※※ ลัลล้า~มาเป็นอีกสาว Pin-up กันเต๊อะ!! ※※

เย้!! ดีใจจังเลยที่ได้ลงฮาวทูนี้ซักที (T ^ T)//
หลังจากที่สายเชื่อมกล้องหายสาบสูญไปราวๆ 2 อาทิตย์
ปัจจุบัน...ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี (555)
ตอนนี้เลยต้องซื้อ Card Reader มาใช้แทน (ขอบคุณคุณ Tsubaki ที่แนะนำนะคะ ^^)

โดยส่วนตัวชอบพวกรูปสไตล์นี้มากกกกกก
คิดว่าหลาย ๆ คนคงเคยผ่านตากับรูปสาวหุ่นสะบึมส์นั่งแอ่นนอนแอ่นด้วยท่าทางสุดเอ็กซ์
ตอนแรกๆเราก็พยายามจะหารูปแนวนี้ในเน็ต แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอาร๊ายยยย!!
จนกระทั่งนั่งขุยไปคุ้ยมาตั้งนานกว่าจะรู้ว่า รูปแบบเนี้ยเค้าเรียกว่า Pin-up Girl
ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกแบบนี้ พอไปถามอาจารย์ฝรั่งที่โรงเรียน
ก็ถึงบางอ้อ ที่เค้าเรียกว่า Pin-up เป็นเพราะในสมัยก่อน รูปสาว ๆ พวกนี้ส่วนมากจะใช้เป็นรูปในปฏิทิน
แล้วเวลาที่เราแขวนปฏิทินกับผนังเนี่ย ภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า "pin up" ก็เลยเป็นที่มาของชื่อซะงั้น เอวัง
ส่วนรูปที่เอามาเป็น Theme ในวันนี้คือรูปนี้ค่า เอิ้วววววววว สุด ๆ
แต่งยังไงคงไม่เหมือนอ่ะ เพราะจากสภาพสังขารก็...ไม่อยากจะบรรยาย
ใครที่จะดูฮาวทูนี้ขอให้มองข้ามเรื่องรูปร่างไปนะคะ ดูแค่เมคอัพก็พอแล้วววววว T ^ T

เริ่มขั้นสู่ขั้นตอนการโบ๊ะ ๆ ๆ ๆ เลยจ้าก่อนแรกต้องมีรูป After เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

โฮะ ๆ ๆ ๆ เอาแว่นบังที่กันคิ้วแหว่งไว้ฉลาดมากมาย 555+

เริ่มขั้นตอนแรกโดยการเตรียมผิวให้พร้อมเข้าสู้ขั้นตอนการโบกรอยบนใบหน้าด้วยเบส
ใช้เบส Bobbi Brown SPF 50/PA++ UV Protective Face Base ที่ช่วยปรับสีผิวให้เสมอกันทั้งหน้า
และกลบรูขุมขนได้ในระดับนึง กดเนื้อครีมไว้ที่หลังมือก่อนแล้วค่อยใช้นิ้วเกลี่ยขึ้นมาลงบนใบหน้าทีละน้อยจนทั่วหน้า

ต่อจากนั้นใช้รองพื้น KATE lasting high coverage liquid foundation BE-C หรือสีอะไรก็ได้ที่พอดีกับผิวพอดีนะคะ
แต้มเป็นจุด ๆ บริเวณ แก้ม จมูก หน้าผาก คาง แล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้เรียบเนียน เน้นเกลี่ยในช่วง T-zone กับ แก้ม
ช่วงกรอบหน้าไม่ต้องเกลี่ยมากนัก ใช้แค่รองพื้นที่เหลือ ๆ ติดนิ้วเกลี่ยเป็นอันใช้ได้

มาโบกกลบริ้วรอยด้วย Benefit erase paste โดยแต้มตามจุดที่เป็นรอยทั้งหลาย
เราเน้นแต้มตามรอยสิว กับแพนด้าใต้ตา หลังจากแต้มทุกจุดเรียบร้อยให้ใช้นิ้วนางและนิ้วกลางกด ๆ
เน้นว่ากดไม่ใช่เกลี่ยน๊าาาา!! จนกระทั่งคอนซีลเลอร์กลืนไปกับผิวส่วนอื่น ๆ
ขั้นตอนนี้เน้นว่าต้องทำให้เนี้ยบนะ เพราะลุคนี้เน้นผิวเนียนเรียบแล้วก็แมทสุด ๆ เพราะฉะนั้นห้ามเหลือรอยเด็ดขาด!!

เมื่อกลบรอยจนเกลี้ยงแล้ว มาต่อที่แป้งกันเลย ( วันนี้ขอข้ามพวกเบสวิ้งนะคะเพราะเน้นความแมท )
ปรายเลือกใช้แป้งผสมรองพื้น Integrate Mineral Foundation Press ที่เน้นความเรียบเนียน และแมท
โดยเลือกที่ที่เข้มกว่าสีผิวเฉดนึงเพราะวันนี้ต้องแต่งหน้าค่อนข้างเข้มซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูขาวขึ้น
ใช้แป้งตบให้ทั่วใบหน้า (อย่าปาดนะใช้กด ๆ ๆ) นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงให้เว้นการลงรองพื้นช่วงกรอบหน้าไว้
เพราะหากลงทั้งรองพื้นและแป้งผสมรองพื้น อาจจะทำให้หน้าลอยโดดเด้งเกินงามได้
เพียงแค่นี้ก็จบขั้นตอน Base Makeup แล้วจ้า วันนี้จบไวได้แหะขั้นตอนไม่เยอะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เริ่มเข้าสู่ขั้นตอน Point Makeup ค่ะ เริ่มจากตาก่อนเลย ( ^ o ^ )//
ขั้นแรกใช้อายไลเนอร์แบบดินสอ Etude House Proof 10 Auto Pencil #03 Brown เขียนอินเนอร์ไลเนอร์
ทั้งขอบตาบน และขอบตาล่างให้เรียบร้อยซะก่อน

ต่อจากนั้นก็จะเริ่มละเลง Eyeshadow กันซะที โฮะ ๆ ๆ ๆ
วันนี้เลือกใช้อายแชโดว์โทนน้ำตาล จริงๆอยากจะใช้เนื้อแมททั้งหมดแต่หาแมทสุดได้แค่นี้ - -"
ลืมบอกชื่อไป ตลับนี้คือ Estee Lauder Pure Color Eyeshadow
โดยจะใช้สามสี คือ สีงาช้าง สีน้ำตาลทอง และสีช็อคโกแลต ในขั้นตอนขอเรียกเป็นเบอร์เพื่อความสะดวกนะจร้ะ

1. ใช้ (1) ทาให้ทั่วเปลือกตาบนทั้งหมดตามรูป และเน้นลงเป็นพิเศษตรงช่วงโหนกคิ้ว
2. ใช้ (2) ลงทั่วเปลือกตาและหัวตา แต่เว้นตรงบริเวณช่วงโหนกคิ้วเอาไว้
3. ใช้ (2) เกลี่ยทั่วเปลือกตาล่างโดยใช้แปรง ซึ่งสีที่ออกมาได้จะไม่เข้มเท่ากับใช้ทิปส์ฟองน้ำ
4. ใช้ (3) คัดเบ้า โดนเริ่มจากเกลี่ยจากหางตาไปหัวตาตามแนวขอบตา และต่อจากนั้นก็ใช้แปรง
ร่างเส้นเป็นรูปตัว V ที่บริเวณหางตาแบบในรูปเป็นเส้นหลัก และค่อย ๆ ใช้แปรงเกลี่ยโดยเกลี่ยจากทางหางตาไปหัวตา
ถ้าสีโดดเกินไปไม่กลืนไปกับสีอื่นแก้โดยใช้ (2) เกลี่ยให้กลืนกันไป

หลังจากลงอายแชโดว์เรียบร้อย(ซะที) ก็ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า
วันนี้ปรายใช้อ้วนเหลือง Maybelline the Magum Volume Express ปัดคร่าว ๆ ให้ขนตาไม่ดิ่งพสุธาพอ
แต่ที่สำคัญเน้นปัดขนตาล่างด้วยนะคร๊าาาาาาาาาา

ต่อด้วยการติดขนตาปลอมอันนี้สำคัญม๊ากกกกกก ไม่ติดนี่ขาดใจกันเลยทีเดียว
ขนตาบนเลือกใช้แบบไขว้ที่เน้นหางตาติดไล่จากกลางตา --> หัวตา --> หางตา
และใช้แบบเฉพาะจุดติดที่หางตาล่าง 3 จุดแบบในรูปเลยคร๊าาาาา

ต่อ ๆ ๆ ๆ มาจัดการกับคิ้วแหว่งก่อนหลังจากแอบใช้แว่นบังรอดตัวไปรูปนึง 555+
ใช้ดินสอเขียนคิ้ว Shiseido Eyebrow Pencil #3Brown ร่างเป็นโครงให้ทรงโก่งเด้งแบบสาววินเทจ
แล้วก็อย่าลืมเติมหางคิ้วให้คมเฉียบ ประมาณว่าตัดกระดาษขาดได้เลยทีเดียว

แล้วก็มาถมดำกันด้วย VISEE powder eyebrow ใช้สีเข้มสุดถมด้านในบริเวณที่ร่างไว้ให้เข้มเต็มสตรีม
และใช้สีกลางเฉดดิ้งสันจมูกตามรูปเลยจร๊า

จากนั้นก็ต่อที่บลัชที่มีสีแมตและสดใส๊ สดใส คงไม่พ้นตลับนี้ Nars Blush #Exhibit A
โดยปัดจากโหนกแก้ม (ถ้าไม่รู้ว่าตรงไหนก็ลากเส้นจากกึ่งกลางตาดำลงมาถึงช่วงปีกจมูก)
ปัดขึ้นไปทางขมับ **เวลาใช้สีนี้ระวังเรื่องปริมาณบลัชด้วยไม่งั้นจะกลายเป็นตูดลิงได้ 55

ขั้นตอนสุดท้ายแร้ว เย้ ๆ ๆ ๆ !!
ใช้ลิปสติกสีแดงงงงงงงงงง แบบไม่เอาญาติในกรุที่ไม่เคยกล้าหยิบมาใช้เลย
มันคือ NYX Round Lipstick #Femme ใช้แปรงปาดให้ทั่วริมฝีปากตามรูปปากเลยจ้า
ถ้าใครที่ปากทรงไม่สวยก็ใช้ดินสอเขียนขอบปากร่างเป็นโครงไว้ก่อนได้คร่า ฮ่า ๆ

เสร็จแล้นนนนนนนนนนนนนนนนน!!

อะ........อะ....อะ...อเมซซิ่ง!! สิวหายไปแว้ว เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ขอแอบไปเซตผมกับเปลี่ยนชุดก่อนจร้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

ข้อสรุปของฮาวทูในครั้งนี้...หุ่นไม่ให้แต่ใจรักเป็นอันใช้ได้ 5555555555+
เอวัง..วันนี้ขอลาไปก่อนนะเออ แอบสปอยล์ก่อนไป ฮาวทูครั้งหน้าจะสอนแต่งหน้าแนว Gals นะจร้ะ จุ๊ฟว์ ๆ ๆ