:+: นังอ้วนทำเค๊กเนยจากหม้ออบ_ใครไม่กลัวอ้วนเชิญด่วน :+:
ซอรี่120สวัสดีค่ะ สาวๆจีบัน วันนี้ซอเอาความอ้วนมาฝากสาวๆกันอีกแล้ว อิอิ แต่ขอบอก อร่อยจนหยุดไม่ได้เลย ขอบอก ไม่พูดพร่ำทำเพลง คือวันนี้ซอจะทำ :+: เค๊กเนย:+:แต่ซอไม่มีตู้อบ ก็เลยเอาหม้ออบที่เคยทำพิซซ่าคราวก่อนนั่นแหล่ะค่ะ ลองอบดู สรุป โอเคเลิศ อ้วนเข้าไปอีก เหอๆ อย่าได้แคร์ค่ะ ทำแล้วก็แบ่งให้เพื่อนบ้านทานบ้างไรบ้าง ความสุขเล็กๆน้อยๆ จะได้รักกันไว้ค่ะ ก่อนอื่นเลยค่ะ
เตรียมอุปกรณ์
1. แป้งเค๊ก 2 ถ้วย
2. นมจืด 1 กล่อง
3. นมข้นหวาน 1/2 กระป๋อง
4. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
5. เนยละลาย 200 กรัม
6. ผงฟู 1 ช้อนชา
7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
จากนั้น นำ นมข้น น้ำตาลทราย เนย ไข่ไก่(เวลาไปซื้อบอกแม่ค้าว่าเอาไข่ใหม่นะคะ จะเอาไปทำขนม เพราะว่าไข่ใหม่ จะทำให้ขนมของเราฟูค่ะ) แล้วก็ตามด้วยนมจืดอีกนิดหน่อย เพราะที่เหลือเราจะเอาไว้ใส่คู่ไปกับแป้งทีหลังค่ะ
จากนั้น ตีส่วนผสมด้วยความแรงเบอร์หนึ่ง ค่อยๆตีจนเข้ากันดี พอเข้ากันจนไม่กระเด็นออกมานอกโถ ก็เพิ่มความแรงที่เบอร์สูงสุดได้เลยค่ะ
ถ้าเห็นว่ามันดูฝืดๆ ก็สามารถเทนมจืดผสมลงไปได้นะคะ แต่อย่าหมดนะ เพราะเราต้องเหลือไว้ผสมกับแป้งค่ะ
จนได้ส่วนผสมที่เข้ากัน จะรู้ได้อย่างไรว่ามันใช้ได้แล้ว ง่ายๆค่ะ เอานิ้วจิ้มเนื้อเค๊กดูว่าน้ำตาลทรายมันละลายหมดหรือยัง ถ้ายังเป็นเม็ดอยู่ก็ตีต่อไปค่ะ อย่าใจร้อนนะคะ แต่ไม่ถึงกับว่าละเอี๊ยดละเอียดก็ได้ค่ะ แค่ว่ามันไม่เป็นเม็ดใหญ่ก็พอ(ภาพที่เห็น ยังดูไม่เนียน เพราะมันเป็นเนยค่ะ มันยังไม่เนียนไปเลยค่ะ)
ต่อไป ก็ร่อนแป้งเตรียมไว้เลยค่ะ ร่อนรวมกับผงฟูไปเลยนะคะ จากนั้นลดความแรงลงมาเหลือที่เบอร์ 1 ค่อยเทแป้งลงไป อย่าเพิ่งเทหมดนะคะ ใจเย็นๆ เดี๋ยวเครื่องที่เราตีมามันจะยุบซะก่อน เทแป้ง สลับ นมจืด ที่เราเหลือไว้ ค่อยๆเทสลับกันไป จนหมด
ก็จะได้ออกมาเป็นเช่นนี้เอง
จากนั้นก็วอร์มหม้ออบของเราที่อุณหภูมิ 170 องศาประมาณซัก 5 นาที จากนั้นเตรียมพิมพ์ได้เลยค่ะ วันนี้ซอใช้พิมพ์รูปหมี กับ พิมพ์หัวใจ วิธีใส่เนื้อเค๊กก็คือ เราต้องทาเนยที่พิมพ์ก่อนนะคะ เพื่อที่ว่าเวลาจะเอาเค๊กออกมาจะได้ออกมาง่ายๆค่ะ แล้วก็วันนี้ซอเพิ่งลองใช้หม้ออบ ก็เลยใส่เนื้อเค๊กลงไปไม่เยอะ เอาซักประมาณสองเซนติเมตรก็พอ กลัวไม่สุก แต่ถ้าพิมพ์เราเตี้ย ก็ใส่แค่ครึ่งเดียวนะคะ เพราะว่ามันต้องฟูขึ้นมาอีกเวลาเราอบค่ะ
จากนั้น นำเค๊กเนยของเราเข้าหม้ออบที่วอร์มเรียบร้อยแล้ว พอเอาพิมพ์ลงไปแล้วให้ลดอุณหภูมิมาอยู่ที่ 150 องศา แล้วก็อบไปซักประมาณ 10 นาที ก็เปิดดู ว่ามันเป็นยังไงบ้าง จากนั้นถ้าเห็นว่าเค๊กของเราสุกแล้ว ดูยังไง? รู้ได้ไง? ก็คือ เราต้องมีไม้ปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟันก็ได้ค่ะ จิ้มลงไป แล้วชักขึ้นมา ถ้ามีเนื้อเค๊กติดขึ้นมา ก็แสดงว่ายังไม่สุก อบต่อไป แต่ถ้ามันสุกแล้ว จิ้มมันขึ้นมา มันจะไม่ติดที่ไม้เลยค่ะ ต่อค่ะ ถ้ามันสุกแล้ว แต่หน้าเค๊กของเรายังสีไม่สวย สามารถปรับอุณหภูมิมาที่ 170 องศาค่ะ เพื่อเผาหน้าขนมของเราให้ส๊วยยยงาม
อบเสร็จก็จะออกมาเป็นเช่นนี้แหล่ะค่ะ ขอโทษนะคะ รูปนี้ออกมาไม่ชัด
ขอบอกก่อนว่าอย่าเพิ่งลอกตอนที่มันยังร้อนอยู่นะคะ เดี๋ยวมันจะเป็นแบบนี้ แหะๆ ตอนซอลอกออกมาจากพิมพ์ก็เละจนได้ รอให้เค๊กเย็นและเซ็ตตัวก่อนนะแล้วค่อยลอกออกมา อิอิ (ฮะแหน่ะ อยากกินละซี๊ ) แต่เดี๋ยวต้องจัดให้มันดูน่าทานนิดนึงนะคะ
พอดีมีสตอร์เบอรี่เชื่อมอยู่ในตู้เย็นเลยหยิบมาใส่ซะ โหยยย พอมาถึงตรงนี้แล้วน้ำลายจะหยดซะให้ได้เลย มันหอมอบอวลซะเหลือเกิน
อ๊ะหหห ซักคำม๊ะสาวๆ ไม่กลัวอ้วนเข้ามาเล๊ยยย
เนื้อเค๊ก นุ่มม นวลล เนียนนน เอาเข้าไปแล้วไม่อยากจะบรรยาย กินจนลืมอ้วนกันไปเลย
แต่ต้องบอกก่อนว่า เค๊กเนยอันนี้จะไม่ฟูเท่ากับตู้อบนะคะ เพราะเค้าเป็นแค่หม้ออบ ไม่มีไฟล่างไฟบนค่ะ แต่มันจะ แน่น นุ่ม ค่ะ อันนี้ซอลองใส่ลูกเกดลงไปตอนใกล้จะสุกอ่ะค่ะ ถ้าใครจะใส่เหมือนซอ ก็ต้องรอจนใกล้จะสุกนะคะ ไม่งั้น มันจะตกไปอยู่ข้างล่าง และไม่สวยเลยค่ะ
เอาล่ะ สาวๆ ที่ไม่มีเครื่องตีไข่แบบซอ สาวๆ สามารถใช้ที่ตีแบบตระกร้อได้นะคะ แต่กล้ามอาจจะขึ้นมาแทนค่ะ 555 ซอแนะนำว่าซื้อเลยค่ะ แล้วมันจะเป็นของเราตลอดไป ซื้อบรัชออนแพงๆยังซื้อได้ ซื้อเครื่องตีไข่แค่พันกว่าบาท ทำไมจะซื้อไม่ได้เนอะ ชิมิ
สุดท้ายนี้ ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และไม่เคยเปลี่ยน คือรักเพื่อนๆจีบันทุกคนนะคะ คราวหน้าจะมีอะไรดีดี ง่ายๆ มาให้ติดตามชมกันอีกนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
Discussion (20)
ตอบคุณ felicia นะคะ หม้ออบอันนี้ความร้อนสูงสุดอยู่ที่ 250 องศาอ่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณ yol วันหลังทำอะไรมาให้แบ่งกันทานบ้างนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
เรื่องขนมนี่ยอมแพ้เลยค่ะ ไม่สามารถจริงๆ ( ถ้าเรื่องกับข้าวนี่สู้ตาย แต่คงไม่กล้าทำมาโชว์ on-line -- อายสภาพครัวน่ะ )