การกำจัดขนแบบถาวร

การกำจัดขน มี 2 แบบ คือ แบบชั่วคราวโดยทำลายก้านขน และแบบกึ่งถาวร
ที่มา http://www.zaadee.com/hair-laser-removal.html

โดยทำลายเนื้อเยื่อต่อมขน

การกำจัดเส้นขนอาจใช้ยาละลายเส้นขน (depilatory) เป็นสาร thioglycolate ผสมในครีมหรือโลชั่น สารจะทำให้เกิดการแยกพันธะของกรดอะมิโน (cysteine bond) ของก้านขน หลังทาไว้เพียง 5-10 นาที เส้นขนจะละลายกลายเป็นของเหลวข้น สามารถล้างออกได้ แต่สารนี้ค่อนข้างระคายผิวอาจก่อให้เกิดการแพ้ได้

การกำจัดเส้นขนโดยการถอนก้านขนออกด้วยแหนบถอน การถอนขนทำได้ครั้งละเส้น จึงเสียเวลา ส่วนเครื่องมือจับเส้นผมเป็นกระจุกจะช่วยให้กำจัดขนได้เร็วขึ้น หลังถอนผิวหนังจะเรียบดูสะอาดตา แต่ข้อเสียคือ เจ็บ อาจเกิดขนคุด และการอักเสบตามมาภายหลัง

การถอนก้านขนอาจแวกซ์ด้วยขี้ผึ้งร้อนหลอมเหลว ทาไปตามแนวนอนของเส้นขน เมื่อขี้ผึ้งเย็นสามารถกระตุกแผ่นซึ่งมีขนติดอยู่ออก การแวกซ์สามารถกำจัดเส้นขนได้รวดเร็ว แต่ก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกับการถอนขน

การกำจัดขนโดยการโกนออกทำได้ง่ายรวดเร็ว แต่ขนจะยาวขึ้นเร็วกว่าการถอน เพราะกำจัดได้เฉพาะขนซึ่งโผล่พ้นผิวเท่านั้น เมื่อขนยาวขึ้นปลายเส้นขนจะแข็ง จึงทำให้หลายคนคิดว่าการโกน กระตุ้นให้ขนหยาบหนา แต่จากการศึกษาพบว่าเส้นขนจากการโกนจะเหมือนเดิม

การกำจัดขนด้วยวิธีทำลายเนื้อเยื่อต่อมขน ด้วยเครื่องมือเปลี่ยนกระแสไฟเป็นความร้อน (electrolysis) โดยสอดเข็มขนาดเล็กเข้าไปตามแนวขน ให้ปลายเข็มอยู่ลึกถึงระดับรากขนจึงปล่อยกระแสไฟขนาดต่ำ การทำลายแต่ละเส้นขนจะใช้เวลานาน 1-2 นาที จึงเสียเวลาที่จะทำลายเส้นขนในแต่ละพื้นผิว เช่น บนใบหน้าอาจต้องทำทุก 4-8 สัปดาห์ นาน 2-3 ปี ในประเทศไทยยังขาดผู้ชำนาญเฉพาะ และ แพทย์ผิวหนังก็ไม่มีเวลาทำ จึงไม่เป็นที่นิยม และการจี้ด้วยไฟฟ้า ไม่สามารถทำลายเส้นขนแบบถาวร ต้องเลือกทำลายเฉพาะขนระยะเจริญเติบโต แต่ก็ไม่สามารถเลือกชนิดของเส้นขนได้จากการดูลักษณะ เส้นขน อาจใช้การโกนขน 2-3 วันก่อนจี้และเลือกทำลายเฉพาะ เส้นขนซึ่งยาวออกเท่านั้น แต่เส้นขนเส้นนั้นอาจเข้าสู่ระยะพักตัวพอดีก็จะไม่มีประโยชน์เช่นกัน เส้นขนระยะพักตัวเนื้อเยื่อต่อมขนจะเคลื่อนลงลึก และไม่สามารถทราบได้ว่าอยู่บริเวณใด การจี้จึงไม่ได้ผล

การทำลายเส้นขนด้วยแสงเลเซอร์ และแสง IPL (intense pulsed light) วิธีดังกล่าวกำลังอยู่ในกระแสการกำจัดขน แบบกึ่ง ถาวร เนื่องจากเส้นขนสีดำในระยะเจริญจะมีการสร้างเม็ดสีเมลานินในเนื้อเยื่อต่อมขน และในเนื้อเยื่อหุ้มรากผม จะไม่พบการสร้างเม็ดสีในรากผมซึ่งพักตัว สีเมลานินดูดแสงได้ดีในเกือบทุกช่วงแสง เมื่อยิงแสงช่วงมองเห็น (visible light) และรังสีอินฟราเรด (infrared) ซึ่งมีความยาวคลื่นแสงผ่านลงลึกถึงต่อมขน แสงจะถูกดูดซับด้วยเม็ดสี เมลานินในต่อมขน แสงในปริมาณสูงเปลี่ยนเป็นความร้อนทำลาย เนื้อเยื่อต่อมขนในระยะเจริญ แต่จะเป็นการทำลายเพียงบางส่วนจึงมักมีเส้นขนงอกใหม่ได้

แสงเลเซอร์กำจัดขนเป็นรังสีมีช่วงคลื่นเฉพาะ (monochromatic) เช่น เลเซอร์ทับทิม (ruby lasers) เป็นแสงสีแดงความยาวช่วงคลื่น 694 นาโนเมตร หรือแสงเลเซอร์ 755 นาโนเมตร (Alexandrite lasers) รังสีช่วงอินฟราเรด 800 นาโนเมตร (Diode lasers) หรือ 1,064 นาโนเมตร (Neodynium : YAG lasers) ยังมีการใช้แสงช่วงมองเห็น
แบบช่วงกว้าง (polychromatic) 800-1,200 นาโนเมตร (intense pulsed light = IPL) เพื่อทำลายเส้นขน เครื่องมือแต่ละชนิดมี ข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และยังอยู่ในขั้นทดลองว่าสามารถกำจัดขน แบบถาวรได้หรือไม่ ยังไม่มีเลเซอร์ที่ทำลายเนื้อเยื่อรากผมหมดใน การยิง 1-2 ครั้ง แต่พบว่าหลังการยิงเลเซอร์แต่ละครั้ง เส้นขนจะมีขนาดเล็กลง จึงต้องมีการยิงซ้ำหลายครั้ง และไม่สามารถรับรองได้ว่า เครื่องมือเลเซอร์ชนิดใดทำลายเส้นขนได้อย่างถาวร

การทำลายเส้นขนแบบถาวรแสงเลเซอร์จะต้องทำลายเส้นขนในระยะเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ไม่เหลือเนื้อเยื่อต่อมขนที่จะงอกเป็นขนเส้นใหม่ แต่ธรรมชาติของเส้นขนแต่ละเส้นจะอยู่ในระยะเจริญหรือพักตัวแตกต่างกัน เส้นขนในแต่ละแห่งจะมีอายุของการเจริญของแต่ละเส้นแตกต่างกัน บางแห่งอาจอยู่ในระยะพักตัวนานกว่าระยะเจริญ และยังมีความแตกต่างของธรรมชาติของขนในแต่ละคน ส่วนความสามารถของเครื่องเลเซอร์ก็ยังอยู่ในขั้นทดลองว่าควรจะใช้รังสีชนิดใด ในปริมาณพลังงานเท่าใด ระยะความถี่ของการยิงควรเป็นเท่าใด และการประเมินผลจะต้องรอนานพอ เพราะขนที่ขึ้นในระยะแรกอาจมีขนาดเล็กลงจริง แต่เส้นขนอาจหนาขึ้นในชุดหลังได้

การกำจัดขนด้วยแสงจะทำได้เฉพาะขนที่มีสีดำ ส่วนขนหงอกจะต้องใช้การจี้ไฟฟ้า ผลข้างเคียงจากการใช้เลเซอร์ และ IPL พบน้อย อาจมีรอยไหม้ ถ้าผิวหนังมีเม็ดสีเมลานินสูงอาจดูดซับรังสีไว้จนเกิด การไหม้ ในบางรายอาจเกิดรอยดำหรือรอยด่าง การพัฒนาการทำลายเส้นขนกำลังก้าวหน้า มีการใช้คลื่นวิทยุร่วมกับ IPL ทำลายเส้นขน ทุกชนิด เทคโนโลยีการทำลายเส้นขนคงจะมีมากขึ้นให้เลือกใช้กัน ดังนั้นการรออาจมีผลดี คือ ค่าใช้จ่ายจะลดลง และประสิทธิภาพการทำลายเส้นขนดีขึ้น

Discussion (3)

มีประโยชน์ที่สุด ขอบคุณนะคะ