REVIEW : ผ่านไป 3 เดือบกับการต่อผมแบบกิ๊บ! เป็นไงมาดูกัน + HAIR PRODUCTS ที่ใช้ค่า
BbyOnn 0 34สวัสดีค่าสาวววว ๆๆ และหนุ่มมๆ =]
วันนี้กลับมา แล้ว จะมา review ภาคต่อกันเรื่องผมต่อค่ะ
เพราะอย่างที่บอกว่าออนเขียน review ไปประมาณเกือบๆ 3 เดือนได้แล้ว
จนทุกวันนี้ก็ยังมีสาวๆถามเรื่อง ต่อผม ดังนั้นออนเลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาอีก เพื่อจะได้เป็น
ประโยชน์กับ สาวๆคนอื่นๆ ที่อาจจะยังไม่แน่ใจ ลังเล ไม่มั่นใจ กับการต่อผมค่ะ
https://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2010/03/Q9023239/Q9023239.html
ก่อน จะถามอะไร .. รบกวนไปอ่านกระทู้ข้างบนก่อนนะคะ
เพราะรีวิวรวมไว้เยอะ มากๆค่ะ ^^ จะได้ช่วยออนนิดนึง ตอบคำถามเยอะๆก็แอบมึนบ้างครั้ง ><"
เพิ่ง หายป่วยด้วย เพราะความงก ไม่ยอมหาสมิตติเวชทั้งๆที่อยู่หลังบ้านตัวเอง แต่ไปหาโรงบาลอื่นแทน
ยาไม่ถูกกับออน กินแล้วใจสั่น นอนไม่หลับ ไฮเปอร์ สุดท้ายต้องไปหาหมออีกรอบ T_T"
อย่างที่บอกไปค่ะ .. ว่าตอนนี้ออนได้ต่อผมแบบกิ๊บ ( หรือบางคนเรียนว่าคลิป/คลิปล็อก ) อยู่
ต่อมาประมาณ 3 เดือนได้แล้ว โดยที่ยังไม่ได้ไปเลื่อนปม หรือทำอะไรเพิ่มเลย ..
เดี๋ยวขอเอารุป เดิมลงก่อนค่ะ
เป็นรูปที่ต่อเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
ต่อไป 2 ชั้น แต่ต่อด้านข้างด้วย ไม่ได้ต่อด้านหลังอย่างเดียว
เน้นความหนา เพราะออนไม่อยากได้ผมบางๆ เหมือนน้องก๊อยเลย ><"
โดยบอกช่างว่าใช้ ผมธรรมชาติ ไม่ยืด ไม่รีบอนด์ และใช้ผมทำสีให้เหมือนกับสีผมออน
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1-2 อาทิตย์
ออนก็ไปต่อ ผมเพิ่มเพราะออนอยากได้หนาๆและยาวๆ
โดยต่อเพิ่มไปอีก 2 ชั้น
ครั้ง แรกรู้สึกจะต่อไปประมาณ 1,400 บาท
ครั้งที่สองก็ประมาณ 1,400 บาท
ราคา อาจจะ +- นิดหน่อยนะคะ จำไม่ค่อยได้แล้ว
ในรูปเป็นผมตรงค่ะ จะได้เห็นว่ามันยาวกว่าตอนต่อครั้งแรกแค่ไหน
อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ก่อน ว่าจะไม่เลือกผมแบบตรงเป๊ะ เพราะในเมื่อผมออนไม่ใช่คนผมตรง
แบบผมยืดมา เป็นผมธรรมชาติ ตอนเด็กๆ หรือตอนนี้บางทีก็แอบมีหยักศกบ้าง เพราะคุณแม่ผมหยักศกเลย
ดังนั้นเลือกผมให้เข้ากับผมเรา จะเป็นวิธีที่ทำให้ผมต่อดูธรรมชาติที่สุดค่ะ
ในรูปแอบโดนคนล้อว่าพอ ใส่ปลอกแบบนี้ให้กับ bb แล้วเหมือนมือถือ lg รุ่นนึงเลย ฮ่าๆๆ
ส่วนตอนนี้มาดูกันว่าผ่านไปแล้ว 3 เดือน
ผมเป็น ยังไงบ้าง ..
- ปมของกิ๊บยาวลงมาเยอะเหมือนกันประมาณ 2 นิ้วกว่าๆเกือบ 3 นิ้ว
- มีผมหลุดไปประมาณ 5-6 ช่อ
( สาเหตุจากการไดร์ผม, หวีทุกวัน, ดึงผมเล่น นิสัยเสียมากๆ, สระผม ฯลฯ )
- ปลายผมต่อเริ่มเสีย และแข็งกระด้างมากขึ้น
( สาเหตุมาจากการเป่าผมด้วยไอร้อน, การม้วนผมด้วยโรลม้วนผมไฟฟ้า )
- ปลายผมจริงๆของออนก็เสียมากขึ้น
( เพราะช่วงหลังไม่ค่อยได้มาส์กผม บางทีไปที่อื่นก็ลืมเอาที่บำรุงผมไป หรือไปร้านเค้าก็ใช้ที่บำรุงไม่ดีเท่าที่เรามี ฯลฯ )
รูปนี้ถ่าย อาทิตย์ที่แล้ว ผมยังยาวและหนาอยู่
แน่หละสิ .. ก็ออนเน้นความหนาหนิ ถ้าไม่หนาก็แย่แล้วววว
แต่ผมออนจริงๆก็ยาวเกือบๆจะเท่าผมต่อแล้ว สั้นกว่าประมาณ 3-4 นิ้วได้
แต่ที่ต่อเพราะว่าไปให้ร้านเล็มปลายผมออก แต่เค้าดันเล็มเป็นแบบชั้นๆ ( เลเย่อร์ )
ทำให้ผมออนไม่หนา และออนไม่ชอบผมบางๆ เพราะดูไม่เป็นทรง เลยต่อซะเลย
ส่วนรูปผมด้านหลังหาไม่ค่อยได้เลย
เลยขอยกรูปที่ ถ่ายเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆก่อนมาให้ดู
ถ่ายที่เมืองจีนนั่นเองง มีคนถ่ายให้ เลยเห็นผมด้านหลัง
รูปนี้ออนปรับแสง เพื่อให้เห็นสภาพผมที่ชัดเจน
เพื่อนๆที่เรียนมหาลัยเดียวกันกับออน จนจะขึ้นปี 2 บางคนเพิ่งจะมารู้ว่าออนต่อผม
และอีกหลายๆคนก็ยังไม่รู้ ฮ่าๆๆ อันนี้แอบภูมิใจ
จริงๆตั้งใจไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วว่าจะไปเลื่อน กิ๊บขึ้น
เพราะกิ๊บบางอันเริ่มไม่แน่น บางอันเริ่มหย่อนลงมามาก แต่ก็ยุ่งๆ
จนอาทิตย์นี้ก็ป่วยยาวตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจนวันนี้ก็ เลยไม่ได้ไปซะที
ถ้าพรุ่งนี้หายดี จะไปเลื่อนกิ๊บให้แน่นขึ้น ..
- เหตุผลที่ต้องเลื่อนกิ๊บ
1. ทำให้คนอื่นไม่เห็นปมกิ๊บต่อของเรา เพราะยิ่งยาวลงมา ก้ยิ่งเห็นได้ง่าย
2. ทำให้ปมกิ๊บแน่นขึ้น เวลาหวี เวลาไดร์ หรือโดนแรงดึง จะทำให้ตัวกิ๊บไม่หลุด และดึงผมจริงๆให้ขาดออกมาด้วย
3. จะได้สางผมได้ง่ายขึ้น เพราะต่อไปนานๆ ตรงช่วงปมของผม จะเริ่มพันกันได้ ถ้าไม่รีบแก้ เดี๋ยวจะพันกันแน่น แล้วเอาไม่ออก ต้องตัดทิ้ง
- ทำยังไงให้ผมต่อไม่พันกัน ?
1. พยายามถักเปีย ม้วนผม ให้มาก เพราะเวลาเราม้วนผม เส้นผมก็จะสลับกัน พันกัน แล้วยิ่งถ้าใช้พวก hair products ทั้งหลาย โดยเฉพาะมูส และเจล จะทำให้ผมเกิดความเหนียวจากข้างใน และปมของผมก็จะพันกัน ..
2. ดังนั้นวันว่างๆ ก็ปล่อยผมให้ผมได้พัก ใช้ครีมนวดหรือมาส์กผม เพื่อจะให้ผมนุ่มลื่น และไม่พันกัน จะช่วยได้มาก เพราะบางทีปมด้านในพันกัน เราก็ไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีตอนมันพันกันซะแน่น จนต้องตัดทิ้ง T^T เคยมาแล้วค่ะ เสียใจม๊ากกก ตัดไปก้อนเท่าลุกปิงปอง :(((
- ทำยังไงให้ผมต่อหลุดน้อยที่สุด ? ยืดอายุของผมต่อได้มากที่สุด ?
1. พยายามหลีกเลี่ยงการไดร์ผม การดึงผมไม่ว่าจะเป็นการหนีบ การม้วน หรือคนที่ชอบเล่นดึงผมตัวเองก็ตาม เพราะดึงทุกๆวัน ปมมันก็ร่วง ก้หลุดมาได้ง่ายขึ้น
2. ถ้าจำเป็นต้องไดร์ เน้นว่าขอไดร์เบาๆ เพราะเป็นผมต่อ อาจจะใช้เวลานานกว่าหน่อย แต่เพื่อยืดอายุการใช้งาน ถือว่าโอเคเลย ถ้ากลัวผมเสีย ตอนหลังๆที่ผมเริ่มแห้ง ก็ขอลมแบบเย็นได้ค่ะ เซ็ตเข้าทรงได้เหมือนกัน
3. ถ้ามีคนที่ทำผมเป็น รู้เรื่องการต่อผม ว่างๆก็ให้เค้าใช้คีมหนีบคลิปผมได้ค่ะ แค่ใช้คีมบีบเบาๆ ตรงตัวปมกิ๊บ ก็จะทำให้ผมแน่นขึ้นมากๆ
- ผมต่อไม่จำเป็นต้องบำรุง จริงหรอ?
1. ไม่จริงค่ะ .. ถึงผมต่อจะเป็นผมที่ตายแล้ว แต่เชื่อออนค่ะ ว่าเราบำรุงไปเรื่อยๆ ผมต่อก็จะดีขึ้นมาเอง ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางนิ่มสลวยเงางามเหมือนผมจริงๆของเรา แต่อย่างน้อยเราใช้ผมต่อทุกวัน ทั้งเป่าร้อน ไดร์ผม หนีบผม ม้วนผม .. ผมต่อก็มีแต่จะเสียลงไป เสียลงไป ดังนั้นหมักผม หรือใช้พวกผลิตภัณฑ์ผมจะช่วยได้ค่ะ ออนใช้มาเรื่อยๆเป็นเดือน ดูแลผมต่อเหมือนเป็นผมจริงๆของตัวเอง มันก็คุ้มนะคะ .. ไม่งั้นบางคนต่อเดือนเดียวหลุด เดือนเดียวมีปัญหา ปมพันกัน ฯลฯ แล้วต้องไปต่อใหม่ทีละพันสองพันสามพันบ้าง .. เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์บำรุงผม ที่ซื้อมาเต็มที่อย่างแพงๆก็ขวดละพัน อย่างธรรมดาก็สามสี่ร้อย .. แต่ใช้ได้หลายเดือนมากๆ ถึงหลักเกือบปีด้วยซ้ำ ..
เชื่อออนค่ะ ว่าบำรุงไปดีกว่าาา
แล้วผมจะดูธรรมชาติมากๆ
- Recommended Items
วันนี้จะมาขอแนะนำกึ่งๆ review เล็กๆกับผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ออนใช้อยู่ค่ะ
เผื่อจะเป็นทางเลือก กับสาวๆได้บ้าง โดยราคามีตั้งแต่ไม่ถึงร้อยถึงหลักพันเลย เลือกกันได้ตามสบายค่ะ
1. Skinfood Extra Virgin Oil Essence
60ml
ราคาจำไม่ทราบค่ะ พี่สาวซื้อฝากจากเกาหลี
- ตัวนี้เคย review ไปก่อนแล้วรอบนึงว่า ใช้ดีชอบมากๆ
เป็นออยล์ใส่ผมกลิ่นอ่อนๆ ไม่เห็น ไม่มันมากเกินไป เหมาะสำหรับผมเสีย ผมแห้ง
ใส่ตอนผมแห้งหมาดๆ แล้วหวี จะช่วยให้ผมลื่นขึ้น และเช้าขึ้นมาผมจะดูนิ่มขึ้น
2. Schwarzkopf BC Bonacure Hair Theraphy
Repair Rescue, Sealed ends
75 ml
ราคาไม่แน่ใจค่ะ ซื้อมานานมากแล้ว ซื้อตอนลดราคาด้วย ลดแล้วไม่เกิน 500 บาทค่ะ
- ตัวนี้ออนใช้ตั้งแต่สมัยอยู่ออสแล้ว เพราะลูกพี่ลูกน้องออนเค้าบ้าพวก hair products มากๆ
เรียกว่าในห้องน้ำมีมากกว่า 50 ขวดตั้งเรียงรายไว้เลย พี่เค้าก็แนะนำตัวนี้มาให้ออนใช้
พอใช้แล้วก็ชอบค่ะ คือมันช่วยให้ผมแตกปลาย ผมเปิดอะไรงี้ดีขึ้น และผมก็เสียน้อยลง
แต่ใช้ แค่นิดเดียวจริงๆประมาณครึ่งเม็ดถั่วแดง เน้นลูบปลายผมที่เสีย อย่าลูบทั้งหมด เพราะไม่งั้นผมจะมัน
3. Bed Head Tigi
Superficial Smoothing Liquid For Shiny, Silky Hair
100ml
ขายในบู้ทส์ประมาณ 900 กว่าบาท เกือบพันบาทค่ะ
- ขวดนี้ออนก็ใช้มาเป็นขวดที่สองแล้ว เริ่มใช้ขวดนี้ตอนอยู่ที่ออสเหมือนกัน
เพราะร้านเกาหลีใช้กัน แล้วผมหอมมากๆ ออนบ้าพวกผมหอม ผมนิ่มอยู่แล้ว กลิ่นเป็นบับเบิ้ลกัมเลย
เพื่อนๆ ที่มหาลัยชอบบอกว่าผมหอมมมมม วันไหนไม่ใช้จะโดนคนทักเลย :(
ขวดที่ สองอันนี้ก็ไม่ได้ซื้อจากไทย แต่ (บังคับ) ให้คุณแฟนซื้อมาให้ ตอนเค้ากลับมาจากออส ฮ่าๆ
จริงๆราคาที่ไทยกับที่ออสเท่าๆกันเลยค่ะ ต่างกันไม่กี่สิบบาท แต่ด้วยความงก พอเห็นเป็นจำนวนเงินไทยแล้วรู้สึกเยอะ
แต่ พอเห็นเป็นเงินออส มันเลยรู้สึกน้อย สุดท้ายก็ได้มา .. อันนี้เป็นน้ำๆ ใช้ลูบผม ใช้ตอนผมเปียกๆค่ะ ช่วยให้หวีง่ายขึ้นมากๆ
เรื่องผมเงางามอัน นี้ไม่รู้ แต่รู้ว่าผมหอม ดูสวยขึ้น พริ้วขึ้น หวีง่ายขึ้น ใช้นิดเดียวก็พอค่ะ ชอบๆ มีขวดต่อไปแน่นอน
จริงๆ Bed Head เค้าเป็นยี่ห้อที่มีคุณภาพมากๆเลยแหละสำหรับ Hair Products มีอีกตัวที่อยากลองเหมือนกัน
เพราะตอนไปร้านทำผมเค้าใส่ให้แล้วผมนิ่ม สลวย ดูมีน้ำหนักสุดๆ เดี๋ยวว่าจะไปลองซื้อมาใช้ แล้วจะรีวิวให้นะคะ
4. Clairol Herbal Essences
Smooth Lovin' None of your frizzness serum
with anti-humidity teachnology
75ml
ราคา ประมาณ 150 กว่าบาทไม่เกิน 200 ค่ะ ซื้อได้ตามซุปเปอร์ทั่วไป
- อันนี้เป็น serum ที่ช่วยให้ผมไม่พันกัน ให้ดูนุ่มลื่น ออนชอบแพ๊คเกจเนี่ยแหละ สวยดี
และที่สำคัญกลิ่นหอมมากกก หอมแบบบับเบิ้ลกัมผสมฟรุ๊ตตี้ ประมาณนั้น คล้ายๆกับตัว Bed Head ข้างบน
ใน ราคาถูกกว่า แต่ความทนของกลิ่นและคุณภาพก็ด้อยกว่าเป็นธรรมดาค่ะ กลิ่นไม่ติดทนมาก เรื่องผมลื่นขึ้นก็พอได้ค่ะ
ดังนั้นงบน้อยๆ หรือช่วงกระเป๋าแฟ่บ ตัวนี้ก็เป็นทางเลือกได้ค่ะ แต่ถ้าชอบเรื่องพวกบำรุงผมจริงๆก็ลอง Bed Head ได้เลยค่ะ
เพราะว่า แบรนด์เค้าสำหรับพวก Professional Use จริงๆ ร้านเกาหลี ร้านเมืองไทยดี ร้านต่างประเทศ จะใช้กันเยอะมากๆ
5. Schwarzkopf Extra Care Hair Repair
Nutri Protect 80c Heat Protection Serum
For dry and stressed hair
100 ml
ราคาอยู่ประมาณไม่เกิน 350 บาทนะคะ หลักสองสามร้อยค่ะ ซื้อได้ตาม Boots, ซุปเปอร์ทั่วไป
- อันนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยใช้ก่อนการเป่าผม หนีบผม ม้วนผม เรียกง่ายๆว่าเป็นตัวป้องกันความร้อนนั่นเอง
ใช้ได้สำหรับ ความร้อน 80c ดังนั้นจะเหมาะแค่พวกเป่าผมมากกว่า เพราะบางทีม้วนผม หนีบผม เราใช้ความร้อนสูงเกินกว่านี้ค่ะ
ตัวนี้ซื้อมาเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร ตอนนั้นบ้าซื้อ hair products มากๆ จนคุณแม่บ่นเลยทีเดียว T^T
พอเอามา ใช้แล้วแอบเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร พอเป่าแห้งเสร็จแล้วผมแอบรู้สึกเหนียวๆด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เยอะ
ใจ จริงอยากกลับไปหา PPS มากกก เป็นยี่ห้อที่ขายที่ออส ขายตามร้านขายอุปกรณ์ทำผมทั่วๆไป
เป็น Professional Use เลย เพราะร้านทำผมดีๆจะใช้กันค่ะ เป็นสเปรย์กันความร้อน ไม่เหนียว ใช้ดีมากๆ
กลับ มาเมืองไทยหาไม่เจอ T^T ไม่รู้ขายที่ไหน สงสังต้อง(บังคับ) ให้คุณแฟนส่งมาให้จากออสอีก ฮ่าๆๆ สบายกระเป๋าออนด้วย
6.Lolane Natura Hair Treatment
For dry and damaged hair + jojoba oil and silk protein
250g
ร้อยกว่าบาทค่ะ ซื้อได้ตามซุปเปอร์, 7/11 และห้างทั่วไป
- ขอบอกว่าตัวนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยยยยย
ผลิตภัณฑ์ของไทยที่คุณภาพ เทียบแบรนด์โลกได้สบายๆค่ะ ตัวนี้เป็นครีมหมักผม
ที่สามารถใช้แทนครีมนวด ได้เลย แต่ออนจะใช้ครีมนวดก่อนครั้งนึง แล้วใช้ตัวนี้เป็นครีมหมักผมตาม
ผม ออนเสียมากๆ โดยเฉพาะปลายผม ออนก็จะหมักทุกวัน บางครั้งก็วันเว้นวันค่ะ หมัก 3-5 นาทีก่อนไปมหาลัย
หมักมาหลายๆเดือน ผมนิ่มขึ้นสุดๆ ผมดูสุขภาพดีขึ้นด้วย ผมต่อก็สุขภาพดีขึ้นตามไปเหมือนกัน
เคยใช้ Loreal ที่เป็นกระปุกฟ้าๆ ราคา 500 กว่าบาท ยังชอบตัวนี้มากกว่าเลย
จริงๆ ตัวนี้เหมาะสำหรับคนมีเวลาน้อย คนที่ไม่ชอบไปนั่งอบไอน้ำ หมักผมตามร้านด้วยค่ะ
เพราะว่าใช้แป๊บเดียวล้างออก แล้วก็เห็นผลค่อนข้างชัดเจน ที่สำคัญใช้ทุกวันก็รู้สึกไม่เปลืองด้วย
ถ้า มาใช้กระปุกละ 500 กว่าบาททุกวัน แอนนี้แอบเซ็งทีเดียว
เชียร์เลย ค่า
ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ เย่ๆ
7. Lolane Leave-On Hair Serum
For nourish and color care + Sunflower extract & natural herbs
150ml
ราคาไม่ ถึงร้อยบาท อยู่ที่ 80 กว่าบาท 90 กว่าบาทได้ค่ะ ซื้อได้ตามซุปเปอร์ทั่วไปเลย
- อันนี้ก็เป็นอีกชิ้นที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน เรียกว่าถ้าขาดแล้วหงุดหงิดไปเลยยยย
เพราะว่าตัวนี้เป็นเหมือนสเปรย์ฉีดๆ ผม โดยไม่ต้องล้างออก ใช้ฉีดผมหลังสระผม ผมหมาดๆค่ะ
ออนใช้ชีดฉีด แล้วค่อยๆหวีผม จะช่วยได้มากเลย รู้สึกว่าฉีดแล้วมันสบายขึ้น ผมหวีง่ายขึ้น
ต้อง พกทุกวันจริงๆ ไปไหนก็ต้องเอาไป ที่สำคัญราคาถูก ใช้ได้นานเป็นเดือนๆ คุ้มมากๆ
ลองดูอันนี้เลยค่ะ แล้วจะติดใจ
แต่ก่อนใช้ Schwarzkopf รุ่นสเปรย์ฉีดแบบนี้เหมือนกัน ขวดสีชมพูๆ
แต่กลับมาไทยแล้วหาซื้อไม่ได้ + ขี้เกียจหา แล้วยิ่งเจอตัวนี้ยิ่งรักเลย ถูกกว่ากัน 2-3 เท่าด้วย
ปลื้ม มากกกกก
แบรนด์คนไทย ใช้ดีจริงๆค่ะ แนะนำๆ
วันนี้ต้องจบไปก่อนนะค้าาา
สาวๆหายไปไหนหมดก็ ไม่รู้ ไม่มาคอมเม้นท์กันเลยยย :(:(:(
เดี๋ยวรีบไปส่งของที่ไปรษณีย์ ก่อน
มีอะไรถามทิ้งไว้ หรือหลังไมค์มาก็ได้ค่ะ ตอบทันทีที่กลับมาค่า
อย่า ลืมติดตาม how to, review, tutorial,beauty bible ต่อๆไปของออนด้วยนะค้า
จะ พยายามหาอะไรที่มีความรู้เกี่ยวกับความสวยความงามมาแชร์สาวๆค่ะ ^^
เพิ่ม เติมอีกหน่อยค่ะ .. ใครจะนำ review, how to หรืออะไรของออนก็แล้วแต่ไปใช้
รบกวน บอกออนนึดนึงนะค้า จะแจ้งในบล็อก, ส่งหลังไมค์ หรือยังไงก็ได้ค่ะ ออนให้ได้หมดค่า
แต่ขอนิดนึงว่าให้เครดิตมาที่บล็อกออนซักนิดนะค้าา แต่ละอย่างกว่าจะพิมพ์ กว่าจะหาข้อมูลมาได้แอบเหนื่อย ^^"
ขอบคุณค่า า
ปล. ปิดท้ายไปด้วยรูปฮาๆ อันนี้ถ่ายที่จุฬา คณะอะไรคงพอจะเดากันได้ เพราะว่าช่วงนี้ภาคอินเตอร์ปิดเทอมอยู่
แล้วก็มี พวกกิจกรรม มีทติ้ง ที่ต้องนัดเจอกัน เตรียมตัวสำหรับรับน้อง ทริปที่จะไป ฯลฯ เลยแว๊บไป ฮ่าๆ
Comment
เขียนความเห็นได้เลยจ้า..
Recent comments ความคิดเห็นล่าสุด