Purchasing Officer มีหน้าที่อะไรบ้างคะ
DeAuN4ใครพอจะรู้บ้างคะว่า
Purchasing Officer หรือ เจ้าหน้าที่จัดซื้อ มีหน้าที่ยังไงบ้างคะ
พอดีเพิ่งจบมาอ่าค่ะ อยากจะสมัครงาน
แต่ไม่ค่อยรู้อะไรเลย แหะๆๆ -*-
ขอบคุณสาวๆ ทุกคนที่มาตอบด้วยนะคะ...^^
Discussion (4)
ไม่ถูกต้องเลยค่ะ การที่ต้องได้ของราคาต่ำที่สุดและคุณภาพดีที่สุด
หลักการง่าย ๆ ของการจัดซื้ออาจจะใช้ได้ค่ะ แต่ในความเป็นจริงต้องสร้างเงื่อนไขเพื่อลดการสูญเสียดังนี้ค่ะ
1. ศึกษาข้อมูลผู้ผลิตและผู้ขายอย่างละเอียด เพื่อแยกซัพพลายเออร์เป็น trading, autorized distributor, manufacturer และร้านค้าปลีก เพื่อประโยชน์ในการให้น้ำหนักการซื้อ เนื่องจากการซื้อขายแต่ละครั้งนั้นหมายถึงความสุ่มเสี่ยง (เหมือนซื้อเครื่องสำอางค์เค้าเตอร์กับเน็ตอ่ะค่ะ) คุณอาจจะได้ของไม่ตรงตามเสป็ค (อันนี้ถือว่าเคสรุนแรง คุณถือว่ามีความผิดในการ qualify ซัพพลายเออร์ที่เข้ามาเสนอขาย แสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีศักยภาพในการแยกแยะ) ต่อมาคือของส่งไม่ตรงเวลา (ก็เป็นความผิดรอง ๆ ว่าคุณไม่มีการจัดระบบที่ดีพอ ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร เพราะบางที่การผลิตเสียหายเพราะ spare part ส่งไม่ทัน ต่อมาคือ การถูกยกเลิกออเดอร์กระทันหัน (เป็นความผิดน้อยหน่อย ตรงที่ว่า เกิดปัญหากับบริษัทที่ซัพพลายของนั้นจริง ๆ คือไม่สามารถผลิตหรือนำเข้า ซึ่งตรงนี้คุณต้องแก้ปัญหาโดยคุณต้องมี list supplier สำรองเสมอ (อย่าทำงานแบบซื้อเจ้าเดียวและไม่เทียบ)
2. การเจรจาต่อรอง เป็นสิ่งสำคัญ แต่ขอเตือนจัดซื้อไว้ว่า การต่อรองที่มากเกินความเป็นไปได้ คุณจะถูกย้อมแมวขายโดยไม่รู้ตัว และเงื่อนไขจะถูกลดทอนลง เช่นการรับประกัน การเซอร์วิส ซึ่งการต่อรองนั้นจะต้องวางบนเหตุและผลที่เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด เช่นคุณต้องการซื้อสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งเหมือนกันทุกอย่าง แต่เจ้าหนึ่งรับประกัน 3 ปี free off-charge ทุกอย่าง อีกเจ้าก็ 4 ปี (แต่บนเงื่อนไขที่คุณเสียเปรียบในการเคลมอย่างมาก เช่นต้องเสียค่าเคลมเอง ค่าส่งที่ชาร์จแพง) เพราะฉะนั้นการเป็นจัดซื้อที่ดี ไม่ใช่ซื้อของได้ถูกนะค่ะ
3. การแชร์ออเดอร์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากคุณต้องซื้อของปริมาณเยอะ ๆ และซื้อมาหมดไป ต้องซื้อใหม่ตลอด (consume) คุณต้องเลี้ยงซัพพลายเออร์ เช่นว่า แบ่งออเอร์เป็น 70% ให้เจ้าที่ถูกกว่า และ 30% ให้เจ้าที่แพงกว่าเป็นอันดับสอง เพราะหากเกิดกรณีที่เจ้าแรกของขาดสต๊อกกระทันหัน คุณจะสามารถเรียกสินค้าสำรองจากบริษัทที่สองได้ ซึ่งจะลดการเกิดปัญหาต่อการผลิต ถือว่าเป็นวิธีการทำที่ถูกต้อง แต่ในหลาย ๆ ที่ชอบของถูก ซื้อ 100% แต่พอของขาดจะมาเรียกเอาจากเจ้าที่สอง เค้าก็ไมมีของให้หรอกค่ะ เพราะเค้าไม่ได้คิดว่าจะสต๊อกมาขายได้ ที่นี้แหละ นรกเลย ของไม่เข้า การผลิตมีปัญหา คุณโดนเรียกสอบแน่ ๆ
4. การประเมินค่า KPI ของซัพพลายเออร์แต่ละเจ้าทุกปี โดยการประเมินแบบให้น้ำหนัก (ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์กรนั้น ๆ) และการอัพเดทสถานะของซัพพลายเออร์ เพราะบางทีใกล้เจ๊ง รับเงินวางดาวน์ไปแล้วปิดบริษัททิ้งซะงั้น (เช่นงานโครงการ) คุณแหละคือคนถูกมองว่าผิดคนแรก
5. การหาซัพพลายเออร์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่ออัพเดทตัวคุณเองค่ะ (จะทำให้ตัวเองมีคุณค่าต่อองค์กร)
การทดแทนสินค้าที่มีปัญหา หาสินค้ายาก ฯลฯ คุณต้องรู้จักการทดแทนสินค้ากันได้ (และต้องไม่เสียคุณภาพเดิมไป)
6. อย่าตวาด หยาบคายต่อซัพพลายเออร์ หรือมองว่าเค้าไม่ใช่คน (หลายที่มองเซลเป็นหมาเลย)
เพราะเวลาออกนอกบริษัท คุณจะโดน.......แน่นอน หน้าตาต้องยิ้มแย้ม พูดจาดี (แต่ต้องไม่อ่อนจนเกินไป) ต้องเด็ดขาดบนเหตุผลที่เหมาะสม อย่างดื้อดึงเอาแต่ใจ เพราะเมื่อซัพพลายเออร์ไม่พอใจ คุณจะโดนแบบข้อข้างบนคะ เค้าก็เล่นงานคุณจนออกจากบริษัทได้เช่นกัน (อย่านึกว่าทำไม่ได้นะค่ะ หลายที่จัดซื้อร้องไห้ออกจากห้อง ผจก. ต่อหน้าเซลเลย)
หวังว่าคงช่วยเหลืออะไรได้บ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ให้ได้ของที่มีคุณภาพที่สุดอ่ะค่ะ
เเล้วระบบแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันแล้วแต่นโยบายองค์กร
ทำเอกสารการจัดซื้อ ใบออร์เดอร์ ใบเก็บเงิน ต้องดูข้อมูลให้ถูกต้อง
ส่งใบสั่งซื้อ ทางเเฟ๊ก หรืออีเมล
ติดต่อตัวแทนฝ่่ายขายในกรณีที่ต้องการให้ช่วยหาของที่ต้องการ
เช่น รายการใหม่ๆที่ไม่เคยสั่งมาก่อน
ออกไปซื้อของเข้าบริษัทเองบ้าง หรือบางทีก็สั่งให้เข้ามาส่งแล้วแต่กรณี
แต่บางที่ไม่มีบริการจัดส่งต้องไปรับเอง
เช็คสต๊อกของและตรวจรับของ ดูว่าคุณภาพของเป็นไปตามที่ตกลงหรือไม่
ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ก็มีพนักงานเยอะแล้วก็จะแบ่งแยกหน้าที่ชัดเจนนะค่ะ
แล้วแต่ระบบด้วยว่ามีระบบการจัดซื้อแบบไหน จะเป็นไปตามนโยบายค่ะ
จัดซื้อโดยส่วนกลาง
แต่ละแผนกไปซื้อเอง
หรือเป็นแบบผสม
หวังว่าพอจะช่วยได้บ้างนะค่ะ
อาจารย์ก็ไม่ได้สอนเยอะเท่าไหร่แค่เคยพูดบ้าง แล้วก็บอกว่ามันน่าสนใจ
ก็เเล้วแต่ชอบค่ะ
มีหน้าที่หลักๆเลยคือซื้อของเข้ามาให้บริษัท
(ซื้อมาทันให้เซลขายของไม่ขาดก็โชคดีไป
ไม่ก็ถ้าซื้อมาเยอะเกินเซลก็บ่นบ้างว่ากัน)
อาจจะเป็นการซื้อภายในประเทศและการนำเข้าจากต่างประเทศ
ซึ่งอาจจะต้องมีการต่อรองเจรจากับผู้ขายซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราคาอย่างเดียวนะคะ
นอกนั้นก็เป็นเรื่องจัดทำเอกสารสำัคัญต่างๆเพื่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการเคลียร์สินค้าค่ะ
เราทำพวกนำเข้าเยอะหน่อย
พอของมาแล้วเอกสารมีปัญหาทีไรตามกับคนขายทั้งวี่ทั้งวันเลยค่ะ
บ้างทำไปก็เพลิน บ้างทำไปก็เบื่อ
ตามประสาว่ากันไป~