>.< เมื่อฉันตกเครื่องบิน >.<

11 7
เนื่องจากความอยากกิน Chili crab บวกกับความเกรียนของพวกเรา4คน ทำให้เกิดทริปสิงคโปร์ขึ้นในเวลาไม่ถึงเดือนสำหรับตั๋ว,รร และทริปแพลนนิ่ง พวกเราเลือกวันหยุด3วันและออกเดินทางกันหลังเลิกงานวันศุกร์ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งวันสุดท้ายที่พวกเราทั้ง4 ตกเครื่ิองบินค่ะ เชิญเพื่อนๆอ่านเรื่องราวเหล่านี้ไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ

ทำไมถึงตกเครื่อง?
เป็นเพราะความชะล่าใจและเข้าใจผิดของตัวเองล้วนๆ ชะล่าใจที่ไม่จำเวลาเครื่องออกที่แน่นอนและเข้าใจผิดกับเวลาที่ระบุบน Boarding pass เนื่องจากชินกับสายการบินที่นั่งบ่อย(พี่หางแดง) ปกติแล้วหลังจากที่เราเช็คอินและโหลดกระเป๋าเสร็จ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเราว่าเกทเปิดกี่โมง และเราก็จำแต่แบบนี้ มาคราวนี้เปลี่ยนมาบินพี่เจท พี่เค้าไม่พูดอะไร ไอ้เราก็เข้าใจไปเองว่าเวลาที่ระบุบนบัตรเป็นเวลาเกทเปิด ซึ่งระบุ 6.40pm และที่แย่กว่านั้นคือจำเวลาเครื่องออกที่แน่นอนไม่ได้ (เวลาเครื่องออกจิงๆคือ 7.10am) จำแต่เพียงว่าทุ่มกว่าๆ นั่นแหละค่ะสาเหตุงี่เง่าที่ทำให้ตกเครื่อง
รู้ได้ยังไงว่าถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว?
บ่องตง ว่าไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย จนกระทั่งได้ยินเค้าประกาศชื่อตัวเองว่า Final call ! ตอนประมาณ 6.50pm เท่านั้นแหละค่ะถึงได้เอะใจหยิบ Booking ขึ้นมาดู กรี๊ดดดดด และใส่เกียร์หมาไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ ส่วนอีกคนก็รีบไปดูเกทว่าเกทไหน (ที่ยังไม่รู้เกทเป็นเพราะว่าพวกเรา Early check-in ค่ะ) และเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง เกทที่เราต้องไปขึ้นพี่เจทคือ D35 ซึ่งเรียกได้ว่าไกลมากๆๆๆๆๆจากจุดที่อยู่ตอนนี้ เอาไงล่ะวิ่งไปคงไม่ทันไปเหลือบไปเห็นรถที่วิ่งในสนามบินจอดอยู่ เลยวิ่งตรงไปที่เคาเตอร์ พนักงานบอกว่ารถใช้ไม่ได้ค่ะ กำจิงๆ เลยบอกเค้าว่าเรากำลังจะตกเครื่อง เค้าเลยขอไฟลท์และเลขที่นั่งของทุกคนแล้วก็โทรไป (ซึ่งไม่รู้ว่าโทรไปไหน) แล้วบอกให้เรารีบวิ่งไป บ่องตงว่าวิ่งที่สวนลุมยังไม่เคยได้ความเร็วเท่านี้มาก่อน พวกเราทั้ง4คนวิ่งมาถึงหน้าเกท D35 ในเวลา 7.00pm เจ้าหน้าที่เฝ้าเกทไม่ฝห้เราเข้าแล้วพร้อมบอกว่าให้รอตรงนี้เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ลงมาหาคุณแล้วเตรียมอธิบายด้วยว่าทำไมคุณถึงสาย พร้อมเหลือบตามองถุงกระเป๋าชาลแอนด์คีทสองถุงใหญ่ที่เราถืออยู่ ระหว่างที่รอ มองออกไปก็เห็นพี่เจทของเราจอดอยู่ คิดเองในใจเอาวะเค้าคงรอเราอยู่ ซักพักเดียวเท่านั้นพี่เจทที่เห็นจอดอยู่ได้ขับออกไปเลย กรี๊ดดด อีกรอบ จากนั้นอีกพักก็มีเจ้าหน้าที่เดินออกมา2คน ซึ่ง1ในนั้นคือคนที่เราไปCheck-in ด้วย มาถึงเจ๊เค้าใส่เลย Why did you come late? I remember you had early check-in with me. And I also gave your baggage over weight. ไอ้เราก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเลยตอบไปว่า It's all our fault, please accept our apology. Please Please Please เธอเลยพูดว่า Ok, follow me this way. แล้วเธอก็พาเราเดินออกมาจากเกท ตอนนี้ใจชื้นแล้วคิดว่าเค้าคงให้เราขึ้นไฟลท์ต่อไป แต่ๆๆๆๆๆ เจ๊เค้าพาพวกเรามาที่ Immigration พร้อมให้พวกเราเขียนใบเข้าเมืองสิงคโปร์อีกครั้ง และค่อยบอกพวกเราว่า ตั๋วของพวกเราเป็นแบบระบุเวลา เพราะฉนั้นตอนนีิ้ตั๋วของคุณได้เสียไปแล้ว เดี๋ยวฉันจะพาพวกคุณออกจาก Transit area และพาพวกคุณไปรับกระเป๋า จากนั้นคุณก็ไปหาตั๋วใหม่กลับเองนะ กรี๊ดดดด !!!! อะไรกันนี่เจ๊ ตะกี้บ่นๆๆทวงบุญคุณกะพวกเราเพราะอะไรเนี่ยยยย เอาวะใจเย็นๆ ความผิดเราเอง เลยถามเค้าต่อว่าเราจะมีส่วนลดมั้ยถ้ากลับพี่เจทเหมือนเดิม คำตอบคือ Nothing special for you. โอเค ซึ้งงงงง

ตกเครื่องแล้วต้องทำยังไง?
หลังจากที่พวกเราออกมาจาก Transit area และผ่าน Immigration อีกรอบแล้ว สิ่งแรกที่เจอคือป้าย Welcome to Singapore โอยยย ฮาตัวเอง เหมือนได้มาเที่ยงสิงคโปร์อีกรอบ ... ตอนนี้ก็เวลาประมาณ 9pm แล้ว มัวแต่เสียเวลาตรง Immigration ซะนาน สิ่งแรกที่เราทำคือพุ่งตัวไปที่เคาเตอร์ Information บอกเค้าว่าเราตกเครื่องช่วยเช็ไฟลท์กลับให้หน่อย เจออันแรกพี่หางแดง ออก11pm อุ๊ยดีใจ รับวิ่งไปที่เคาเตอร์พี่หางแดง แต่ราคานั้นโอ้วว เกือบหมื่น แพงกว่าตั๋วไปกลับพี่เจทซะอีก พวกเราเลยตัดสินใจกันใหม่ว่าจะกลับพรุ่งนี้แทน จึงมานั่งสุมหัวช่วยกันหาตั๋วในเวบเอา (ราคาหน้าเคาเตอร์จะแพงกว่าเกือบเท่าตัวนะคะ) พวกเราหาทุกสายการบินโลวคอส ทั้งพี่เจท พี่เสือ และพี่หางแดง ผลสรุปคือ พี่เสือถูกสุด แต่ๆๆๆ ในเวบพี่เสือมีปัญหากับบัตรเครดิตของประเทศไทยอยู่ เฮ้อออ ส่วนพี่เจทเจ้าเก่าก็ราคาแพงสุดกู่ สุดท้ายเราเลยต้องมาจบที่พี่หางแดงด้วยราคาประมาณ 4,000฿ รอบห้าโมงเย็น และในขณะเดียวกันดับที่คนอื่นๆช่วยกันหาตั๋วกลับ แอนนี่ก็ไปขอยืมโทรศัพท์ที่เคาเตอร์ Information เพื่อติดต่อโรงแรมเดิม(Fragrance Ruby) เพื่อเข้าพักคืนนี้ ปรากฏว่าเต็มค่าาา เอาแล้วกุ แต่ด้วยความที่ไม่อยากนอนสนามบิน เลยอ้อนวอนเค้าต่อให้เค้าช่วยเช็คโรงแรมในเครือให้หน่อยว่าว่างมั้ย และแล้วโชคก็เข้าข้าง มีห้องว่างที่ Fragrance Pearl อยู่เลยซอยเดิมมา2ซอยแต่ Rate walk-in 88S$ โหดอะ เลยบอกว่าเด่วติดต่อกลับ แล้วก็มาจองออนไลน์เอง ปรากฏว่าได้ห้องในราคาเพียง 60S$ เท่านั้น เย้ๆๆๆ คืนนี้ไม่ต้องนอนสนามบินแล้วโว้ยยยย
^___^
สรุปสิ่งที่ควรทำเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้นะคะ
1. มีสติ อย่ามัวแต่ตกใจ
2. อย่าเพิ่งหาคนผิดว่าเป็นเพราะใคร
3. อย่าด่วนตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินหน้าเคาเตอร์ เพราะมันแพงโดยใช่เหตุ เราเป็นแก๊งค์ไอทีต้องใช้อินเตอร์เนตให้เป็นประโยชน์
4. อ้อนไว้ก่อน แม่สอนไว้


จบแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ หวังว่าคงได้ประโยชน์กันนะคะ ^.^
 


Preeya Feb

Preeya Feb

FULL PROFILE