[Review] Update Skin Care Routine สิ่งที่ลองทำ และ สภาพผิวในช่วงนี้

0 6

สวัสดีค่ะ

แวะมารีวิวสกินแคร์ที่ใช้ และสิ่งที่ทำอยู่ในช่วงนี้

ลองทำอะไรบางอย่างมาช่วงนึงแล้วพบว่า ผิวดีขึ้นมากๆ จากผิวที่แย่ๆ เพราะยาสิว สภาพอากาศ อะไรพวกนี้แล้วมันดูดีขึ้นมากๆ

*รีวิวนี้เป็นเพียงการรีวิวจากผลการใช้เท่านั้น กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่าน*



เริ่มจากสภาพผิวแรกก่อนที่เราจะเปลี่ยนวิธีการใช้สกินแคร์ต่างๆ
ไม่มีรูปหน้าเต็มเพราะว่า หน้ามันเหียกมาก ใครมันอยากจะถ่าย จริงมั้ย?

รูขุมขนกว้าง หน้าดำ ทาอะไรก็ไม่ติด แถมหน้าแห้งอีกตะหาก



ตอนที่หน้ามันแย่มาก เราไปได้ Rose Hip Oil มาลองใช้ เพราะคุณสมบัติต่างๆ
ที่ดีของมัน

rose hip oil

เป็นน้ำมันชั้นดีที่มีกรดไลโนเลอิกถึง 47.4% และกรดไลโอเลนิกถึง 33% (linoleic 44% and linolenic 33%) มีวิตามินซีและอีสูง

ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ชะลอผิวให้อ่อนวัย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ใช้บรรเทาผิวหน้าที่มีรอยแผลเป็น เหี่ยวย่น เนื้อลายอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์ บรรเทาอาการผิวไหม้แดด ผิวแห้งมากหรือผิวขาดน้ำได้

โดยส่วนใหญ่น้ำมันนี้จะถูกแนะนำในเรื่องของรอยสิว รอยแผลเป็นทำนองนั้น

และตัวน้ำมันจะบางเบามาก ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วพอสมควร สีของมันจะเหลืองๆ

แล้วก็เหม็นมากกกกกกก


 

และสภาพผิวหลังจากที่ใช้ Rose Hip Oil มาประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก็ทำให้
ได้ผิวที่มันดีขึ้นอย่างมาก และหน้ามันขึ้น -_-"

ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยๆ หน่อย ก็จะดี แต่เราหน้าแห้งไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่

แต่งหน้าถ่ายรูปผิวจะดูดีมาก ฮ่าๆ ชอบ...

ในรูปเป็นการแต่งหน้าแบบ แต่งได้ทุกวัน และไปไหนก็แต่งแบบนี้ ชอบแก้ม
วาวๆ ง่ะ



หลังจากใช้ rose hip แล้วผิวดีขึ้น คราวนี้เลยเปลี่ยนวิธีใช้ เปลี่ยนสกินแคร์
บางอย่างหมด

เริ่มจากขั้นตอนแรก การล้างคสอ. ล้างบรรดาครีมทั้งหลายบนหน้า

ตอนแรกนั้นเราใช้ Etude กระปุกใหญ่ๆ สีฟ้าเป็นตัวล้างคสอ. เพราะคิดว่า
มันดีที่สุดแล้วล่ะ

แต่ไปได้ความรู้มาจากในบล็อกของคุณ pj_job (ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้เลย ^.^)

นี่แหละค่ะ ว่าใช้ jojoba oil

ล้างคสอ. นี่แหละเวิร์ค

อันที่จริงเคยได้ยินจากคุณฟีบี้มาแล้ว เรื่องเอา jojoba oil มานวดๆ หน้าล้าง
คสอ. เนี่ย

ทำตามโดยด่วน ฮ่าๆ



JOJOBA OIL :

สรรพคุณ :

ช่วยลดเลือนเนื้อลายและรอยเหี่ยวย่นมีส่วนช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง
บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น
ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกรักษาสิวและขจัดสิ่งสกปรกที่รูขุมขน
จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวและผิวหน้ามัน
และปรับสภาพความเป็นกรดด่างบนผิวได้ดี

ตัวนี้ได้มานานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ใช้เพราะมีช่วงนึงที่ใช้แล้วหน้าแหก
คงเพราะมั่ว ใช้ไม่ถูกเองมากกว่าล่ะมั้ง คราวนี้เลยลองใหม่

จะใช้โฮโฮบา นวดตอนเช้าและตอนเย็น นวดๆๆ เสร็จก็เอา cotton pad

เช็ดออก หน้าจะมันๆ หน่อยอย่าใส่ใจ ยังไงก็ต้องล้างหน้าอยู่แล้ว


เราจะนวดๆ ตรงจมูกเยอะหน่อยเพราะสิวเสี้ยนเยอะ

ตอนนี้แบบไม่น่าเชื่อ มันลดลงมาก เหลือแต่ตรงปีกจมูกที่ไม่หายซักที



เล็บนี่อย่างกะนางมาร -_-"

พอนวดๆ เสร็จแล้ว เราก็เอาสำลีเช็ดหน้า และสำหรับสำลีเช็ดหน้า

เราขอวุ่นวาย ยุ่งยากด้วยหน่อยเถอะ เพราะว่า สำลีบางอย่างเช็ดพวกน้ำมัน

แบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเช็ดไม่ออกหรอ? ป่าวค่ะ แต่ว่าสำลีมันจะเละไปเลย

อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่เราจะใช้สำลีของวัตสัน แบบนี้ค่ะ

สำลีมันจะไม่เละนะ

สำลีบางยี่ห้อ มันคงเช็ดได้แต่พวกน้ำๆ มาเช็ดน้ำมันแล้วปืดดด หลุดออกเป็น
ชิ้นๆ ไปเลย

ราคาไม่แพงมากด้วย จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าโง่ไปซื้อของ The face shop
มา ปรากฎว่ามันเหมือนกันเดี๊ยะ เลย :(
 


เช็ดๆ ออกมาเป็นแบบนี้ มิเนรัลทั้งนั้น

ยิ่งเวลาสอบมันจะยิ่งดำ ฝุ่นทั้งนั้น



เอ่อ.. ข้ามขั้นตอนไปเฉยเลย

ตอนแรกมันต้องเช็ดตา ปากก่อน ถ้าแต่งหน้า เมื่อก่อนใช้ Clinique eye makeup remove
อยู่ แต่มันหมด แล้วก็แพง (850 ใครว่าไม่แพง อิชั้นว่าแพง)
ก็เลยไปหาของใหม่ ที่เค้าว่า ถูกและดีมา

Boots นั่นเอง

ซื้อตอนโปรฯ ซื้อ 1 แถม 1

555 ถูกแล้วยังแถมอีก อิชั้นชอบมากมาย



ก่อน... แล้วก็เขย่าๆ ให้น้ำกับน้ำมันรวมกัน ตอนแรกฉลาด
ไม่เขย่ามันให้เสียเวลา
แม่เทใส่สำลีแล้วบ่น เอ๊ะ ใครว่ามันล้างออกดีวะ ไม่เห็นดีเลย น้ำมันทั้งนั้น

555 ความฉลาดย่อมไม่เข้าใครออกใคร (ไม่เข้าตัวเองไง)


แปะไว้สักครู่แล้วเช็ดขึ้นไปทางหางตา
 


NEUTROGENA ACNE FACE WASH :

ตัวนี้ใช้เป็นขวดที่สองแล้ว ใช้ดีมาก เป็นเจลด้วย และมี salicylic acid 2% ด้วย กำลังเลิฟเป็นพิเศษ

แบตหมดอ่ะนะคะ เลยไม่มีรูป

ล้างหน้าเสร็จก็ซับๆ หน้านิดหน่อย
 


เสร็จแล้วก็ขั้นตอนเช็ดโทนเนอร์ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเช็ดเท่าไหร่
เลยทิ้งไว้ ไปเจอวิดีโอนึง เค้าทำเรื่องแปะๆ Essence แบบนี้แหละไว้
เหมือนที่คุณปูเป้เคยพูดไว้เลย

เลยมาทำมั่ง

 

จากในวิดีโอเราว่าเค้าน่าจะแช่น้ำแล้วค่อยใส่พวก Essence นะคะ
ไม่ได้ใช้ Essence เทให้ชุ่ม ถ้าเป็นงั้น แทนที่หน้าจะดีกลายเป็นเหี่ยว
ทรัพย์จางแน่นอน

แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น เราใช้โทนเนอร์นี่แหละ โทนเนอร์ราคาถูกหน่อย
อย่างนูโทรจีน่า สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ เทให้ชุ่มสำลี (สำลีใช้สำลีของ Muji)
แล้วค่อยเทโทนเนอร์ของ Murad ตัวนี้ลงไปเล็กน้อย

ที่ใช้ Murad ตัวนี้เป็นเพราะว่า เราคิดว่า ส่วนผสมมันดีมากๆ มีทุกอย่างที่ต้องการ
เลยใช้ไปแทน Essence

หรือใครจะใช้น้ำป้าเจี๊ยบ น้ำป้า น้ำลุงอะไรก็ตามแต่จะมี

แล้วก็แปะบนหน้า



แปะหน้าแล้วจะเป็นแบบนี้ 555 มีคนถาม รูปนี้คิดนานมั้ยคะ?

แปะไว้ประมาณ 3 นาทีตามในวิดีโอนั่น จากนั้นก็บำรุงขั้นตอนอื่นตามปกติ

จากที่ใช้มาแบบ เช้า-เย็น ประมาณ 2-3 สัปดาห์ได้ ก็เห็นผลว่า

หน้าดูดีขึ้นมากๆ รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเราเป็นผิวแห้งนะคะ อาจจะไม่ค่อยเห็น
รูขุมขนชัดมาก แต่ตอนนี้มันก็ดูเนียนๆ เรียบๆ ขึ้นกว่าเดิมมาก

ซึ่งถ้าถามว่า ใช้เป็นสิบอย่างรู้ได้ไงว่าเพราะอันนี้?

ก็เพราะว่าเราใช้วิธีนี้ก่อนและต่อเนื่องจากสกินแคร์ตัวอื่นๆ ตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่
ก็เพิ่งจะใช้ทั้งนั้น

เราใช้วิธีนี้พร้อมๆ กับ rose hip oil เพื่อบูธผิวแย่ๆ

แต่... ข้อเสียคือมัน เปลืองมากกกกกกกกกก เปลืองสำลี เปลืองโทนเนอร์



เสร็จขั้นตอนโทนเนอร์แล้วก็จะใช้วิตามินซี เซรั่มแบบ DIY คือทำเอง
ตามสูตรคุณฟีบี้ ไปหาอ่านได้ค่ะ

ทำไปทำมาเหมือนมันเห็นผลช้า อิชั้นเลยเสี่ยง ทำแบบใช้เดี๋ยวนั้นเลย

คือใช้ช้อนเล็กๆๆ ตักวิตามินซีผงออกมา แล้วผสมกับโทนเนอร์ ให้มันละลาย

แล้วค่อยทาหน้า รู้สึกมันเห็นผลเร็วกว่า

แต่เสี่ยงหน้าแหกมากกว่าเยอะ

ไม่สนับสนุนวิธีนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าคิดว่าหน้าแข็งแรงพอ ลองทำก็ได้ค่ะ



พอลงวิตามินซี เซรั่มแบบที่ทำเองแล้ว ก็จะรอสักพักให้ซึมเข้าผิว

ถ้าช่วงนั้นหน้าแห้ง ก็จะใช้ squalane นวดๆ ด้วย ตัวนี้จะซึมเข้าผิวได้ง่ายมาก
เหมาะกับผิวแห้งค่ะ ไม่มีกลิ่นด้วย

และถ้าเป็นตอนกลางคืนจะใช้ Rose hip oil ประมาณ 3 หยด ทาหน้า
โดยเน้นจากใต้ตาก่อน

ถ้าอารมณ์ดีก็จะนวดๆ หน้าไปด้วย แบบนี้เลย เซฟมาจากในบล็อกของคุณก้มลงกราบค่ะ



จากนั้นมาถึงรอบดวงตา ใช้อายครีมมาเยอะมาก แต่ละตัวแพงๆ ทั้งนั้น

แต่ได้ยินมาว่า Shea Butter ก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน เลยลองมั่ง

เราซื้อ Shea Butter Unrefined มาพร้อมๆกับ rose hip oil ซื้อมาล็อตเดียวกัน

ล็อตนั้นเราซื้อ Rose water มาด้วย แต่ว่า Rose water นั่นลองใช้ไปสองรอบ

สิวอุดตันขึ้นทั้งสองรอบเลยง่ะ เสียดายของอย่างแรง เลยให้คนอื่นใช้ไปและ



ก็แตะๆ ที่ใต้ตาหลังจากที่ทา rose hip แล้ว

ผลการใช้เราว่ามันก็ โอเค ตาบวมๆของเราก็ดีขึ้น ริ้วรอยใต้ตายังไม่จางลง
เท่าไหร่ เป็นเพราะว่ามันนานแล้ว ต้องใช้เวลาอีกมาก

ก่อนและหลังใช้



พอลงส่วนของอายครีม แบบประหยัดๆ ไปแล้ว :P

ก็จะมาลงครีมกันต่อ ครีมนี่เราไม่ได้ใช้ทุกตัวในเวลาเดียวกันหมด

จะแบ่งตามอารมณ์มากกว่า

IQQU ACNE SERUM นี่เราเคยรีวิวไปแล้วว่า มันค่อนข้างที่จะเฉยๆ เฉยมาก
สำหรับเรา ไม่ได้ช่วยให้สิวหาย หรือยังไง ก็ใช้ไปให้มันหมดๆ ไปอย่างนั้น
อารมณ์ดีก็ใช้ อารมณ์ไม่ดีก็วางไว้
มันถึงยังไม่ยอมหมดซักที



ส่วนมอยเจอร์ที่ใช้บ่อยสุด โดยจะแบ่งตามสภาพของผิวในวันนั้นว่า

ผิวเราแห้งมาก หน้ามัน หรือปกติ ที่แบ่งแบบนี้เป็นเพราะว่า สภาพผิวของเรา
ในแต่ละวัน ไม่เหมือนกัน

บางทีหน้าก็มันๆ ปกติ หรือบางทีหน้าก็แห้งงงงงงง เลย ไม่จำเป็นว่า จะต้อง
ใช้ครีมแบบนี้ๆ เสมอไป

แบ่งเป็นเช้าหรือกลางคืนแล้วกันนะคะ

เช้า : ถ้าหน้าไม่แห้งหรืออากาศร้อนสุดๆ ก็จะใช้ Origins Make a difference
ตัวนี้เราใช้มาสองกระปุกแล้ว ชอบมากๆ เนื่องจากมันเหมาะกับผิวแห้งๆ ของเรา
ได้ดีมาก ราคาก็จัดว่าไม่แพง (มั้ง) ชอบมากที่สุดแล้วล่ะ

กลางคืน : Cetaphil ตัวนี้เหมาะที่สุดสำหรับคนผิวแห้งและแพ้ง่าย เหมาะกับ
คนที่เป็นสิวด้วยนะ (คิดว่า) เป็นมอยเจอร์ที่ดีตัวนึงเลยแหละ
เราชอบรองจาก origins ด้วย ราคาถูกกว่ากันครึ่งนึงเลย

ครีมสองตัวนี้ ยังไงๆ ก็ต้องซื้อต่ออยู่แล้ว :)



และครีมอีกตัวที่ได้มาใหม่ล่าสุด

Vitacreme B12

จากคำโฆษณา

Vitacreme B12 - Face สำหรับบำรุงผิวหน้าและลำคอ

ด้วยส่วนผสมหลักของวิตามิน B12 ที่จะเข้าไปกระตุ้น

การสร้างเซลล์เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นผิวใหม่

ลบเลือนริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื่นสำหรับผิวที่มีอายุมากขึ้น

เหนื่อยล้าและแห้งกร้าน


ตัวนี้รู้จักครั้งแรกใน YT โดย Queenie จำได้แต่ชื่อเค้า จำได้เพราะว่า เค้า
เอาครีมตัวนี้ลองไปทาเท้าหมาสุดที่รักเค้า -_-"
เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรนะคะ เพราะเค้าพูดภาษาจีน เราฟังไม่ออก แต่ว่า
เค้าจะบอกว่า ครีมตัวนี้มันให้ความชุ่มชื่น แม้แต่ตรีนหมาแห้งๆ ยังชุ่มชื่น

เห็นแล้วก็แบบ โอย ตาย น่าใช้จัง ... มะใช่และ เราก็อืม.. เฉยๆไป
จากนั้นก็เข้าไปเวป sasa เห็นตัวนี้ ติด best sell ของเวป (ตอนนี้ก็ยังติด
อันดับ 3 )

เราก็อืมน่าใช้เนอะ สุดท้ายมาตบะแตกเพราะพี่แป้ง Kirari ใช้ กรี๊ดมาก
ไอดอลชั้นก็ใช้ 555



ตัวนี้เหมาะกับคนที่อายุ 25 ขึ้นไป แต่ให้ทาย เราถึงมั้ย ?

จากการที่ใช้มาครบอาทิตย์ ยังบอกผลเรื่องริ้วรอยไม่ได้

แต่จากการสังเกต เราจะมีริ้วรอยที่แก้ม พอโดนแดดจะบอกว่า "อินี่แก่!"

มันเริ่มจางๆ ลงไป ผิวดูยืดหยุ่น แล้วก็ชุ่มชื้นขึ้นตามที่เค้าโฆษณาเดี๊ยะเลย

เราก็ว่า อูย เวิร์คว่ะ

อาจจะเพราะว่าริ้วรอยเราไม่ได้ลึก และบำรุงจากพวก anti-aging ด้วยมันเลยจางเร็ว

สีของครีมจะเป็นสีชมพูๆ ใช้นิดหน่อยค่ะ



ทาทั่วหน้า เราจะทาเน้นๆ ตรงรอยด้วย 555

รอให้ซึมแล้วค่อยทากันแดด

กันแดดจะใช้สองตัว คือ

etude กันแดดตัวนี้เราชอบมากกกกกกก เพราะว่ามันไม่เป็นคราบ
ครีมตัวอื่นตกคุณสมบัติในข้อนี้ แถมตัวนี้ราคาถูกด้วย

พอกันแดดตัวแรกซึมแล้วก็จะทากันแดดของ iqqu อีกที ไม่รู้ว่าทาปนกันไป
ปนกันมาแล้วมันจะกันได้น้อยลงรึเปล่านะ แต่ก็ทาไป

iqqu จะเป็นเหมือนเบส ปรับหน้าให้เนียน แต่ราคาสูงมาก :(



ซึ่งมันก็มีแค่นี้ค่ะสำหรับฝั่ง skin care ที่ต้องทำเป็นประจำ

จากนั้นก็เป็นพวกทำ อาทิตย์ละครั้งหรือ สองครั้ง

ด้วยไอ้นี่...



ไม่ได้เอามาแพ็คของทั้งหมดใส่ตู้เย็นแต่อย่างใด แต่เอามาแพ็คหน้าค่ะ

อ่านจากบล็อกของคุณก้มลงกราบ แล้วสนใจ เพราะว่าเค้าบอกว่า สถาบัน
เสริมความงามที่ญี่ปุ่นเนี่ย

เค้าจะใช้วิธีแพ็คหน้าแบบนี้แหละ โดยเค้าจะทาครีมราคาแพงๆ แล้วเอา
wrape เนี่ย แพ็คเข้าไป

เราก็เลยทำตามคุณก้มลงกราบ ด้วยการ ใช้น้ำผึ้งจิตรลดานี่แหละ ทาทั่วหน้า
ปกติจะทาไว้เฉยๆ ใช่มั้ย

เราก็ทาเสร็จแล้วเอา wrape เนี่ย เจาะตา จมูก ปาก แล้วก็แปะเข้าไป
พออาบน้ำเสร็จก็เอาออก

หน้าจะนุ่มมากกกกกกก

ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง รู้สึกอยากไปเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วมาอ่านพวกนี้จริงๆ

555+ ภาษาอังกฤษยังไม่รู้เรื่องเลยแล้วจะไปอ่านญี่ปุ่น บ้าไปแล้ว...



ที่ใช้น้ำผึ้งจิตรลดานี่เป็นเพราะว่า มันเหนียวกว่าของสุพฤกษาเยอะเลย
แล้วเราเองก็ไม่ค่อยได้ใช้น้ำผึ้งพอกหน้าตอนอาบน้ำแล้วด้วย ขี้เกียจ
แหะๆ

สครับหน้าก็ไม่ค่อยทำ ส่วนใหญ่จะหาคลีนเซอร์แบบมีสครับมาใช้แทนค่ะ

อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราใช้ และกำลังทดลองใช้ รวมถึงเคล็ดลับดีๆ ที่ไปอ่านจากใน
บล็อกมาค่ะ แต่ล่ะท่านเขียนไว้สาระดีๆ ทั้งนั้นเลย

ขอบคุณไว้ที่นี้ด้วยค่ะ

และสภาพผิวหน้าของวันนี้



เอารูปนั้นลงเดี๋ยวโดนเตะ 555+

ถ่ายใน webcam นะคะ กล้องแบตหมด :P
 


~บุลภรณ์~

~บุลภรณ์~

ผู้หญิงถึกที่สูง 172 รักความสวยงาม ชอบออกกำลังกาย อัพเดทดารา

FULL PROFILE