[REVIEW] New Make-Up Items ทลายกรุเยอะมาก
BbyOnn1152สวัสดีค่า
วันนี้ก็จะมา Review My New Make-Up Items ให้สาวๆได้ดูกันนะคะ
คราวนี้มาแบบเยอะมากมายมหาศาล ปนๆกับไปหลายแบรนด์เลย
ขอแจ้งไว้ก่อนนะคะว่า
" เครื่องสำอางค์ในกระทู้นี้ เป็นเครื่องสำอางค์ของออนเองค่ะ
ออนกับคุณแม่จะใช้เครื่องสำอางค์ด้วยกัน ดังนั้นก็จะสลับๆวนๆกันไป
เลยจะเห็นว่าคราวนี้มีหลายแบรนด์มากๆๅ เพราะอยากลองของใหม่ๆเหมือนกัน
ยกเว้นตัว Lauress Mineral Make-Up นะคะ ที่ทางบริษัทส่งมาให้ลองใช้ เพราะเห็นว่า
ออนยังไม่เคยใช้เครื่องสำอางค์แบบ MMU เลย และความคิดเห็นทั้งหมด ก็เป็นความ
คิดเห็นที่ออนรู้สึกเอง หลังจากการใช้ ไม่ได้เขียนให้ใครเว่อร์ หรือติดลบนะคะ "
เพิ่มเติมกันอีกนิดค่า เครื่องสำอางค์คราวนี้ค่อนข้างราคาสูงกว่าอันเก่าๆที่เคยมา Review
ดังนั้นจะบอกว่า คนเราไม่ต้องใข้ให้เหมือนกันซะหมด เราสามารถซื้อแบบถูกหรือแพงก็ได้
แล้วแต่ความต้องการ ความสะดวก และกำลังซื้อของเรานะคะ เราสามารถหาซื้อของถูกที่
เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับของแพงๆได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าดู Review เก่าๆจะเห็นว่ามีปนๆกันไป
หลักร้อยหลักพัน ไม่อยากให้มองว่าต้องใช้แต่เครื่องสำอางค์แพงๆเท่านั้นค่า
มาดูรูปรวมๆกันเลยดีกว่า
1. Kanebo Coffret D'or Make-Up Base
ขนาด 25ml ราคา 1,150 บาท
เบสเจ้าหญิงสีชมพู ได้มาในวัน Christmas Eve Make-Up Shopping Day ของออนที่เซ็นทรัลชิดลมนั่นเอง
ตอนแรกซื้อจนหมดตัวแล้ว กำลังจะกลับไปหาคุณแม่ แต่ปรากฏมาเดินเล่น แล้วเจอ BA พี่หนิงที่เคยซื้อของตั้งแต่ตอน
พี่เค้าอยู่ที่สาขา The Emporium และเคยแต่งหน้าไปงานที่สาขา Central World ก็เลยนั่งคุยกันยาว ออนจะเป็นคนที่
แบบว่าถ้า BA บริการดี ยินดี เต็มใจบริการ ออนจะอยากซื้ออะไรซักอย่าง เหมือนอยากช่วยยอดเค้า BA ดีๆเราก็อยาก
ช่วย ก็เลยนึกได้ว่าอยากซื้อ Coat Base ของ Coffret D'or ที่พี่มด CinnamonGal และหลายๆคนเคยมา Review ไว้
เพราะราคาไม่แพงมาก ประมาณ 550 บาท แต่ตัวนั้นหมดไปแล้ว ก็เลยลองดูตัวอื่นเรื่อยๆของไลน์นี้
ชอบ Coffret D'or เพราะชอบแพ๊คเกจจิ้งที่ดูน่ารัก ใสๆแบบเจ้าหญิง ที่สำคัญคุณภาพโอเค และราคาไม่เว่อร์เกินไป
พี่หนิงหยิบลิป ไฮไลท์ อายแชโดว์ บลัชออน แป้ง ฯลฯ ออกมาให้ดูเยอะมาก ลองสีให้ดูหมดเลย จนกระทั่งมาหยุดที่
ขวดนี้ เพราะนึกขึ้นได้ว่าพี่ฟาม Femmemy ไอดอลสุดสวยของออนเคยใช้ตอนทำ How To ก็เลยลองทาดูที่แขน
เนื้อเบสจะเป็นสีขาวมีวิ้งอ่อนมากๆ และมีปนเขียวหน่อยๆ แต่จะไม่ใช่เบสเขียวซะทีเดียว เนื้อไม่ข้น แต่ก็ไม่เหลว
ถึงขนาดไหล พอเวลาทาออกมาแล้วผิวจะดูผ่องขึ้น และดูมีน้ำมีนวล สดใสขึ้นแบบในวงกลมในรูป
ตัวนี้ดีกว่าเบสเขียวทั่วๆไปตรงที่ว่า เบสเขียวบางทีมันจะผ่อง ขาว ซีดแบบกระดาษ คือขาวเว่อร์เกิน ดูไม่มี
ความเป็นธรรมชาติ แต่ตัวนี้จะไม่ได้ปกปิด แต่ปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นมาอีกระดับนึงเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อความประหยัดของออน ออนก็จะใช้ตัวนี้เป็นเบสสำหรับทาหน้า และใช้เบสเขียวตัวเก่าอย่างของ
The Face Shop ไว้ทาคอ เพราะราคาต่างกันหลายเท่าตัวมากๆ ถ้าเอาเบสเจ้าหญิงตัวนี้มาทาคอคงจะไม่ไหว
กินแกลบดีกว่า ..
สรุปแล้วโดยรวมชอบกับแพ๊คเกจจิ้ง คุณภาพ และความผ่องของเบสมากๆ
ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะ ไม่ค่อยมันระหว่างวัน จะแค่เหนียวๆเหนอะๆหน้านิดหน่อย ตามสภาพอากาศ
บ้านเรา บีบนิดดียว ไม่ต้องใช้มาก ก็เกลี่ยได้ทั่วหน้า แต่ข้อเสียนิดนึงคือเรื่องของราคา เพราะว่าแอบแพง
ถ้าใครแต่งหน้าบ่อยหรือเกือบทุกวันอย่างออน อาจจะต้องเลี่ยงกันนิดนึง คือมีตัวสำรองที่ราคาถูกกว่าเอาไว้
วันไหนไปเที่ยว ไปสวยๆ ค่อยใช้ตัวนี้ วันธรรมดา ไปเรียนมหาลัย ก็ใช้ตัวราคาเบาๆพอ
2. Cle De Peau Beaute Translucent Loose Powder
ขนาด 30 กรัม ราคา 3,700 บาท
โอ้โห .. เพิ่งรู้ราคาเมื่อกี้ของแป้งฝุ่นตัวนี้ เพราะว่าตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นของคุณแม่ ที่ออนแอบไป steal stole stolen
มานั่นเอง ฮ่าๆๆ ออนเลยเข้าเว็บเช็คราคา พระเจ้าช่วย!! T_T น่ากลัวจริงๆ นึกว่าจะไม่เกิน 2,000 บาทซะอีก
ตัวนี้มาในแพ๊คเกจจิ้งเรียบๆ หรูๆสไตล์ Cle De Peau เลยค่ะ เป็นกล่องพลาสติกแข็งสีน้ำเงินเข้ม-ดำ ด้านในมี
พัฟนั่นๆ และตัวแบ่งชั้นของแป้งไว้อย่างชัดเจน แต่แอบไม่ชอบแพ๊คเกจจิ้ง เพราะว่าหยิบลำบาก และอันตรายมากๆ
นั่นเอง เพราะฝาตลับ มันไม่ได้มีล๊อกอะไรไว้เลย แค่ครอบตัวตลับไว้เฉยๆ บางทีเผลอลืม จับแต่ฝาตลับ
ตัวแป้งก็หล่นกระจายได้หมดเลยนะ ต้องระวังมากๆ เพราะอย่างแป้งฝุ่นของ Laura Mercier เค้าจะเป็นฝาหมุนๆ
ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ตัวนี้อยากให้เปลี่ยนตลับจัง หยิบยาก เทอะทะ และที่สำคัญร่วงง่ายมากๆ T_T
อีกนิดคือตลับเปื้อนง่ายมากๆ อย่างในรูป มันโดนนู่นนี่เปื้อน เช็ดไม่ค่อยออกด้วย ดูแบบไม่แพงไปเลย
ทั้งๆที่มันแพงมากๆ อยากให้ตลับดีไซน์ให้มันถือง่ายถนัดมือ และดูให้สวยหรูกว่านี้ จะได้สมราคา
ด้านในตลับเป็นแบบนี้ค่ะ จะมีตาข่ายกรองแป้งไว้ เวลาจะใช้ก็ใช้พัฟนิ่มๆอันนั้นแตะแป้งเบาๆด้านบนตาข่าย
แล้วก็ตบเบาๆให้ทั่วหน้าได้เลย ออนชอบแป้งตัวนี้ตรงที่ว่าเนื้อแป้งละเอียดมากกกกก ละเอียดมากจริงๆ
แบบเหมือนปุยนุ่นเลย และที่สำคัญพัฟนิ่มมากๆ ถึงมากที่สุด ไม่เคยชอบพัฟที่ไหนขนาดนี้มาก่อนเลย
ออนจะใช้ตัวนี้ตบเบาๆให้ทั่วหน้าหลังลงเบส เพื่อให้หน้าไม่เหนียว และตามด้วยแป้งพัฟผสมรองพื้น
ซึ่งจะช่วยลดความหนาของแป้งพัฟที่เราจะลงด้วย เนื้อแป้งตัวนี้ออนชอบมากกว่า Laura Mercier ที่เคย
ลองใช้มา แต่ถ้าในอนาคตแป้งตัวนี้หมด .. คงคิดหนักมากกก เพราะแพงใช้ได้เลย แพงม๊ากกกกมากกก
ที่สุดในบรรดาแป้งที่ออนเคยใช้มาไม่ว่าจะเป็นผสมรองพื้น หรือแป้งฝุ่นก็ตาม แต่กระปุกนี้น่าจะใช้ได้นาน
เหมือนกัน เพราะคุณแม่ได้มาพักใหญ่ๆ และออนก็ไปเอามาพักใหญ่ๆแล้ว แป้งก็ยังเหลือเยอะอยู่เหมือนกัน
เพราะใช้นิดเดียวต่อวันเอง ไม่ได้ใช้อะไรมาก .. แต่ราคา O_O"
3. Lauress Pure Mineral Cosmetics
( ออนเบลอชื่อเว็บไซต์ไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ ส่วนใครอยากรู้ก็ google เต็มที่เลยค่า
ขอไม่ตอบสถานที่ซื้อหรือเว็บไซต์นะคะ เพราะผิดกฏ Jeban ค่ะ)
ขอไม่ตอบสถานที่ซื้อหรือเว็บไซต์นะคะ เพราะผิดกฏ Jeban ค่ะ)
ตัวนี้ได้มาใช้เป็นแบบขนาดทดลอง จริงๆมีอีกหลายตัวเหมือนกัน แต่ยังลองใช้ไม่ครบเลย
ชอบที่ว่าจัดส่งสินค้าเร็วมากกกก คุยกันวันนี้ พรุ่งนี้ถึงแล้ว และห่อดีมาก คือหลายๆคนคงจะเจอปัญหาที่สั่ง
ของจากอินเตอร์เน็ตแล้วห่อไม่ดี ทำให้ของเสีย มีปัญหา แตก หัก บ้าง แต่อันนี้ห่อมาอย่างดี อัดโฟมเม็ดๆใส่มา
เต็มกล่องเลย ทั้งหมดนี้คือที่ออนได้ลองใช้ไปแล้ว นะคะ มีตามนี้เลย
- Jump Start # Light
- Minimalist Foundation # Subtle Ivory
- Ultimate Finish # Light
- Enchancer # Chiffon
- Candle Light # Peony
จากในรุปจะเห็นว่าตัวพวกนี้จะเป็น Base Make-Up คือพวกแป้ง รองพื้น แป้งม่วง บลัชออนมากกว่า
ออนลองใช้พวกนี้ทั้งหมดแล้วกับน้องสาวอีกคน ซึ่งหน้าออนไม่ค่อยแพ้อะไรง่ายๆ ออนเลยบอกไม่ได้ ไม่รู้สึกอะไร
แต่น้องสาวออน แพ้ง่ายมาก เรียกว่าสิวอุดตันง่ายมากๆ และมีสิวผดเต็มไปหมด หลังจากน้องใช้ประมาณ
เกือบๆ 1 เดือน น้องบอกว่าสิวอุดตันไม่ได้มาเพิ่ม สิวผดก็ไม่ได้มาเพิ่ม แสดงว่าเครื่องสำอางค์ MMU เนี่ย
เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายจริงๆ เพราะปกติบางทีแป้งเด็ก น้องของออนใช้แล้วก็สิวผดขึ้นเหมือนกัน เพราะตอนที่
อยู่ออสเตรเลีย เคยได้ยินเพื่อนฝรั่งพูดว่า พวก MMU เนี่ย ใช้แล้วจะช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้น เพราะเหมือนกับว่า
สารเคมีมันน้อยลง เวลาใช้แล้วผิวหน้าได้หายใจมากขึ้น ทำให้ผิวหน้ามันดีกว่าตอนที่ถูกกลบ ปกปิดไว้
ส่วนสำหรับออนใช้แล้ว ออนคิดว่าพวก MMU จะเหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าแนวธรรมชาติ ใสๆ
ไม่ว่าจะเป็นมหาลัย หรือทำงาน คือคนที่ชอบแต่งแบบสบายๆ ไม่โบ๊ะ ไม่ชอบพวกรองพื้น บีบีครีมอะไรแบบนี้
มากกว่า เพราะเวลาแต่งแล้วจะได้ลุคธรรมชาติ ดูไม่เว่อร์ ไม่เหมือนเวลาเราโบ๊ะๆอะไร ดังนั้นตัวนี้จะเป็นตัว
เลือกที่ดีสำหรับคนแพ้ง่าย ผิวขึ้นสิว และผิวอุดตันได้ แต่อาจจะยุ่งยากนิดนึง เพราะบางทีแพ๊คเกจจิ้งเค้าไม่ได้
เป๊ะๆ แบบเครื่องสำอางค์ยี่ห้ออื่นๆ แต่ถ้าจัดเข้าที่เข้าทางแล้ว แล้วมาผสมกันเล่นก็ได้เหมือนกันนะคะ
ผสมสีอะไรแบบนี้ แต่จะบอกว่าชอบแป้งม่วงของยี่ห้อนี้มากๆ ทาแล้วผิวเด้งๆ ผ่องๆเลย ไม่มีวิ้ง
ดังนั้นไม่ทำให้รูขุมขนดูใหญ่ขึ้น แต่จะผ่องแบบมีออร่าบลิ๊งค์ๆออกมา
รูปนี้ใช้ Lauress Mineral Make-Up Blush On # Peony - บลัชออน
และ Lauress Mineral Make-Up # Purple Translucent Loose Powder - แป้งม่วง
4. Shu Uemura Glow On Blush # P Pink 30
ขนาด 5 กรัม ราคา 900 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
เป็นบลัชออนมีวิ้งอ่อนๆของ Shu สีชมพูอมส้มเล็กน้อย เพราะออนใช้โทนส้มเลยไม่ได้ หน้าจะหมองๆ
จะบอกว่าแปลกมากๆที่ไม่เคยลองใช้อะไรของ Shu เลย นอกจากที่ดัดขนตา วันนั้นเลยลองซะหน่อยให้ BA เลือกให้
ก็ลองปัดกับแก้มดู ก็โอเค ไม่เว่อร์ ไม่ซีดจนเกินไป ส่วนสีติดทนตามสไตล์ Shu ค่ะ ออนว่าติดทนพอๆกับ M.A.C เลย
สีชัดๆเป็นแบบนี้ จะมีความวาว มีชิมเม่อร์อ่อนๆในตัว แต่จะไม่วิ้งเว่อร์ ทำให้หน้าดูไม่มัน ไม่วาวเกินไป
และคนที่รูขุมขนใหญ่ก้ใช้ได้ เพราะจะไม่เน้นรู้ขุมขนจนเว่อร์ ออนชอบสีนะคะ ดูไม่หวานเกินไป แต่ดูกำลังพอดี นุ่มๆ
5. Bobbi Brown Shimmer Blush # Pink Sugar
ขนาด 4 กรัม ราคา 1000 บาท (แต่เหมือนซื้อตอนลด 10% เหลือ 900 บาท)
ตัวนี้ซื้อมาใช้ได้พักใหญ่ๆแล้ว เพราะว่าออนมีประวัติกับทาง Bobbi Brown และพอมี Work Shop ทาง BA ก็จะ
โทรมาชวนให้ลองไปแต่งหน้า และเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆดู ออนก็เลยเข้าไป และได้ใช้บลัชออนตัวนี้ ชอบสีมากๆ เพราะ
เป็นสีชมพูตุ๊กตา มีวิ้งๆ พอประมาณ ก็เลยตัดสินใจเอาตัวนี้ซะเลย
สีชัดๆซูมๆเป็นแบบนี้ ไม่ได้ถ่ายรูปสีที่ป้ายกับแขนให้ดู เท่าไหร่
แต่ป้ายนิดเดียวสีก็ติดแล้วค่ะ ไม่เปลืองบลัชออน
ตัวนี้ปัดออกมาได้สีนี้เลยค่ะ หวานๆ น่ารักๆ แบบแก้มอมชมพูแบบผิวเด็กๆเลย
6. Guerlai Meteorites Powder For The Face Mythic # 01
ขนาดทดลอง 8 กรัม ราคา 380 บาท (ซื้อในอินเตอร์เน็ต)
ตัวนี้เป็นแป้งเม็ด Guerlain ที่ฮิตกันมานานมากแล้วใน Pantip ซึ่งออนเคยซื้อขนาดจริงมา
ปรากฏว่าใช้เป็นปีก็ไม่หมดซะที นานม๊ากกก จนตอนนี้ให้คนอื่นไปแล้ว แต่พอดีวันนั้นดูๆของในอินเตอร์เน็ตอยู่
ก็เห็นว่ามีขนาดทดลองขาย ก็เลยอยากซื้ออีกครั้ง เพราะออนว่าขนาดทดลองก็คุ้มมากแล้ว ใช้ไม่หมดซะที
นานมากๆ ซื้อมาเป็นเดือน ก็ยังอยู่เท่าเดิมเลย ตัวนี้ชอบที่ว่าวิ้งปัดแล้วมันจะไม่เป็นเม็ดๆ แต่มันจะผ่องๆ
ดังนั้นใครมีปัญหารูขุมขน หนีวิ้งใหญ่ ก็มาหาวิ้งเนียนๆแบบนี้จะดีกว่า แพ๊คเกจตัวทดลองก็น่ารักไม่แพ้ไซส์จริงค่ะ
ดังนั้นใครขี้เกียจ อยากลอง ก็แนะนำว่าหาขนาดทดลองมาใช้ก่อนดีกว่า ตัวนี้คงใช้ได้อีกนานมากกกกก
7. Etude House Golden Ration Face Glam # Pink
40 ml + 4 กรัม ราคา จำไม่ได้ค่ะ พรีจากเว็บเกาหลีมา
ตัวนี้หลายๆคนคงรู้จักกันดี เพราะว่าเป็นที่นิยมม๊ากก คนใช้กันเยอะม๊ากกกก
แบบว่ากำลังฮิตๆเลย ยิ่งช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา ซึ่งออนก็เคยเอามาใช้ทำ How To ให้ดูกันไปแล้วด้วย
ตัวนี้เป็ฺนไฮไลท์แบบลิขวิดเป็นน้ำๆ แต่ด้านบนจะมีฝาเปิดออกมา เป็นเนื้อครีมแข็งๆ ไว้สำหรับใช้ไฮไลท์ตาได้ด้วย
มาพร้อมกระจก ตัวนี้ออนใช้ทาหลังลงคอนซีลเล่อร์บางวัน จะทำให้ตาดูวิ้งๆ ไบร๊ท์ขึ้น
ส่วนพอเปิดฝาออกมา จะเป็นน้ำๆแบบในรูปเลยค่ะ มีวิ้งอ่อนๆสีชมพู จริงๆไลน์นี้มีสีเหลืองทองด้วย
แต่คงจะไม่เหมาะกับสีผิวออน เลยเลือกสีชมพูมา หน้าจะได้ดูอมชมพูสดใสเป็นธรรมชาติ เวลาแตะ แตะนิดเดียว
ก็พอค่ะ ใช้ทาพวกโหนกแก้ม สันจมูก หรือจุดที่ต้องการให้กระทบกับแสง และจะเกิดความเงา วาว ฉ่ำๆ
อารมณ์ dewy glow look นั่นเอง
เวลาทากับหน้าแล้วจะได้ dewy look แบบนี้ค่า
8. Sephora Harmony Trio Bronzer # Apricot
ขนาด 3 กรัม
ตัวนี้เป็นบรอนเซ่อร์ที่ออนชอบมากๆ เพราะราคาไม่แพงเลย รู้สึกจะ 300 กว่าบาท พอดีมีคนไปเมกา
ก็เลยฝากแกมบังคับให้เค้าซื้อมาให้ ออนชอบตัวนี้ที่ว่าสามารถมาใช้เป็นอายแชโดว์ หรือไฮไลท์อ่อนๆก็ได้
จากใน How To : Dewy Look ที่ออนทำ ออนใช้ตัวนี้เป็นอายแชโดว์ด้วยเลย และใช้เป็นบรอนเซ่อร์ไปในตัว
ครบมากๆ เพราะไม่ว่าจะชอบแต่งโทนส้ม โทนชมพูก็สามารถแต่งได้ และมีสีเหลืองทองอ่อนๆไว้สำหรับไฮไลท์
หรือช่วยในการเบลนด์สีให้เข้ากัน
สีติดทน และชัดมากๆเลย มีวิ้งแวววาวกำลังสวนค่ะ ไม่ด้านเกินไป
9. Sephora Smoky Cream Liner # Black
และ
Beautilicious Magic Spell Auto Liner # Black
Sephora ขนาด 4.5 กรัม จำราคาไม่ได้
Beautilicious ขนาด 3.5 กรัม ราคาในเว็บ 280 บาท
เริ่มที่ Sephora ก่อนเป็นครีมอายไลเนอร์ เนื้อนิ่มมากกก เขียนง่ายมากกก
แต่ไม่ได้มากับแปรงนะคะ ที่สำคัญราคาไม่แพง จำได้ว่าหลักร้อยต้นๆ พอๆกับพวก Etude House Code B เลย
ตัวนี้ติดทนใช้ได้ ไม่เป็นแพนด้าเลย
ออนใช้อายไลเนอร์ตัวนี้แต่งจากใน How To : Santy & Colourful Christmas ที่ทำเป็นแฉกๆ เขียนๆแบบในนี้
ส่วนของ Beautilicious Magic Spell Auto Line ตัวนีออนเคย Review ไว้นานมากแล้ว
ว่าเป็นอายไลเนอร์ตัวโปรดของออน พอๆกะ Dejavu รุ่นดินสอเลย เพราะว่าเขียนง่าย เนื้อนิ่ม ติดทน
ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย ตรงหัวของอายไลเนอร์จะมีกบเหลา และยางลบ เราสามารถทำสโมกกี้อายส์
หรือเหลาให้เส้นเล็กตามใจเราได้ค่ะ เส้นค่อนข้างคมพอสมควรเลย อย่างในรูปด้านล่างใช้ตัวนี้แต่งเลย
ปล. ตายังเกลี่ยสีไม่เสร็จเรียบร้อย มันเลยดูเป็นปื้ดๆนะคะ ><
10. Estee Laude MagnaScopic Maximum Volume Mascara
ตัวนี้เห็นในเว็บเมืองนอกมี Review ไว้เยอะ บวกกับตั้งแต่ช่วงอยู่ออสเตรเลีย คุณน้าออนใช้ Estee ทุกอย่างเลย
เลยได้ขนาดจิ๋วมาทดลองใช้ ปรากฏว่าชอบมากๆ ก็เลยใช้ตัวนี้มาตลอด ไม่เปลี่ยน โดยจะใช้สลับกับตัว
Dejavu Lash Knock Out ค่ะ ตัวนี้เหมาะสำหรับเพิ่มความหนา ปัดแล้วขนตาจะฟูๆเป็นช่อๆ ไม่เลอะระหว่างวัน
แต่ก็ไม่ได้ล้างออกยาก ใช้ Eye make-up remover ทั่วๆไปก็ล้างออกค่ะ
เวลาปัดออกมาแล้วจะได้เป็นช่อๆ ฟูๆแบบในรูปเลย เหมือนใส่ขนตาปลอม
แต่จริงๆแล้วเป็นขนตาจริงๆแท้ๆเลยค่ะ
จริงๆ มีอีก 2 อย่างที่อยากจะ Review แต่พอดีต้องรีบออกไปทานข้าวเย็นกับเพื่อน
ไว้เดี๋ยวคราวหน้าจะมา Review ใหม่อีกนะคะ หวังว่าสาวๆจะชอบกับ Review นี้นะค้า
ตั้งใจทำมากๆ รูปเยอะสุดๆ อย่าลืมคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยค่า
Discussion (52)
มาสคาร่า Estee รุ่นนี้มีขายที่เมื่องไทยค่ะ เมื่อวานพึ่งไปถอยมา เพราะมาอ่านกระทู้ของน้องออน เลยทนไม่ไหวต้องไปซื้อ 555 เมื่อวานไปที่เซ็นลาดนะคะ ราคา 900บาท ลด 10 % เหลือ 810 บาทค่ะ
พี่ออนหน้าเนียนใสมากๆเลยค่ะ อยากหน้าเนียนใสไร้สิวแบบพี่ออนมั่งอ่าค่ะ ทำยังไงคะ >< ( ตอนนี้เป็นสิวอยู่เป็นๆหายค่ะ ) พี่ออนแนะนำทีค่ะ
กรี๊ดดดดดดดดพี่ออนน่ารักชอบชอบ ได้อีก อิอิ
ละลานตามากค่ะ
เคยใช้ estee เหมือนกานค่ะ แม่ยกให้ แต่ดันทำหายซะนี่..หน้าเส้า