แต่งเป็นสาว Flapper ไปดู The Great Gatsby กัน

สวัสดีค่ะ วันนี้ตื่นเต้นกับหนัง The Great Gatsby ของ Baz Luhrmann มากกกก ไปดูมาแล้ว ปลื้มคอสตูมและโปรดักชั่นที่สุด! เลยอยากลองแต่งลุคแบบ flapper ดูบ้าง ใครที่ชอบเมคอัพน่าจะคุ้นตาสไตล์นี้กันอยู่แล้ว เพราะก็ถูกเอามาเป็นแรงบันดาลใจอยู่เรื่อยๆทั้ง editorial หรือ runway อย่างของ John Galliano SS 2011
 
 


วันนี้เลยขออนุญาตโชว์ลุคที่ตัวเองลองแต่งตัวเองเล่นๆ (เลยไม่มีฮาวทูเป็นขั้นตอน แต่เผื่อใครอยากลองแต่งเล่นดูก็จะเขียนอธิบายไว้นะคะ) ก่อนจะแต่งก็เปิดหลายเว็บรีเสิร์ชดู อ่านแล้วก็อยากเล่าเรื่องเมคอัพในยุคนี้ให้ฟังกันด้วยนิดหน่อย ถ้าใครไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ก็ข้ามไปได้เลยนะคะ :))))

สมัยก่อน 1920 จะมีสไตล์ผู้หญิงที่นิยมกันเรียกว่า Gibson Girl เรียบร้อย อยู่ในขนบที่ดี อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ไม่แต่งหน้า ไว้ผมยาวแล้วเกล้าขึ้น

 

เครดิตภาพจาก Wikipedia
 

แล้วทำไมผู้หญิงยุค 20′s ลุกมาแต่งหน้าจัดกันมาก?
อันดับแรก สภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงมีอิสรภาพมากขึ้น เริ่มออกไปทำงานนอกบ้าน (ก่อนหน้านี้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้หญิงเลยต้องออกมาทำงานแทนผู้ชายที่ไปเป็นทหารหมด) ได้สิทธิเลือกตั้ง จากที่เคยใส่ชุดยาว แขนยาว ปิดคอ รัดเอว หงิมๆ เป็นแม่บ้าน ก็เปลี่ยนมาใส่กระโปรงสั้นและหลวมขึ้น ตัดผม แต่งหน้า สูบบุหรี่ ปาร์ตี้เข้าสังคม เป็นผู้หญิงเปรี้ยว เพราะแต่ก่อนถูกตีกรอบจากธรรมเนียมที่เคร่งครัด ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้หญิงดีดีจะไม่แต่งหน้าจัดค่ะ บรรยากาศยุคนั้นก็จะคล้ายในหนัง The Great Gatsby เลย เมคอัพที่แต่งจะไม่ใช่แบบ โนเมคอัพ แต่จัดเต็มจริงๆ

อีกอย่าง ก็เพราะว่ายุคนั้นเครื่องสำอางเพิ่งพัฒนาให้ใช้ง่ายขึ้นกว่าเดิม มีทั้งรูจ (ที่ปัดแก้ม) ลิปสติก มาสคาร่า ยาทาเล็บ ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากยุคนั้น โดยมีแบรนด์ Max Factor เป็นค้นบุกเบิกตลาดเครื่องสำอางเป็นเจ้าแรกๆ

แล้วก็ไม่ใช่แค่เมคอัพ วงการภาพยนตร์ก็เริ่มฮิต แต่ยังเป็นหนังเงียบอยู่ ส่วนหนึ่งเลยต้องอาศัยการแต่งหน้า เพื่อบ่งบอกบุคลิกของตัวละคร หน้าเลยต้องจัดเต็ม เข้มกว่าปกติที่เคยๆ แต่งกันมาในยุคก่อน ผู้หญิงก็เลยเริ่มแต่งตัว แต่งหน้าตามดาราหนังกัน อย่าง Clara Bow, Mary Pickford



ดูจากรูปแล้ว เลยสรุปเอาเองว่าเมคอัพยุคนี้มันน่าจะประมาณว่า...
ผิว ยังนิยมผิวขาว ดูแมท (ตอนปลายยุค Coco Chanel ทำให้ผิวแทนเกิดฮิตขึ้นมา) ดาราบางคนก็จะใช้เมคอัพที่มีตะกั่วทาหน้าด้วยเพื่อใ
ห้ขาว เพราะภาพถ่ายหรือฟิลม์ยังเป็นขาวดำอยู่

คิ้ว เขียนเส้นเล็ก สีดำเข้ม หางยาว ปลายตก ให้ดูหน้าเศร้าๆ

ตา เน้นสีเข้ม มีปัดขนตาด้วย แต่ก่อนจะเป็นแบบแป้งอัดแข็งเวลาจะปัดต้องแตะน้ำก่อน เค้าเน้นเข้มๆ กันเพราะยังเป็นฟิล์มถ่ายหนังขาว-ดำอยู่ แสงก็ไม่ดี เสียงก็ไม่มี เพราะฉะนั้น ถ้าแต่งหน้าอ่อน ก็จะไม่เห็นเครื่องหน้า แสดงอารมณ์ยาก

แก้ม จะปัดกลมๆ ฟุ้งๆ ตรงหน้าแก้มหรือบนโหนกแก้ม จะไม่ได้ปัดเฉียงตามโหนกแก้มแบบยุคนี้

ปาก ก็จะใช้โทนแดงเท่านั้น เน้นแต่กลางปากแล้วเว้นมุมปากด้านนอกเอาไว้ (ให้ปากจู๋ไง) สมัยนั้น (1915) เริ่มมีลิปสติกแท่งเหมือนในสมัยนี้แล้ว ทำให้บริษัทเครื่องสำอางให้ความสำคัญกับแพ็กเกจจิ้งมากขึ้น เหมือนสมัยนี้เลย
ผู้หญิงสมัยก่อนก็เหมือนสมัยนี้ที่แต่งหน้าตามดารา ก็เลยแต่งหน้ากันสไตล์นี้ทั้งเมืองจนเป็นสัญลักษณ์ของยุคไปเลย

เราก็เลยดูรูป รีเสิชโน่นนี่ จนได้ออกมาเป็นนนนนน…




เวอร์ชั่นของดิฉันเอง! จะบอกว่าลงหน้าหนามากกกกกกกกก และจงใจให้ดูขาวซีดกว่าจริง ลุคนี้อาจจะแต่งในชีวิตจริงไม่ได้ แต่แต่งเอามันเวลาไปงานสนุกๆ ตามตีมหรือจะฮัลโลวีนก็ยังก็ได้อยู่นะคะ 


เริ่มจากใช้ Skin Base จาก Illamasqua สีขาว ลงทั่วหน้าก่อนรองพื้น แล้วก็ใช้รองพื้น Bourjois Healthy Mix เบอร์ 53 บวกคอนซีลเลอร์ของ MUF ที่ขาวกว่าผิวจริงกดด้วยฟองทับอีกชั้น ลงทับปากไปเลยเพราะยังไงต้องเขียนใหม่อยู่แล้ว แล้วก็ทับด้วยแป้งฝุ่นค่ะ
 

ส่วนตา  เกลี่ยสีน้ำตาลเหมือนผิวทั้งเปลือกตา//เริ่มสร้างเบ้าตาด้วยสีน้ำตาลที่เข้มขึ้นอีกนิด// เกลี่ยสีน้ำตาลนั้นให้สูงขึ้นกว้างปกติจนเกือบถึงคิ้ว// กดสีน้ำตาลเข้มผสมดำที่หางตา เบลนด์ให้กลืนกับสีที่เบ้าตา// เพิ่มสีน้ำตาลดำสีเดิมตรงช่วงหัวคิ้วให้เข้มขึ้นไล่สีลงมาเหมือนจะไล้จมูก แต่หยุดตรงประมาณเบ้าตา//แล้วเกลี่ยให้สีกลืนกับตรงเบ้าตา//ติดขนตาที่ทำให้ดูฟูๆ ดราม่า ลุคนี้เลือกเบอร์ที่มันไขว้กัน ปลายขนตาเรียวๆ (preciosa 0801) เน้นเบลนด์ให้ทุกสีกลืนกันให้ดูฟุ้งฝัน ฟรุ้งฟริ้ง ไฮไลท์หัวตาสีเงิน ไม่ให้ดาร์กเกิน//เขียนขอบตาล่างด้านในด้วยสีชมพูอ่อนด้วยให้ตาดูกลมโตแบบสาวแจ๊ซเอจ

อันนี้อาจจะงงหน่อย ลองดูรูปตาข้างล่างไปด้วยนะคะ :))))
 


 

คิ้วใช้อายชาโดว์สีดำวาดก่อนแล้วทับอีกครั้งด้วยอายไลเนอร์เจลเพื่อความดำ จริงๆ เราสามารถปิดคิ้วแล้วเขียนใหม่ได้ แต่อันนี้เราแค่จับให้เส้นขนกอดกันให้เชปคิ้วเรียวขึ้น แล้วค่อยเติมหางยาวๆตกๆ

เพื่อให้รูปหน้าตอบๆ คอนทัวร์หนักมาก ให้หน้ายาวเรียว แล้วก็จมูกแคบๆ โดยใช้อายชาโดว์สีน้ำตาลผสมกับน้ำตาลอมม่วง เพื่อให้ได้เงาที่ชัดจริงๆแล้วก็ดูก่ำๆ
 

ปัดแก้ม  ฟุ้งๆ สูงๆ จากขอบตาล่างลงมาตรงโหนกแก้ม เน้นข้างๆแก้ม
 

วาดปาก ด้วยดินสอสีขาวก่อนให้เป็นรูปเพราะไม่มีสีเข้มอ่ะ 555 วาดเป็นกระจับแต่ไม่ถึงมุมปากด้านนอก แล้วค่อยระบายลิปสติกให้เต็ม ใช้สี Hung Up จาก MAC เก็บรายละเอียดขอบปากอีกทีด้วยแปรงหัวแบนกับคอนซีลเลอร์ครีมสีเหมือนผิว อ้อ เติมไฮไลท์บนกระจับปากด้วยครีมสีเงิน (Liquid Metal Palette ของ Illamasqua)
 

เสร็จแล้วค่ะ! รู้สึกโพสต์นี้ยาวจริงๆ อาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ ถ้าสงสัยพิมพ์ถามไว้ได้เลยค่ะ ส่วนด้านข้อมูลประวัติศาสตร์ถ้าผิดพลาดตรงไหน ยังไง ขออภัยไว้ด้วย ณที่นี้ ค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ ถ้ายาวไป ชอบ ไม่ชอบยังไง คอมเม้นตามสบายเลยนะคะ ขอโทษอีกครั้งที่ไม่มีรูปขั้นตอนละเอียดๆค่ะ :))))

ใครยังไม่ได้ไปดูหนัง เชียร์ว่าดีจริงๆ อาจจะมีช่วงเอื่อยๆ บ้างแต่อยากน้อยดูคอสตูมก็เพลินแล้วอ่ะ สวยมากๆจริงๆค่ะ

 

 ข้าว xxx
 

ข้อมูลประวัติศาสตร์จาก : http://blogs.smithsonianmag.com/threaded/2013/02

http://invintaged.com/styling/2013/1/19/1920s-makeup

ภาพจาก google.com


 


 

Discussion (12)

คุณ aimee07, inuyachaaa, bbobi, min_mylove11290, nicecrazycat, Belledoll, Mild Barker

 ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ลุคนี้แต่งนานจนขาชาเลย 555

คุณ YOMORO ขอบปากแอบเบี้ยวนิดนึงด้วย :P

 

คุณ fangbif ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณค่ะ ลอนเปียกยากจริง เลยเหน็บกิ๊บเอาแทน 555 นี่ก็ไปซื้อแบบสำเร็จรูปมาแล้วค่ะ ไม่รู้จะได้ใช้เมื่อไหร่ 5555

 

คุณ mika ชอบอ่าน sophie kinsella เหมือนกันเลย! ติดทุกเล่มตั้งแต่ shopaholic เลยค่ะ

 

คุณ fateye_slim ดีใจจังที่มีคนชอบเหมือนกัน นึกว่าจะเนิร์ดอยู่คนเดียว 555 มีคลิปของ lisa eldridge เก่าๆ (ประมาณ 2 ปีที่แล้ว) เค้าไปคุยกับ makeup historian ด้วยค่ะ ไม่รู้เคยดูรึยัง...เพลินมากกกค่ะ :DD

 

ชอบจังเลยยย น้อยคนจะศึกษาประวัติศาสตร์การแต่งหน้า

จริงๆแล้วสนุกออก ชื่นชมค่าาา ^^

ชอบยุค 20 มาก ตั้งแต่อ่านนิยายเรื่อง 20's girl ของ Sophie Kinsella

เก๋มากกกกกกกกกกก