ของบิวตี้สิ่งละอันพันละน้อยจากร้านวัตสันค่ะ

0 17
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ Jeban.com


ไม่ได้แวะเข้าเว็บเสียนานเลย... ตกข่าวตกเทรนด์กะเขาไปมากมายเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ย่อท้อเรื่องการแต่งเติมเสริมแต่งด้วยเครื่องสำอางและสกินแคร์นะคะ เพราะระยะนี้นี่นอกจากจะไปอัพเดตตามเคาน์เตอร์ขาประจำแล้ว ก็กลายเป็นขาประจำร้านวัตสันเต็มตัวไปแล้วล่ะ ยิ่งหลังๆ นี่มีสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่น่าสนใจเข้ามาวางขายหลายตัวเลย

ถึงบางตัวราคาจะค่อนข้างสูง ต้องวัดใจว่าจะกล้าลงทุนซื้อมาลองหรือไม่ แต่ก็ย่อท้อค่ะ ค่อยๆ ซื้อ ค่อยๆ ลองทีละตัว เดี๋ยวก็ได้ครบเองล่ะน่า~

(ถ้าไม่ทำให้หน้าตัวเองพังเสียก่อนล่ะนะ
)

วันนี้เอามาทั้งเห่อและรีวิว (เล็กๆ) กัน ๔ - ๔ ตัวค่ะ เน้นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและใบหน้านะคะ

เริ่มกันด้วยเซ็ตแชมพูและครีมนวดผมจาก อิจิกามิ ค่ะ


คือ... เราเคยเห็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมยี่ห้อนี้ในหนังสือ Cawaii ตั้งแต่ปี... ๒๐๐๗ น่าจะได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าเพิ่งจะ debut ที่ญี่ปุ่นด้วยมั้ง อ่านคุณสมบัติแล้วมันน่าสนใจตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผมให้เงางาม นุ่ม พริ้วสวย แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อีกด้วย

จะบอกว่าเรารู้สึกสนใจเจ้ายี่ห้อนี้มากกว่ากลุ่มทสึบากิที่แสนจะโด่งดังของชิเซโด้เสียอีก ...ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยลองใช้เลยก็เหอะ ^^;

พอเห็นมีเจ้าพวกนี้วางขายในวัตสัน เราก็เลยไม่รอช้า กวาดมาคู่หนึ่งแบบแทบจะไม่คิดเลย

พอกลับมาบ้านก็เพิ่งจะสำเหนียกได้ว่าที่ฉันซื้อมากับที่อยู่ใน Cawaii มันมีจุดต่างกันนี่หว่า~ ทำเอาต้องลองเสิร์ชหาความจริงกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวว่าที่ซื้อมาจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Me-too ที่เป็นกลยุทธ์จูงใจลูกค้าให้ซื้อเพราะรูปลักษณ์ดูเหมือนผลิตภัณฑ์ดังๆ ทำนองนั้นไปเสีย

แต่ก็อุ่นใจ เพราะสุดท้ายมันก็ตัวเดียวกัน


ตอนนี้มีขาย ๒ ขนาดค่ะ ๒๐๐ มล. ราคา ๒๒๐ บาท กับขวดใหญ่ที่น่าจะ ๔๐๐ กว่า มล. ราคา ๔๕๐ บาทค่ะ

พอใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากค่ะ เพราะถึงแม้มันจะทำให้ผมเส้นใหญ่ๆ ของเราพริ้วสลวยเหมือนนางแบบโฆษณาไม่ได้ แต่ก็รู้สึกได้เลยว่าผมตัวเองนิ่มขึ้น มีเงานิดๆ จัดทรงง่ายกว่าแต่ก่อน เวลาที่ผมออกอาการ "เป็ด" ก็ "เป็ด" อย่างมีสไตล์ ไม่ใช่ชี้ไปชี้มาทุกทิศทางเหมือนก่อนหน้านี้ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อีกด้วย

งานนี้สรุปว่าพอใจมากๆ และคงจะไปถอยขวดใหญ่มาใช้อย่างแน่นอน


แอบงอนวัตสันอยู่หน่อยตรงที่วางขายแต่ขวดปกติให้เราซื้อมาตั้ง ๒ ชุดแน่ะ ...กว่าจะยอมเอาขนาดใหญ่เข้ามาขาย


ถัดมา เป็นมาส์กแบบหน้ากากของบิฮาดะค่ะ อันนี้เห็นมาจากนิตยสาร ...น่าจะเห็นจาก Ray นะคะ จำได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สาวๆ ญี่ปุ่นนิยมกัน เพราะหาซื้อง่ายและราคาไม่สูงจนเกินไป มีหลากหลายสูตร ทั้งแบบที่ขายทั่วไปและขายเฉพาะพื้นที่อีกด้วย นอกจากนี้ ก็ต้องยอมรับว่า Packaging ของเขาน่ารักมากค่ะ ถึงเราจะไม่ค่อย "ถนัด" กับบรรดา Character ตาหวานหยดย้อยใหญ่ขนาดกินเนื้อที่ไปครึ่งใบหน้าแบบที่ยี่ห้อนี้ใช้เป็น "นางแบบ" สักเท่าไร ก็ต้องยอมรับว่ามันสะดุดตา และเชิญชวนให้ลองซื้อมาใช้เป็นอย่างยิ่ง ถึงราคาจะ "หฤโหด" ต่อกระเป๋าตังค์ใช่น้อยก็เหอะ

๑ ชิ้น = ๑๙๕ บาท

เราซื้อมาลองใช้ ๒ สูตร คือ แบบซองสีดำ (ผิวขาวและช่วย detox ผิวหน้า) กับแบบซองสีชมพู (ผิวขาวและผสมคอลลาเจน)

วิธีใช้ก็เหมือนบรรดามาส์กหน้ากากทั่วไปค่ะ แปะบนหน้าสะอาด ทิ้งไว้ไม่เกิน ๑๕ - ๒๐ นาที แล้วนวดๆ เอาบรรดา essence ที่เหลืออยู่ให้ซึมลงหน้าให้หมดก่อนบำรุงขั้นอื่นๆ ต่อไป ส่วนมาส์กที่ลอกออกมาก็อย่าเพิ่งโยนทิ้งไปนะคะ เอามาเช็ดตามคอ แขน หรือจะรวมขาด้วยก็ได้

เอาให้คุ้ม


อันนี้แบบแรกค่ะ ซองดำ หน้ากากดำ ผสมถ่านภูเขาไฟ


ส่วนอันนี้เป็นแบบที่ ๒ ซองชมพู ผสมคอลลาเจนเพื่อผิวหน้าเต่งตึงและขาวใส


เราค่อนข้างชอบตัวซองชมพูมากกว่าค่ะ เพราะใช้เสร็จแล้วไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหน้าจนมากเกินไป

(เข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงสงสัยว่าหลังมาส์กต้องล้างหน้าด้วยไหม? เพราะเจ้ามาส์กสีดำมันทั้งเหนียวและเหนอะหนะแบบสุดๆ ไปเลยทีเดียว)

นอกจากนี้ ตัวมาส์กซองชมพูนี่ก็ดูหนากว่าซองดำเยอะค่ะ เรียกได้ว่าต้องบรรจงคลี่มาส์กซองดำแบบระมัดระวังกันสุดชีวิตเลยทีเดียว เผลอแรงมือไปนิดได้ขาดเป็นชิ้นๆ แน่ ^^;

ถามว่าประทับใจมากไหม?

ก็เฉยๆ นะคะ แบบว่าชอบลองของใหม่ค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องตามใช้ไปตลอด ของแบบนี้มันต้องคิดรวมถึงคุณภาพและประสิทธิภาพด้วยนะคะ

บิฮาดะให้ความสนุกกับ Packaging แต่ราคาค่อนข้างสูงเอาการ แถมยังรู้สึกว่าผลลัพธ์จะไม่ค่อยคงทนเท่าไร ปกติเรามาส์กหน้าสัปดาห์ละครั้ง มาส์ก Whitening ที่ใช้อยู่ (Neutrogena Fine Fairness) ทำให้รู้สึกว่ามาส์กครั้งหนึ่งแล้วหน้าจะดูสว่างไปได้ร่วมๆ สัปดาห์ ทำให้แต่งหน้าได้ดีขึ้น แถมไม่เหนอะหนะอีกด้วย ที่สำคัญ ราคาต่อแผ่นถูกกว่าร่วมๆ ครึ่งร้อยกันเลยทีเดียว

อาจจะใช้นานๆ ครั้งค่ะ มาสลับๆ กับตัวอื่น ไม่ให้ชีวิตจำเจจนเกินไป




และกลุ่มสุดท้าย เป็นเซ็ท Primary & Secondary Cleanser ของ Naive (Kracie) ค่ะ

เริ่มที่ Moisturising Cleansing Oil กันนะคะ


เราเห็นมีผลิตภัณฑ์ Cleansing ขั้นที่ ๑ ของ Kracie อยู่ ๓ แบบนะคะ มีแบบ Oil แบบครีม และแบบ Water

ตัด ๒ แบบหลังไปได้เลยค่ะ เพราะเรา "ไม่ถูก" กับ Primary Cleanser อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Cleansing Oil เลย ใช้ทีไรเป็นอันพังทุกที ดังนั้น เราต้องซื้อตัว Cleansing Oil ของเขาอยู่แล้วค่ะ

เจ้า Cleansing Oil นี่ก็แยกเป็น ๒ สูตรนะคะ อันแรกเป็น Moisturising ที่มีส่วนผสมหลักเป็น Olive Oil กับ Rosehip Oil ส่วนอีกอันเป็นสูตร Whitening คุ้นว่าส่วนผสมหลักคล้ายๆ กัน แต่ต่างที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากดอกกุหลาบเพิ่มเข้ามารึไงนี่ล่ะ ...แบบว่าอ่านผ่านๆ เอาน่ะค่ะ ^^;

เนื้อ Oil ค่อนข้างเหลวนะคะ ไม่ถึงเหลวเหมือนน้ำเปล่า แต่ก็ถือว่าเนื้อเบาเอาการเลยล่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยนะคะ น่าจะเป็นกลิ่นกุหลาบนะคะ

วิธีใช้ก็กดประมาณ ๓ - ๔ ครั้ง เอามาชโลมบนใบหน้าแห้งๆ แล้วนวดเบาๆ ให้ทั่ว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึงนาทีค่ะ กะเอาว่าเกลี่ย Oil ได้ทั่วหน้าก็พอ อาจเน้นถูๆ บริเวณที-โซน/ยู-โซน ...จะได้เอาบรรดาสิวเสี้ยนออกไปพร้อมกับเครื่องสำอางและกันแดดด้วยค่ะ

หลังจากนั้นก็ละลาย Oil ด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ เราจะค่อยๆ แตะน้ำมาละเลงบนหน้าค่ะ พอรู้สึกว่าหมดความมัน (ฝืดๆ) แล้ว จึงล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าปกติ

ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ Naive Cleansing Oil นี่เป็นอะไรที่ดีผิดคาดเลยทีเดียว สามารถทำความสะอาดได้แบบเรียกว่าหมดจดเลยนะคะ ถ้าไม่ได้ใช้กันแดดแบบกันน้ำติดทนมหาโหด เราว่าเจ้านี่เอาออกได้หมดเลย สามารถละลายออกได้ง่ายและไม่ทำให้หน้าแห้งตึงอีกด้วย จึง "ชอบ" มันเอามากๆ

ถึงจะเขียนจั่วว่าเป็น Moisturising แต่คนผิวผสมอย่างเราก็ใช้ได้ดีเลยค่ะ 


ราคา ๓๕๐ บาทต่อขวดค่ะ


อีกชิ้นเป็นโฟมล้างหน้า สูตรผสมสารสกัดจากชาเขียวค่ะ ราคาหลอดละ ๒๓๕ บาท


มีโฟมวางขายอยู่ ๓ สูตรนะคะ มีชาเขียว ทับทิม และอีกตัวน่าจะเป็นพีช แน่นอนว่าแต่ละสูตรก็จะมีความพิเศษเฉพาะตัวค่ะ เราจำคุณสมบัติเด่นๆ ได้เพียง ๒ ตัว คือ ชาเขียวกับทับทิม ตัวแรกจะช่วยทำความสะอาดน้ำมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน ส่วนอีกตัวช่วยเรื่องความสดใสอ่อนเยาว์ค่ะ

เราเลือกสูตรผสมชาเขียวมาลองใช้ค่ะ

เนื้อโฟมสีขาวขุ่น บีบออกมาไม่ต้องมาก ผสมน้ำเล็กน้อยให้เกิดฟองแล้วเอาไปลูบใบหน้าให้ทั่วๆ ค่ะ มีกลิ่นชาเขียวอ่อนๆ และเวลาล้างก็รู้สึกเย็นๆ นิดๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากส่วนผสมที่ใช้กระชับรูขุมขนค่ะ พอล้างออกแล้วก็ไม่ทำให้หน้าตึงๆ นะคะ

เนื่องจากเราตึฟองโฟมล้างหน้าไม่เคยสำเร็จสักครั้ง เลยไม่รู้ว่าจะสามารถตีโฟม Naive ให้เป็นฟองหนาๆ ได้ไหม ปกติก็เพียงผสมน้ำให้เนื้อเหลวและมีฟองขึ้นมาก่อนใช้ล้างหน้าค่ะ

อ้อ... น้องสาวเราบอกว่าโฟมตัวนี้ทำความสะอาดเครื่องสำอางอ่อนๆ ได้ค่ะ ถ้าไม่แต่งหน้าจัด หรือลงกันแดดกันน้ำแบบทนทานสุดยอดเข้าไป เจ้าตัวนี้ก็ทำให้จบขั้นตอนได้ภายในขั้นตอนเดียวค่ะ แต่ถึงอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องการทำความสะอาดใบหน้า เราขอ "๒" ค่ะ

เจ้าโฟมผสมชาเขียว เราคิดว่ามันออกจะราคาสูงเกินคุณภาพไปนิดค่ะ เพราะโฟมที่จะอยู่บนหน้าเราเพียงไม่นาน คงไม่สามารถทำอะไรกับรูขุมขนได้อย่างน่าอัศจรรย์อยู่แล้วล่ะ



ถ้าให้เลือก เราเลือกลงทุนกับ Cleansing Oil มากกว่าค่ะ ถ้าสามารถทำความสะอาดได้หมดจดจริงๆ จะใช้โฟมธรรมดาล้างความมันที่ยังตกค้างอยู่อีกนิด หน้าก็สะอาดและไม่ทำให้เกิดปัญหาได้แล้วล่ะ



หมดแล้วค่ะ! หวังว่าจะสนุกกับรีวิวแบบเห่อๆ ที่มีของนิดเดียวแต่เขียนพร่ำเพ้อแบบน้ำท่วมทุ่งนะคะ

ขอบคุณค่ะ


suikyo

suikyo

เลขาฯ บ้าการ์ตูน + นิยายแปล
ชอบสกินแคร์ + เครื่องสำอาง งามๆ
ใช้เวลาส่วนใหญ่แบบไร้สาระไปวันๆ
ตอนนี้ต่อมมนุษยสัมพันธ์ทำงานบกพร่อง...

FULL PROFILE