โลกส่วนตัวเยอะไปไหม
เจ้าหญิงดาวอังคาร10วันนี้ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ เราสงสัยตัวเองอยู่บ่อยครั้งค่ะ ว่าเราผิดปกติจากคนทั่วไปหรือเปล่า ปกติเราเป็นเด็กศิลป์ของโรงเรียนมาตั้งแต่ประถมแล้วค่ะ พูดได้ว่า มีแข่งวาดรูปที่ไหน เราไปมาหมด เราชอบวาดรูปมาก แล้วก็มักจะใช้เวลาหมกมุ่นกับการวาดรูปมาแต่เด็กค่ะ แต่พ่อเราเป็นตำรวจ เมื่อก่อนพ่ออยากเป็นอัยการค่ะ แต่พ่อสอบอัยการไม่ได้สักที เลยฝังใจอยากให้เราเป็นอัยการ เราเลยโดนพ่อบอกแกมบังคับให้ลงเรียนคณะนิติศาสตร์ แล้วโชคก็ไม่เข้าข้างเรา เราดันสอบติดคณะนี้ พ่อดีใจมากและหวังไว้กับเราเยอะมาก ปัณหาก็มีอยู่ว่า ตลอดเวลาที่เรียน เรามักจะหาเวลาว่างจากการเรียนมาวาดรูปค่ะ จนบางครั้งเพื่อนบอกว่า เรามีโลกส่วนตัวสูงไปแล้ว เช่น ถ้าบางทีเราวาดรูปอยู่ เราก็จะไม่รับโทรศัพท์ใครเลยค่ะ เพื่อนก็ชอบโทรหาเราจัง เราไม่เข้าใจเลย ส่วนมากไม่มีเรื่องสำคัญอะไรค่ะ "ชวนเที่ยว" จนล่าสุดเพื่อนๆเราพูดว่า" จะวาดไปทำไม วาดรูปน่ะมันไร้สาระ เอาไปทำไรกินได้ นอกจากนั่งวาดรูปตามถนนคนเดินอะ "แล้วก็พากันหัวเรอะ เราโกรธมากที่เพื่อนดูถูกสิ่งที่เรารัก จนเราเลิกคบกับเพื่อน แล้วก็อยู่คนเดียว เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะคะ รู้สึกยกภูเขาออกจากอกด้วยซ้ำ เราผิดปกติไหมคะ ที่เราต้องการมีโลกของตัวเองมากขนาดนี้ ผิดปกติหรือเปล่าคะ ที่คนเราจะไม่มีเพื่อน เพราะเราไม่คบเพื่อนในคณะแล้วค่ะ พวกเขาดูถูกสิ่งที่เรารัก จะมีแค่ไม่กี่คนที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ก็คือ แม่เรา แฟนเรา แล้วก็รุ่นน้องอีกสองสามคน เรายินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะดีไม่ดี ขอให้พูดความจริงค่ะ เรายินดีรับฟัง เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไข
Discussion (10)
เป็นกำลังใจให้นะ หาเพื่อนที่เรียนไม่ได้ ก็หาเพื่อนที่รักสิ่งเดียวกันได้นี่นา สู้ๆ นะ
เราขอแนะนำให้ "ย้ายสาขา" ที่เรียนค่ะ ต้องคุยกับคุณพ่อให้เข้าใจค่ะ อาจจะยากหน่อยแต่ต้องพยายามค่ะ เพราะเราเห็นคนที่เป็นแบบนี้มาแล้ว ไม่ไหวค่ะ ขอแยกสักสี่ประเด็น
- เรื่องคุณพ่อ ต้องบอกท่านดีๆว่า คุณพ่อกับเราเป็นคนละคนกัน ถ้าเราเรียนตามที่พ่อชอบ แต่เราไม่ชอบ ต้องคิดด้วยว่าที่เรียนมันจะเป็นอาชีพเรา คือสิ่งที่ต้องอยู่กับเราจนตาย (เว้นแต่ไม่ทำงาน ฮา) ทำงานที่ไม่ชอบ ชีวิตจะไม่มีความสุขนะคะ
- เรื่องเรียน มีเพื่อนคนนึงเรียนที่เขาไม่ถนัด ทนๆได้ 2 ปี ก็ย้ายในที่สุด เพื่อนบอกว่าเขาเสียเวลา 2 ปี ดีกว่าเสียเวลาทั้งชีวิต เรียนไปก็ไม่ดี ชอบก็ไม่ชอบ/ มีอีกคนชอบวาดรูปมาก แทบมือหนึ่งของห้องเลย แต่ที่บ้านบังคับเรียนสาธารณสุข ก็ทนจนจบต่อโท เรียนดีมาก แต่ไม่มีความสุข ทำยังไงก็ไม่ชอบ น่าเห็นใจมาก
-เรื่องเพื่อน เป็นธรรมดาที่เขาไม่เข้าใจ เพราะไม่ใช่เด็กศิลป์ แต่ที่แย่คือเพื่อนคุณไม่เคารพสิ่งที่คุณชอบ แสดงว่าเป็นเพื่อนที่ไม่ดี ทางออกคือ อย่าใส่ใจค่ะ
-เรื่องวาดรูป ขอยืนยันเลยว่าวาดรูปทำอะไรกินได้ค่ะ ทำดีๆเงินดีด้วย สำหรับเรา เราว่าไม่เครียดเท่าเป็นอัยการ เพื่อนเราคนนึงเรียนกฎหมาย แค่ไปฝึกงาน เธอมาบอกเครียดมาก ดูการตัดสินโทษคนทุกวัน หดหู่ใจ
ตัวอย่างงานเงินดีๆ มีตำแหน่งเยอะๆที่เกี่ยวกับการวาดรูปค่ะ
กราฟฟิคดีไซเนอร์, ครีเอทีฟ, ออกแบบผลิตภัณฑ์, งานเบื้องหลังพวกอนิเมชั่น (หลายตำแหน่ง), รับทำอนิเมชั่นแต่งงาน (กำลังฮิต เงินก็ดี) ฯลฯ อยากรู้อะไรด้านงานนี้อีก ถามได้นะคะ
เราว่าไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะโลกส่วนตัวสูงเหมือนกัน 55 แต่เราก็เข้าสังคมตามปกตินะคะ เพียงแค่ไม่ได้ให้ความสำคัญนัก อยากไปไหนคนเดียวก็ไป อยากอยู่เงียบๆก็อยู่ จนบางวันโดนทักว่าวันนี้ทั้งวันไม่ได้ยินเสียงเลยนะ คุยบ้างก็ได้ - -" แต่วันไหนอารมณ์ดีก็เม๊ากระจายเหมือนกัน อิอิ
ส่วนเรื่องเพื่อน จริงๆก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่เราจะเลือกคบคนที่เข้ากันได้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่ถ้าบางเรื่องหากคิดว่าไม่ร้ายแรงนักก็อาจจะไม่ต้องถึงกับโกรธเกลียดเลิกคบกัน เพราะยังไงก็ยังต้องเรียนด้วยกัน อาจจะมีเรื่องที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน เช่น ต้องทำงานกลุ่มร่วมกัน อย่างน้อยจะได้ไม่อึดอัดมากค่ะ แต่ถ้าคิดว่ารุนแรงเกินไปก็เลิกยุ่งไปก็ดีแล้วค่ะเพื่อความสบายใจ แต่พอถึงวัยทำงานก็คงต้องอดทนให้มากขึ้นนะคะ เพราะเวลาทำงานต้องเกี่ยวพันกับคนหลากหลาย อาจจะมีคนที่เราไม่ชอบ ทำไม่ดีกับเรา กวนบ้างอะไรบ้างสารพัดค่ะ แต่ก็ต้องเก็บความไม่พอใจไว้เพื่อให้งานสำเร็จค่ะ แต่ว่าเท่าที่เจอมาถ้าเค้ารู้ว่าเราเป็นคนประมาณนี้ อย่างน้อยเค้าก็จะไม่ค่อยมายุ่งเรื่องส่วนตัวค่ะ ยุ่งกันแต่เรื่องงาน ถึงเราอาจจะติสแตกบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าทำงานเป็นทีมได้และงานสำเร็จก็โอเคแล้วค่ะ (แต่เรื่องนี้ก็แล้วแต่งานแล้วแต่สังคมที่แต่ละคนเจอล่ะเนอะ คงไม่เหมือนกัน ถ้าเจอคนดีก็โชคดีไปค่ะ)
ส่วนเรื่องวาดรูป เราเองก็ชอบค่ะ เมื่อก่อนเคยคิดว่าจะเรียนด้านนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกอย่างอื่นแทนค่ะ เพราะไม่ว่าจะทำงานอะไรก็วาดรูปเป็นงานอดิเรกได้อยู่แล้วเนอะ ซึ่งทุกวันนี้ทำงานด้านเขียนโปรแกรมเป็นหลักแต่ก็ทำงานดีไซน์ควบด้วยค่ะ ก็เลยได้ทำทั้งสิ่งที่ชอบ กับสิ่งที่เคยไม่ชอบแต่ตอนนี้กลับชอบมากซะแล้ว ยังไงก็สู้ๆน้า
ปล. สำหรับคนที่ดูถูกเรื่องงานศิลปะ ยังไงก็อย่าไปถือสามากเลยค่ะ เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน และเค้าคงไม่รู้ว่าอาร์ทติสธรรมดาๆ ไม่มีชื่อเสียงแต่ทำเงินได้มากมายนั้นมีอยู่เยอะแยะค่ะ โดยเฉพาะงาน digital art เพราะสามารถมีลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ต้องไปนั่งขายหรอกค่ะ แต่ถ้าเพื่อนเราพูดเหมือนเพื่อน จขกท เราคงสวนไปว่า ชั้นจะวาดไปทำไมแล้วพวกแกเจือกเรื่องไรของชั้นด้วยฟระ คือชอบสวนแรงๆแบบนี้แหละค่ะ แล้วก็คงปล่อยๆไปค่ะ เพราะสบายใจแล้วที่ได้สวน 55 (ยาวไปมั้ยเนี่ย 555)
เราก็เด็กศิลป์เหมือนกัน แต่เรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตอนแรกคิดเหมือนกันว่า จะย้ายไปเรียนที่ชอบดีหรือเปล่า แต่ก็มาคิดว่ามันสามารถนำมาปรับสมดุลกันได้ ตอนนี้ก็มีความสุขนะคะใช้ศิลปะ บำบัดคนไข้ เราสุขใจ คนอื่นสุขใจ มันมีทางออกเสมอค่ะ