- รบกวนพี่ๆชาวjebanแต่งประโยคเป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยค่ะ >< -

ท่องไปไม่เวิร์คหรอกนะคะเอาจริงๆ เคยมาเเล้ว
แถมถ้าเขาถามนอกเหนือ หรือถามต่อจากคำตอบของคุณขึ้นมาจะทำยังไงคะ
เตรียมความมั่นใจไปดีๆจะดีเสียกว่า นั่งท่องเครียดเปล่าเสียเวลา เเละอยากบอกว่า
คนเป็นอาจารย์เค้าดูรู้อยู่เเล้วว่าท่องมา และนั่นทำให้เค้าไม่ประทับใจซะมากกว่านะคะ

ผิดมันไม่เป็นไรอยู่เเล้ว เราสมัครเข้าไปเรียน
อาจารย์เค้าก็รู้อยู่เเล้วว่าไม่ได้เป๊ะมาก่อนแน่นอน
ถ้ารู้มาดีแน่นปึ้กเเล้วจะมาเรียนทำไมจริงป่ะ.

ที่คราวที่เเล้วติดสำรองอาจจะไม่ได้มาจากทักษะทางภาษาก็ได้นะ
เพราะเราไม่มั่นใจตรงนั้นเลยคิดมุมเดียวหรือเปล่า จริงๆอาจเพราะอย่างอื่นก็ได้
เช่นบุคคลิก มารยาท ความเป็นตัวของตัวเอง ทักษะทางสังคมอื่นๆ
เอาเวลาไปพิจารณาส่วนนั้นและทำใจสบายๆจะดีกว่า.

พี่คิดว่าเรากลัวเกินไปรึเปล่า บางทีเข้าไปนั่ง อ.เค้าอาจจะถามเรื่องที่บ้าน หรือไม่ก็ให้เราเล่าเรื่องตัวเองไปเลยด้วยซ้ำ
เค้าดูที่ความมั่นใจมากเป็นอันดับแรกนะคะ ถ้าหนูพูด สามประโยคนี้
ด้วยภาษาอังกฤษ(แปลจากประโยคของน้องเลยนะคะ) มันก็จะพูดได้หลายแบบมาก เช่นสองแบบนี้

 1. I want to learn this faculty because English language is the united language that important for our life. I like to learn English and want to prove my skill to be better.
  2.I would like to study in KU University because here is the one of university in Thailand that has high quality. Including I have a dream I want to be a student in here.
  3.I would like to be a guide because I like to see many people. It practices me to be self-confident about using English language better when talking with foreigner.

กับ


1. I would like to study in this faculty, English major in order to improve my skills. I'm interest in languages especially English which is being used worldwide.

2. KU is renowned for a high quality education, the major and the courses is really interesting and practical.

3. Being a tour-guide is my dream job because I love traveling, meeting people from all over the world. Most of all, I could practice my English, hope I can speak English fluently.


ปล. ผิดบ้างอะไรบ้างก็อย่าว่ากันนะคะ

พี่คิดว่า อ.ที่เค้ามาสอบสัมภาษณ์เค้าไม่ได้รับแต่คนที่จะต้องพูดถูกหลักไวยากรณ์เป๊ะหรอกค่ะ
ถ้าหนูพูดแบบธรรมดา แต่ความมั่นใจเต็มเปี่ยม หนูก็มีโอกาสติดมากกว่า พูดแบบไวยากรณ์เป๊ะๆแต่ตัวหนูเองขาดความมั่นใจเอามากๆ และดูไม่เป็นตัวเองเลย...จะพูดแบบไหน ใช้ภาษาสวยแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่าความมั่นใจและรอยยิ้มนะคะ^^"  

ที่ว่าคัดออกเยอะเนี่ยเท่าไหร่เหรอคะ ? เพราะปกติทุกที่เค้าก็รับเผื่อ ๆ กันแทบจะทุกที่อ่ะค่ะ
อย่างของเราติดรับตรง มข. ตอนแรกจะรับ 60 หรือ 70 เนี่ยแหละจำไม่ได้
แต่พอตอนประกาศก็รับเผื่อตั้งเยอะ (เราก็แอดปีนี้ค่ะ)

แล้วตอนเราไปสอบสัมภาษณ์ เราก็เตรียมแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ
แต่งเองเนี่ยแหละ มั่นใจกว่า เพราะถ้าผิดก็ผิดที่เรา
ให้คนอื่นแต่งให้แล้วไม่มั่นใจกว่าน่ะค่ะ เหมือนไม่ใช่คำพูดเรา รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
ที่สำคัญจะจิตตกด้วยนะ เพราะมัวแต่ท่องไอ้ประโยคที่แต่งให้อยู่นั่นแหละ

แต่พอไปสัมภาษณ์มันไม่ต้องใช้เลยค่ะ ไอ้ที่เตรียมมา TT (เสียใจนิด ๆ กะมาโชว์มั่วแท้ ๆ 55 5)
เราว่าเค้าดูบุคลิกมากกว่านะคะ อย่าง เวลาพูด การสบตา การตอบ
ของเราจะโดนถามเรื่องที่บ้านมากกว่าซะอีก (ไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียน หรือที่สอบติดเลย -*-)

ยิ้มเยอะ ๆ ไหว้สวย ๆ พูดจาไพเราะ ๆ ตอบคำถามแบบอ่อนน้อมถ่อมตน
เราว่าช่วยได้มากกว่าพูดภาษาอังกฤษซะอีกค่ะ ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ

 เอ่อ...อันนี้พี่ก็หมายถึงรับตรงนะคะ^^"

สัมภาษณ์ไม่ใช่ดูแค่ความไม่บ้านะค่ะ- - เราติดรับตรงไม่ใช่แอดเพราะถ้าแอดปกติรับทุกคนอยู่แล้ว
แล้วพอดีคณะที่เราจะเข้าเค้าคัดคนออกตอนสัมภาษณ์อีกเยอะค่ะ เราเคยติดแค่ตัวสำรองมาแล้วทั้งที่ตอนนั้นก็มั่นใจตอนสัมภาษณ์มากว่าได้แน่ tt

ขอบคุณค่ะ