((Jeban's talk)) ความรู้เกี่ยวกับ BB ครีมสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้จ้า

10 5

     สวัสดีค่าาาาา  เห็นหัวข้อ Jeban's talk ประจำเดือนนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะเข้ามาร่วมพูดคุยกับเพื่อนๆ เลยค่ะ
ต้อง ท้าวความมาก่อนว่า เมื่อก่อนนี้เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบสไตล์การแต่งหน้าแบบใสๆ ไม่ลง BB , รองพื้น แบบว่าทาแค่ครีมบำรุงผิวต่อด้วยกันแดด แล้วก็ลงแป้งบนใบหน้าตามด้วยการแต่งหน้าเบาๆ ตามปกติค่ะ

     แต่แล้ว ....  เมื่อวันเวลาผ่านไป ทำให้เรารู้เลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

พอ เราเริ่มก้าวผ่านพ้นวัยปริญญาตรีมาได้ไม่นาน หลังจากเรียนจบมา ก็เป็นธรรมดาที่เราจะใช้วันเวลาว่างๆ บางวันมาน่ังค้นรูปถ่ายสมัยเรียนมาดู ......  ดูไปดูมาก็ .......  เอิ่มมมม 
  คือว่า มันรู้สึกได้เลยค่ะว่า ใบหน้าของเราที่เคยใสๆ แต่งหน้าแบบโบ๊ะแป้งตลับเดียวเอาอยู่ มันเริ่มเปลี่ยนไป ยิ่งพอมาส่องกระจกดูใกล้ๆ เราเห็น น้องด่าง (จุดด่างดำ) เริ่มที่จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา จากจางๆ ก็เริ่มชัดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทีนี้สิเราก็เริ่มมองหาวิธีการแต่งหน้าให้ดูเนียนใส เพื่อที่เวลาเราออกไปทำงาน พบเจอลูกค้าจะได้ดูดีน่าเชื่อถือ 




     ที่เกริ่นมาทั้งหมด เพื่อต้องการจะบอกว่า "จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าเรา... เป็นที่มาที่ทำให้เราหันมาสนใจ BB"
ซึ่งเราว่าคนที่เพิ่งจะเริ่มใช้ไม่นานแบบเราน่าจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ค่ะ เราต้องบอกก่อนว่า *ข้อมูลบางอย่างในนี้เราก็ค้นหามาจากในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเรานำจากหลายแหล่ง และรวบรวมใจความสำคัญมาอยู่ในกระทู้นี้แล้วค่ะ*




ถ้าพร้อมแล้ว.... มาเริ่มต้นทำความรู้จักกับ BB กันเลย !!!!


     "BB Cream" ย่อมาจาก Blemish Balm Cream เป็น ครีมปรับสภาพผิวหน้าให้เนียนใส เน้นความปกปิดที่เป็นธรรมชาติกว่ารองพื้น เนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย ทำให้การแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสาวๆที่ผิวแพ้ง่าย สาวๆที่มีรอยแดงๆ เห่อบนใบหน้า บีบีครีมจะช่วยปรับสภาพสีผิวให้เป็นปกติ และเจ้าครีมวิเศษตัวนี้ยังสามารถปรับได้เข้ากับทุกสีผิวได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!

    นอกจากนั้นคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ BB Cream มีความแตกต่างจากพวกรองพื้นก็คือ BB Cream เป็นการรวมเอาคุณสมบัติของ ครีมบำรุง + เบส + ครีมกันแดด + รองพื้น เข้าด้วยกันจ้า เพราะฉะนั้นเวลาที่ใช้เจ้า BB แล้วทำให้ประหยัดเวลาในการบำรุง , ปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน กระจ่างใส และการทาครีมกันแดดด้วยจ้า ((แต่ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าหากใครที่ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษก็ลงครีมบำรุงตามปกติก่อนลงเจ้า BB ก็ได้นะ เราเองก็ทำยังงั้นเหมือนกัน))



    เราว่า BB น่าจะเป็นสิ่งวิเศษที่ตอบโจทย์สาวทำงานอย่างเรา เพราะด้วยประโยชน์ที่มากมายของมัน เช่น

     

  ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้าเพราะเป็นการรวมเอาคุณสมบัติที่หลากหลายเอาไว้

    
  สามารถช่วยปกปิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ รวมถึงทำให้รูขุมขนดูเล็กลง

    
  สามารถใช้ได้ง่าย คนที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้าก็สามารถใช้ได้นะ เพราะว่าเนื้อครีมของ BB ไม่หนัก และเกลี่ย  ง่ายมากค่ะ

   
  มีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของแต่ละคน ทั้งแบบเนื้อแมต, แบบที่มี shimmer , แบบที่ทาแล้วทำให้หน้าฉ่ำๆ 

   
  ที่สำคัญ ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของสาวทำงานอย่างเราได้มากโขเลยทีเดียว เพราะสามารถตัดรายจ่ายในการซื้อครีมจิปาถะอื่นๆ ทั้ง ครีมบำรุง เบส กันแดด รองพื้น ไปได้เลยถ้า BB ที่ครอบรองสามารถตอบโจทย์แทนครีมตัวอื่นๆ ได้จ้า


** อันนี้เป็นภาพตัวอย่างของก่อนและหลังจากที่ลง BB แต่ละเบอร์แล้วของ etude จ้า**



รู้หรือไม่ว่า :
แม้ว่า BB Cream ที่ฮ็อตฮิตกันในหมู่สาวๆ หลายยี่ห้อจะมีที่มาจากแดนกิมจิ แต่ว่าแท้จริงแล้ว ต้นกำเนิดของมันมาจากประเทศเยอรมนี!!! ซึ่ง เกิดขึ้นโดยแพทย์ผู้เชียวชาญด้านผิวหนังที่ผลิตขึ้นมา เพื่อที่จะปกปิดร่องรอยบาดแผลจากการเลเซอร์ของคนไข้ ซึ่งความนิยมใช้ BB Cream มาแพร่หลายเอาก็ตอนที่ มีสาวสังคมชั้นสูงของเกาหลีนำมาใช้







     สำหรับเทคนิคง่ายๆ ที่เราใช้ในการลงบีบีเป็นประจำทุกวันก็คือ

    

หลังจากที่บีบ BB ออกมาจากหลอดแล้ว เราจะวอร์มก่อนทุกครั้งเพื่อให้ BB ได้รับความอบอุ่นจากอุณภูมิร่างกายเรา หลังจากที่วอร์มแล้วจะทาลงไป เราจะป้ายบีบีให้เป็นจุดๆ บนผิวหน้าเรา หลังจากนั้นก็ค่อยๆ กดเบาๆ เหมือนเวลาที่เราตบแป้งพัฟลงบนผิวหน้าจ้า เวลาที่ทาลงไปบนผิวหน้าแล้วจะทำให้เนื้อครีมเนียนไปกับผิวหน้าเราเลยล่ะ

    
อย่าคิดนะว่าที่เค้าบอกกันว่า BB มีคุณสมบัติคือ เนื้อครีมบางเบาแล้วทาลงไปเท่าไรก็ดูไม่วอก ถ้าเราทาเยอะเกินไป ก็ทำให้ดูเหมือนโบกปูนได้นะจ๊ะ  อิอิ ข้อแนะนำก็คือ บีบออกมาจากหลอดทีน้อยนิด ทั้งใบหน้าใช้ประมาณ 1 เมล็ดข้าวโพด หลังจากวอร์มเสร็จก็ค่อยๆ แต้มลงไปบนใบหน้าที่ละจุด แบ่งเป็น แกมทั้งสองข้าง หน้าผาก และคาง

    
แต่ถ้าคิดว่าปริมาณที่ลงยังน้อยเกินไป ยังมีรอยด่างดำหรือรอยสิวโผล่มาให้เห็นอยู่อีกล่ะก็ อนุโลมให้ลงเพิ่มได้อีกนิดหน่อยจ้าแล้วก็ค่อยๆ ตบเบาๆ ให้เนียนโดยทั่วกัน ^^

    
สำหร้บเราแล้ว เวลาที่เราลง BB เราจะทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ BB เซ็ตตัวก่อน หลังจากนั้นเราจะใช้แผ่นฟิล์มเพื่อซับความมันออกจากใบหน้า และตามด้วยแป้งฝุ่น (ย้ำว่าแป้งฝุ่น) ค่อยๆ ตบเบาๆ ลงไปบนผิวหน้าจ้า ควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้แป้งผสมรองพื้นนะจ๊ะเพื่อนๆ เพราะหน้าเราอาจจะดูเนียนก็จริง แต่ว่ามันจะดูเหมือนพอกหน้าได้จ๊ะ


 

**** สามารถดูรายละเอียดการลง BB แบบคร่าวๆ ได้จากรีวิว BB ที่เราใช้อยู่ด้านล่างจ้า ****


 
เนื่องจากเราเพิ่งเริ่มใช้ BB มาได้ไม่นาน อย่างที่เกริ่นนำเอาไว้ในตอนแรกว่า เพราะเราเพิ่งรู้ตัวว่าสภาพผิวหน้าของเราเปลี่ยนไป ดังนั้น รีวิวของเราอาจจะยังไม่ไม่มากนะเพื่อนๆ สำหรับรีวิวในภาพอาจจะมองเห็นความแตกต่างไม่ค่อยชัดเจน ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเรานำมาทดสอบกับผิวหน้าเราเองจะเห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจนมาก แต่ก็อย่างว่าละเนอะ มาร่วมสนุกในหัวข้อ Jeban's Talk เพราะว่าเราอาย ไม่กล้าเปิดเผยหน้าตานั่นเอง
  อิอิ


     ตอนนี้มาลองดู BB ที่เรามีอยู่กันดีกว่าทั้งหมด 2 ตัว ตัวแรกขอเริ่มที่ Maybelline Clear Smooth BB Stick จ้า



 
     สรุปความคิดเห็นของเรากับเจ้า BB Stick ตัวนี้ เราคิดว่าสามารถปกปิดได้เนียนเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อที่ป้ายลงไปบนผิวเรา มันเหมือนกับเป็นแป้งๆ เวลาเกลี่ยก็เลยเกลี่ยง่ายและไม่เป็นคราบด้วยล่ะ แต่เรื่องคุมมันที่เค้าอ้างว่าคุมได้ยาวนาน เราว่าก็ไม่ได้คุมได้นานขนาดนั้นนะ แต่ที่ไม่ชอบเลยก็คือเรื่องของกลิ่น เราว่ากลิ่นมันแปลกๆ แหละ เวลาทาแล้วมันเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายจมูกเลย คิดว่าไว้คงลองหายี่ห้อใหม่มาลองใช้ดูหลังจากนี้จ้า 





มาที่อีกตัวนึงที่เรามีอยู่ในครอบครอง Cezanne BB Cream All in ONE Foundation




     สำหรับตัวนี้เราใช้อยู่เป็นประจำทุกวันเลย ถึงแม้ว่าปกติหน้าเราไม่ค่อยมัน เวลาที่เราแต่งหน้าโดยทาแป้งตลับอย่างเดียว หลังจากผ่านไปครึ่งวันแล้วมาซับหน้า ยังซับได้ไม่ถึงครึ่งแผ่นกระดาษเลย แต่พอทา BB ตัวนี้แล้ว หน้าเราสามารถมันขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขนาดครึ่งวันซับมันได้ 1 แผ่นกระดาษ แต่ก็ยอม เพราะเราทาตัวนี้ตั้งแต่ตอนเช้า ออกไปทำงานตากแดดตากแอร์ทั้งวัน กลับมาที่บ้านตอนเย็นแล้ว หน้าก็ยังเด้งดูมีออร่าอยู่เหมือนเดิม ^^ จ้า


 
     ปิดท้ายด้วยภาพที่เราทำการทดลองความมันของเจ้า BB ทั้งสองตัวนี้นะจ๊ะ โดยเราเอา BB ไปทาเอาไว้ที่แผ่นฟิล์มซับมัน แล้วสังเกตผลหลังจากผ่านไปได้ 1 นาทีและ 5 นาที โดยเรานำยกขึ้นมาส่องกับแสง ก็เห็นเป็นดังภาพ แสดงให้เห็นเลยว่าทั้ง 2 ชนิด มีน้ำมันอยู่ประมาณเท่าไรจ้า



 
หวังว่าทุกคนคงได้ประโยชน์จาก Jeban's Talk ของเราไปบ้างไม่มากก็น้อยนะเพื่อนๆ ถ้าใครมีอะไรแลกเปลี่ยน หรือมี BB เจ๋งๆ ตัวไหนมาแนะนำมือใหม่อย่างเรามาร่วมพูดคุยกันได้จ้า ยินดีรับฟังนะคะ 


 


pingx2

pingx2

Just an ordinary Girl

FULL PROFILE