นอกเรื่อง : เล่าสู่กันฟังเหตุเกิด ณ ธนาคารแห่งนึง

 ที่จริงเรื่องผ่านมาเป็นเดือนแล้ว พอดีมีเรื่องสกิดใจ เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา คิดว่าอาจเป็นประโยชน์สำหรับบางท่านได้ค่ะ เจ้าของเรื่อง (เพื่อนของจขกท. เองค่ะ ) วันเกิดเหตุของขึ้นมาก....จนเจ้าตัวคิดจะโพสต์ในเวปดัง.... แห่งนึง ( เดาออกช่ายป่ะ ^^ ) และถึงขนาดจะแจ้งไปรายการช่อง 3 ที่คุณ.........นั่นเชียว...   แต่เวลาผ่านไปก็เปลี่ยนความคิด.....

เรื่องมีอยู่ว่าเราตกลงไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แต่เพื่อนติดลูกค้าจึงตามไปทีหลัง เพื่อนคนนี้เขาทำเกี่ยวกับซื้อขายรถมือสองค่ะ กว่าจะคุยกะลูกค้าจบก็ค่ำแล้ว ตามไปถึงที่พักก็ 5 ทุ่ม...

เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันหยุด เราก็ไปเที่ยวกันต่อ แต่เพื่อนนนนี้กะแฟนขอแวะไปทำธุระที่ธนาคารที่อยู่ใน (น่าจะเรียกว่า) ห้างแห่งนึง  ในจังหวัดนั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลกะที่เราไปเที่ยว แต่ หลายชั่วโมงผ่านไปเพื่อนยังไม่มา  พวกเราเลยโทรไปถามเลยรู้ว่าเพื่อนมีปัญหาที่ธนาคารแห่งนั้น....

อันนี้เรื่องอย่างย่อนะคะเพิ่มเติม 9/12/52

สรุปว่าเพื่อนเอาเงินไปฝาก เงินมี 3 มัด ซึ่งป็นเงินที่ลูกค้าให้มาโดยเอามาจากอีกแบงค์ จากกทม. เพื่อนไม่ได้เอาเงินเข้าแบงค์เพราะกว่าจะคุยกันเสร็จก็ค่ำและรีบเดินทางมาสมทบพวกเราที่ต่างจังหวัด  รุ่งขึ้นอีกวันถึงเอาเงินไปเข้าแบงค์ ซึ่งเดิมเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าเธอพกเงินจำนวนนี้มาด้วย ที่นี้ตอนอยู่ที่แบงค์  แต่ตอนที่จนท.นับเงิน ปึกที่ 2 บังเอิญว่ามีโทรศัพท์ เข้า เจ้านี้ก็รับโทรศัพท์  พอเงยหน้ามาอีกที จนท.ก็บอกว่าเงินไม่ครบตามที่เขียนฝาก เพราะหายไป 1 หมื่น

ทีนี้เพื่อนเราก็งงว่าทำไมไม่ครบ.... ก็มีการคุยถามข้อมูลระหว่างกัน... จนท.พูดและแสดงท่าทีไม่ค่อยน่าประทับใจ (ตามรายละเอียดในทู้)   จนผจก.มาเคลียร์ เอง สรุปว่าให้เพื่อนเราไปดูเทปหลังแบงค์ปิดเพราะไม่สามารถดูได้ตอนนี้เนื่องจากกล้องกำลังออนไลน์อยู่ ก็นัดกันตอน1 ทุ่ม ส่วนจนท.ก็บอกเพื่อนเราว่า "แน่จริงให้เข้ามา"

พอพวกเราไปถึงสรุปว่าไม่มีเทปให้ดูผจก.บอกว่าเทปเสีย.... ถามไปถามมาอยู่สักพักถึงได้รู้ว่า เสียมานานแล้ว... พวกเราเลยรู้สึกว่าแปลก ๆ ก็คุยกันพอสมควร (เรื่องมันยาว...) เพื่อนเราเลยบอกว่าจะแจ้งเรื่องไปสนง.ใหญ่ จนท.คนนั้นก็ของขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า "แน่จริงก็ไปแจ้งความ"

เพื่อนเราเลยไปแจ้งเรื่องไว้เป็นหลักฐาน  และแจ้งเรื่องไปสนง.ใหญ่ ตอนนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการ ยังไม่สรุปยุติ...

แต่ทั้งหมดทั้งปวงตัวเราเองและเพื่อนๆ ก็ไม่ได้สรุป 100  % ว่าเงินที่หายไปจนท.คนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง... เพราะหลักฐานก็ไม่มี และเห็นด้วยกะคุณตำรวจที่ว่าเงินมันผ่านหลายมือ มันมีหลายจุด...ที่เป็นช่องโหว่ ไม่ใช่ไม่เชื่อใจเพื่อน (อันนี้เจ้าตัวก็เข้าใจพวกเรา) แต่เราก็เห็นว่ามันไม่แฟร์ที่จะไปกล่าวหาเขาอย่างนี้... เป็นเราไม่ได้ทำแล้วโดนว่าเราก็ไม่พอใจ

แต่ที่ติดใจก็คือเรื่องพฤติกรรมบริการ ตามในเรื่อง และเรื่องกล้องที่รู้สึกว่าไม่น่าเลย....ผจก.  ไม่น่าทำอย่างนี้เลย

และ...ที่เราพยายามพิมพ์รายละเอียดลงให้มากที่สุดทั้งที่เราพิมพ์สัมผัสไม่เป็น  ^__^ ก็เพราะตอนแรกคิดว่าหากสรุปมากไปก็อาจทำให้งง แต่ก็ยังงงๆ กัน คงเพราะเราเรียบเรียงไม่ดี เพราะตอนเริ่มโพสต์ ก็แค่อยากเล่า กะให้จบทันที แต่ตั้งใจไม่ใส่ยาวใน  1 ช่อง เพราะความรู้สึกส่วนตัวเห็นว่ามันอ่านยาก เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัวเวลาต้องอ่านยาวๆ ใน 1 ช่อง  และก็โพสต์ยากด้วยกว่าเราจะพิมพ์จบอาจมีปัญหาโพสต์ไม่ได้มันจะหายไปทั้งหมด ต้องพิมพ์ใหม่อีก (ซึ่งเราลืมนึกไปว่าที่จริงพิพ์ใน w ก่อนก็ได้ 555+) อันนี้เราคงคิดมากไปจริง ๆ มัวแต่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ เรื่องง่าย ๆ เลยลืม ^ ^

 ^_^    ส่วนที่มีการแนะนำให้สรุปเรื่องมาก่อนลงรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ...เรายินดีน้อมรับทุกอย่างค่ะ ( อันนี้ก็ได้ข้อคิดที่ว่าคนเราคิดต่างกันได้ ....แต่ที่สำคัญต้องไม่แตกแยก ) และที่สำคัญที่สุดทุกความเห็นที่มีก็ล้วนมาจากเจตนาดี ๆ ของทุกคน ซึ่งก็เป็นประโยชน์กะเราทั้งนั้น

แต่ช่วงเย็นมันโพสต์ต่อไม่ได้เพราะ web ที่เรามีปัญหา ทีนี้เราต้องปิดหน้าหน้าจอทุกอันเพราะเราเปิดงานไว้ด้วย งานเราต้องทำและบันทึกโดยใช้เน็ต  เวลาปิดเครื่องต้องปิดทั้งแผนก (หลายสิบเครื่อง) เพื่อเซ็ตระบบใหม่.... ซึ่งต้องใช้เวลา นี่คือเหตผลที่เราโพสต์ต่อไม่ได้ในตอนเย็น (อันนี้เราใช้โน๊ตบุค)

พอถึงบ้านประมาณทุ่มนึงก็เข้ามาโพสต์ใหม่ บอกตรงๆ เกรงใจคนอ่าน...  แต่ราวนี้ที่มีปัญหาคือ PC เราเอง (เราไม่เอาโน๊ตบุคกลับบ้าน..ยกเว้นเวลาหยุดยาว) ตอนค่ำเราเลยลองใช้โปรแกรม TuneUp 1-Click  อยู่ แต่ตอนจัดการฮาดดิส มันใช้เวลานานมาก โทรถามรุ่นพี่บอกบางทีต้องรอเป็นชั่วโมง เราก็เฮ้ยไม่ไหวนะ และเรากลัวกว่าจะเสร็จคนอ่านก็ต้องรอไปอีก เลยปิดโปรแกรม แล้วมาโพสต์ต่อให้จบ แต่อย่างที่บอก PC มันมีปัญหา บางทีอาจจากเน็ตร่วมด้วย มันโหลดช้าเอามาก ๆ กว่าจะเสร็จเลยตามที่เห็น.... โพสต์จบเราจึงมาจัดการเรื่องคอมฯเราต่อก็หลายชั่วโมงต่อจากที่เราโพสต์เสร็จ... แล้วก็เลยมาเห็นว่าเจ้า NOD325  ก็ขึ้นตัวแดงมาเลย... ก็ต้องโหลดโปรแกรมต่ออีก..เฮ้อ... บอกแล้วงัยว่าทู้มันเฮี้ยน...5555+ 

นี่เป็นครั้งแรกที่เราโพสต์เรื่องแบบนี้  เจตนาก็เพื่อให้มีการเรียนรู้ร่วมกันในเรื่องที่เกิดขึ้น เราเองก็ได้ข้อคิดจากเรื่องนี่หลายอย่าง ๆ และหลายๆ มุม ตามที่สรุปไว้ข้างล่าง

 สำหรับคนอ่านหากเห็นว่าสิ่งที่เราทำส่วนใหนพอมีประโยชน์บ้างเราก็ดีใจแล้ว และ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์และหลายๆ คนที่ทราบข้อเท็จจริง หากเข้ามาอ่านแล้วต้องการเพิ่มเติมส่วนใหนก็บอกได้นะจ๊ะ (เพื่อนเราหลายคนเป็นสมาชิก บางคนไม่เป็นแต่ชอบเข้า web นี้กันเกือบทุกวัน รวมถึงที่ทำงานเราด้วย  )

ปล. 1. เราตั้งใจไม่บอกพิกัดและชื่อสกุลจริงของแต่ละฝ่ายแต่แรก และขอสงวนต่อไป...เพราะเราก็มีเหตุผลของเรา 
         2. ที่อยู่ ๆ นึกอยากเล่าเพราะมีเหตุการณ์ไม่ประทับใจกับการบริการที่แบงค์นี้อีกครั้ง  ซึ่งเป็นสาขาที่ทำงานเราเอง ซึ่งเพื่อนๆ และที่ทำงานเราก็ไม่ค่อยแฮปปี้กะแบงค์นี้เท่าไหร่ เดิมที่ทำงานเราเช่าตึกอยู่ที่อื่นมีแบงค์นี้แบงค์เดียวใต้ตึก เลยอยู่ภาวะจำยอมมาเป็นปี พอย้ายหน่วยงานมาตอนนี้เลยมีการโหวตว่าจะเอาแบงค์เดิมหรือแบงค์ใหม่ เพราะใต้ตึกนี้มีครบทุกแบงค์เลย สรุปเสียงส่วนใหญ่ขอย้าย ตรงนี้เราคงบอกได้ว่าย้ายไปแบงค์อะไร..ย้ายไปกรุงไทยค่ะ ^_^   
        3 .เหตุการณ์ทั้งหมดเราคิดว่าเป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน จากข้อ 2   ณ วันนี้เราก็ยังไม่ย้ายแบงค์ เพราะช่วงนี้เรามีความจำเป็นส่วนตัว       แต่กลางปีหน้าเราอาจได้ทบทวนอีกทีว่าจะย้ายเหมือนคนส่วนใหญ่หรือยังอยู่ที่เดิม....

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  ^_____^





เข้ามาเพิ่มเติมเรื่องนะคะ : ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ ^^

Discussion (105)

อัพล่าสุดนะคะ เดือนที่แล้วโทรถามเพื่อนว่าเรื่องถึงไหนแล้ว... บอกว่าทางคดีที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเพิ่ม =='  แต่ทางธนาคารเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้มีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นตามขั้นตอนแล้ว...(แต่ ยังไม่จบแฮะ  หุหุ)..

ส่วนคุณผู้จัดการล่าสุดโทรมาขอให้เพื่อนเรายกเลิกไม่เอาความ บอกว่ากระทบกับหน้าที่การงานของเขามาก เพื่อนพูดกะเราว่าใจจริงก็ไม่อยากจะอะไรแต่แรก ที่ไปแจ้งจนเป็นเรื่องใหญ่โตก็เพราะโมโหมากกว่า  และก็คิดว่าถึงวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็คงได้รับบทเรียนกันพอควรแล้ว..... ที่เหลือก็สุดแต่กรรมบันดาล

สำหรับเรา...ก็คงแล้วแต่เพื่อนจะตัดสินใจ  เพราะทุกคนก็ย่อมมีเหตุผลของตนเอง ซึ่งถ้ามันไม่ได้เลวร้ายอะไร เราเองก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเพื่อนเหมือนกัน...
แต่โดยส่วนตัว คิดว่าแยกโพสต์แบบนี้

เรียกฟิลคนอ่านอย่างแรง

เกร็งว่าเมื่อไรจะมาโพสต์ต่ออีก...

ฮ่าๆๆๆ

ยิ่งโวยวาย ยิ่งร้อนตัว แบบนี้ไม่รู้จะว่ายังไง

เราเคยทำงานเป็นReception ที่ รร แห่งหนึ่ง
แล้วโทรศัพท์มือถือก้หาย  กลับไปดูที่กล้องวงจร
ปรากฎว่า โทรศัพท์อยู่ในมุมอับ เหอๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รุ้ว่าใครเอาไป
สุดท้ายผ่านไป1เดือน เปนเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน
เพราะว่าจะมีแค่ช่าง และ รีเซฟชั่นเท่านั้นที่รู้มุมกล้อง
ตลกมากๆ คนเอาไปเค้าอายุ33แล้วมีลูก2คน ดูภายนอกเปนผุ้ใหญ่ เรียบร้อย นิสัยดี
แต่ทำไมถึง . . . .  แย่มากเลยเราเสียความรู้สึก มาก

เจอปัญหาบ่อยมากกับลูกค้า เรื่องจ่ายค่าห้อง
มาบอกว่าจ่ายแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  พอมาดูกล้อง สรุปคือ ควักเงินออกมา แต่เอาใส่กระเป๋าคืน
เหอๆๆๆๆ มีการโวยวายหน้าฟร้อน พอเหนในกล้องอายแทบวิ่งหนี
ตลกดีค่ะ เจอหลายรูปแบบ
ลูกค้าดีก้ดี แย่ก้ต้องทำใจ
เราทำงานบริการก้ต้องเก็บอารมณ์ได้ให้มากกว่าลูกค้า


 

พนักงานแบบไหนกันถึงขึ้นเสียงกับลูกค้า น่าเกลียดมาก
ติดตามอ่านมาตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้เรื่องดำเนินการไปถึงไหนแล้วคะ เห็นบอกว่า ผ่านไปเป็นเดือน แจ้งสำนักงานใหญ่หรือยัง?? แล้วเค้าทำอะไรไปบ้าง

ตามความเห็นของเรานะคะ เรื่องเงินเนี่ย ผ่านมาหลายมือมากๆ
อาจจะตามยากหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่า ตอนที่เพื่อนคุณได้รับเงินมา เงินครบตามจำนวนหรือไม่

แต่ทีนี้ เราติดใจเรื่องปัญหาการให้บริการของพนักงาน และ ผจก.ค่ะ เป็นเรา เราไม่ยอม
จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดด้วย พนักงานดีเด่น พนักงานตัวอย่างอะไร ท้าทายปากกล้าได้ขนาดนี้ (ถ้าทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง ดังที่คุณกล่าวมา พนักงานคนนั้นก็ทำตัวแย่มากๆ)

และยังจะเรื่อง โกหก กล้องวงจรปิดอีก
ระยะเวลาที่เกิดขึ้น ที่บอกว่า ระบบออนไลน์อยู่ นัดมาดูตอนทุ่มนึงนี่คงจะไปนั่งนึกเรื่องโกหกอยู่ล่ะสิ (แต่ไม่เนียนนะคุณ โกหกยังไงให้เค้าจับได้) 

อย่าลืมมา update เรื่องราวต่อนะคะว่าเป็นยังไง บอกได้คำเดียว อย่ายอม !!!