ปรึกษาค่ะ แฟนอยากเป็นพี่ว๊าก...
zignn20คือว่าแฟนของ จขกท. อยากเป็นพี่ว๊ากค่ะ ตอนนี้แค่ไปคัดๆตัวเฉยๆ (เหมือนนางงามเลย อิอิ)
แต่เหมือนจะได้เป็นจริงๆ
ปัญหามันก็เริ่มจากตรงนี้แหละค่ะ...
ไม่อยากให้เขาเป็นเลย ถ้าเป็นพี่ว๊ากก็ต้องอยู่กะน้องตลอด ไม่ใช่ว๊ากแค่เดือนสองเดือนนะคะ เป็นปีๆค่ะ เวลาที่อยู่กะเราก็จะน้อยลง ไอ้เราก็ขี้งอน ขี้เอาแต่ใจ พยายามจะลดลงบ้างแต่ก็ได้แค่วันสองวันสุดท้ายก็เหมือนเดิม
เห็นใครๆ ก็บอกว่าเปลี่ยนคนอื่นมันยาก แต่จขกท.ว่าเปลี่ยนตัวเองยากกว่า เฮ้ออออ!!!
กลัวสุดท้ายต้องเลิกกัน แต่เห็นพี่ว๊ากคนก่อนๆ เขาก็ยังอยู่กะแฟนได้นะ แฟนเราก็บอกดูพี่คนนั้นคนโน้นสิ เขายังรักกันได้เลย ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร แต่คนเราใช่ว่าจะเหมือนกันนี่คะ วันนี้เขาชวนไปนั่งโต๊ะสาขา เราก็ถามว่าทำไมต้องไป เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่...
รู้สึกน้อยใจค่ะ (แล้วก็เกิดเรื่องเยอะกว่านั้นค่ะ) ทำไมเขาตั้งใจทำหน้าที่ว๊ากเกอร์มาก ขนาดลืมหน้าที่แฟนเลย เหมือนกะช่วงเวลานั้นเขาลืมเราไปเลย พอเจ็บป่วยกลับมาก็ค่อยมาหาเรา
ตอนที่เขาสมัครเป็นพี่ว๊าก เราก็ไม่รู้ มารู้เป็นคนท้ายๆ ของสาขาอ่ะค่ะ ถามเขาว่าทำไมไม่บอกกันบ้างเลย เขาบอกว่าไม่อยากให้ไม่สบายใจ
แต่พอมารู้ทีหลัง เจ็บปวดค่ะ ทั้งที่เราคุยกันเรื่องนี้แล้ว เขาก็บอกว่าไม่อยากเป็น แต่สุดท้ายก็กลับคำพูด แอบไปสมัครตอนเราไม่อยู่
แค่อยากระบายอ่ะค่ะ แต่ถ้าใครมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เเนะนำ แบ่งปันสิ่งดีๆได้นะคะ
ยินดีรับฟัง
ปล.เรื่องใหญ่ของเราอาจเป็นแค่เรื่องเล็กๆของคนอื่น
แต่เหมือนจะได้เป็นจริงๆ
ปัญหามันก็เริ่มจากตรงนี้แหละค่ะ...
ไม่อยากให้เขาเป็นเลย ถ้าเป็นพี่ว๊ากก็ต้องอยู่กะน้องตลอด ไม่ใช่ว๊ากแค่เดือนสองเดือนนะคะ เป็นปีๆค่ะ เวลาที่อยู่กะเราก็จะน้อยลง ไอ้เราก็ขี้งอน ขี้เอาแต่ใจ พยายามจะลดลงบ้างแต่ก็ได้แค่วันสองวันสุดท้ายก็เหมือนเดิม
เห็นใครๆ ก็บอกว่าเปลี่ยนคนอื่นมันยาก แต่จขกท.ว่าเปลี่ยนตัวเองยากกว่า เฮ้ออออ!!!
กลัวสุดท้ายต้องเลิกกัน แต่เห็นพี่ว๊ากคนก่อนๆ เขาก็ยังอยู่กะแฟนได้นะ แฟนเราก็บอกดูพี่คนนั้นคนโน้นสิ เขายังรักกันได้เลย ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร แต่คนเราใช่ว่าจะเหมือนกันนี่คะ วันนี้เขาชวนไปนั่งโต๊ะสาขา เราก็ถามว่าทำไมต้องไป เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่...
รู้สึกน้อยใจค่ะ (แล้วก็เกิดเรื่องเยอะกว่านั้นค่ะ) ทำไมเขาตั้งใจทำหน้าที่ว๊ากเกอร์มาก ขนาดลืมหน้าที่แฟนเลย เหมือนกะช่วงเวลานั้นเขาลืมเราไปเลย พอเจ็บป่วยกลับมาก็ค่อยมาหาเรา
ตอนที่เขาสมัครเป็นพี่ว๊าก เราก็ไม่รู้ มารู้เป็นคนท้ายๆ ของสาขาอ่ะค่ะ ถามเขาว่าทำไมไม่บอกกันบ้างเลย เขาบอกว่าไม่อยากให้ไม่สบายใจ
แต่พอมารู้ทีหลัง เจ็บปวดค่ะ ทั้งที่เราคุยกันเรื่องนี้แล้ว เขาก็บอกว่าไม่อยากเป็น แต่สุดท้ายก็กลับคำพูด แอบไปสมัครตอนเราไม่อยู่
แค่อยากระบายอ่ะค่ะ แต่ถ้าใครมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เเนะนำ แบ่งปันสิ่งดีๆได้นะคะ
ยินดีรับฟัง
ปล.เรื่องใหญ่ของเราอาจเป็นแค่เรื่องเล็กๆของคนอื่น
Discussion (20)
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
พยายามเข้าใจและเป็นกำลังใจให้เค้าค่ะ
ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ค่ะ
ถ้า จขกท กลัวแค่ว่าเค้าจะไม่มีเวลาให้กันก็แค่เท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลอื่น
คนเรา ต่างหน้าที่ มีความอยาก ไม่เหมือนกัน ฟังๆดูแล้ว แฟน จขกท อาจเข้าใจว่านิสัย จขกท เป็นยังไง
แล้วก็เคยคุยเรื่องนี้มาบ้างแล้ว เค้าอาจจะแคร์คุณในเรื่องที่เคยบอกว่าจะไม่ไปสมัคร กลัวคุณเสียใจก็เลยรับปากว่าจะไม่ไปสมัคร
แต่ความต้องการและความรู้สึกของ แฟน จขกท เค้าคือ เค้าอยากมีส่วนร่วม อยากไปทำในสิ่งที่ต้องการ
ก็ปล่อยเค้าเถอะค่ะ เราว่า จขกท ก็ลองปรับเปลี่ยนความคิดความเข้าใจ ลองให้เค้าทำไปด้วย แล้วคุณก็ใช้เวลากับเค้าด้วย พยาามอยู่ด้วยความเข้าใจ แล้ว แฟนของคุณ จขกท จะรู้สึกสบายใจ ที่เค้าทำทั้งสองอย่างได้ คือมีทั้ง คุณ แล้วก็ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ ถ้าไปบีบบังคับเค้า เหมือนกับให้เค้าต้องเลือก ว่าจะอยู่กับคุณตลอด หรือว่า จะอยู่กับเพื่อนๆน้องๆ
ชีวิตเราไม่ได้มีกันแค่สองคนค่ะ แต่ละคนมีสังคมที่ แตกต่างกันไป
เราเข้าใจถึงหัวอกถึงคนที่เค้าอยากทำกิจกรรมร่วมกับคณะนะค่ะ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ทำ แฟนเก่าเราเป็นรุ่นพี่ เค้าบังคับให้เราทำกิจกรรมด้วยซ้ำ เพราะมันจะได้ความสนุกที่นอกเหนือจาก การเป็นเพื่อนแค่นั่งเรียน หรือไปกินเหล้าชิวๆเท่านั้น มันจะเกิดขึ้น พร้อมรุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนด้วยกันค่ะ
ถ้าคุณ จขกท ทำได้ในเรื่องยอมรับให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ เราเชื่อว่ามันจะดีสำหรับแฟนคุณ
เรื่องที่คุณกลัวว่าต้องเลิกกัน อาจเป็นไปได้ เพราะความน้อยใจของคุณเองที่ไม่ยอมเปิดโลกสังคมของแฟนคุณนะค่ะ
เพราะความน้อยใจนี่แหระ มันจะพาลทำให้อะไรหลายๆอย่างแย่ลงไป
มองในแง่ดีที่ว่า คุณอาจจะได้รู้จักสังคมของเค้า และมองเห็นเค้าทำอะไรที่เค้าชอบ แล้วคุณก็รับรู้ไปพร้อมกัน ดีกว่าแฟนคุณเกรงใจคุณ หลบๆซ่อนๆที่จะทำ เลยไม่ยอม บอกว่าจะทำอะไรก่อน ผลที่เกิดขึ้นก็คือในเมื่อคนอยากจะทำ แต่อีกคนห้าม เลยต้องแอบ คนที่เสียใจคือ จขกท ที่มารู้ทีหลัง เพราะว่าไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก
ลองปรับมุมมองความคิดใหม่นะค่ะ เข้าใจอยู่ที่ว่ากลัวแฟนจะไม่มีเวลาให้ นี่ยังแค่ช่วงมหาหลัย
ถ้าจบไปทำงานมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง มีสังคม มีกิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่าง สังคมเค้า คุณจะไม่ยอมให้เค้าไปทำเลยหรอค่ะ
ต่างคนต่างมีสังคมของกันและกัน ถ้ายอมรับมันได้ แล้วเราจะเข้ากันได้ทั้งสองสังคมเลยละค่ะ
ปล.เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะค่ะ เป็นคนนึงที่ทำกิจกรรมของคณะบ่อยๆเหมือนกันค่ะ ถึงไม่ได้เป็น หัวงาน แต่มีส่วนร่วมของกิจกรรมตลอด และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดของทุกๆคนที่ทำกิจกรรมค่ะ
สู้ๆนะค่ะ ^^
ถ้า จขกท กลัวแค่ว่าเค้าจะไม่มีเวลาให้กันก็แค่เท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลอื่น
คนเรา ต่างหน้าที่ มีความอยาก ไม่เหมือนกัน ฟังๆดูแล้ว แฟน จขกท อาจเข้าใจว่านิสัย จขกท เป็นยังไง
แล้วก็เคยคุยเรื่องนี้มาบ้างแล้ว เค้าอาจจะแคร์คุณในเรื่องที่เคยบอกว่าจะไม่ไปสมัคร กลัวคุณเสียใจก็เลยรับปากว่าจะไม่ไปสมัคร
แต่ความต้องการและความรู้สึกของ แฟน จขกท เค้าคือ เค้าอยากมีส่วนร่วม อยากไปทำในสิ่งที่ต้องการ
ก็ปล่อยเค้าเถอะค่ะ เราว่า จขกท ก็ลองปรับเปลี่ยนความคิดความเข้าใจ ลองให้เค้าทำไปด้วย แล้วคุณก็ใช้เวลากับเค้าด้วย พยาามอยู่ด้วยความเข้าใจ แล้ว แฟนของคุณ จขกท จะรู้สึกสบายใจ ที่เค้าทำทั้งสองอย่างได้ คือมีทั้ง คุณ แล้วก็ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ ถ้าไปบีบบังคับเค้า เหมือนกับให้เค้าต้องเลือก ว่าจะอยู่กับคุณตลอด หรือว่า จะอยู่กับเพื่อนๆน้องๆ
ชีวิตเราไม่ได้มีกันแค่สองคนค่ะ แต่ละคนมีสังคมที่ แตกต่างกันไป
เราเข้าใจถึงหัวอกถึงคนที่เค้าอยากทำกิจกรรมร่วมกับคณะนะค่ะ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ทำ แฟนเก่าเราเป็นรุ่นพี่ เค้าบังคับให้เราทำกิจกรรมด้วยซ้ำ เพราะมันจะได้ความสนุกที่นอกเหนือจาก การเป็นเพื่อนแค่นั่งเรียน หรือไปกินเหล้าชิวๆเท่านั้น มันจะเกิดขึ้น พร้อมรุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนด้วยกันค่ะ
ถ้าคุณ จขกท ทำได้ในเรื่องยอมรับให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ เราเชื่อว่ามันจะดีสำหรับแฟนคุณ
เรื่องที่คุณกลัวว่าต้องเลิกกัน อาจเป็นไปได้ เพราะความน้อยใจของคุณเองที่ไม่ยอมเปิดโลกสังคมของแฟนคุณนะค่ะ
เพราะความน้อยใจนี่แหระ มันจะพาลทำให้อะไรหลายๆอย่างแย่ลงไป
มองในแง่ดีที่ว่า คุณอาจจะได้รู้จักสังคมของเค้า และมองเห็นเค้าทำอะไรที่เค้าชอบ แล้วคุณก็รับรู้ไปพร้อมกัน ดีกว่าแฟนคุณเกรงใจคุณ หลบๆซ่อนๆที่จะทำ เลยไม่ยอม บอกว่าจะทำอะไรก่อน ผลที่เกิดขึ้นก็คือในเมื่อคนอยากจะทำ แต่อีกคนห้าม เลยต้องแอบ คนที่เสียใจคือ จขกท ที่มารู้ทีหลัง เพราะว่าไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก
ลองปรับมุมมองความคิดใหม่นะค่ะ เข้าใจอยู่ที่ว่ากลัวแฟนจะไม่มีเวลาให้ นี่ยังแค่ช่วงมหาหลัย
ถ้าจบไปทำงานมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง มีสังคม มีกิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่าง สังคมเค้า คุณจะไม่ยอมให้เค้าไปทำเลยหรอค่ะ
ต่างคนต่างมีสังคมของกันและกัน ถ้ายอมรับมันได้ แล้วเราจะเข้ากันได้ทั้งสองสังคมเลยละค่ะ
ปล.เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะค่ะ เป็นคนนึงที่ทำกิจกรรมของคณะบ่อยๆเหมือนกันค่ะ ถึงไม่ได้เป็น หัวงาน แต่มีส่วนร่วมของกิจกรรมตลอด และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดของทุกๆคนที่ทำกิจกรรมค่ะ
สู้ๆนะค่ะ ^^
คณะเราไม่ได้รับกันนานแบบนั้นมั้งเลยไม่รู้สึก
พวกพี่ว๊าก นอกเวลาว๊ากก็ไม่น่ากลัวเท่าไร สงสัยเราเป็นเด็กซิ่ว เคยเจอโหดกว่านี้ ที่คณะเก่า
แต่นอกเวลาก็คุยกับพี่ว๊ากได้ปกตินะ เรื่องพี่ว๊ากป๊อบนี่ จริง เพราะน้องๆ รู้จักเยอะ ยิ่งพี่ว๊ากหล่อๆ นะ ไม่เหลืออะ
(ที่จริงต้องบอกว่าพี่ที่คณะเป็นรุ่นเดียวกันหรือน้องเราด้วยซ้ำ เพราะซิ่วตอนปี 2 ขึ้นปี 3 มหาวิทยาลัยเดิม แต่แอ๊บค่ะ 555)
เราอยู่คนละคณะกะแฟนด้วยแหละ (แฟนก็เลยกลายเป็นรุ่นพี่ปี 3) แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องรับน้องนะ เพราะแฟนชอบโดดงานคณะมาอยู่กะเรา ส่วนงานรับน้อง เราก็หายหัว รู้มากแล้วไง นอนอยู่บ้านดีกว่า เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยนะคะ
เคยทำงานสโมสรนักศึกษา ตอนปี 1 จนแทบไม่มีเวลาให้กัน เลยเลิกทำซะงั้น หลังจากนั้นก็พยายามอยู่กะแฟน เพราะเหลือเวลาเจอกันที่มหาวิทยาลัยน้อยแล้วไง
เรื่องพี่ว๊ากที่ไม่น่าห่วงนะ ถ้าเทียบกะน้องรหัสสวยๆ จำได้ว่า งอน แม่งเอาน้องผู้ชายไปแลกกะน้องผู้หญิงของเพื่อนมา
แต่ปรากฏว่าน้องรหัสเค้าน่ารัก นิสัยดี เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมันชื่นชมปลาบปลื้มปีติน้องน่ารักๆ คน
อื่นๆ พวกดาวคณะไรงี้ นี่มีโกรธค่ะ เออ ไม่ได้อยู่คณะเดียวกาน ไม่สามารถตามไปเฝ้าได้นี่ เซ็งจิต
ตอนนี้คบกัน 6 ปีแล้วคะ ยังงงๆ อยู่ว่าทำไปได้ ทั้งๆ ที่เราขี้หึงมากกกก ส่วนตานี่ก็ชอบหวาดระแวง สงสัยจะเข้ากันดี
จขกท. ก็อย่าเครียดนะค๊า เป็นห่วงน๊า แฟนก็ปล่อยๆ มันไปบ้าง ใช้นิ่งสยบความเคลื่อนไหว ถ้าเค้าไม่ชั่ว
ร้ายมาก เค้าก็จะเกรงใจเราเองนะคะ