เจาะลึก น้ำยาลอกผิว จากผู้เชี่ยวชาญและอดีตพนักงานทำผิว

น้ำยาลอกผิวมีส่วนผสม 3 ชนิด

น้ำกรด (กรดไตรคลออะซีติก/กรดไกลโคลิก)

ยาชา (ทาผิวไม่ให้มีความรู้สึกเจ็บ)

สีผสมอาหาร (สีนี้แล้วแต่ร้าน ๆ ไป เช่น เขียว กรดอ่อน ฟ้า กรดแรง)

 การ ลอกผิวก็ คือการเอาผิวชั้นบนหรือหนังกำพร้าออก เพื่อให้ผิวที่เสื่อมสภาพ หยาบกร้าน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไปแบบเร่งด่วนมาก ๆ แต่เป็นอะไรที่รุนแรงมากและไม่เห็นผลเลย น้ำยาลอกผิวคือ น้ำกรด TCA คือ (กรดไตรคลออะซีติก/กรดไกลโคลิก) ไม่ไหม้ ไม่แสบ ไม่จริง!! ไม่เชื่อลองลอกดูค่ะ ถ้าไม่แสบ ไม่ไหม้จริงอย่าเชื่อเราอีกเลย เพราะผิวจะลอกไม่ได้เลย ถ้าไม่มีน้ำกรด TCA  เจ้าไหนที่บอกไม่ใช้ TCA เป็นอะไรที่พูดง่ายและเราก็พิสูจน์ไม่ได้ มีการผสมยาชา เพื่อไม่ให้เราแสบมาก แต่แสบจริง ๆ   อดีตพนักงานคนหนึ่งบอกว่า น้ำยาที่สั่งมาโลละไม่ถึง 1,000 บาท แต่ว่าเค้านำมาลอกให้ลูกค้าครั้ง 800-2000 บาทขึ้นอยู่กับส่วนต่างๆของร่างกาย ถ้าลูกค้าทำไปแล้วมีผลข้างเคียงทางร้านก็จะบอกไปว่า เพราะว่าลูกค้าเป็นคนผิวบาง ผิวแห้ง ขาดการดูแลมาก่อน(เหมือนกับเค้าโทษว่าผิวเราไม่ดีมาก่อน) 

ผู้เชี่ยวชาญว่า
แต่ทฤษฏีจริง ๆ แล้ว ก็เหมือนกับการทอดไก่  หนังไก่โดนน้ำมันร้อน ๆ หรือผิวโดนน้ำกรด ก็จะไหม้ช่วงผิวหนังเปลือยนอก แต่ผิวด้านในที่เป็นผิวเราถูกปกป้องจากมลภาวะโดยมิดชิดมาก ๆ และไหนจะโดนความร้อน จากการอาบน้ำอุ่น-ร้อนจึงทำให้ผิวข้างในแห้งทุกวัน เช้า เย็น บวกด้วยสบู่ที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาว หรือง่าย ๆ ที่ส่วนผสมของสารทำความสะอาดห้องน้ำ ขี้ไคลจึงออกแบบเร็วมากน่ากลัวสารเคมีล้วน ๆ ผิวหนังที่กรอบ ๆ ออกเร็ว ๆ เหมือนไก่ไม่มีความชุ่มชื่นไก่จึงสุก  ข้างในจากสีแดง ๆ  ก็จะขาวซีด แต่ไก่ไม่มีชีวิตแล้ว แต่เรามีชีวิต เฉพาะระบบร่างกายเราจึงมีน้ำเหลือง เซลล์หล่อเลี้ยงพอผิวเรามีความชุ่มชื่นกลับมา ระบบน้ำเหลืองเริ่มทำงานปกติเป็นธรรมชาติผิวก็จะเหมือนเดิม แต่ต่างตรงที่ผิวแยกลงเพราะเราเอาน้ำกรดมาทำร้ายตัวเอง ร้านต้องการเงินจึงต้องการให้ลอกทุกเดือนติดต่อ


ตัวอย่างจากลูกค้าผู้ที่ทำมาจริงๆ ค่ะ  ลอกวันที่ 1 เดือน ม.ค. วันที่ 1 เดือน ก.พ. ลอกต่ออีก เพื่อไม่ให้ผิวได้ไม่มีเวลาสร้างไขมันและระบบน้ำเหลืองที่ถูกต้อง จึงดูเหมือนขาวขึ้น แต่จริง ๆ แล้วผิวเราเ่ยวและแห้งมากต่างหาก แต่เขาบอกค่อยฟื้นฟูทีหลัง และท้ายสุดผิวก็บางมีปัญหาตามมา ต่อไปจะใช้กลุ่มไวเทนนิ่งไม่ได้เพราะจะแพ้ทันที ขัดผิว/พอกผิว ก็ไม่ได้เพราะมี AHA หมด และร้านจะบอกว่าต้องทำ 5-6 ครั้ง ถึงจะได้เหมือนแม่ค้านี้ ลอกติดต่อกันเลย ก็ได้เงินเราไปมากแล้วนะ ต้องมาคอยดูแลผิวกว่าคนปกติเป็น 10/1o เท่าตัว  แล้ววัน ๆ จะไม่ทำทำงาน ไม่เรียน เลยดูแต่ผิวอย่างเดียวก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว และเราบอกเจ้าของว่าทำไมยังไม่ขาวดำกว่าเดิม ลอกมา 6 ครั้งแล้ว โดนแดดก็ยิ่งดำ คำตอบสุดท้ายที่เราเสียใจ และความรู้สึกคือ “คุณดูแลผิวไม่ดี” แล้วก็ยัดครีมทางร้านของเค้าให้เราเพิ่มอีก


  บทความนี้รวบรวมมาจากเว็บต่างๆ เช่น dek-d  บทความและเพื่อนของ จขกท. ที่ผ่านการลอกผิวมา 3 ครั้งตอนนี้ไม่สามารถโดนแดดแรงได้ค่ะ ถ้าออกแดดแรงๆจะมีอาการแสบร้อน ผื่นแดงขึ้นตามผิว ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยเป็นค่ะ 
  อยากให้เพื่อนๆที่อยากสวยด้วยวิธีที่เร่งด่วนแบบนี้ลองคิดก่อนทำสักนิดนะคะ เพราะว่ายังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้เพื่อนๆสวยได้ค่ะ

Discussion (9)

อาจารย์ที่สอนชีวเคมีเราเล่าให้ฟังอ่าค่ะ ว่าการไปทำหน้าใสเนี่ย มีการใช้ฟีนอลซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนอ่าค่ะ แต่ใช้ในความเข้มข้นต่ำๆเพื่อให้มันกัดผิวเรา แต่ปกติฟีนอลนี่อันตรายเหมือนกันนะคะ เพราะเค้าไว้ใช้ฆ่าเชื้อตามอุปกรณ์ ไม่ใช่กับคนค่ะ
แต่เรื่องการใช้สารลอกผิวนี่น่ากลัวจริงๆนะคะ แถมมีมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกลัวด้วย

มันขึ้นอยู่กับน้ำยาด้วยนะคะ ยังไงก็เลือกกันดูดีๆนะคะ
เอ่อ  เราก็ลอกนะคะ ลอกมามากกว่า 3 ครั้งด้วยซ้ำ ผลที่ได้ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น พวกรอยแผลเป็นหายเกลี้ยง เราว่า ใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นพอดี และลอกอย่างถูกวิธี ก็ไม่อันตรายนะคะ เราก็ลอกเองค่ะ ไม่ได้ให้ที่ร้านทำให้ด้วย เพื่อนๆที่ลอกกัน ก็ดีขึ้นกันทุกคนนะคะ เราว่า ขึ้นกับน้ำยาที่ซื้อมามากกว่านะคะ    แต่ขอบอกว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดคร่า 
AHA ไม่อันตรายนะคะ (ถ้าทำอย่างถูกวิธี รวมถึงเว้นระยะเวลา) แต่ในที่นี้เค้านำกรดที่เอาไว้ทาหูดนะคะ แต่ความเข้มข้นคงน้อยกว่ามาลอกผิวเพื่อความสวยงาม อย่างไรผิวมันคงขาวขึ้นแน่นอน แต่เกราะป้องกันมลภาวะหายไปชั้น-2แล้ว สุขภาพผิวก็ย่ำแย่แล้วละค่ะ
ขอบคุณความรู้ดีๆ ที่จขกท นำมาฝากกันนะคะ
 ขอบคุนความรู้ดีๆค่ะ
แต่เดี๋ยวนี้บางคลินิกก็มีลอกผิวแต่ใช้กรดผลไม้ AHA แทนค่ะ ไม่ค่อยอันตราย แต่จะลอกเป็นขุยๆแล้วก้อลอกน้อยกว่า