*mini review ; แป้งยอดฮิต 8 ชิ้น

105 53





สวัสดีค่ะ เป็นกระทู้แรกที่มาตั้งที่จีบันเลย

ถ้ารูปใหญ่ไปหรือมีข้อผิดพลาดอะไรต้องขอโทษด้วยนะคะ


จริงๆแล้วเป็นคนที่ไม่ได้ชอบแต่งหน้านะ แต่ชอบเครื่องสำอางมากกก แพ้แพคเกจ แพ้คำโฆษณา (เต็มใจ)ตกเป็นเหยื่อการตลาดตลอด 5555 ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

วันนี้ก็จะมารีวิวเครื่องสำอางหมวดที่เราชอบมากที่สุดนั่น
คือ"แป้ง" นั่นเอง เพราะส่วนตัวแล้วเราเป็นคนที่ชอบให้หน้าดูผ่อง ดูผิวใส เป็นธรรมชาติมากกว่าชอบเติมสีแต่งตาอะไรแบบนั้น วันนี้ก็ขอคัดมาแค่บางส่วนในกรุที่รู้สึกว่าสาวไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบกันนะคะ

สาเหตุที่ตั้งหัวกระทู้ว่า แป้งยอดฮิต เนื่องมาจากว่าแป้งที่จะนำมารีวิวทั้งหมดวันนี้ เป็นแป้งที่ฮิตมากๆในห้องแป้ง ณ pantip และ jeban ตั้งแต่อดีต-ปัจจุบันนั่นเองค่ะ เพราะก็ตามอ่านมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย เก็บข้อมูลมาเยอะเลย 555

มาดูกันดีกว่าว่าในความคิดเห็นของเรา แป้งเหล่านี้ดีไม่ดีอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังตัดสินใจอยากซื้อแป้งดีๆสักตัวให้กับตัวเองค่ะ ^^

ซึ่งทั้งหมดนี้เป้นความคิดเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆ อาจไม่ตรงกับรีวิวอื่นๆ ต่างคนต่างใจเนอะ ดูเป็นไว้ทางเลือกแล้วกันค่ะ


1. แป้งฝุ่นบีโอนาตูแรล



ราคา : ไม่เกิน30บาท
แหล่งที่ซื้อ : วัตสัน

ลักษณะเนื้อแป้ง :



ดูชื่อประหลาดๆใช่มั้ย 555 แต่เราชอบมากๆเลยตรงที่เนื้อแป้งละเอียด นุ่มไม่อุดตัน ควบคุมความมันได้ดีมากๆ เหมาะกับวันสบายๆและน้องๆวัยมัธยมทาไปโรงเรียนได้ค่ะ ไม่แก่แดด ไม่หนา ทาซ้ำได้ตลอด ข้อดีของมันคือให้ความเนียนมากกว่าแป้งกระป๋องเด็กทั่วไปและเป็นสีเนื้อด้วย ทำให้หน้าไม่วอกลอยมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหวังถึงขั้นเอาไปเซทรองพื้นคงไม่เหมาะค่ะ เพราะเนื้อแป้งละเอียดไม่พอ ที่รู้ๆคือมีสีขาวและสีเนื้อ แต่ไม่แน่ใจว่ามีสีอื่นอีกมั้ย
คะแนนเทียบกับความเหมาะสมกับราคา : 5/5


2. แป้งฝุ่นไรซ์แคร์

 

 

ราคา : ประมาณ35บาท
แหล่งที่ซื้อ : Tops supermarket

ลักษณะเนื้อแป้ง :



เป็นแป้งกระป๋องที่เราชอบมากๆอีกตัวนึงค่ะ ความพิเศษของมันคือปราศจากทัลคัม ซึ่งเป็นสารที่จะระคายเคืองต่อปอด ถ้าคนที่เป็นภูมิแพ้แบบเราจะเข้าใจดีว่าเวลาแป้งบางยี่ห้อฟุ้งเข้าจมูกนี่ไม่ไหวเลย TT แป้งไรซ์แคร์เป็นแป้งข้าวเจ้าค่ะ เนื้อแป้งสีขาว จะหยาบๆ ไม่ลื่น อารมณ์คล้ายๆแป้งสำหรับประกอบอาหารเลยค่ะ  ควบคุมความมันแบบสุดยอดไปเลย คนหน้าไม่มันมากใช้แล้วอาจจะหน้าแห้งผากได้ และควรใช้แต่น้อย เพราะเสี่ยงต่อการหน้าวอกสูง เพราะเนื้อแป้งสีขาวมากกกก
คะแนน : 4/5 หักที่แป้งหยาบและหน้าวอก

3. Mac mineralize skinfinish natural


ราคา : 1300-1400 บาท ไม่ได้ซื้อนานแล้ว
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์macทุกสาขา

ลักษณะเนื้องแป้ง :



เป็นแป้งตลับ ตลับแรกของเราเลย ใช้ครั้งแรกตอนม.5 ราคาตอนนั้นจำได้ว่า1,250 แต่แมคขึ้นราคาทุกปีจนตอนนี้งงว่ามันเท่าไหร่แล้ว เพราะตลับล่าสุดก้ได้มาเป็นของขวัญ อันนี้ใช้มา3ตลับแล้วววว คอนเฟิร์มว่าดีมากๆเลยค่ะ แป้งแมคตัวนี้ไม่ผสมรองพื้น (น้องๆมัธยมก็ใช้ได้) เป็นแค่แป้งฝุ่นอันแข็งค่ะ ทำจากมิเรนัล(แร่ธาตุ) ก่อให้เกิดอาการแพ้น้อย ไม่มีวิ๊งค์ ไม่คุมมัน ไม่ปกปิดใดๆ แต่มันแปลกมากที่ทาแล้วหน้าเนียนมากก ดูผิวใสมากๆทั้งที่มีรอยสิวอยู่บนหน้า คือมันทำให้ผิวดูสมูทมาก เปล่งประกายสุดยอด ยิ่งหน้ามันเหงื่อออกหน้ายิ่งวิ๊ง ผิวดูใสเข้าไปอีก แถมดูไม่ออกเลยว่าทาแป้งมา คนผิวดีใช้แล้วยิ่งเกิดค่ะ แต่มันมีปัญหาคือแป้งสีดรอป เลือกยาก ต้องเลือกสีที่ขาวกว่าหน้านิดนึงจะดี เป็นแป้งตัวเดียวใช้ทีไรมีแต่คนทัก ว่าไปทำอะไรมาทำไมหน้าใสจัง (แต่รอยสิวอยู่ครบนะ 55) ตลับนึงเราใช้ได้ปีนึงพอดีค่ะ คุ้มนะ เราใช้มันเปลือยๆแทนแป้งผสมรองพื้นเลย แต่ถ้าจัดหน้าเต็มจะใช้แป้งตัวนี้เป็นfinishing powderค่ะ แพคเกจไม่มีทั้งกระจก ฟัฟ แปรงใดๆมาให้ ลำบากหน่อยสำหรับการพกพา แต่หักลบกับประสิทธิภาพแล้วไม่เป็นปัญหาค่ะ

ปล. ควรใช้กับแปรงถึงจะสวย ใช้กับฟัฟแล้วหนาไม่งามหมดราศีมากๆ
คะแนน : 5/5 เพราะคนชมบ่อยตั้งแต่มอปลายยันมหาลัย 5555 บ้ายอ

4. Laura mercier foundation powder


(ขออนุญาตยืมภาพจากกูเกิ้ลเพราะของเราเองไม่รู้ไปวางไว้ไหน)

ราคา : 1,700 บาท
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์ลอล่าทุกสาขา

เป็นแป้งผสมรองพื้นตัวแรกที่เราใช้ เพราะตอนนั้นที่พารากอนเซลเหลือ1,500 ไอเราก็ดีใจจะได้ของถูกรีบไปซื้อในวันถัดมาที่รู้ข่าว ปรากฏว่าหมดโปรไปแล้ว ควักกระเป๋าตังค์มาจ่ายราคาเต็มด้วยใบหน้าซีดเผือด เริ่มกันที่ข้อดีก่อนคือ

แพคเกจดี แยกฟัฟและแป้งออกเป็น2ชั้น มีรูระบายอากาศด้านหลังไม่ได้ฟัฟอับชื้น มีฟัฟมาให้สองอันคืออันนึงเป็นฟองน้ำและอีกอันเป็นฟัฟที่มีขนสั้นๆ เนื่องจากแป้งตัวนี้ใช้ได้ทั้งแบบเปียก คือน้ำฟัฟฟองน้ำชุบน้ำ บีบให้หมาดแล้วแตะแป้ง เพื่อที่จะให้ลุคที่ปกปิดมากขึ้น ส่วนฟัฟอีกอันไว้ใช้กับแบบแห้ง คือทาแป้งปกติเน้นความบางเบา แต่เอาเข้าจริงก็ใช้อยู่แบบเดียวเพราะไม่รู้จะยัดฟัฟ2อันไว้ตรงไหน แถมถ้าฟองน้ำแห้งไม่ทันก็ขึ้นราอีก แป้งตัวนี้ปกปิดได้ค่อนข้างดีค่ะ คุมมันได้ระดับนึงแต่ไม่โดดเด่นอะไร ให้ลุคที่ค่อนข้างธรรมชาติกลืนไปกับผิวจริง เซทตัวแล้วไม่ผ่อง เด้ง วิ้งแบบแป้งตัวอื่นๆ แต่เนียนมากๆค่ะ

คะแนน : 4/5 เพราะเนื้อแป้งหนาไปสำหรับเราและปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับราคา แถมไม่มีรีฟิลให้ซื้อเปลี่ยนด้วย

 


5. Laura mericer loose powder สี translucent



ราคา : 1,500 บาท
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์ลอล่าทุกสาขา

ลักษณะเนื้อแป้ง :



แป้งตัวนี้โด่งดังมาหลายปีเป็นที่ร่ำลือ คนบ้าแป้งแบบเราก็เอากับเค้าซะหน่อย เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง เนื้อเนียนละเอียด เหมาะกับการใช้เซทรองพื้น เพราะไม่ทำให้สีรองพื้นเพี้ยนมากนัก แต่เราทาทับbase make upเลยก็เนียนได้อยู่ ปัดแล้วหน้าแมท เนียน งามเด้งดี ต่างกับแป้งmac msf อันบนที่เน้นไปในด้านความผ่อง ฉ่ำเงาของผิว เหมาะกับคนหน้ามันมากๆค่ะเพราะคุมมันได้พอสมควร ถึงรีวิวส่วนใหญ่บอกคุมมันเทพมากแต่เราว่าก็ไม่สู้แป้งฝุ่น2ตัวแรกข้างบนนะ ข้อเสียคือมันทรานสลูเซ้นท์ไม่จริงอ่ะ เพราะถ้าทาเยอะก็แอบวอกได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเราค่ะ

คะแนน : 4.8/5 ดีทุกอย่างแต่ราคาขนาดนี้แถมฟัฟมาให้หน่อยสิ TT

6. burberry sheer foundation luminous compact foundation



ราคา :2400บาท/8กรัม
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์เบอเบอรี่พารากอน

ลักษณะเนื้อแป้ง:



เบอเบอรี่เป็นแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ที่มาเปิดตัวในไทยเมื่อปลายปีที่แล้วเองค่ะ สารภาพว่าแป้งตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเท่าไหร่ ตัวที่อยากได้จริงๆดันหมด แต่ด้วยความที่อยากทำยอดเพื่อเปิดเมมเบอร์เลยต้องพานางกลับบ้านมาด้วย คสอ.ของเบอเบอรี่เป็นที่รู้กันว่าเน้น สีที่ไม่ฉูดฉาดนัก ดูผู้ดี เน้นความเป็นธรรมชาติ ออกแนวเอิร์ธโทน ที่สำคัญคือแพคเกจสวยมากกกกก สวยไปไหนค่ะคุณพี่ ตลับแป้งเป็นแม่เหล็กดูดเข้าหากันสีเงินพิมพ์ลายเอกลักษณ์ของเบอเบอรี่ รวมถึงที่ตัวแป้งตัวด้วย ตลับแยกเป็น2ชั้นเหมือนกับแป้งลอล่า หรูหรามากๆ กว่าจะแตะฟัฟลงไปก็ทำใจอยู่หลายวันเพราะมันสวยจริงๆ เนื้อแป้งเนียนมากกกกกก เนียนยั่งกะทารองพื้น แต่ไม่หนาเลย ที่โดดเด่นคือนางไม่ได้ให้finish look ที่แห้งแมทเหมือนแป้งปกติทั่วไป แต่ยังมีความเนียนและฉ่ำวาวของผิวเหลืออยู่ ฟัฟที่ให้มาบางยั่งกับกระดาษเอสี่ตราโลตัสแต่กลับนุ่มและเนื้อแน่นมากๆ ทำให้เวลาทายิ่งเนียนเข้าไปใหญ่ แต่มันไม่เหมาะกับเราตรงที่ไม่คุมมันเลย ทาไปทะเลโดนแดดโดนลมหน่อยส่องกระจกนี่หน้ามันเยิ้มแบบไม่ไหวจะเคลียร์ แต่คนผิวแห้งและไม่มันมากนี่น่าจะชอบค่ะ เพราะfinish lookเค้าออกมาสวยจริงๆ กลิ่นของแป้งก็เหมือนกับคสอ.ทุกชนิดของเบอเบอรี่ค่ะ คล้ายๆแป้งเด็ก หอมใช้ได้

ดูหน้าตานางวันแรกที่ซื้อมาดีกว่า สวยจริงๆ


คะแนน : 4/5 เทียบราคา/ปริมาณแล้วแพงมากๆๆๆ + ไม่เหมาะกับคนหน้ามันเอาซะเลย

 

 

7. chanel mat lumiere extreme

 



ราคา : 2250บาท/13กรัม
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์ชาแนลทุกสาขา

ลักษณะเนื้อแป้ง :



ชาแนลเป็นแบรนด์ที่ทำคสอ.มานานพอสมควร แทบทุกอย่างของชาแนลนั้นดีมาก ไม่ได้แพงเพราะค่าแบรนด์แต่คุณภาพกระโหลกกะลา (ยกเว้นยาทาเล็บไว้1อย่างแล้วกัน) แป้งชาแนลแมทชื่อเสียงโด่งดังมากในบรรดาแป้งทั้งปวงสำหรับสาวไทย ด้วยเหตุที่มันคุมมันได้ดีพอควร แถมพอเซทตัวแล้วให้ลุคหน้าแมท ไม่มีความฉ่ำวาวของผิวหลงเหลือ แต่กลับผ่องเด้งอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ทำได้ไงกัน ใช้แล้วจะบรรลุคำว่าหน้าเด้งที่แท้จริงเลย ปกปิดรูขุมขนได้ดีค่ะ เนื้อแป้งไม่หนาเลย ปกปิดรอยแดงได้ดีแต่ไม่รวมถึงรอยดำนะคะ ให้เหลือให้เห็นจางๆบ้าง ที่เซอร์ไพรอีกอย่างคือเคยทาแล้วไปเล่นทะเล ขึ้นมาอาบน้ำ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแบบถูเต็มสตรีม พอเสร็จซับหน้าให้แห้ง แป้งยังอยู่ดีแถมกลับมาเด้งเหมือนเดิม เริ่ดมาก ทาเช้าทีเดียวไม่ต้องเติมเลยเพราะซับมันก็กลับมาเด้งเหมือนตอนทาใหม่ๆ ทดลองแล้วว่าใช้ฟัฟที่หนา แน่น นุ่ม เนียนละเอียดของนางทาสวยสุด สวยกว่าแปรง แพคเกจหรูหราตามสไตล์ชาแนล มาพร้อมซองกำมะหยี่ซึ่งเราโยนทิ้งไปไหนแล้วไม่รู้ 55 ส่วนที่ชอบที่สุดของแพคเกจคือกระจก ใหญ่มากกก และชัดมากๆ! เหมือนกระจกที่ตั้งตามเคาท์เตอร์แต่งหน้าเลยค่ะ เวลาเพื่อนขอยืมกระจกแล้วยื่นตลับให้ไม่ค่อยมีใครเอา บอกส่องแล้วไม่สวย ชัดไป อ้าว? 5555

คะแนน 100000/5 คุณภาพดี ปริมาณเยอะมาก แถมมีรีฟิลเปลี่ยนได้  คุ้มค่ะ สำหรับเรา

 

8. guerlain meteorites สี 01 teint rose



ราคา : 2,500 บาท
แหล่งที่ซื้อ : เคาท์เตอร์เกอแลงทุกสาขา

ลักษณะเนื้อแป้ง :


เป็นเม็ดกลมวาว วิ๊งละเอียดไม่เป็นกลิตเตอร์

เกอแลง เป็นเครื่องสำอางที่มีมา184ปีแล้วค่ะ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ค่อนข้างหรูหรา แพคเกจเริ่ดสะเทือนใจผู้บริโภคแพ้บรรจุภัณฑ์ง่ายแบบเรายิ่งนัก ตลับแป้งเป็นอะลูมิเนียมปั้มนูนลายดอกไม้ แต่ไม่รู้ดอกอะไร มีโลโก้เกอแลงอยู่ริมขอบเล็กๆ เปิดฝามาจะเจอกับแป้งเม็ดกลิ่นหอมกุหลาบตามสไตล์ของเกอแลง ลักษณะเป็นเม็ดกลมคล้ายไข่มุกสีน่า ทานมากอยู่5สีด้วยกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นColor Correctorต่างๆกันไป คือ
สีเขียวไว้กลบความแดงของหน้า รอยสิว
สีขาว เพิ่มความสว่างของผิว
สีชมพู ก็ช่วยให้หน้าดูอมชมพู
สีม่วง เพิ่มความสว่างให้แก่ใบหน้า
สีเหลือง ช่วยให้หน้านวลเนียนเป็นธรรมชาติ

 วิธีใช้คือนำแปรงมาวนในตลับปัดทุกสีรวมกัน แล้วนำมาปัดลงบนหน้าหลังแต่งหน้าเสร็จตามจุดตกกระทบแสงหรือทั่วหน้า ตามชอบ (เราชอบอย่างหลังค่ะ) ผิวจะดูเงาสวยมีมิติมากๆ หน้าจะเด้งขึ้นมาอีก1เสต็ป วิ้งของแป้งละเอียดมากกก ถ้าไม่เพ่งดูก้จะไม่เห็น แต่ช่วยกระจายแสงได้ดี ใครชอบถ่ายรูปควรมีไว้ติดบ้านเพราะหน้าจะดูผ่องใสมากๆๆๆ ถึงผลลัพธ์ที่ให้อาจจะไม่ชัดแบบแป้งตัวอื่นๆ แต่เชื่อเถอะว่าจุดเล็กๆแค่นี้มันช่วยเพิ่มความเด้งของสภาพหน้าโดยรวมได้เยอะเลยค่ะ มีประโยชน์มากในวันผักผ่อนน้อย หน้าโทรมๆ ปัดแล้วหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเลยทีเดียว อ่ออีกอย่างเกอแลงคุมมันดีมากพอสมควรเลยค่ะ

เครดิตรูปต่อไปนี้จาก temptalia.com เพราะเราถ่ายเองไม่ชัด กล้องกาก แต่อยากให้รู้ว่าสวยมากกก จริงๆ T^T


ลักษณะแป้งหลังจาเสร็จได้ผิวแบบนี้เลย สวยมากจริงๆค่ะ


คะแนน 4.5/5 พกพายากมาก ราคาสูงมาก แล้วยังต้องซื้อแปรงเพิ่มอีก


 

หมดแล้วค่ะ จบแล้ว ^^
สำหรับวันนี้ไปแล้ว สวัสดีค่ะ :)






bt.pandanus

bt.pandanus

FULL PROFILE