คิดหนัก...ระหว่างศักดิ์ศรีกับมิตรภาพ (เรื่องยาวหน่อยนะคะ)
yol14ในการลดตำแหน่งลง เราเป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ด้วยความที่เราเองก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนั้น (ตำแหน่งเดิม) แล้ว เราก็ไม่ได้โวยวายอะไร เงินเดือนหายไปส่วนหนึ่งก็ไม่คิดจะโวยวายอะไร ไม่คิดจะฟ้องกรมแรงงานหรือศาลแรงงาน เราได้แต่ห่วงหน่วยงานว่าจะหายนะ เพราะว่ามันมีการใช้จ่ายอะไรที่สุรุ่ยสุร่าย และยักยอก/หมกเม็ดกันเยอะจนน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนเก่งๆ หลายๆ คนที่เป็นคนซื่อตรงถูกปลดออกจากตำแหน่ง ส่วนคนที่ได้รับการโปรโมทมานั้นก็ขึ้นมาเพื่อ "ร่วมด้วยช่วยกัน" คือ ส่งส่วยกันอย่างเป็นระบบ ไม่ต้องมีความสามารถในการทำงานแต่ถ้าใช้ช่องว่างทางกฎหมายอำนวยประโยชน์ให้นายได้ก็ได้รับการโปรโมทขึ้ันมา ... อีกอย่างถ้าเราลุกขึันมาโวย มันก็ดูไม่ดีเพราะอาจถูกมองเป็นผู้เสียประโยชน์ (ในสายตาคนทั่วไปที่คิดว่ามีตำแหน่งบริหารแล้วดี ซึ่งเค้าไม่ได้รู้ความจริงว่าเราไม่ชอบเลย) อีกอย่างก็กลัวด้วยว่าไปท้วงติงมากๆ เดี๋ยวจับเรากลับไปอยู่ที่เดิม ... แต่เราก็มีความรู้สึกที่ไม่ดีกับเจ้านายคนนี้และบอร์ดคณะนี้ด้วย เรารักหน่วยงานมาก ทำงานมานานมากแล้ว ไม่อยากเห็นความวิบัติ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้อย่างที่บอกแหละ
ทีนี้ในจุดที่เรามาอยู่ใหม่ มันก็เป็นที่ๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จักหรือเห็นคุณค่าเท่าไหร่นัก (ก็ทำเงินไม่ได้นี่นา) ถูกมองเป็นเหมือนลูกเมียน้อย ในหน่วยงานเดียวกันก็ดูถูกดูแคลน คนที่โดนกระทำแบบเดียวกันที่มาอยู่ด้วยกันตรงนี้ก็เลยตกลงกันว่าเราจะผนึกกำลังกัน เราจะไม่แก้แค้นหรอก แต่จะใช้ความสามารถที่ทุกๆ คนมีอยู่นั่นแหละทำงานกันให้เต็มที่ แม้ว่าจะถูกส่งมาแต่งานที่ "ใครๆ ก็ไม่อยากทำ" ก็ตามที ทุกคนยังยืนยันจะพิสูจน์ความสามารถของตนเอง แต่ปัญหาเกิดตรงที่ เหมือนหลายคนมีปมในใจในเรื่องที่ขาดโอกาส แล้วบางคนก็เหมือนไม่อยากอยู่ อยากกลับไปทำงานบริหารเหมือนเดิม
ท้าวความมายาวเพื่อให้เห็นบรรยากาศแวดล้อมของเรา คราวนี้จะเล่าถึงประเด็นปัญหาจริงๆ ซะที ... ตอนนี้กำลังจะมีรายการ "เอาใจ" บอร์ดบริหารอีกครั้ง (ไม่รู้จะขอความเห็นชอบอะไรจากเค้าอีก) ด้วยการจัดให้ไปเที่ยวเมืองนอกอีกแล้ว ซึ่งในบรรดาคนที่มีชื่อในคณะเดินทางก็ล้วนแต่ "พรรคพวก" เจ้านายทั้งนั้นแหละ แต่บังเอิญว่าในช่วงที่จะต้องเดินทางมันดันมีภารกิจสำคัญของหน่วยงานเข้ามาที่ผู้บริหารหลายๆ คนต้องอยู่ ก็เลยกลายเป็นว่าเกิดที่ว่าง เจ้านายก็เลยโยนมายังแผนกของเรา ให้คนในแผนกของเราเดินทางไปแทนคนที่ไปไม่ได้ ทีนี้ในบรรดาคนที่อยู่ในแผนกด้วยกัน (ซึ่งมีปมในแง่ของการขาดโอกาส) เค้าก็อยากไปกัน มีพี่คนหนึ่งในแผนกซึ่งสนิทกับเรามากแสดงอาการอยากไปมาก แต่เราไม่อยากนี่นา สำหรับเราแล้วเราถือว่า "อดอย่างเสือ ดีกว่าอิ่มอย่างหมา" ตอนนี้เลยเครียดมาก คือเราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมต้องเอาตัวมาผูกกับเรา ถึงเราไม่ไป หน่วยงานก็ให้พี่เค้าไปอยู่ดีแหละ ... ตัดสินใจยากมากเลย คือ ถ้าเราไม่ไปเราก็อาจจะเสียเพื่อนร่วมงาน พี่เค้าก็ดีกับเรานะ แต่ถ้าเราไม่ไปเค้าอาจรู้สึกเคว้งแล้วงดเดินทาง แล้วก็หมางใจกันว่าเราทำให้เค้าเสียโอกาส แต่ถ้าเราไปเพื่อรักษามิตรภาพ เราก็เหมือนลดศักดิ์ศรีตัวเอง ชีวิตต่อจากนี้ก็คงจะเสียความนับถือตัวเองไปเลย แล้วก็คงไปแบบเป็นทุกข์ (แผนกที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของบอร์ดมีหนึ่งคนที่เจ้านายให้มาเป็นใหญ่ในสายพนักงานเค้าเป็นคนชอบเอาบุญเอาคุณกับคนอื่นๆ เราเชื่อว่าเค้าจะต้องมาอ้างบุญคุณว่ามีส่วนในการให้แผนกเราได้ไปนอกแน่นอน)
บอกตรงๆ เราไม่เข้าใจทำไมพี่เค้าถึงอยากไปมาก พี่เค้ารวยมากนะ ขับรถยี่ห้อหรูเลยแหละ จะบินไปเที่ยวเองสักเดือนละสองรอบก็ยังได้ เราจนกว่าตั้งเยอะเราน่าจะอยากไปมากกว่าเค้า เรากลับมองว่าความนับถือตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาไว้ให้ได้
ตัดสินใจไม่ถูกเลยอ่ะ เครียด
Discussion (4)
แต่เรามองว่า ถ้ายังไง มีโอกาสไป ก็ไปก็ดีนะคะ เผื่อจะได้ไปเห็นอะไรแปลกใหม่ เอามาช่วยพัฒนาองค์กร พัฒนาประเทศ ใช้ศักยภาพตัวเองที่มีอยู่ได้มากขึ้น ตามความตั้งใจจริงๆ ของการไปดูงาน และ การได้ไปคลุกคลีกับ คนที่เราไม่ชอบขี้หน้า เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ถ้าคุณยอมลดศักดิ์ศรี เพื่อจะได้มองเห็นอะไรกว้างขึ้น ได้รู้จักคนอื่นในแง่มุมอื่นๆ บ้าง กลับมาอาจจะเปลี่ยนมุมมองต่อผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ก็ได้ แถมได้ประสบการณ์อีก
ในคนที่เลวที่สุด ก็ยังอาจจะมีแง่มุมดีๆ ที่เราไม่รู้ก็ได้ แต่เราเลือกที่จะมองเค้าว่า เล่นพรรค เล่นพวก โกง กินเงิน
จะอิ่มอย่างหมา หรือหิวอย่างเสือ เป็นสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเอง แล้วบอกตัวเองว่า ฉันเป็นเสือ ดีกว่าเธอเป็นหมา
ทั้งที่จริงๆ หมากะเสือ มันก็สัตว์สี่เท้าเหมือนกัน เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน หมาฉลาดกว่าเสือในบางแง่ด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยมันก็รักชีวิตตัวเอง เอาท้องอิ่มได้ เสือเป็นเจ้าป่าซะเปล่า หาอะไรกินไม่ได้ปล่อยตัวเองท้องหิว.....
จริงๆ เรื่องนี้แก้ไม่อยาก ถ้าคุณไม่อยากไป ก็บอกเหตุผลไป ถ้าบอกเหตุผลจริงๆไม่ได้ ก็อ้างไปที่บ้านไม่มีคนอยู่ หมาป่วย what ever ที่สามารถ คนเราไม่สามารถบังคับใจใครได้หรอกค่ะ คนที่ไม่เข้าใจเหตุผลของคนอื่นก็เห็นแก่ตัวเกินไปละ ไม่ควรจะใส่ใจหรือแคร์อะไรมากค่ะ
ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป จบค่ะ
เลือกตามใจเราค่ะ ถ้าเราไม่อยากไปมันก็ไม่สนุกเนอะ แต่ก็คุยกับพี่เค้าดีๆค่ะว่าไม่อยากไปจริงๆ ถ้าสนิทกันต้องเข้าใจกันและรับฟังกันค่ะ แต่ถ้าอีกแง่นึงถ้าการไม่ไปของคุณทำให้คุณทุกข์ใจมากกว่าการไปก็เลือกสิ่งที่คิดว่าสบายใจที่สุดละกันนะคะ อย่าเครียดนะคะ สู้สู้
อยากไปก็ไปค่ะ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เลือกทางที่เราสบายใจ ไม่ต้องสนใจเค้า ตัวไม่ได้ผูกกัน
ลองอธิบายให้เค้าดูว่าทำไมเราไม่อยากไป
แล้วก็ลองถามเค้าดูว่าทำไมเค้าอยากไปนัก
แต่สุดท้ายตัดสินใจยังไงก็ไม่ควรต้องเสียเพื่อนเลย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยยยยยยยย
ถ้าเราตัดสินใจไม่ไปแล้วเค้าคิดว่าเค้าเสียโอกาสเพราะคุณ ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ
ถ้าเรื่องแค่นี้ต้องเสียเพื่อน ก็แสดงว่าเค้าไม่ได้อะไรกับเราเท่าไหร่หรอกค่ะ
มิตรภาพ มันไม่ใช่ การที่เราต้องยอมทำตามใจอีกฝั่งทุกอย่างทั้งๆที่เราเองก็ลำบากใจ นะ