel

- Please Me จะสีเข้มกว่า และเนื้อเป็นแบบแห้งด้าน
- Angel สีอ่อนกว่า แต่เนื้อเป็นแบบ Moist กว่า ไม่แห้ง ไม่ด้าน สีอ่อนกว่าเล็กน้อย


สี : Creme D’Nude
เนื้อ : CremeSheen

เนื้อครีม เป็นสีนู้ดน้ำตาล อมชมพูนิดเดียวจริงๆ เหมาะสำหรับทาทับสีอื่นๆ
เพราะถ้าทาเดี่ยวๆจะดูป่วยได้ ไม่ปกปิด กลบสีปากไม่มิด เนื้อ moist


สี : Innocent Beware
เนื้อ : CremeSheen

ลิปสคิกสีนู้ดน้ำตาลอมชมพูอ่อน เนื้อครีม เนื้อจะชุ่มชื้น ไม่ปกปิด กลบสีปากไม่มิด
ติดไม่ทนเท่าไหร่ แต่เหมาะสำหรับนำมาทาทับลิปสติกเนื้อด้าน หรือลิปสติกที่สีสดไป เพื่อให้
สีดู soft ลงมา

 

เปรียบเทียบสี Innocent Beware กับ Creme D’Nude

- สี Innocent Beware จะอมชมพูกว่า
- สี Creme D’Nude จะออกโทนน้ำตาลกว่า
- แต่เนื้อลิปสติกเหมือนกัน คือเนื้อ CremeSheen

สี : Morange
เนื้อ : Amplified

ลิปสติกสีส้มสด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทาปากสีสดๆ แต่งตัวเปรี้ยวๆ เพราะเป็นอีกสี
ที่คนฮิตมาก เพราะไม่ใช่ส้มแบบสีเปลือกส้ม แต่เป็นส้มแปร๊ด เนื้อไม่แห้ง ติดทน กลบสีปากได้ดี
สีนี้ผสมกับสีอื่นแล้วไม่ค่อยสวย ต้องทาเดี่ยวๆสวยกว่า แต่ก็ต้องมีความมั่นใจสูงมากในการทาเช่นกัน



ทา Morange เดี่ยวๆ สีออกมาแซ่บมาก ปกปิด ติดทน กินข้าว กินน้ำ ไม่หลุด


 

สี : Please Me
เนื้อ : Matte

ลิปสติกสีนู้ดอมชมพู เป็นเนื้อแบบด้าน เป็นอีกสีที่สามารถใช้ได้ทุกวัน
แต่ถ้าใครคิดว่าเข้มไป ลองหาสี Kinda Sexy ดูค่ะ (ออนยังไม่ได้ซื้อ แต่ว่าเคยทาหลายครั้ง
แล้วเวลาไปแต่งหน้ากับ M.A.C เป็นเนื้อด้านเหมือนกัน แต่สีจะอ่อนกว่า) สีนี้เหมาะสำหรับ
คนที่ไม่ชอบทาสีนู้ดน้ำตาล เพราะทาแล้วดูป่วย สีนี้ได้ลุคปากอมชมพู แต่เป็นเนื้อด้าน
ดังนั้นถ้าใครปากแห้ง ปากลอก ปากเป็นขุย อาจจะต้องเลี่ยง หรือตามด้วยลิปกลอสแทน



ทา Please Me เดี่ยวๆ แต่ก่อนทา ออนจะบำรุงด้วยลิปบาล์มก่อนเสมอ
เพื่อไม่ให้ลิปตกร่อง เพราะเป็นเนื้อ Matte โอกาสตกร่องสูง และไม่ให้
ปากเป็นคราบ หรือแห้ง



สี : Saint Germain
เนื้อ : Amplified

ลิปสติกสีโทนชมพู เป็นสีชมพูนม ชมพูตุ๊กตา เหมือนนมเย็นน้ำแดง
สีนี้ส่วนมาก ถ้าแต่งหน้าไม่เข้มทาแล้วจะโดดมาก เพราะสีชัดมาก ควรทาผสมกับสีนู้ด
เข้มอื่นๆ ถ้ากลัวสีลอย หรือแตะนิดเดียว แล้วค่อยๆเกลี่ยให้ทั่วปาก


 

สี : Cherish
เนื้อ : Satin

ลิปสติกสีโทนนู้ดน้ำตาล สีจะค่อนข้างคล้ายกับ Honey Love มากๆ
แต่เวลาทาออกมาจะต่างกัน Cherish จะเข้มกว่านิดนึง และเป็นเนื้อแบบไม่ด้าน
จะมีความมันวาวเล็กน้อย

 

สี : Honey Love
เนื้อ : Matte

ลิปสติกสีโปรดที่ใช้ทุกวัน ใช้มาเข้าแท่งที่ 4 แล้ว เป็นสีโทนนู้ดน้ำตาล ไม่เข้มไม่อ่อน
ทาแล้วได้ลุคด้านๆ ใครปากแห้ง ปากลอก ปากเป็นขุย แนะนำให้เลี่ยง กลบสีปากมิด
แต่อาจจะดูป่วยสำหรับบางคนได้


 

ความแตกต่างของสี Honey Love กับ Cherish

- สีใกล้เคียงกัน แต่ Cherish เข้มกว่าเล็กน้อย
- เนื้อของ Cherish มีความมันวาวกว่า เพราะ Honey Love เป็นแบบด้าน



พูดเลยว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน ที่ปากสีนู้ด ฮิตกันมากๆ Honey Love คือสีลูรัก
ของออน ที่ออนใช้หมดแท่งตลอด และใช้มาหลายแท่งมาก ถึงขนาดซื้อตุน
พกติดตัวตลอด เพราะทาแล้วนู้ดดดดได้ใจ แต่สำหรับออนไม่ป่วย บางคน
อาจจะบอกว่าป่วย ดังนั้นเค้าอาจจะต้องเติมสีชมพูลงไปนิดๆ แต่สำหรับออน
เป็นนู้ดสีสวยมากกกกกก แบบจริงจัง แต่เดียวนี้ไม่ได้ทาปากนู้ดแล้ว เน้น
โทนสีๆมากกว่า Honey Love เลยเก็บไว้ในกรุต่อไป

สี : Blankety
เนื้อ : Amplified

สีนู้ดโทนน้ำตาลเข้ม อมชมพูเลือดหมูนิดๆ เป็นสีสุภาพ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่
ติดทน กลบสีปากมิด



M.A.C สี Ruby Woo

สีแดงสด แต่ไม่แป๊ด เนื้อ Matte ปกปิดสีปากสนิท
สีนี้สวยมากกกกกก สำหรับออน ออนชอบมากกว่า Russian Red
ที่เคยลองมาซะอีก (แต่ไม่ได้ซื้อ Russian Red ค่ะ)



M.A.C สี Pink Nouveau

สีชมพูแซ่บๆ หนักๆ ปกปิด แบบเดินแล้วคนหันมอง
สีนี้อมม่วงอ่อนๆ แต่ก็ยังมีความเป็นบานเย็นอยู่


 

M.A.C Archie’s Girls Pearl Matte Face Powder สี Veronica’s Blush

ราคา counter ที่ไทยน่าจะ : 1,200 บาท (ขึ้นไป)
ราคา counter ที่อเมริกา : 30$ หรือประมาณ 900 บาท

หนึ่งในไอเท็มจาก Archie’s Girls Collection และแน่นอนว่าเป็น Limited Edition ค่ะ
ที่อเมริกาขายหมดเร็วมาก ที่ไทยก็หมดเร็วยิ่งกว่า

ลองแตะสีออกมาได้แบบนี้ สีชัดเจนเลย เนื้อมุกวิ้งละเอียดมาก ส่วนสีชมพูก็สวยมาก
เวลาใช้แปรงปัด ก็จะให้ทั่ว เพื่อที่แปรงจะได้ทั้งสีชมพูมุก และชมพูสดค่ะ ตลับนี้น่ารักจริงๆ

ปัดมาแล้ว จะได้สีชมพูใสๆแบบนี้ค่ะ จะมีความวาวเหมือนเราปัดไฮไลท์
ทับขึ้นมา แต่ว่าอันนี้ปัดโดยใช้บลัชออนตัวนี้อันเดียวเลย อันนี้จะปัดแค่ 2-3 ครั้ง
จะได้สีชมพูใสๆ แบบวันสบายๆค่ะ



แต่ถ้าเราอยากได้สีเข้มๆ เวลาใช้แปรงกดไปที่บลัชออน ก็เน้นให้ถูก
ตรงหัวใจสีชมพูเยอะหน่อย แล้วปัดบนหน้าเรา จะได้สีชมพูลูกกวาดหวาน
แหววแบบนี้ค่ะ ชอบเลยแหละ คุณภาพไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แบรนด์นี้ติดทั่้งวัน
ที่สำคัญชอบความวิ้งที่กำลังดูวาวๆ ใสๆ ไม่เยอะเกินไป บวกกับสีชมพูที่ได้
มันน่ารักมากเลยทีเดียวเชียว


 

M.A.C Powder Blush สี Stunner

สีนี้ใน Counter ไม่น่าจะเหลือแล้วนะคะ เพราะเป็น Special Edition
ต้องลองดูตามอินเตอร์เน็๖ ถ้าสนใจค่ะ


 

สีชมพูอมน้ำตาลอมแดงจริงๆ เป็นสีที่ดูสุขภาพดี ไม่หวานจนเกินไป
ไม่แดงจนเกินไป ไม่นู้ดจนเกินไป คือเหมือนแก้มดูมีเลือดฝาด


เวลาปัดแก้ทสีจะออกมาประมาณนี้ค่ะ ดูสุขภาพดีใสๆ คนผิวสองสีก็ปัดได้
เพราะสีของบลัชออน ไม่ได้ออกโทนชมพูจนเกินไป



M.A.C Eye Shadow # Cork

อายแชโดว์แบบฝุ่นสี Cork จะเป็นสีที่คนนิยมนำมาใช้เขียนคิ้วมากๆ พอๆกับสี Soba
ซึ่งตัวนี้ต้องใช้แปรงหัวตัด ( Angled Brush ) จิ้มที่อายแชโดว์ และเขียนไปตามคิ้วนั่นเอง
สีนี้จะไม่เข้มมาก สามารถใช้เขียนคิ้วได้ และยังสามารถใช้คัดเบ้าตา เพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น
และดวงตาดูลึก คม โต มากขึ้นด้วยค่ะ



M.A.C POWDER BLUSH MATTE # BITE OF AN APPLE

ราคา 900+-
ราคาจำไม่ค่อยได้ค่ะ เพราะปกติจะได้ลด 10% ด้วย เลยไม่ได้จำราคา

อันนี้เป็นบลัชออนในคอลเลคชั่นแ่ม่มดของ M.A.C นะคะ
ดีไซน์ตลับก็น่ารักเลยค่ะ น่าเก็บไว้มากๆ เนื้อบลัชเป็นแบบ matte หรือแบบด้านๆ ไม่มีวิ้งนั่นเอง
ตัวนี้จะเป็นสีออกส้มๆพีชๆ ซึ่งเวลาทาออกมาก็สมชื่อมากๆค่ะ bite of an apple

ส่วนเรื่องความติดนของ M.A.C คงไม่ต้องพูดถึง สาวๆทุกคนคงรู้กันดีว่าบลัชออน M.A.C ติดทนมากกก
ออนไปรับน้อง ลงไปเล่นน้ำสระเกือบๆชั่วโมง แก้มยังไม่หลุดเลย เห็นสีชมพูอ่อนๆ ขนาดปัดด้วย Pink Swoon
จริงๆออนใช้บลัชออนของ M.A.C อยู่หลายสีเหมือนกันเช่น Pink Swoon, Dolly Mix, Dainty, Foolish Me และก็ตัวนี้เลยล่าสุด




M.A.C สี Pink Swoon (ขวา)

บลัชออน เนื้อ Matte สีชมพูนม เป็นสีที่ใช้บ่อยสุดแล้ว เพราะเป็นสีชมพูอ่อนๆ
ปัดแล้วได้ลุคใสๆ เบาๆ ไม่มีวิ้ง ไม่มีขิมเมอร์ เป็นสีที่ขายดีมากของแบรนด์นี้ค่ะ

M.A.C Prep+Prime Highligther

อันนี้แฟนออนซื้อมาฝากจากอเมริกา ไม่ได้ซื้อจาก counter ไทยนะคะ

ราคา counter ไทย : ประมาณ 1,200 บาท
ราคาจากอเมริกา : $24 (ประมาณ 750 บาท)

 

ตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดจะมี 3 สี โดยอีก 2 สีจะเป็นโทนเหลือง ซึ่งเหลืองเกินไปสำหรับออน
บวกกับออนต้องการความผ่อง ออนเลยเลือกใช้สี Radiant Rose ซึ่งจะเป็นโทนชมพูค่ะ
และมีชิมเมอร์อ่อนๆวาวๆในตัว

 

เปิดมาจะเป็นตัวแบบนี้ค่ะ หัวปากกา คล้ายๆกพับของ YSL
อันนี้จะเป็นการหมุนนะคะ เวลาหมุนต้องค่อยๆหมุน ไม่งั้นหมุนรัว แล้วตัว
ไฮไลท์จะไหลออกมาเยอะมาก ทำให้เหลอะ เก็บยาก วุ่นวายค่ะ อันนี้เป็นข้อเสีย
ของพวกอะไรที่เป็นหัวปากกา หัวแปรงแบบนี้ ที่สำคัญถ้าหน้าเราไม่สะอาด แล้วไปทาทับ
หรือใช้รวมกับคนอื่ย แบคทีเรีย สิ่งสกปรกก็จะไปเก็บรวมกันที่หัวแปรงได้ค่ะ ทางที่ดี
ควรเช็ดออกด้วยผ้าขุบน้ำหมาดๆ อาจจะทำความสะอาดได้ไม่หมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย

สี Radiant Rose เป็นแบบนี้ค่ะ อมชมพูเล็กน้อย
และเนื้อไฮไลท์จะไม่หนามาก เพราะไม่ได้เป็นคอนซีลเลอร์โดยตรง คือไม่ได้
เน้นการกลบ การปกปิด แต่เน้นการพราง และช่วยกระจายแสงมากกว่า

อันนี้เป็นวิธีการลงแบบ “น้องแมวเหมียว” ที่ออนลองทำ แล้วชอบนะคะ
ก็จะลงใต้ตา โดยลากมาถึงโหนกแก้มเล้กน้อย เพื่อช่วยในการกระจายแสง
ลงตรงคาง หน้าผากนิดนึง และสันจมูก ค่อยๆใช้นิ้วเกลี่ย แท๊บๆไป ซักพัก
พอลงแป้งทับ ตัวนี้จะช่วยกระจายแสงพอดีๆค่ะ

แต่ว่าถ้าใครจะนำเอามาใช้เป็นคอนซีลเลอร์ก็ใช้ได้ เพียงแต่ว่าไม่เหมาะ
สำหรับคนที่ต้องการการปกปิด อันนี้จะได้แค่ลุคใสๆ กระจายแสงธรรมดา
ไม่ได้กลบแพนด้า กลบรอยอะไรมิดนะคะ

วันนี้ก็จบกันไปเท่านี้นะคะ อันนี้คือเกือบทั้งหมดที่มี เท่าที่หารูปเจอ
จริงๆยังมีหลายอย่างที่ชอบ แต่หารูปไม่เจอ และใช้หมดไปแล้ว
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังสนใจ M.A.C อยู่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
เจอกันใหม่ค่า

 


BbyOnn

BbyOnn

http://www.onnbaby.com
http://www.facebook.com/onnbaby
http://www.youtube.com/onnbaby

Instagram : @onnbaby

Flawless Me by Onnbaby

Instagram @flawlessmethailand
www.flawlessmethailand.com
www.facebook.com/flawlessmethailand

FULL PROFILE