Beaty Arrival

5 Keds Must-Have Items 5 ไอเท็มสุดคลาสสิกของเคดส์ที่ควรมีไว้

หัวใจหลักด้านงานดีไซน์ของเคดส์ (Keds) นั้นคือการออกแบบรองเท้าที่เหมาะและตอบโจทย์สำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะผู้หญิงนั้นมีกิจกรรมและความชื่นชอบที่หลากหลาย ดังนั้นรองเท้าสำหรับพวกเธอจึงมีความต่างกันออกไป หากใครเป็นแฟนของแบรนด์ก็จะรู้ว่าเคดส์นั้นมีรองเท้า 5 รุ่นที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นคลาสสิกไอเท็มที่สาวๆ ทุกคนควรมี สำหรับแมทช์กับเสื้อผ้าสไตล์ต่างๆ ตามต้องการ

1. Champion
Champion เป็นรองเท้ารุ่นเด่นของแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1916 เป็นรองเท้าผ้าใบที่ทำจากยางและมีการปรับเปลี่ยนงานดีไซน์ตามกาลเวลา เพื่อให้สอดรับกับรูปร่างเท้าที่แตกต่างกันของผู้หญิง และความสะดวกสบายที่ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่รูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์นั้นส่วนใหญ่ยังคงงานดีไซน์อันโดดเด่นอันเป็นชื่นชอบเอาไว้ โดยรองเท้าสุดคลาสสิกนี้ได้รับการสวมใส่โดยสตรีผู้ทรงอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็น Audrey Hepburn, Yoko Ono, Marilyn Monroe และ Jackie Onassis ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายที่เป็นที่จดจำได้ทันที ทำให้เป็นหนึ่งในไอเท็มพื้นฐานที่อยู่เหนือกาลเวลา เหมาะสำหรับมีไว้ทุกติดตู้เสื้อผ้าของสาวๆ

2. Crew Kick 75
Crew Kick 75 เป็นรองเท้าสไตล์ย้อนยุคที่เรียกว่ามีความเท่แบบแมนๆ แต่ไม่แมนจนผู้หญิงไม่สามารถใส่ได้ เพราะรองเท้ารุ่น Crew Kick 75 นั้นได้รับการออกแบบให้มีความเหมาะสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ งานดีไซน์แนวย้อนยุคถูกนำมาจากงานออกแบบรุ่นก่อนของแบรนด์ ซึ่งบริเวณส่วนบนได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจ พร้อมเพิ่มกันชนยางนิ้วเท้า และโลโก้ "Sporty Wave" ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงปี 1970 (ที่มาของเลข "75") ลงไปด้วย ทำให้สาวๆ สามารถสวมรองเท้ารุ่น Crew Kick 75 กับชุดสไตล์ต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ขากว้างสไตล์บอยเฟรนด์ และแม้กระทั่งกระโปรงสั้นเลยทีเดียว

3. Tiebreak
รองเท้ารุ่น Tiebreak ของเคดส์เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสาวๆ ที่ต้องการรองเท้าที่สามารถหยิบใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวันและในวันที่รีบเร่ง ด้วยรองเท้าที่ผลิตจากหนังและแถบตีนตุ๊กแกแบบ 3 แถบ ทำให้สวมใส่ง่ายและพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ แถมซับในยังให้สัมผัสนุ่มสบายทำจากผ้า Twill ระบายอากาศได้ดี พื้นรองเท้าด้านในผลิตและบุด้วยเทคโนโลยี Dream Foam™ พื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยางที่มีความยืดหยุ่น

4. Kickstart
รองเท้ารุ่น Kickstart นั้นได้รับแรงบันดาลใจและการออกแบบมาจากรองเท้าเทนนิส ที่สามารถเป็นคู่ที่สาวๆ เลือกใส่ได้ตลอดทั้งปี เพราะรองเท้ารุ่นนี้นับเป็นรุ่นที่เพอร์เฟ็คกับทุกลุค ตั้งแต่ชุดเดรสไปจนถึงกระโปรงพลีท, กางเกงยีนส์ทรงบอยดเฟรนด์,กางเกงยีนส์ทรงกินนี่ หรือทรงไหนๆ ก็ตาม Kickstart ช่วยทำให้ได้ลุคที่สมบูรณ์แบบ รองเท้าผลิตจากผ้า Canvas รูร้อยเชือกรองเท้า 6 รู พื้นรองเท้าด้านในผลิตและบุด้วยเทคโนโลยี Dream Foam™เช่นกัน

5. Triple Kick
อีกหนึ่งรองเท้ายอดนิยมของเคดส์ รุ่น Triple Kick เป็นรองเท้าแพลตฟอร์มแบบนิ่ม พร้อมตัวเลือกการออกแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าเทนนิสระดับสูงที่เพิ่มลูกเล่นด้วยส้นเท้าที่ช่วยเพิ่มส่วนสูงให้ดูเพรียวขึ้น และความใส่สบายของรองเท้าสไตล์สปอร์ตนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใส่แมทช์กับกางเกงยีนส์ทุกทรงในตู้เสื้อผ้าของคุณ รวมไปถึงชุดเดรสและกระโปรงตัวสวยอีกด้วย



เข้าไปกดช้อปปิ้งรองเท้ารุ่นยอดนิยมของเคดส์นี้ได้ทาง Line Official ของ Keds ได้ที่ LINE : @KedsThailand หรือคลิกได้เลยที่ http://bit.ly/KedsLine พิเศษ! โปรโมชั่น End of season sale up to 30% (สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคมนี้) และเมื่อซื้อครบ 1,400 บาท จะได้รับกระเป๋า Keds x Jirayu Koo Tote Bag เฉพาะร้าน Keds ทุกสาขา (*ของแถมมีจำนวนจำกัด)

Maison Berger Paris แนะนำคอลเลคชั่น Spring-Summer 2020 สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าความผ่อนคลาย

เมซอง แบร์เช่ ปารีส (Maison Berger Paris) ผู้นำเครื่องหอมบ้านระดับพรีเมี่ยมจากประเทศฝรั่งเศส พร้อมสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้ทุกมุมในบ้าน ขอแนะนำคอลเลคชั่นล่าสุด Spring-Summer 2020 ที่รังสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสำหรับบ้านหลากหลายรูปแบบทั้ง ตะเกียงน้ำหอม เทียนหอม ก้านกระจายความหอม และน้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ รวมไปถึงน้ำหอมกลิ่นใหม่ประจำฤดูกาล ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้านเต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข สดชื่น ร่าเริง มีชีวิตชีวา สะท้อนถึงบรรยากาศประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี

สำหรับคอลเลคชั่นแรกของ Spring-Summer 2020 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ได้แก่ คอลเลคชั่น The Resonance Collection ประกอบไปด้วย ตะเกียงน้ำหอม เทียนหอม และน้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ ที่มาพร้อมความหอมกลิ่นใหม่ Heavenly Sun เพื่อมอบคุณภาพอากาศที่ดี ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับทุกห้องภายในบ้าน และเติมแต่งความหรูหราสง่างาม พร้อมกลิ่นหอมอันเย้ายวนให้บ้านของคุณน่าอยู่ในทุกสถานการณ์ พร้อมมอบส่วนลดพิเศษ 30% ในทุกช่องทางจำหน่าย ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

● ตะเกียงน้ำหอม The Resonance Collection
นำเสนอความลงตัวในการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างเส้นกราฟฟิคทันสมัยและความละเอียดอ่อนของบทกวี สร้างความหรูหราสง่างาม แต่แฝงด้วยความอ่อนช้อยพลิ้วไหวในแบบเฟมินีน ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงไดมอนด์ ที่มีขอบโค้งมน สะท้อนสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาและความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ออกแบบโดย Slyvie de France ดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบขวดน้ำหอมหลากหลายแบรนด์ อาทิ Givenchy, Issey Miyake, Elie Saab และ Jean-Payl Gautier ตะเกียงน้ำหอมมี 3 สีให้เลือก คือ สีม่วงที่มาพร้อมฝาครอบโปร่งสีแชมเปญ ให้ความรู้สึกเย้ายวนมีมนต์เสน่ห์ สีแดงปาปริก้าที่มาพร้อมฝาครอบโปร่งสีเงิน ให้ความรู้สึกมีพลัง และสีขาวใสที่มาพร้อมฝาครอบโปร่งสีเงิน สะท้อนให้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของวัสดุแก้ว ฝาครอบโปร่งหากมองจากด้านบนจะเป็นรูปห้าเหลี่ยม ความสูง 10 ซม. ปริมาตรบรรจุ 400 มิลลิลิตร บรรจุมาในกล่องสวยงามมีลวดลายกราฟฟิคเดียวกับดีไซน์ตะเกียง ราคาปกติ 3,370 บาท

● เทียนหอม The Resonance Collection
กลิ่น Heavenly Sun ท็อปโน้ต ให้กลิ่นของส้มแทนเจอรีน, มะกรูด, ดอกส้ม มิดเดิลโน้ต ให้กลิ่นของดอกกุหลาบ, ดอกแมกโนเลีย, ดอกการ์ดีเนีย ส่วนเบสโน้ต ให้กลิ่นของวานิลลา, มะพร้าว ให้ความรู้สึกหวานจากส่วนผสมของดอกไม้นานาชนิด แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นของวานิลลาและมะพร้าว บรรจุมาในแก้วที่มีลวดลายกราฟฟิคสีทองลายเดียวกับตะเกียงน้ำหอม มาพร้อมฝาครอบเทียนโลหะสีทอง ลายฉลุกราฟฟิคอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่น ดูเลอค่าสะท้อนรสนิยม และยังมีคุณประโยชน์ในการป้องกันเปลวเทียบนจากกระแสลม และช่วยเร่งปฏิกิริยาทำให้เกิดแอ่งน้ำตาเทียน หรือ Pool เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้หอมเร็วขึ้น เนื้อเทียนทำจากไขมันพืช 100% ไม่แต่งสี ใช้งานได้นาน 45 ชั่วโมง ราคาปกติ 2,970 บาท (ลด 30% เหลือ 2,079 บาท)

● น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ The Resonance Collection ตลับทำจากโหะสีทอง ฉลุลายกราฟฟิค Resonance ดูหรูหราเลอค่า มาพร้อมกลิ่นหอม Heavenly Sun ให้ความรู้สึกสดชื่น หอมหวานจากส่วนผสมของดอกไม้นานาชนิด แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นของวานิลลาและมะพร้าว ในกล่องจะมีตลับ 1 ชิ้น และเซรามิคน้ำหอม 1 ชิ้น พร้อมใช้งานได้ทันที ใช้งานได้นาน 4-6 สัปดาห์ ราคาปกติ 1,190 บาท (ลด 30% เหลือ 833 บาท)

The Resonance Collection มาพร้อมส่วนลด 30% ทุกชิ้น สนใจซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ ร้านสาขาไอคอนสยาม ชั้น 2, เมกาบางนา ชั้น 1, สยามพารากอน ชั้น 1, เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 5, แฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 1, เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 1 และ เดอะ เบดรูม คอมพานี สาขาถนนชิดลม, ชิค รีพับบลิค ประดิษฐ์มนูธรรม, ชิค รีพับบลิค รามอินทรา และชิครีพับบลิค พัทยา และช่องทางออนไลน์: www.maisonbergerthailand.com Facebook: https://www.facebook.com/maisonbergerthailand Instagram: https://www.instagram.com/maisonbergerthailand @line: https://page.line.me/maisonbergerthai สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 254 2780

รองเท้า BV Curve จาก Bottega Veneta

แต่งตัวอย่างมีสไตล์ด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์ลุคโปรดเข้ากับ รองเท้า BV Curve จากโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) โดยชื่อ BV Curve นั้นตั้งขึ้นจากรูปทรงของรองเท้า ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากหนังแกะเนื้อนุ่ม ถักสานด้วยมือจนได้ลายซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ให้สัมผัสนุ่มสบาย มีให้เลือกด้วยกันถึง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสวยคลาสสิกแบบสายคาดเดี่ยว หรือเพิ่มความชิคด้วยสายคาดคู่พร้อมลูกเล่นดีไซน์ทวิสต์ และสุดท้ายแบบสายคาดคู่โดดเด่นด้วยโลหะตัว “ V” สีทองช่วงกลางรองเท้า นำเสนอความสง่างาม และความประณีต ละเอียดอ่อน รวมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ไม่น่าเบื่อ ซึ่งสะท้อนแนวคิดของแดเนียล ลี (Daniel Lee) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

LINE TV ชวนแฟนๆ มา “อิน-จิ้น-ฟิน” รัวๆ กับ 2 แคมเปญสุดปัง“อินจิ้นฟินเวอร์” และ “อินกับวิน ฟินกับไบร์ท” ลุ้นวิดีโอคอลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ!

เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์เอาใจผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ที่นอกจากจะมีซีรีส์วายให้ดูมากที่สุดในเมืองไทยถึง 33 เรื่องแล้ว ล่าสุด LINE TV เดินหน้าสร้างความฟินให้กับผู้ชมมากกว่าแค่การรับชม เพราะเปิดตัว 2 แคมเปญสุดปังเอาใจแฟนๆ สายซีรีส์วาย “อินจิ้นฟินเวอร์” และ “อินกับวิน ฟินกับไบร์ท” ที่ชวนแฟนคลับ 3 ซีรีส์วายสุดฮิตแห่งปี Why R U The Series เพราะรักใช่เปล่า, EN OF LOVE รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ และ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series มาร่วมกิจกรรม ลุ้นเป็น 18 ผู้โชคดีร่วมจิกหมอนวิดีโอคอลกันตัวต่อตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับนักแสดงที่คุณชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น ซี - พฤกษ์ พานิช, เซ้นต์ - ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา, หยิ่น - อานันท์ หว่อง, วอร์ - วนรัตน์ รัศมีรัตน์ แล้วตามมาติดๆ กับไบร์ท - วชิรวิชญ์ ชีวอารี และ วิน - เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่จะชวนมาฉลองซีรีส์เกินร้อยล้านวิวไปพร้อมๆกัน โดยมีรายละเอียดกิจกรรมดังนี้

● “อิน” กับ LINE TV: ลงทะเบียนผ่าน OFFICIAL ACCOUNT ของ LINE TV เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมและล็อกอิน LINE TV ในชื่อเดียวกัน เพื่อสะสมยอดรับชมสูงสุดของซีรีส์แต่ละเรื่อง ได้แก่ Why R U The Series เพราะรักใช่เปล่า, EN OF LOVE รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ และ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด
ลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ https://lin.ee/1smwf1r00/qmnd/PR/BoyLoveRegister

● “จิ้น” กับ LINE STICKERS และ “ฟิน” กับ LINE Melody: ลงทะเบียนผ่าน OFFICIAL ACCOUNT ของ LINE STICKERS หรือ LINE Melody เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม โดยผู้ชมสามารถซื้อหรือส่งของขวัญสติกเกอร์ไลน์ หรือ เมโลดี้ เสียงเรียกเข้า - รอสาย ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นพิเศษจากนักแสดง เพราะเราคู่กัน 2gether The Series และ EN OF LOVE รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ (พร้อมจำหน่าย 19 พ.ค. 2563) เพื่อสะสมยอดซื้อสูงสุดตามระยะเวลาที่กำหนด

อ่านรายละเอียดและลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ที่ https://lin.ee/4iFcvFgLm/sknj/MKT
ดาวน์โหลดเมโลดี้ได้ที่ https://lin.ee/2NngQrMim/ddkh/mkt/b
ดาวน์โหลดสติกเกอร์ได้ที่ https://lin.ee/1xCNLpSws/sknj/MKT

และทุกคนยังสามารถตามไปแชตกันยาวๆ ได้ที่ LINE OpenChat ของแฟนคลับแต่ละกลุ่มได้ที่
● กลุ่ม EN OF LOVE รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ: https://lin.ee/3d9d3SQS6/ymue/PR
● กลุ่ม Why R U The Series เพราะรักใช่เปล่า: https://lin.ee/4GHDnsPJ5/ymue/PR
● กลุ่ม เพราะเราคู่กัน 2gether The Series: https://lin.ee/2uZsGZUZR/ymue/PR

นอกจากนี้ยังสามารถอินวนไปกับแท็บพิเศษบน LINE TV “รวมซีรีส์หัวใจ Y” ที่รวมซีรีส์วายทั้งหมดไว้ในที่เดียว พร้อมด้วยการไลฟ์ 6 ซีรีส์ฮิตแบบมาราธอน การันตีคุณภาพด้วยรางวัล LINE TV AWARDS ได้แก่ Sotus The Series, บังเอิญรัก Love by Chance, ทฤษฎีจีบเธอ, TharnType The Series, 2Moons The Series และ เขามาเชงเม้งข้างๆหลุมผมครับ เวลา 18.00 น. เริ่มตั้งแต่ 18 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไปอีกด้วย!

#LINETV #อินจิ้นฟินเวอร์ #อินกับวินฟินกับไบร์ท

LAB Society เอาใจแฟนคลับ ชวนมาฟิน คู่จิ้น “หยิ่น – วอร์”

LAB Society ช้อปรวมสินค้าสุขภาพและความงาม (Life And Beauty) แบรนด์ไทย คุณภาพระดับมาตรฐานสากล ดึง 2 หนุ่ม “หยิ่น อานันท์ ว่อง” และ “วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์” คู่จิ้นจาก ซีรีส์วายชื่อดัง Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ ร่วมสร้างสีสันแบรนด์ พร้อมประกาศชวนแฟนคลับร่วมสร้างประสบการณ์สุดเอ็กคลูซีฟผ่านกิจกรรมแฟนมีตติ้งครั้งแรก 1st Exclusive Meet&Greet with YinWar ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ สำหรับใครที่อยากเป็นผู้โชคดีได้ใกล้ชิดกับสองหนุ่ม พร้อมชมโชว์พิเศษสุดน่ารัก เพียงซื้อสินค้า LAB Society ในราคา 800 บาท ขึ้นไป ต่อ 1 บิล สามารถลุ้นชื่อเข้าร่วมงานแฟนมีตติ้งได้ทันที (จำนวน 30 คน) นอกจากนี้ยังแจกโปสการ์ดคอลเลคชั่นพิเศษ ภาพคู่ตะมุตะมิของหยิ่น - วอร์ พร้อมลายเซ็น ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้! และร่วมลุ้นรับของที่ระลึกจาก 2 หนุ่มอีกมากมายกันแบบฟินๆ โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดี 14 มิถุนายน นี้!

รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่: www.lab-society.com หรือ Facebook: labsocietythailand และ Line@labsociety

“HUAWEI MatePad Pro เพื่อนรู้ใจที่ช่วยให้คุณทำคะแนนนำในทุกคลาสออนไลน์”

ในช่วงที่ทุกคนอยู่บ้านแบบนี้ ทั้งการทำงานและการเรียนก็ต้องทำจากที่บ้าน จนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นในตอนนี้ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอยู่ขณะนี้อย่างการเรียนคลาสออนไลน์ ทั้งนักเรียน นักศึกษาที่ต้องเรียนออนไลน์รวมไปถึงคนทั่วไปที่อยากเพิ่มสกิลของตัวเองด้วยการลงเรียนคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าได้แท็บเล็ตสเปคดี ๆ สักเครื่องมาเป็นเพื่อนเรียนด้วยแล้วละก็ คอร์สออนไลน์ยากแค่ไหนก็กลายเป็นเรื่องง่ายแน่นอน

MatePad Pro สะดวก ง่าย ตอบโจทย์ด้วย Desktop Mode

ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ธรรมดา แต่ HUAWEI MatePad Pro เป็นเหมือน “เพื่อน” ที่เข้าใจเราในทุกด้าน โดยเฉพาะในคลาสเรียนออนไลน์ ปัญหาดั้งเดิมของแท็บเล็ตอย่างอินเตอร์เฟซที่ไม่เหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการที่ไม่สามารถเปิดวินโดว์หลาย ๆ วินโดว์พร้อมกันได้ ก็จะหมดไปเพราะใน MatePad Pro มีฟีเจอร์ Desktop Mode ที่สามารถใช้โปรแกรมได้เหมือนกับทำผ่านคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว นอกจากนี้ ปัญหาจดตามอาจารย์ไม่ทันเพราะไม่ถนัดพิมพ์บนหน้าจอก็จะหมดไปด้วย เพราะ Smart Magnetic keyboard ที่เชื่อมต่อได้เร็วเหลือเชื่อ แค่หนึ่งกริ๊กก็พิมพ์บนแป้นได้ต่อแบบไม่ต้องรอใครทั้งนั้น

จะเรียนภาษา เรียนวาดรูป งานเดี่ยว หรืองานกลุ่มก็ตอบโจทย์รอบด้าน

ต่อให้คอร์สออนไลน์ยากแค่ไหน ก็ไม่เป็นอุปสรรคเมื่อมีเพื่อนรู้ใจ เพราะถ้าจะหาข้อมูลจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ ก็ทำได้อย่างสะดวกไม่ต้องกดเข้าออกแอปไปมา ด้วยฟีเจอร์ Window-Multiplier ที่สามารถแบ่งจอแสดงแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ถึง 3 แอป ตอบโจทย์การคิดไว ทำไว ด้วยฟีเจอร์ Screen-off Shorthand ที่ต่อให้เครื่องจะปิดอยู่ เพียงแค่เอา M-Pencil มาเคาะที่หน้าจอสองครั้ง แท็บเล็ตเพื่อนรักก็จะรู้ใจในทันทีและเปิดแอปพลิเคชันโน้ตขึ้นมาพร้อมให้จดบันทึก และไม่ใช่แค่เลคเชอร์เท่านั้น ต่อให้เป็นคลาสวาดรูปชิค ๆ HUAWEI MatePad Pro ก็ทำได้ดีด้วยการอัปเกรด M-Pencil ให้ตอบสนองการวาดและเขียนได้เหมือนใช้ดินสอจริง ที่ตอบสนองการวาดได้ดียิ่งกว่ารุ่นก่อน และต่อให้อาจารย์สั่งงานที่ต้องทำร่วมกับบัดดี้ HUAWEI MatePad Pro ก็มีฟีเจอร์ MeeTime ที่จะทำให้สามารถประชุมวิดิโอคอลเพื่อเบรนสตอร์ม หาไอเดียกับเพื่อนแต่ละคนที่มีดีไวซ์ของหัวเว่ยได้อย่างลื่นไหล ทั้งยังสามารแชร์ไฟล์จากสมาร์ทโฟนเข้าแท็บเล็ตได้ในทันทีด้วยฟีเจอร์ HUAWEI Share ไม่ต้องรอดาวน์โหลดให้เสียเวลา

คลาสนานแค่ไหนก็ไม่หวั่นกับแบตอึดและโหมดถนอมสายตา

ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7,250 mAh จึงทำให้เรียนออนไลน์ต่อเนื่องรัว ๆ ได้นานสูงสุดถึง 11 ชั่วโมง คลาสนานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวแบตหมด กรอฟังซ้ำได้แบบหมดห่วง หรือคนที่ลงคอร์สเรียนวาดรูปก็ไม่ต้องกลัว M-Pencil จะแบตหมดเพราะใน MatePad Pro เพื่อนคู่ใจมีฟังก์ชัน Reverse Wireless Charge ที่สามารถชาร์จแบตให้กับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ รวมไปถึงเจ้า M-Pencil เพียงแค่ต่อเข้าเครื่องก็รับพลังชาร์จไปเลยทันที นอกจากอุปกรณ์จะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ดีไวซ์เพื่อนที่รู้ใจก็ต้องช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยเช่นกัน เพราะการจ้องจอนาน ๆ อาจทำให้สายตาอ่อนล้า โหมดการอ่านแบบถนอมสายตาที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าสามารถช่วยถนอมสายตาผู้ใช้ได้ด้วยการลดแสงสีฟ้า เข้ามาเป็นฮีโร่ในการช่วยปรับการตั้งค่าจอให้เหมือนกระดาษ จึงทำให้คลาสเรียนยาว ๆ กลายเป็นสั้นเพราะมีเพื่อนอย่าง HUAWEI MatePad Pro นี่เอง



สำหรับใครที่อยากมีเพื่อนคู่หูสำหรับคอร์สเรียนออนไลน์ละก็ HUAWEI MatePad Pro วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย มีทั้งหมด 2 รุ่น คือ รุ่นที่ใส่ซิมได้ HUAWEI MatePad Pro 4G ราคา 19,990 และรุ่นที่เชื่อมต่อไวไฟได้เพียงอย่างเดียว HUAWEI MatePad Pro Wifi 16,990 โดยเพื่อนทั้งสองคนนี้มีหน่วยความจำและความจุเท่ากันที่ RAM 6 GB และ ROM 128 GB หรือถ้าหากไม่พอก็สามารถซื้อหน่วยความจำเพิ่มได้ถึง 256 GB ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://consumer.huawei.com/th/campaign/matepad-pro/

กลุ่มทรูชวนเปิดประสบการณ์ใหม่ “True VROOM” ห้องประชุมและห้องเรียนเสมือนจริง

กลุ่มทรู ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่ “True VROOM” ห้องประชุมและห้องเรียนเสมือนจริง สัญชาติไทย ฟังก์ชันขั้นเทพ ตอบโจทย์คนทำงานและนักเรียน ยุค Work & Learn From Home ใช้ฟรี ไม่จำกัดเวลา !!! ทั้งผ่านแอปและเว็บ True VROOM

เชิญชวนคนไทยยุค Work & Learn from Home ร่วมเปิดประสบการณ์กับคุณสมบัติอันครบครันของ True VROOM จากแพลตฟอร์ม True VWORLD ที่เข้าใจทุกความต้องการ ให้การประชุมและการเรียนออนไลน์ เป็นเรื่องง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเลต หรือคอมพิวเตอร์ รองรับการประชุมและการจัดการเรียนการสอนเสมือนจริง ด้วยคุณภาพเสียงและภาพระดับ HD โดยมีฟังก์ชันที่โดดเด่น อาทิ

● สร้างห้องสนทนา (Enter Room Name) – ตั้งชื่อห้องสนทนาตามที่ต้องการ และคลิก Create / Join เพียงเท่านี้ ก็พร้อมเชิญเพื่อนเข้ามาร่วมวงสนทนา
● เชิญเพื่อนเข้าร่วมห้องสนทนา (Invite Others) – กด Invite Others และ Copy Link เพื่อส่งลิงก์คำเชิญให้สมาชิกเข้าร่วมห้องสนทนาได้หลากหลายช่องทาง เช่น อีเมล เบอร์โทร และไลน์ เป็นต้น
● ตั้งค่าข้อมูลส่วนบุคคล (Profile) – ตั้งชื่อเพื่อใช้ในการสนทนาได้ที่ Set Your Display Name และกรอกอีเมลเพื่อใส่รูปโปรไฟล์ของผู้ใช้งานได้ที่ Set Your Gravatar Email
● เลือกภาษา (More) – สามารถตั้งค่าการใช้งาน True VROOM ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
● วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Start / Stop Camera) – สร้างห้องประชุมและห้องเรียนเสมือนจริงแบบแสดงหน้าจอของผู้เข้าร่วมประชุมและผู้เรียนได้หลายจอพร้อมกัน
● แชร์หน้าจอ (Share Your Screen) – แชร์หน้าจอเพื่อนำเสนอผลงานให้ผู้ร่วมประชุมและผู้เรียนทุกคนได้ชมพร้อมกัน
● แชร์วิดีโอจากยูทูป (Share a YouTube Video) – แชร์วิดีโอจากยูทูปเพื่อให้ผู้ร่วมประชุมและผู้เรียนทุกคนได้ชมพร้อมกัน
● ปิดเสียง (Mute / Unmute) – ตัดเสียงเพื่อไม่ให้รบกวนผู้กำลังพูดในระหว่างการสนทนา
● ปิดเสียงทุกคน (Mute Everyone) – ตัดเสียงทุกคนเมื่อต้องการนำเสนองานในที่ประชุมและระหว่างการสอน
● ยกมือ (Raise / Lower Your Hand) – กดปุ่มให้ยกมือเพื่อแสดงความเห็น หรือมีข้อสงสัย
● ห้องแชท (Open / Close Chat) – พิมพ์แชท เพื่อแสดงความคิดเห็น โดยไม่รบกวนผู้กำลังพูดในที่ประชุมและระหว่างการสอน
● เบลอร์พื้นหลัง (Blur My Background) – มีปุ่ม BETA ให้กดเพื่อเบลอร์พื้นหลัง
● สลับกล้อง (Toggle Camera) - สำหรับสมาร์ทโฟน สามารถปรับสลับกล้องหน้ากล้องหลังได้
● ลดการใช้งานแบนด์วิธ (Disable Low Bandwidth Mode) – สำหรับสมาร์ทโฟน สามารถเลือกลดการใช้งานแบนด์วิธให้ต่ำลงได้ โดยแอปจะทำการปิดกล้อง รวมถึงมีปุ่มย่อหน้าจอ กดเพื่อย่อให้หน้าจอเล็กลง ทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ พร้อมกันได้อีกด้วย
● รหัสผ่านห้องสนทนา (Password) – ผู้สร้างห้องสนทนา สามารถตั้งรหัสผ่าน เพื่อสร้างความปลอดภัยสำหรับการประชุมและการจัดการเรียนการสอน

ทั้งนี้ True VROOM เปิดให้ใช้งานฟรี ตลอดวัน ไม่จำกัดเวลา และพิเศษสุด! สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถใช้งาน True VROOM โดยไม่ต้องเสียค่าอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟน ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน True VROOM โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ App Store หรือ Google Play และยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ https://vroom.truevirtualworld.com/ อีกด้วย

#TrueVROOM #TrueVWORLD #TrueVirtualWorld

แมทช์ลุคไหนก็เอาอยู่กับสนีกเกอร์ โปร-เคดส์ (PRO-Keds) รุ่นคลาสสิค

หากพูดถึงแบรนด์โปร-เคดส์ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้นรองเท้ารุ่น ROYAL LO CLASSIC CANVAS ที่มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีขาว,สีดำ และสีน้ำเงิน โดยสไตล์ของรองเท้ารุ่นนี้คือ เป็นรองเท้ากีฬาที่มาในรูปแบบสตรีทสไตล์ ผสานกลิ่นอายแบบ old school เอาไว้ ถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หาตัวจับได้ยาก

สังเกตได้จากวัสดุที่ใช้ในการรังสรรค์รองเท้าคู่นี้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าแคนวาสที่ทอขึ้นมา บวกกับวิธีการตัดเย็บเป็นแนวที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับรองเท้า ซึ่งเสริมความทนทานให้กับ รองเท้าในยามสวมใส่ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอย่าง ‘Power Stripe’ แถบสีแดงน้ำเงินบริเวณด้านข้างรองเท้า ช่วยขับให้สนีกเกอร์ PRO-Keds ดูเท่ และมีสไตล์ยิ่งขึ้น และเมื่อผสานเข้ากับดีไซน์ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้สนีกเกอร์คู่นี้กลายเป็นรองเท้าสุดคลาสสิคไปโดยปริยาย

เชื่อว่าสาวกรองเท้าผ้าใบ หรือเหล่า Sneaker Head ไม่ควรพลาดรองเท้า PRO-Keds รุ่น ROYAL LO CLASSIC CANVAS ด้วยประการทั้งปวง



พบกับโปร-เคดส์ (PRO-Keds) รุ่นคลาสสิค ได้แล้ววันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง 12 สาขา ร้าน IKON ทั้ง 5 สาขา และช่องทางออนไลน์ Line official: @prokedsth / Instagram: @prokeds_thailand / Lazada: Pro-Keds Flagship Store

ไอเท็มใหม่ Dior J'adore EDP Roller Pearl and Hair Mist

J’ADORE AERIAL
ดอกไม้, ดอกไม้ และก็...ดอกไม้...!”แห่งเมืองกราส์กราซ

คงจำเอกลักษณ์ความหอมของ J’adore ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสน่ห์ที่ลึกลับชวนให้ค้นหาคำตอบยังคงเป็นปริศนาเร้นลับเหมือนเช่นเคย: นี่ไม่ใช่น้ำหอมของกลิ่นดอกไม้เพียงดอกใดดอกหนึ่ง หากเป็นความเจิดจรัสดั่งประกายแสงระยิบระยับของดอกไม้หลายสายพันธุ์ ทั้งหมดกรุ่นไออบอวลขึ้นมาพร้อมกัน เป็นความหรูหรา เย้ายวน ชวนหลงใหลอย่างแท้จริง อาศัยการผสมผสานหัวน้ำหอมของมวลพฤกษานานาพรรณ จะทาบนซอกคอ, ข้อพับมือ หรือกระทั่งท้ายทอย มนตราอัศจรรย์แห่งน้ำหอมยังสะกดความรู้สึกได้ฉับพลัน อีกขวดเพื่อสเปรย์บนเส้นผม เพื่อเสน่ห์ความหอม ตราตรึง

ความงามของช่อพฤกษาเดินทางมาแสนไกล สร้างตำนานยาวนานโดยมีจุดกำเนิดเรื่องราวทั้งหมดอยู่ที่เมืองกราซ ประเทศฝรั่งเศส

ทุกปี นับตั้งแต่ค.ศ. 1946 ในสุดสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม เมืองกราซจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองดอกมะลิ เพื่อยกย่องความพิเศษเป็นเลิศของมะลิเขี้ยวงู หรือมะลิสเปน (Jasmine Grandiflorum) ราวกับไม้ดอกสายพันธุ์นี้เป็นราชินีแห่งความงาม ด้วยเนื้อกลิ่นเอกลักษณ์ และอบอวบกรุ่นกล้าอย่างมิอาจหาใดเปรียบ มะลิเมืองกราซคือดาวเด่น ซึ่งปรากฏว่า กว่าหลายปีมานี้ ผลผลิตคุณภาพเหนือชั้นทางการกสิกรรมกลับหาได้ยากยิ่ง กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ การเพาะปลูกมะลิเมืองกราซได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาโดดเด่นดุจปาฏิหาริย์ สืบเนื่องจากแรงสนับสนุนมหาศาลของ Dior perfumes ที่มีต่อเมืองกราซ

ดอกไม้สีขาวสะอาดทั่วพื้นที่หนึ่งเฮกเตอร์ ถูกเพาะปลูกขึ้นบนรากฐานแห่งความอดทน และมานะพยายามของอานน์ กาลูซิโอ และมอแร็ง ปิซานิ กสิกรรุ่นใหม่ผู้เป็นเจ้าของ และผ่านการฝึกทักษะความชำนาญโดยกาโรล เบียงกาลานา อันที่จริงก็เป็นไร่กสิกรรมตระกูลมาน็องนี้เอง ซึ่งทั้งสองได้ค้นพบความต้องการเชิงวิชาชีพของตนอย่างแท้จริงเมื่อเริ่มต้นการทำงานจากการเป็นคนเก็บดอกไม้ ทุกวันนี้ พวกเขายังพูดถึงกุหลาบในเดือนพฤษภาคม และมะลิในเดือนกันยายนเหมือนกับเพิ่งได้รู้แจ้งเห็นจริงถึงความมหัศจรรย์แห่งมวลพฤกษาเป็นครั้งแรก ที่แห่งนั้นเช่นกัน ที่พวกเขาได้พบกับฟรองซัวส์ เดอมาชี และชะตาลิขิตของพวกเขาพลันถึงจุดเปลี่ยนเมื่อเขาเอ่ยถึงการร่วมงานกับ House of Dior

ด้วยความหลงรักในดินแดนแห่งเมืองกราซ กับไม้ดอกคุณภาพเหนือชั้นประจำท้องถิ่น รวมถึงความพิสมัยในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ทั้งคู่ได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่อย่างกล้าหาญ และมั่นใจ พวกเขาใช้เวลานานพอสมควรในการเสาะหาแปลงที่ดิน อันมีความอุดมสมบูรณ์ในทุกแง่มุม จนกระทั่งมาพบกับทำเลซึ่งไม่ไกลจากไร่กสิกรรมโดเมน ดา มาน็องเท่าไหร่นัก ปัจจุบัน House of Dior ได้สร้างความมั่นคงให้แก่อนาคตของทั้งสองด้วยสัญญาซื้อผลผลิตกสิกรรมทั้งหมดจากไร่แห่งนี้ เมื่อเริ่มดำเนินงานในปี 2018 ได้มีการลงมะลิถึง 3,000 ต้น และตามมาอีกกว่า 7,000 ในฤดูใบไม้ผลิ 2019

ผลผลิตชุดแรกดำเนินการเก็บเกี่ยวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ และถือเป็นช่วงเวลาระดับปรากฏการณ์ทางอารมณ์ ในยามที่ตะกร้าบรรจุดอกมะลิกลุ่มแรกถูกส่งมาถึง ท่ามกลางความปิติตื้นตัน ทองคำขาวแห่งเมืองกราซกำลังมาจรัสประกายเจิดจ้าอยู่กลางหัวใจของ J’adore

J’ADORE, EAU DE PARFUM
ความหอมที่ฟุ้งกระจาย ถ่ายทอดพลังสะกดอารมณ์ไปรายรอบผ่านระลอกกลิ่นไล่ระดับของหลากพรรณพฤกษา


กิจวัตรความหอมใหม่
● J’adore Roller-Pearl (new EDP) เดิมคือ EDT 20 ml (1,850 บาท)
ขวดน้ำหอมทรงคนโทโบราณอันโด่งดังระดับตำนาน ทำจากแก้วใสในสัดส่วนโค้งเว้าเย้ายวนประดับสร้อยทองคำคอขวด ได้รับการย่อส่วนอย่างงดงามรองรับการประกอบลูกกลิ้ง “โรลเลอร์-เพิร์ล” ที่เตรียมพร้อมให้คุณหยิบออกจากกระเป๋าถือได้ทุกเวลาระหว่างวัน ลูกกลิ้งกลมกลึงมอบสัมผัสอ่อนโยนยามลื่นไหลไปบนผิวเพื่อลำเลียงความงดงามแห่งกลิ่น J’adore Eau de Toilette และบัดนี้ เป็นครั้งแรกที่เพิ่มตัวเลือกความเข้มข้นของเนื้อกลิ่นไปสู่ระดับโอ เดอ ปาร์ฟังด้วยเช่นกัน

● J’adore, Hair Mist ( New packaging คอขวดโค้ง เรียบโก้ขึ้น) 40 ml (1850 บาท)
นอกจากนั้น โอ เดอ ปาร์ฟังยังปรากฏโฉมในอีกรูปแบบของ Hair Mist ใหม่ เพื่อเติมเต็มความครบครันให้แก่คอลเลคชั่น อีกครั้งที่ผลงานชิ้นนี้ประดุจเชิญชวนให้สเปรย์ละอองไอของ J’adore ประดับความหรูหราสู่เรือนผมของคุณอย่างเต็มที่ผ่านท่วงท่าการใช้ที่เย้ายวน เต็มไปด้วยอิสระ และเกิดขึ้นจากแรงปรารถนาตามธรรมชาติ อีกนัยหนึ่ง: อากัปอันเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง

LINE โปรโมทปุ่มรีพอร์ต เมื่อเจอบุคคลหรือภัยคุกคามทุกประเภท

LINE โปรโมทปุ่มรีพอร์ต เมื่อเจอบุคคลหรือภัยคุกคามทุกประเภท เน้นความร่วมมือในการดูแลและรักษาความปลอดภัย

LINE ประเทศไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลำดับแรก ยืนยันปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรัดกุม และเปิดเผยความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ LINE ได้อย่างปลอดภัย พร้อมแนะนำเครื่องมือรีพอร์ทหากพบการส่งต่อข่าวปลอมหรือภัยออนไลน์ทุกรูปแบบบนแพลตฟอร์ม

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ LINE เปิดตัวแอปส่งข้อความ LINE ในปี 2554 LINE ได้มุ่งมั่นให้บริการด้านการสื่อสารที่ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินและรู้สึกสะดวกสบายในตลอดการใช้งาน ด้วยแนวทางการให้บริการที่หลากหลายและคอนเท้นท์ที่น่าสนใจ ควบคู่ไปกับการสร้างกฏเกณฑ์การทำงานที่ยึดตามหลักกฎหมายว่าด้วยมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการให้คำอธิบายข้อมูลแก่ผู้ใช้ถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรัดกุมและเข้มงวด นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบแล้ว LINE ยังได้เปิดเผยรายงานความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ LINE ได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม อันตรายจากโลกออนไลน์ทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเท่านั้น แต่ภัยที่แพร่หลายหลายคือ การส่งข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม โดยถูกส่งต่อและเผยแพร่ออกไปโดยง่ายโดยไม่พบต้นตอที่แท้จริง จนปัจจุบันถือเป็นวิกฤติข่าวปลอมที่ผู้ใช้งานสื่ออนไลน์ต่างตกเป็นทั้งเหยื่อและผู้เผยแพร่โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จะเห็นว่ามีส่งต่อข่าวปลอมมากมายที่สร้างความเข้าใจผิด สับสนให้สังคม ถือเป็นภัยร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อทั้งระดับบุคล สังคม และความมั่นคงของประเทศ

LINE ประเทศไทย ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องการเป็นถนนแห่งการสื่อสารที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนเข้ามาใช้งานได้อย่างง่าย มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เรามีเครื่องมือที่ให้ผู้ใช้ได้แจ้งกลับมาในระบบผ่านปุ่ม “Report” ซึ่งเป็นปุ่มที่อยู่ในหน้าสนทนา สามารถรายงานภัยทุกประเภทที่เกิดขึ้นในบนสนทนาหรือข้อความในหน้าสนทนาได้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบ ข่าวปลอม ร่วมถึงการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ หรือสามารถกดปุ่ม “Report” แอคเคาท์ของบุคคลที่กระทำหรือส่งต่อภัยคุกคามไปยังผู้อื่น โดยเป็นปุ่มลักษณะ จุดสามจุดแนวตั้ง บนหน้าโปรไฟล์ของแอคเคาท์นั้น

“LINE ในฐานะแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย มุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มของเราเพื่อการใช้งานที่สะดวกและปลอดภัย ขอรณรงค์ให้ผู้ใช้งาน ร่วมกันใช้อย่างมีวิจารณญาณ ร่วมกันตรวจสอบ เช็คก่อนแชร์ข้อความที่ส่งต่อกันมา และกดรีพอร์ตข้อความที่เป็นข่าวปลอมหรือเป็นภัยต่อสังคม เพื่อช่วยกันหยุดการแพร่กระจาย ตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะช่วยลดปัญหาวิกฤติข่าวปลอม และการสื่อสารที่จะนำไปสู่การกระทำผิดกฏหมาย ได้ในระยะยาว” ดร. พิเชษฐ กล่าวทิ้งท้าย