เจอเพื่อนแบบนี้ต้องทำยังไงดี
moounoi5แต่เราสุดๆแล้ว กับการอดทนตลอดระยะเวลาที่รวมงานกันมา
เราอยู่ในกลุ่มที่มีเพื่อนเป็น ท๊อป มาก ที่ หนึ่งของ สาขา นักศึกษาทุน นักกิจกรรม ในคนเดียวกัน ดูมันก็นิสัยดี แต่บางที และ ปล่อยครั้งเข้าใจยากมาก เขาจะเป็นคนโลกสวย ที่แบบว่าดูก็รู้บางทีทำเป็นไร้เดียงสา แต่เราเป็น คนที่เรียน ปานกลาง ไม่เก่ง ก็อาศัยมันติวให้ มันก็ ชิวๆ ติวให้ไม่คิดอะไร แต่พอทำงานกับมันทีไร้ อึดอัดสุดยอด
1.ให้เราทำงาน แบ่งกันมาแล้ว แต่พอส่งให้มันรวมเล่มที่ไร มันไม่เอางานเพื่อนสักคน เอาสิ่งที่ตัวเองทำ บอกว่างานเพื่อนไม่ดี คือ ไม่เข้าใจว่า งานไม่ดี บอกกันไหมว่า งานมันไม่ดีตรงไหน แล้วเอาอะไรมาพิสูจณ์
2.แล้วก็บอกว่าเพื่อนไม่ช่วยทำงาน ทำคนเดียวเหนื่อยมาก
3.ไม่ค่อยบอกงานใคร แบบว่าต้องการวัดใจว่าเพื่อนจะถามไหม ถ้าเพื่อนถามก็จะออกแนวว่า ไม่มีอะไรมาก เราได้
แล้วล่าสุดที่ทนไม่ได้ เพราะ เราทำงานกับเพื่อนอีกคน สมาชิกก็จะมี 3 คน เพื่อนที่เรามีปัญหาคนนี้จะเป็นรวมงานอีกที
เรากับเพื่อนอีกคนก็ทำงานแบ่งกันคนละครึ่ง เราก็ทำส่วนของเราเสร็จแล้ว ก็ส่งให้เพื่อนอีกคนทำต่อ เราก็อธิบายว่า ต้องทำต่อไปเลย โดยงานเป็น พาวเวอร์พอย เราก็แต่งเป็นไกด์แล้วเผื่อมันจะแต่งตามเลย หรือ ถ้าไม่แต่งก็บอกมันส่งมา "จริงๆทำคนเดียวได้ แต่มอบงานแล้วเราต้องให้เกิยรติคนอื่่นไหม" แต่เพื่อนเรามันไม่ได้ทำงานต่อจากเรามันดันไปเปิดอันใหม่ทำใหม่ เนื้อหาต่อจากเราจริง แต่มันคนละไฟล์ เราก็ถามงานจากเพื่อนเพื่อส่งไปรวมงาน มันก็บอกจะส่งให้แต่ก็ไม่ได้
จนวันอาทิตย์ คนรวมงานที่มีปัญหากับเราก็ส่งงานมาให้ มันงะไม่รู้ว่าเราแบ่งกันอย่างไง แต่ มันไม่มีหัวข้อเรา มันก็บอกว่าไม่เห็นมีหัวข้อนี้เลย เราก็เปิดดูทำไมไม่มีหัวข้อเรา เลยโทรไปหาเพื่อนที่ทำร่วมกัน ก็รู้ว่าเป็นยังไง เราก็ต้องแก้ แล้วรู้ตอนกลางคืน ตี 1 แล้วง่ะ ก็ต้องเป็นวันจันทร์ที่ได้ป่ะ ใครจะทำทัน เราต้องเอาของเพื่อนที่ทำด้วยกันมาแก้ใหม่ ตกแต่งใหม่ ใส่ลูกเล่น เปลี่ยนฟรอนต์ใหม่ แล้วเพื่อนที่ทำรว่มกันก้ไม่อธิบายว่าทำไมงานมันช้าให้คนรวมงานฟัง แล้วคนรวมงานก็ติดต่อเราได้คนเดียว เราเลยเหมือนโดนใส่อารมณ์เต็มที่
แล้วเราทำทั้งวันจริงๆ งานละเอียดมากนะ เพราะมหาลัย อาจารย์ท่านนี้บอกเลยว่า ไม่ดีไม่ให้พูดต่อ ไม่มีแก้ตัว มหาลัยแล้ว เพื่อนที่เรามีปัญหามันก็ทักเฟชมาว่า งานเป็นไงบ้าง เราก็บอกไปว่า ต้องทำใหม่ง่ะ แล้วมันก็พิมมาบอกว่า "เรารอนานแล้วนะ" คือ เราเลยตอบไปว่า เราผิดหรอ มันก็ตอบว่าเราว่าแกสักคนยัง แต่มันรู้สึกเลยว่า เหมือนเราไม่รับผิดชอบ ต่อการทำงานมากๆตั้งแต่ที่ไม่มีหัวข้อของเราในงานที่เพื่อนส่งไปละ เราเอากลับมาแก้ เพื่อนที่ทำด้วยกันมันก็ไม่อธิบาย มีการบอกว่า เออ ส่งมาเดียวแก้เอง แค่ก๊อบวาง คือ ??? เราไม่รอไม่หวังพึ่งเลย เราเลยทำเองเพราะรอมันกว่าจะทำก็ดึกมาก ไม่ทันส่ง แล้วไม่กี่นาทีต่อจากนั้น เป็นการขึ้นโพสเหน็บเรื่องเราว่า ความรับผิดชอบ ต้องรับผิดและชอบ ด้วย ?? มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกแย่
เราไม่ได้เถียงว่าทำไมงานช้า เพราะเราไม่อยากเอาชัยชนะว่าเราจะถูกหรือไหม ให้เราเป็นคนถูกโดนที่เพื่อนเราผิดในสายตาคนอื่นมันก็ไม่ใช่ป่ะ เราก็เฉยๆไม่ว่าอะไร แต่ไม่คิดว่าเพื่อนมันจะขึ้นโพสเหน็บ เสียความรู้สึกที่สุด
ที่บ้านก็ปลอบใจว่า ยังไงต้องรวมงานกันอีก ให้อดทนอีกหน่อยก็จะจบแล้ว แต่ คือเราทำอะไรไม่ได้เลย ผิดตลอด เหมือนว่า เราพูดอะไรใครไม่เชื่อ แต่พอมันพูดอะไรคนอื่นเชื่อ บางคนไปเจอกับตัวแล้วก็มาบอกเราว่าเออ กูเชื่อมึงละ แต่กว่าจะมีคนเชื่อเรานิเป้นปี
ใครเคยเจอบ้าง อยากรู้ว่าจะต้องทำยังไงดี เพลียมาก
Discussion (5)
เราเคยเจอลักษณะนี้ค่ะ แบบว่าเขาเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง พอเวลามีงานใช้ให้เราทำ พอเรามาอ่านจริงๆส่วนที่เราทำหายไปไหนไม่รู้ (หรือเราโง่นะ) หลายครั้งค่ะ หรือบางทีเขาก็ไม่บอก บางทีคนที่เก่งกว่ามักเป็นคนสั่งงานทุกอย่างว่าเธอทำอันนี้ๆ เราก็ทำไป แต่แล้วนางก็เอาไปบ่นให้คนอื่นๆฟัง ว่าเพื่อนๆไม่ช่วยนางทำงานเลย คนอื่นเขาก็ว่า แต่จริงๆแล้วคือนางแบ่งให้คนอื่นส่วนน้อย แต่นางเป็นคนทำเยอะ พอเราจะช่วยนางก็ไม่เอา กลัวงานไม่ดีพอ ซึ่งเรื่องแบบนี้ เราไม่ได้มีทางแก้นะคะ เพราะเป็นคนที่พูดไปทีเดียว แล้วเดี๋ยวจบความเป็นเพื่อนทันที ก็เลยพูดแบบถนอมน้ำใจมากกว่ ประมาณว่า แกทำเยอะแล้ว แล้วก็เห็นบ่นๆ เอามาให้เราทำบ้างสิ ให้เราทำนิดเดียวเอง อะไรประมาณนี้ ซึ่งการที่เขาจะเอาหรือไม่เอาของเราคราวนี้มันก็พิสูจน์กันว่าใครเป็นคนที่ก่อปัญหา
ส่วนในกรณีเพื่อนคนที่คุณทำงานต่อคุณ จขกท. คือ การที่เราจะไปหวังให้คนอื่นได้ดั่งใจเราทุกอย่างแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยมันเป็นเรื่องยากนะ อีกอย่างการที่เราแต่งไกด์ไป มันเหมือนเป็นการบังคับทิศทางของเขาค่ะ คือเรื่องแบบนี้มันแก้ไม่ได้หรอกนะแต่ถ้าคราวหน้าก็หาวิธีเช่นเราแต่งไปก่อน ถ้าเนื้อหามันจำเป็นต้องต่อกันจริงๆก็ส่งไปให้เขาดู แค่บอกว่าอันนี้ของเค้านะ ของตัวเองเนื้อหาต่อจากนี้นะ ซึ่งมันก็บอกกลายๆ...
วันหลังก็ควรเตรียมความพร้อมให้เร็วกว่านี้ค่ะ เพื่อว่าเผื่อผิดพลาดจะได้แก้ไขทันเวลา อีกอย่างเราก็ควรเตรียมสแตนบายงานเราไว้ด้วย อย่างเช่น ของเราถ้ามีพรีเซ้นต์งานจะเตรียมงานของกลุ่มที่เอามารวมกัน (แต่เราไม่ได้มีหน้าที่) และเตรียมงานส่วนของเราก่อนเอาไปรวมด้วย เผื่อบางทีเพื่อนผิดพลาด ไฟล์เราเสีย แล้วจะลำบาก
by Horizm by mtfnmtfn
เคยเปิดใจคุยกันแล้วเรื่องนี้เพราะไม่ใช่แค่เราที่คิดว่า เพื่อนคนนี้ไม่ให้เกิตรติในการทำงาน เพื่อนเคยไม่ชอบและไม่ยอมช่วยทำงานไปเลย แล้วเพื่อนคนนี้ก็เหมือนว่าไปบอกต่อคนอื่นว่าเพื่อนไม่ใช่ ว่าเพื่อนมีอะไรไม่บอกต่อหน้า คือ เราไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่คือถ้าบอกไปแล้วไม่รับความจริง ไปปรับปรุงตัวนี้ไม่รู้จะพูดซ้ำๆทำไม แล้วเวลาที่เปิดใจ เหมือนว่าเขาก็มั่นใจมากว่าเขาเก่ง เขาถูก ทุกคนต้องพึ่งเขา แต่การที่ทุกคนเขากลับมาเพราะคนอื่นมองว่าเขาเห็นแก่ตัวไม่ช่วยงาน เราอดทนตั้งแต่เพื่อนในกลุ่มครบประมาณ 14 คน จน ณ ตอนนี้เหลิอ 4 คน เราไม่เคยทิ้งเพื่อนไปไหน มาทำด้วยกัน ก็เจอแก้แบบนี้แล้วหลายครั้งที่ มอบงานไป แล้ว พอส่งไปเอางานเพื่อนออก อธิบายว่าทุกคนเขาทำมาเหนื่อย เพื่อนคนนี้จะเป็นคนออกคำสังทั้งหมด ถ้าใครสั่งเธอจะไม่ยอมรับความคิดใคร และหลายครั้งก็โดยอาจารย์ต่อว่าเนื้อหาไม่ครบ ไม่ครอบคลุมบ้าง ก็เป็นในส่วนที่เขาตัดเนื้อหาเพื่อนออกบ้าง และก็ไปแก้ทำเองหมด แต่ก็เหมือนเดิมบอกไปก็เท่านั้น มันไม่ได้ว่าทำงานเสร็จแล้วหายละซิ เหมือนเป็นการสะสมเรื่อยๆจากที่เราสังเกตพฤติกรรม เหมือนว่าจะยิ่งเก็บไปทำคนเดียว ยิ่งไม่ไว้ใจ ไม่มอบงานให้เพื่อน ยิ่งนานเหมือนสงครามเย็นเริ่มพูดกันน้อยลงๆจนเพื่อนทยอยออกจากกลุ่มทีละคน
แล้วเหมือนทุกอย่างเราเป็นคนกลางที่ต้องสื่อสารกับเพื่อนถ้าต้องทำรายงานที่มันมีคนเยอะๆ เราเลยต้องรับผิดชอบเพิ่มไปอีก แต่เหมือนว่า เขายิ่งไม่ไว้ใจเรา เหมือนนกสองหัวเข้ากับคนได้ทุกคน มีอะไรเขาจะไม่ค่อยบอกเรา
จากเหตุการณ์เราบอกไปตอนนั้นเราอธิบายหมดแล้วว่า ทำไมส่งช้า ตั้งแต่ตอนแรก เราก็บอกไปแล้ว และเราคิดว่าไม่ควรจะย้ำว่าทำไมช้า เพราะเหมือนเป็นการโยนความผิดไปให้เพื่อนเพราะเราทำงานร่วมกันก็ต้องรับผิดชอบด้วยกัน เหมือนเวลาเราถามงานเขา แล้วเขาตอบกับเราว่า "เราว่าเรื่องนี้เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ นี้ก็มหาลัยแล้ว "เราก็ใช้เหตุผลนี้เหมือนกัน คือเราไม่พูดแบบนี้เพื่อรักษาน้ำใจ แต่เราเลือกที่จะเฉยไว้ ก็ไม่คิดว่า เขาจะมาตั้งโพสว่ากัน อย่างที่เราบอกว่า เราจะเอาชัยชนะมาทำไม ทุกคนจะจำชัยชนะเราได้กี่นาที แล้วได้มาเราทำให้เพื่อนเป็นคนผิดเราจะเอามาทำไม
เราทำงานเผื่อเวลาไหม เราบอกเลยว่าสำหรับเราทำเผื่อตลอดแต่งานที่มันต้องทำกันหลายคน เรายิ่งต้องเร่งทำให้เสร็จไว เพื่อส่งงานต่อให้เพื่อน แต่เพื่อนไม่รู้ว่าต้องอธิบายแค่ไหน ย้ำแค่ไหน ถึงจะเข้าใจงาน มันเป็นงานที่ง่ายๆมาก แต่ดันไม่เข้าใจ แล้วเพื่อนร่วมงานก็มาเหวี่ยงเราว่า แค่ ก๊อบวางไม่ยากเลย เสียความรู้สึกหนักไปอีก เราต้องแก้ฟร้อน ปรับฟร้อน ใส่ลูกเล่น แต่งภาพ จัดเนื้อหา และต้องอ่านเนื้อหา เราเลยว่า สรุปแล้วเราผิดเองแหละ ที่ทำงานช้า คิดไปก็ปวดกระบาลแล้ว เห้อเพลีย
#ขอบคุณนะคะสำหรับข้อคิดดีๆในการแก้ปัญหา
แปลกใจว่าทำไมไปโกรธคนที่บอกว่ามีปัญหาด้วย (คนรวมงาน) แต่ไม่โกรธคนที่ทำงานด้วยกัน (คนที่เอางานไปทำต่อไม่ถูก) ละคะ งานที่มันเป็น sequence ต้องทำงานต่อๆ กัน คนสุดท้ายที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบรวมงาน ก็ต้องมาล่าช้า เพราะว่างานก่อนหน้ามันรวมไม่ได้
การที่เราจะฝากฝังแบ่งงานให้คนอื่นทำ มันก็คงคาดหวังบ้างว่าออกมาจะต้องถูกต้องครบถ้วน
ซึ่งงานในครั้งนี้ คนรวมงานคงมองว่าทางพวกคุณจขกท.วางใจไม่ได้ ไม่ใช่ว่าถูกต้องแต่ออกมาไม่ดี แต่มันไม่ถูกอะ เนื้อหางานมันหายไป ก็คงจะหงุดหงิดเป็นธรรมดาจริงไหมคะ ซึ่งจุดนี้เค้าคงไม่ได้มองแล้ว่ว่าใครเป็นคนช้า แต่มองว่าทีมของคุณจขกท.ทำงานไม่เสร็จตรงตามคาดหมาย
ในทางกลับกันคุณจขกท.ฝากฝังงานให้เพื่อนทำต่อ แต่เพื่อนไม่ได้ทำให้ถูกต้องตามที่คาดหวังไว้ คุณเองก็ต้องหงุดหงิดและเหนื่อยกับสิ่งที่ตามมา เพราะงั้นทางแก้คราวต่อไป คือ หากต้องทำงานร่วมกันอีก ควรจะมีการเผื่อเวลาทำงานมากกว่านี้ มีการติดตามงานกันให้มากขึ้น ว่าทำถึงไหน ถูกไหม ถ้าไม่ถูกก็จะให้ส่งให้กลับไปแก้ใหม่ คุณจขกท.ก็ไม่ต้องมานั่งแก้รีบๆ เอง
อันนี้แค่เรื่องเรียนเองนะคะ ถ้าออกมาทำงาน บางครั้งการร่วมงานกัน เจอทั้งคนที่มีประสบการณ์มากกว่าหลายปีและคนที่ประสบการณ์น้อยกว่าหลายปี ทำให้เกิดความเลื่อมล้ำในงานแต่ละส่วนขึ้น การเผื่อเวลา ควบคุมและติดตามงาน เพื่อที่จะแก้ไขชิ้นงานได้ทันเวลา เป็นการป้องกันปัญหาในการทำงานจริงค่ะ
เราว่าเพื่อนจขกท.เป็นพวกปล่อยวางไม่เป็น ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำงานด้วย แบบว่าทุกอย่างต้องได้มาตรฐานตามที่เค้าหวังไว้ พอไม่ได้อย่างที่หวังก็จะลงมือทำเองจนพอใจแล้วก็นึกโทษคนอื่นไปด้วยในใจ(เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนี้ค่ะ ทำตัวไม่ดีใส่เพื่อนไปหลายครั้งเีชียว กว่าจะมาสำนึกได้ก็นานพอดูเลยค่ะ)
อันนี้คือความคิดเราเมื่อก่อนค่ะ
เพื่อนทำงานจริงๆ แต่เรากลับรู้สึกว่างานมันไม่ดีเลย-->ถ้าเราทำเองคงดีกว่านี้ --> นั่งแก้งานเพื่อน
แก้ไปหงุดหงิดไป ทำไมทำงานชุ่ยแบบนี้นะ เราทำคนเดียวเลย ลำบากจัง
คนแบบนี้ส่วนใหญ่พองานเสร็จเค้าก็หายโกรธนะคะ ไอ้ที่บ่นว่าลำบากทำคนเดียว เดี๋ยวเค้าก็ลืมค่ะ
(แต่อาจทำให้เพื่อนๆเสียความรู้สึก) ลองบอกให้เค้ารู้ค่ะ ว่าพวกจขกท.ก็ทำงานเหมือนกันนะไม่ได้
มีแต่เค้าที่ทำคนเดียว คราวหน้าลองเอางานมาให้เค้าดูเรื่อยๆอ่ะค่ะ เค้าจะเริ่มไว้ใจคนอื่นบ้าง แล้วก็
เวลาที่ได้โปรเจคให้เปลี่ยนจากคำว่า "มีอะไรให้เราช่วยมั้ย" เป็น "เราควรจะทำอะไรกันดี" เพราะคำว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย มันให้ความรู้สึกว่า ความรับผิดชอบทุกอย่างต้องไปอยู่ที่เจ้าตัว เค้าต้องตัดสินใจทุกอย่าง
ตอนนี้จขกท.ใจเย็นๆนะคะ พออารมณ์เย็นแล้วลองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้ืงหมดให้เจ้าตัวฟังค่ะ ว่าทำไมถึง
ส่งงานได้ช้า เจ้าตัวเค้าก็ผิดที่ยังไม่ทันถามอะไรจขกท.เลยก็ใส่อารมณ์ซะแล้ว แถมยังเอาไประบายลงเฟสบุคอีก แต่มาอารมณ์ร้อนใส่กันทั้งคู่ไม่ดีแน่ค่ะ
พองานคราวหน้า็ก็ลองทำคร่าวๆแล้วถามความเห็นเค้าดู ว่าโอเคมั้ย ควรแก้ตรงไหนรึเปล่า
เค้าจะได้ไม่เอางานไปแก้คนเดียวให้ตัวเองเหนื่อยเปล่า(+เพื่อนๆเสียความรู้สึก)
ทั้งหมดนี้เราพิมพ์จากความเห็นเราที่เมื่อก่อนเป็นคนแบบนี้นะคะ ถ้าหากทำให้จขกท.ไม่พอใจก็ขอ
โทษด้วยจริงๆค่ะ
เข้าใจเลยค่ะ พวกเก่งแต่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็นน่ะ เคยมีเพื่อนมาระบายกับเราว่าเพื่อนมันน่ะเป็นพวกติดเพอร์เฟค ของคนอื่นไม่เอา เอาแต่ของของตัวเอง คนอื่นทำมาก็บ่นว่าทำไม่ดีและก็ทำใหม่เอง แล้วก็มาบ่นว่าเหนื่อย ไม่มีคนช่วย งานอะไรต้องเอาภาษาอังกฤษ ไม่เอาภาษาไทยเพราะมันง่ายไป พอไปนำเสนอโดนอาจารย์ด่ากลับมาแหลกลาน คุณเอาอะไรมาให้เพื่อนคุณดู ผมอ่ะดูเข้าใจ ผมรุ้เรื่อง แต่เพื่อนคุณล่ะ มันเข้าใจหรือป่าว (มันไม่ใช่อังกฤษในชีวิตประจำวันนะค่ะ มันคือศัพท์เฉพาะ ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นอ่ะค่ะ เปิดแปลในgoogle ยังไม่มีเลย = = ) ชีเลยหน้าเหวอไปเลย เพื่อนเรามันก็ระบายความอัดอั้น เข้าใจความรู้สึก จขกท นะค่ะ