[กระทู้บ่น] อยากระบายค่ะ เรื่องครอบครัว !

ขอเริ่มเลยนะคะ :))

เราเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวนี้ค่ะ
และเราก็มีพี่อยู่สองคน พี่สองคนนี้ เป็นลูกพ่อเดียวแต่คนละแม่ค่ะ

พวกเค้าอยู่ กทม กัน นานๆจะกลับมาบ้านที
เห้ อออ ! ยอมรับค่ะ ว่าเราเหงา เหงามากๆๆ อยู่บ้านคนเดียว
กับพ่อแม่ คุยโทรศัพท์กับใครกับใครก็ไม่ได้

ที่จริงก็ได้แหละค่ะ แต่จะคุยแบบ สบายๆใจ ไม่ได้หรอก
พอคุยเสร็จ แม่ก็ชอบถามเราว่า คุยกับใคร ?
แล้วอีกอย่าง เราเหงามากอ่ะ เราก็ชอบเล่น msn,hi5,facebook
แม่ก็ชอบบอกว่า เล่นอะไรหนักหนา เดี๋ยวคราวหลังไม่ต้องเล่นเลย

เฮ้ อออ เราอยากคุยกับพ่อแม่ให้สบายใจอ่ะ แต่จะเอาเวลาที่ไหนไปคุย
วันๆ พ่อเราก็นั่งอยู่แต่หน้าคอม แม่ก็นอน เราอยากให้มีเวลาครอบครัวบ้าง
ไปเที่ยวไหนกันบ้าง เราอยากให้พ่อแม่ สนใจเราบ้าง เรื่องเรียนอ่ะ
ยอมรับค่ะ เป็นคนเรียนไม่เก่งเท่าไร เกรดก็สามจุดห้า พ่อแม่อาจจะคิดว่า
มันดีแล้ว เลยไม่ได้สนใจอะไรเลย ขอไปเรียน กทม แค่พูดว่า อยากไปเรียนพิเศษ
กทม บ้างอ่ะ แม่ก็ไม่คุยกับเราแล้ว บอกว่า เพ้อเจ้อมั้งแหละ

เราอยากให้พ่อแม่เข้าใจเราบ้าง ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนพวก ขาดความรักยังไงไม่รู้
เราเห็นครอบครัวคนอื่น เค้าไปเที่ยวกัน ทำกิจกรรมกัน แต่ครอบครัวไม่เลย
วันๆ พ่อไปทำงาน กลับมาก็นอน ตื่นมาก็ทำงาน เราเบื่อ ๆๆๆๆๆๆๆ

เราอยากให้พ่อแม่ เล่นกับเราบ้าง อยากได้ท่านเป็นหลายๆอย่าง
ทั้งเพื่อน ครู ไรเงี้ยอ่ะค่ะ


- เราอยากจะถามว่า ใครเป็นเหมือนเรา เราควรจะทำยังไงดี ?

PS. อย่าด่าเรานะคะ ขอร้อง แค่นี้ก็เจ็บพอแล้ว

Discussion (6)

ตอนช่วงวัยรุ่นก็เคยรู้สึกแบบนี้น่ะ

ประมาณว่าแม่ไม่รัก

พ่อไม่มีเวลาให้

แต่วันนี้พอมองย้อนกลับไปก็รู้ว่าเข้าใจผิด

อย่าเอาครอบครัวเราไปเทียบกับครอบครัวอื่นน่ะค่ะ

เพราะพื้นฐานไม่เหมือนกัน

อย่างแม่พี่น่ะ....เขาเป็นคนแบบสมัยก่อน

ไม่มีกอด...ไม่มีหอม

ไม่มีคำชม...วันๆก็บ่นๆเรื่อยเปื่อย

ทำดีก็ไม่เคยถูกชม

แต่พอลับหลังเราเขาก็แอบไปคุยกะญาติกะเพื่อนเขา

แอบชมเรา

บางทีเขาไม่แสดงออกก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักน่ะ

อย่าคิดมากเลยจ้า

เรื่องอยากทำกิจกรรมอยากคุยกันมากขึ้น

หนูต้องเป็นคนเริ่มน่ะ

เขาไปคุย...ไปชวนให้ทำ

เวลาอยากทำอะไร...เช่น อยากเรียนพิเศษ,อยากเล่นเน๊ต

ก็ให้บอกเขาดีๆ อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไม

พ่อแม่น่ะเขาไม่ได้ใจร้ายหรอกจ้า

แล้วเรื่องที่บอกว่าเหงาน่ะ

ไม่มีใครทำให้เราเหงาได้หรอกน่ะนอกจากตัวเราเอง

หนูยังดีน่ะยังมีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ

คิดถึงคนที่เขาไม่มีใครจริงๆ

หรือคนที่ต้องจากบ้านมาอยู่ในเมือง

อยู่คนเดียว  กินคนเดียว เวลาป่วยก็ไม่มีใครดูแล

คนอื่นๆเขาเหงากว่าหนูเยอะน่ะ

หากิจกรรมทำจะได้หายเหงา

ช่วยแม่ทำงานบ้าน  ช่วยพ่อทำงาน

ทำกับข้าว

แค่เราไม่คิดว่าเราเหงาเราก็จะดีขึ้นเองน่ะ

เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ

อยากหากิจกรรมทำเหรอคะ



ที่บ้านทำกับข้าวกินเองไหมคะ ถ้าทำ"แม่ขา ให้หนูช่วยนะ" ถ้าไม่ทำ "แม่ขา หนูไปตลาดด้วย ช่วยแม่ถือของ"

"หนูช่วยทำงานบ้านไหมคะแม่" "แม่เหนื่อยไหม หนูนวดให้"

"พ่อเหนื่อยไหมคะ หนูเอาน้ำเย็นๆมาให้" "พ่อจะล้างรถเหรอคะ หนูช่วยนะ" "พ่อขา หนูอยากหัดเล่นแบดมินตัน พ่อช่วยหนูฝึกหน่อยนะคะ หรือช่วยหนูดูหน่อยว่าเล่นอย่างนี้ถูกไหม"

กิจกรรมของครอบครัวมันอยู่รอบๆตัวเราค่ะ หาโอกาสช่วยแบ่งเบาพ่อกับแม่บ่อยๆ กอดท่านบอกรักท่านบ่อยๆ ทำได้ทุกวันทุกเวลา

ถึงท่านไม่พูดไม่แสดง แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ได้รักลูกนะคะ บางครั้งผู้ใหญ่ก็มีเรื่องให้คิดมากมาย จนหลงลืมวิธีแสดงความรักไปบ้าง

เรื่องโดนท่านดุ เวลาโทรศัพท์หรือเล่นคอม เป็นเหมือนกันหมดทุกบ้านค่ะ เพราะพ่อแม่รักและเป็นห่วง กลัวว่าลูกจะไกลตาแล้วโดนคนไม่ดีล่อลวงไปในทางที่ผิด

อย่ากังวลค่ะ ครอบครัวของน้องเป็นครอบครัวที่ดีออกค่ะ

เอาใจแม่นะคับ ซื้อครีมให้แกใช้ 555 ลูกจ๋าจะทำอะไรก็เชิญ เหอะๆ 555 แอบดีใจ

หนูจ๋า....
พี่เข้าใจเลยค่ะ เเล้วยิ่งหนูอยู่ในช่วงวัยรุ่น ระยะห่างระหว่างวัยระหว่างหนูกับพ่อแม่ บางเรื่องท่านจะไม่เข้าใจเรา เราก็ไม่เข้าใจท่าน มันเหมือนมีช่องว่างกั้นกันอยู่

แต่สิ่งที่หนูทำได้ตอนนี้คือ ไม่ใช่ทำให้พวกท่านเข้าใจเรา เพราะบางทีการจะเปลี่ยนความคิดใครมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยาก หนูลองหันมาทำความเข้าใจพวกเค้าดูกันดีกว่า ไม่ใช่พี่บอกว่าให้หนูเลิกทำสิ่งต่างๆที่หนูทำ แต่เวลาใครบ่นหรือว่าเรา ก็ลองทำความเข้าใจเขา ว่าจุดประสงค์จริงๆที่เค้าต้องการพูดเพราะเป็นห่วงเรา เราตัวหนูเองจะไม่หงุดหงิดหรือน้อยใจ หรืออาการเหล่านั้นจะน้อยลง

พี่ก็เคยเป็นแบบหนูเลย ทุกอย่างเลย ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเลยจ้า ขนาดพี่25 แล้ว แม่พี่ก็ยังบ่นเรื่องคล้ายๆหนูเลย(พี่ก็เล่นเกมส์ เล่นfacebook เหมือนหนูนี่แหละจ้า) แต่เราก็รู้ตัวเราดีว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เราทำอย่างมีขีดจำกัด พี่ว่าตัวหนูเองก็รู้ดี เพราะไม่งั้นหนุคงไม่เรียนได้ตั้ง3.5แหนะ แสดงว่าแบ่งเวลาเป็น

ส่วนเรื่องเรียนพิเศษ ถ้าหนูคิดว่ามันจำเป็นต่อการศึกษาของหนูจริงๆ แบบว่าเรียนแล้วเราจะต้องได้ความรู้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน พี่ว่าหนูลองคุยกับพ่อแม่ ลองคุยกับพ่อหรือแม่หนู ที่หนูคิดว่าคุยได้ง่ายๆ และสบายใจก่อน ให้คนนึงอนุมัติ ถ้าคนนึงให้แล้วเค้าก็ไปเกลี้ยกล่อมอีกคนนึงได้ ค่อยๆใช้เหตุผลพูดนะค่า ว่าทำไมเราถึงคิดว่าการเรียนพิเศษสำคัญกับตัวหนู ลองเขียนสคริปต์ก่อน ถึงที่มาที่ไปแล้วเวลาหนูไปพูดจริงๆ เราจะได้ไม่ติดขัดขอได้อย่างไหลลื่น

ยังไงพี่ก็เป็นกำลังใจให้น้า....ทุกคนเคยผ่านจุดนี้หมดจ้ะ พี่รับรอง ไม่ต้องคิดว่าทำไมเป็นแต่เรานะ..แต่ก่อนพี่ก็เคยคิดแบบนี้ จนพอโตขึ้นได้คุยกับคนโน้นคนนี้มากขึ้น ทุกคนเป็นจ้ะ จะต้องมีช่วงเวลานึงที่เรารู้สึกว่า ใครๆก็ไม่เข้าใจ ใครๆก็ไม่สนใจ แล้ววันนึงความรู้สึกนั้นมันก็จะค่อยๆหายไปพอหนูโตขึ้น

แล้วพอวันนึงที่หนูมีลูก(วันนี้พี่ยังไม่มีนะจ้า อิอิ) แต่แม่พี่ชอบพูด ถ้าเรามีลูกเราก็จะเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ที่บางครั้งก็ห่วงลูกมากก ซึ่งบางครั้งการห่วงก็แสดงออกมาด้วยการ ดุด่าว่ากล่าว หรือการที่พ่อแม่เอาแต่ทำงาน เพื่อหาเงิน เพื่อวันนึงลูกๆจะได้สบาย

มีอะไรก็เข้ามาปรึกษาพี่ๆในจีบันได้นะจ้า ทุกคนยินดีรับฟัง+ให้คำปรึกษาเสมอจ้า

ให้กำลังใจจ้ะน้อง อย่าคิดมากนะ

แม่พี่ก็บ่นงี้แหละ ที่ก็ทนทายาด หน้าด้าน เล่นเน็ตไปเรื่อยๆๆ 
 
แม่บ่นกลัวเราเสียอนาคต เรียนไม่ดีอ่ะจ้า  พ่อก็กลัวเราไปโดนใครในเน็ตหลอกมั่ง

เราก็ต้องแสดงให้เห็นว่ามันมีประโยชน์แล้วก็ไม่เสียหายนะจ๊ะ

เช่น เอาเกร็ดสุขภาพความรู้จากเว็บมาเล่าให้พ่อแม่ฟังแวบๆสักห้านาที ทำบ่อยๆ

พ่อแม่ก็รุเองแหละ ว่าเราใช้คอมพ์แบบมีประโยชน์

พอถึงเวลา พี่สอบติดโควต้า ก่อนเพื่อนอีก แม่ก็ไม่บ่นเรื่องเล่นคอมพ์หามรุ่งหามค่ำเลยจ้ะ

ใจเย็นจ้ะ เดี๋ยวเรียนจบแล้วก็ต้องเหงากว่านี้เยอะ ให้กำลังใจนะ

ถ้าเหงาก็ส่งเมลล์มาคุยกะพี่ได้นะ   ยินดีจ้ะ  อย่าร้องไห้ล่ะ ^_^

love_is_etc@hotmail.com