รีวิว : เล็บ ... ว่าด้วยเรื่องเล็บสวยๆ
vodca142ทั้งหลายทั้งปวง Review By vodca
ดองซ้ำดองซาก ดองมานานแสนนาน อันนี้นานจนเค็มปี๋อีกอัน กะ content เล็บๆที่ได้รับมอบหมายให้มาทำตั้งนานแร้ว แต่เนื่องจากกล้องหาย หาไม่เจอซะที สุดท้ายก็ไปยืมป้าจรีนมาทำจนได้เป็นผลผลิตนี้ออกมาก ต้องขอบคุณป้าจีนแล้วก็รูปจากกล้องคุณนายทราย-ไผ่ไร้กอ ด้วยเจ้าค่ะ
จริงๆ แล้ว โปรเซสของเรื่องเล็บๆ ก็ไม่มีไรมาก ถ้าสาวใดอยากเป็นผู้มีเล็บงาม เจ้ยย... มะช่ายย อยากมีเล็บสวยๆ เนี่ย มีแค่
ล้างเล็บ > แช่น้ำสบู่ > ใช้แปรงขัดนิดหน่อย > ตัดหนัง > ตะไบ > ทาสี > บำรุง
ทุกๆ ขั้นตอนบอกได้เลยว่า มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันค่ะ ส่วนนึงสะสมความรู้มาจากในเนตเนี่ยแหละ เซิสๆอ่านเอา อีกส่วนก็คือมาจากหนังสือ และแหล่งความรู้ใหม่ล่าสุดที่ไปได้มา ก็คือ ที่ The White Salon เป็น Salon ของผมและเล็บชั้นดี ที่บอกได้เลยว่า สาวๆไม่ควรพลาดจ้ะ
ป้าพริ้งเองนั้น ทำเล็บเองได้หลายอย่างเลย ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ตัดหนัง ที่ยังทำไม่ได้เอง ยังต้องพึ่งร้านอยู่ค่ะ สาวๆท่านไหนตัดหนังเองได้ ฝากมาสอนหน่อยเด้อ ว่าทำไงได้บ้าง ส่วนอื่นๆนี่เราสามารถทำเองเวลาอยู่บ้านได้สบายค่ะ
Nail Polish Remover
Review Nail Polish Remover : Dejevu Cream Nail Off
ปริมาณ : 60 กรัม
สรรพคุณ : สามารถที่จะเป็นตัวบำรุงไปด้วยในตัวเลย ในขณะที่เรานวด+ล้างเล็บค่ะ และเค้าบรรยายไว้ว่าไม่ทำให้เล็บแห้งด้วย
วิธีใช้ : เค้าให้บีบเท่าเม็ดถั่ว แล้วทาบนเล็บแต่ละเล็บที่เราต้องการจะล้าง ทิ้งไว้ 30 วินาทีแล้วค่อย นวดๆๆ ให้ยาทาเล็บลอกๆ ออกมาก แล้วเอาทิชชู่หรือ สำลีเช็ดออก
ความรู้สึกหลังใช้ และ Trick
1.ป้าพริ้งลอง ใช้ทิชชู่ธรรมดาเช็ด หลังจากที่นวดไปนาน 1 นาทีแล้ว ค้นพบว่า ถ้าเป็นยาทาเล็บสีออกดำๆไม่ค่อยสะอาดเท่าที่ควรจ้ะ แต่ถ้าเป็นยาทาเล็บใสๆ สีไม่เข้มมากก็โอเคอยู่
2.ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดออก จะดีกว่าทิชชู่ธรรมดาค่ะ เช็ดได้สะอาดปราศจากคราบมากกว่า ถ้าไม่กลัวเปลือง ก็เช็ดทิชชู่ธรรมดา 1 รอบ แล้วค่อยเช็ดด้วยทิชชู่เปียก ก็จะสะอาดเอี่ยมอ่องมากๆ ขนาดที่ว่า ไม่ต้องไปล้างน้ำสบู่อีกรอบเลยค่ะ (ทาเล็บต่อได้เลย โลดดด)
3. Dejevu Cream Nail Off ไม่เหมาะกับการล้างยาล้างเล็บแบบกากเพชร หรือ ยาทาเล็บแบบที่เป็น Glitter มากๆ ค่ะ ลองแล้ว ล้างไม่ออกไม่เวิร์คค่ะ
4. การได้ล้างแบบแห้งๆ แล้วนวดๆไปด้วยนี่ นวดไปเพลินไปมากๆ ค่ะ ที่สำคัญไม่เหม็นแบบน้ำยาล้างเล็บทั่วๆไปในท้องตลาดค่ะ และ ที่สำคัญที่สุด ที่เค้าว่ามีตัวบำรุงท่าจะจริง เพราะว่านวดๆไปรู้สึกเล็บไม่แห้งแบบที่ล้างกะน้ำยาล้างเล็บปกติค่ะ เริศ!
Review Nail Polish Remover : Boots Expert Conditioning Nail Polish Remover
ปริมาณ : 150 มล.
วิธีใช้ : เทผลิตภัณฑ์บนสำลีแล้วเช็ดทำความสะอาด
ความรู้สึกหลังใช้ และ Trick
1. ตัวนี้จริงๆ ที่ซื้อมา ไม่มีอะไรมากค่ะ เพราะว่า พนักงานที่ร้านบรรยายว่า ไม่เหม็น ค่ะ แล้วก็เป็นจริงแบบน้องพนักงานว่า ค่ะ ไม่เหม็นเลยยย แบบน้ำยาล้างเล็บทั่วไป (ใครมีคนที่บ้านไม่ชอบกลิ่นน้ำยาล้างเล็บ ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ)
2. ล้างแล้ว เล็บหรือจมูกเล็บแอบแห้งเล็กน้อยค่ะ แต่ไม่มาก
3. น้ำยาล้างเล็บแบบน้ำ เหมาะกะการล้างเล็บแบบกากเพชร หรือ Glitter มากๆ ไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก นั่นคือ จุ่มสำลีชุ่มๆเลยค่ะ วางลงบนเล็บกากเพชรของคุณ ทิ้งไว้ซัก 1 นาทีแล้วรูดกากเพชรออก รับรองล้างไม่ยากและไม่ทรมานอีกต่อไปเวลาล้างเจ้าค่ะ
***********************************************************************************
หลังจากล้างกันไปแร้ว มา บำรุงกันหน่อยดีไหม ตัวที่ราคาย่อมเยา อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมก็คือ Skinfood มิตรแท้คู่เรือนของข่อย จริงๆซื้อมาลองหลายตัว วันนี้เลือกมา 1 ตัวที่คิดว่า เวิร์คๆ คือ ...
Review : Skinfood Nail Vita Essence
ปริมาณ : 13 ml
วิธีใช้ : ส่วนใหญ่เราเอามาทาทั่วเล็บเลย รวมทั้งหนังที่ติดกะรอบๆเล็บเราด้วย
ความ รู้สึกหลังใช้ และ Trick
1. รู้สึกว่า ทาลงไปทั่วๆเล็บไม่ค่อยเวิร์ค แต่ว่า ถ้าทาให้มันติดรอบๆเล็บที่เป็นหนังที่ติดกับเล็บจะเวิร์คกว่า ตัวนี้กันเล็บเหลืองไม่ได้ แต่ว่ากัน เนื้อรอบเล็บแห้งน่ะพอได้ ในราคาย่อมเยาว์ ( อันที่จริงเรื่องเล็บเหลืองไม่เหลือง ต้องทา base coat ทุกครั้งที่ทาสีเล็บ เท่านั้นที่กันได้ค่ะ)
2. Trickง่ายๆ ล้างเล็บก่อน แล้วก็ทาตัวนี้ทิ้งไว้ก่อนนอน อย่าให้มีสีบนเล็บเรา ตื่นมารู้สึกผิวตรงเล็บนิ่มเลยค่ะ
**************************************************************************************
หลังจากบำรุงแล้ว ขั้นตอนบ้าบอขยันโฮก ก็มาเยือนเราแล้วววว นั่นคือ .... สีเล็บบบบค่าาาา สีสันในซีซั่นนี้ นอกหน้าร้อนนี้เค้าฮิตสีพาสเทลค่ะจ้าาาา ป้าพริ้งก็เลยยกมาแต่สีพาสเทลนะก๊ะ ได้ยลหลายๆยี่ห้อหน่อย มีทั้งถูกทั้งแพง แต่ไม่เอาแดงไว้ก่อนแน่ๆค่ะ ณ จุดนี้
ตัวแรกป้าพริ้ง ภูมิใจนำเสนอมากกกกส์ คือ
Review : Lunasol Nail Color # 41 Milky Pink
Process
1. OPI Base Coat
2. Lunasol Nail Color # 41 Milky Pink 2 รอบ
Review
1. ทายาก-ง่าย แปรงไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ ทาง่าย
2. เนื้อสี-เม็ดสี เนื้อสีแม้จะดูอ่อนบาง แต่ว่า พอทาทับกัน 2 ครั้งเท่านั้น ก็blendกลืนกันได้ง่ายมากๆ ผิดปกติมาก สำหรับยาทาเล็บแนวสีอ่อนที่ป้าพริ้งเจอมา ว่า ต้องทา 3 รอบเท่านั้นสีถึงจะเสมอกันค่ะ
3. ความคงทน คงทนพอควร อยู่ได้ 3-4 วัน
4. ล้างยาก?+สุขภาพเล็บ ล้างง่ายมาก เนื่องจากเนื้อมันบางใสมากค่ะ
5. แพกเกจ สวยสง่า (สมราคา เอิ๊กกกกส์)
6. สไตล์ สีนี้เหมาะกับสาวหวานมากๆ แต่จริงๆ สาวห้าวแบบป้าพริ้งที่ทาจนเล็บเหลืองไปหมด สีนี้เป็นสีช่วยชีวิต ทำให้เล็บคุณดูมีสุขภาพดีขึ้นมาอีกหนค่ะ แล้วก็เข้ากะชุดได้ง่ายมากๆ เพราะสีมันอ่อน แต่งชุดสีอะไร ก็ดูไม่โดดค่ะ เหมาะกะช่วงที่ยุ่งๆไม่มีเวลาเปลี่ยนสีเล็บเป็นยิ่งนัก
Review : Lunasol Nail Color # 43 Pearlish Rose
Process
1. OPI Base Coat
2. Lunasol Nail Color # 43 Pearlish Rose 2 รอบ
Review
1. ทายาก-ง่าย แปรงไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ ทาง่าย
2. เนื้อสี-เม็ดสี เนื้อสีแอบหนาเล็กน้อย เม็ดสีเยอะทีเดียว แต่ถ้าเล็บใครเห็นเป็นคลื่นๆชัด สีนี้ทำให้เห็นชัดเข้าไปอีก เพราะว่ามันเป็นเนื้อมุกหน่อยๆ มันจะสะท้อนอ่ะค่ะ เวลาโดนแสงไปที่ไม่เท่ากัน
3. ความคงทน คงทนพอควร อยู่ได้ 3-4 วัน
4. ล้างยาก?+สุขภาพเล็บ ถึงจะเป็นเนื้อมุกแต่ว่า ล้างไม่ยากค่ะสีนี้ ไม่เหมือนคอลเลคชั่นก่อนๆของลูน่าค่ะ
5. แพกเกจ สวยสง่า เริศหรู
6. สไตล์ สีนี้เหมาะกะสาวหวานจริงจังค่ะ ป้าพริ้งทาสีนี้แล้วต้องพยามแต่งหวานเข้าไว้เลย ไม่งั้นรู้สึกว่า สีพีชๆแบบนี้ ถ้าแต่งตัวเข้มๆ คงไม่ค่อยเข้า อีกอย่างนึงของสีนี้ที่ป้าพริ้งคิดว่าดีเริศคือ สีนี้เหมาะกับทุกสีผิวค่ะ สาวผิวเข้มน่าจะชอบสีนี้กันมากๆ ฮี่ๆ
เฮือกกกก เหนื่อยยยย กะลังจะปั่นช่วงสุดท้ายล่ะน๊าาาาาาา
****************************************************************************************
หลังจากนี้ ก็เป็นการรีวิวที่ได้ไปทำสปาเซตใหญ่ ที่ The White Salon ( ร้านอยู่แถบซอยสุขุมวิท 51 ค่ะ) เค้าให้ชื่อว่า SPAradiso Exclusive Set ค่ะ = ทำสปามือ-เท้า ตัดหนัง ตะไบ แล้วก็ทำพาราฟินมือ-เท้าให้ หลังจากนั้นจึงทาสีเล็บตามที่ท่านรีเควสสสส~~~
เห็นขั้นตอนยาวเหยียดแบบนี้ ขอบอกว่าเห็นราคาแล้วจะตกใจ ว่าทำไมมันไม่แพงเท่าที่เราคิดนะ (เอาเป็นว่า ห้ามถามในนี้ มี กปว เซนเซอร์แน่ๆ) ไปสืบกันเอาเองเด้อ
ร้าน The White Salon นี่นอกจากจะมีการบริการที่ดีเริศ ราคามิตรภาพแล้ว บรรยากาศร้านยังน่าเข้าไปใช้บริการมากๆ เพราะว่า เก้าอี้ที่ทำเล็บนั้น นั้น มีมุมที่ทำให้เราได้เห็นสวนสวยๆ ที่ทางร้านจัดไว้อย่างงดงาม แม้ว่าจะเป็นสวนเล็กๆ แต่สีเขียวๆ แล้วก็เสียงน้ำ ก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายระหว่างทำเล็บมากๆ ค่ะ ประทับใจจริงจัง
ขอเล่าเป็นขั้นตอนเลยนะคะ ว่า ไปทำอะไรมาบ้างในเซตนี้ รวมทั้งเล่าความประทับใจจากร้านนี้ไปพร้อมๆกัน ที่เล่าน่ะเรื่องจริงทั้งงั้น หุหุ
1. Therapist เค้าจะเชิญเราไปนั่งพักก่อนค่ะ พร้อมเสริฟขนมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นธัญพืชค่ะ (อร่อยนะ อย่าลืมกินเชียว ฮ่าๆ)
2. หลังจากนั้น เค้าจะเริ่มจาก เิปิดน้ำเข้าที่ถังที่ให้เราแช่น้ำค่ะ หลังจากนั้น ก็จะเปิดฉากขัดเท้าให้เราเลยค่ะ รวมทั้งนวดขาเราไปในตัวด้วย ขอบอกว่า น้ำล้างเท้าเราเปลี่ยนสีเป็นสีดำๆ หลังเค้าขัดทั้งน่องเราเลยค่ะ อย่างอาย แต่ก็ฮา เค้าบอกว่า ขั้นตอนนี้เป็นสครับสูตรพิเศษจากทางร้านค่ะ
3. ล้างเสร็จแ้ล้ว เค้าจะทาครีมเอสเต้ ลอเดอร์พร้อมนวดให้ แล้วก็นวดๆให้เราผ่อนคลาย (แม่เจ้า เอสเต้ลอเดอร์เชียวนะยะ หล่อนๆๆๆ)
4. หลังจากนั้น จึงเริ่มตัดหนัง และตะไบอย่างปราณีตมากๆ จะบอกว่า ไม่เคยเห็นที่ไหนตัดหนังเล็บเนี๊ยบเท่าที่นี่มาก่อนค่ะ อ่อ เค้ายังขูดตัดแต่งหน้าเล็บเราให้เสมอกันด้วยยย It is เริศค๊าาาาา (เล็บป้าพริ้งแอบเป็นคลื่นเนื่องจากทาสีเล็บไม่เว้นวันมานาน)
5. นำทั้งมือ และเท้าจุ่มพาราฟิน โดยที่นับ 1-3 แล้วยก 3 หนค่ะ ยกขึ้นมาจากอ่างพาราฟินน์ เค้าจะเอาถุงร้อนมาสวมให้ แล้วก็มีถุงมือ ถุงเท้าให้สวมอีกชั้น แอบร้อนเหมือนกันค่ะ หลังจากถอดออกมา มือเราก็จะออกมานิ่มมมมม เป็นมือคุณนายยยมากกกกส์ .... จุ่มพาราฟิน นี่ต้องสวมถุงมือ และถุงเท้าเป็นมั่มมี่เลยค่ะ แลัว ก็ต้องนั่งนิ่งๆ แถมเผลอหลับไป เจ้าเก้าอี้ไฮเทค ยังนวดให้เราสบายตัวมากๆ ด้วยค่ะ
6. เมื่อลอกพาราฟินน์ออกแล้ว ก็จัดการทา Base Coat ทาสีเล็บแล้วก็เคลือบด้วย Top Coat อย่างปราณีตอีกหนจ้าาาา
7. เป็นอันเสร็จพิธีการ ก่อนลากลับคุณTherapist ผู้น่ารัก ยังไม่ลืมที่จะมอบลูกเทนนิสให้ดิชั้นและคุณนายทรายกลับบ้าน เอามาเหยียบบริหารเท้ากันคนละลูกด้วยจ้า
ขอลากลับบ้านก่อนนะจ๊ะ The White Salon ขอสัญญาว่าจะกลับไปใหม่ ฮี่ๆ
Discussion (42)
เล็บสีชมพูนมน่ารักมากๆ ค่ะ เอาไว้ต้องไปสอยมาลองมั่ง