ถามคนเคยไป WORK and TRAVEL ค่ะ

ตอนนี้น่าจะทันนะ แต่อาจต้องเร่งหน่อยค่ะ ไม่งั้นเอกสารจะไม่ทันสัมภาษณ์วีซ่าตอนต้นปีจ้ะ เราเคยไปปี 2007 กับ บ.IEO STUDY ABROAD ค่ะ ค่าใช้จ่ายโครงการ ประมาณสี่หมื่นได้ ค่าวีซ่าอีก 4,000 บาท ตั๋วเครื่องบิน 4x,xxx แล้วแต่ว่าไปกะสายการบินไหนนะ

ไปเมือง Panama City Beach, Florida ค่ะ เมืองเล็กๆที่น่ารัก ค่าครองชีพไม่แพง เราทำงานในโรงแรมบนชายหาดขาวสะอาด รอบๆบ้านมีร้านขายของแยะค่ะ Walmart, Public, มีสวนน้ำด้วยน้า
เข้าเมืองก็มี มอลล์ให้ช็อปปิ้งรวมกันในโซนเดียวกันเลย เดินทางสะดวก รถเมมีหลายสายจ้ะ
ถัดไปเมืองข้างๆก็จะเป็นชุมชน Outlet ต้องแบบว่าหาเพื่อนฝรั่งพาไปไกลนิดหนึ่ง ขับรถราว ชม.ครึ่ง เมือง Destin จ้า มีอะไรขายบ้าง? ต้อถามว่าตัวเองอยากซื้ออะไรมากกว่าเพราะ Shop มีหมด เช่น CK Adidas Nike WB Studio ร้านรวม Perfume จากยุโรป etc.

สภาพ PCB เนี่ย จะเหมือนๆกับเมืองทะเลบ้านเรา เส้นละติจูดประมาณภูเก๊ตเลยจ้า อากาศร้อนบ้าง หนาวบ้างช่วงเปลี่ยนฤดู ช่วงเราไปเนี่ย เป็น Hi-Season หางานสองง่าย ที่เที่ยวเยอะ แล้วก้ผู้คนน่ารัก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พระอาทิตย์ตกสวยจริงๆ

เรื่องเงินเราขาดทุนนะ คือ หอบเงินพ่อไปแสนสอง เอากลับมาคืนเค้าแค่ สามหมื่น ฮ่าๆ เพราะทั้งช็อป ทั้งกิน ทั้งเที่ยว เยอะเลย เราเหมา VS กลับมาเป็นสิบขวด ถึงตอนนี้ยังใช้ไม่หมด น้ำหอมเพียบ เที่ยวผับเที่ยวบาร์ทุกอาทิตย์ เที่ยวสวนน้ำ อุทยาน เที่ยวต่างเมือง ไป Walt Disney World ซื้อ Laptop ใหม่ กล้องสองตัว mp3ของsony บลา บลา บลา เยอะมากกกกกกกกกกก แต่เราว่าคุ้มนะ เพราะว่าโอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ การไปเวิร์คก้คือการซื้อประสบการณ์นั่นแหละ จะว่าไปแสนนึงอยู่ได้เกือบสามเดือน คุ้มจะตายไป

สรุปเราสนับสนุนให้ไปมากๆ


ปล.เราคงไม่มีโอกาสไปเวิร์คแล้วละจ้า เรียบจบแล้วทำงานแล้ว ต่อโทด้วย คงหมดโอกาสจิงๆ

ไปมาเมื่อต้นปีค่ะ ไปกับ americanlearning ค่ะ

- ไป florida ค่ะ เมืองชื่อ big pine key เป็นเมืองที่กันดารมากๆๆถึงมากที่สุดค่ะ เป็นเมืองผ่านไปเมือง key west(เมืองใต้สุดของอเมริกา เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังเลยค่ะ) ทั้งเมืองส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักตากอากาศของพวกคนรวยๆทางรัฐเหนือๆ พอหน้าหนาวเค้าก็จะมาอยู่กัน ก็มีแต่คนแก่ๆซะส่วนใหญ่ ทั้งเมืองมีปั๊มน้ำมันเก่าๆอยู่ 2 ปั๊ม มี supermarket 1 แห่ง ไม่มีที่ให้ช๊อปปิ้งใดๆทั้งสิ้น อ่อ มีร้านขายของมือสองเก่าๆอยู่ 1 ร้านค่ะ ไม่มีร้าน fast food ใดๆทั้งสิ้น เรื่อง second job ไม่ต้องนึกถึงเลยค่ะ หาไม่ได้แน่นอน100%  อ่อ ลืมไป อากาศร้อนเหมือนบ้านเราเลยค่ะ แดดแรงกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ ไม่แนะนำให้ไปเด็ดขาดค่ะ โดนไล่ออกด้วยอ่ะ 555 ทำได้ไม่ถึง 3 อาทิตย์เลย

- อ่อ แต่ที่พักดีมากถึงมากที่สุดค่ะ เป็นบ้านตากอากาศของพวกคนรวยนั่นแหละค่ะ บ้านติดริมทะเล มี 4 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว อยู่กัน 4 คน(ตอนหลังอยู่กันแค่ 2 โดนไล่ออกไป2) ห้องครัว กว้างขวางครบครัน โต๊ะอาหารอยู่ตรงระเบียงริมทะเล (หรูมาก 555) มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบให้พร้อมอาทิตย์ละ 100 $ (แต่ไม่ได้จ่ายนะ อยากไล่ออกดีนัก 555)

- หลังจากโดนไล่ออกก็ย้ายรัฐค่ะ ดำเนินการเองหมดเลย ก็เลยขาดทุนย่อยยับค่ะ
 

1. ทันค่ะ แต่รีบหน่อยก็ดี เพราะเดี๋ยวพวกโปรโมชั่นกับงานดีดีจะหมด

2. ไปกับ Thiaclickeducation ไม่ประทับใจเท่าไหร่ จ่ายไปประมาณ 4 หมื่นต้นๆ คิดว่าของ acadex ดีกว่าค่ะ เพราะงานดีกว่า แล้วดูแลดีกว่า ราคาก้ต่างกันไม่มากค่ะ

3. รอบที่แล้วไปฮาวายมา แต่ไม่ได้ไปอยู่ honnolulu ไปอยุ่ที่เกาะ Kauai ค่ะ เป็นเมืองที่เป็นเขตคนอยู่มากกว่าเมืองท่องเที่ยว ทำให้คนค่อนข้างเป็นมิตรมาก แล้วคนก็เหมือนจะรู้จักกันเกือบทั้งเกาะเลย เวลาไปกินข้าวกลางวันก็จะมีลุงๆป้าๆมารับไปกินข้าวฟรีทุกวันค่ะ เป็นการประหยัด
เรื่องนี้จริงๆต้องขึ้นอยู่กับเมือง ก็เหมือนบ้านเราค่ะ ถ้าเลือกเมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยว คนก็ไม่ค่อยสนิทกัน เพราะทุกคนต่างมาแล้วก็ไป แล้วก็จะหวังเรื่องการค้าขายมากหน่อย เมืองใหญ่น้ำใจก็น้อยหน่อย ถ้าเมืองที่เป็นชนบทหน่อย คนก็เป็นมิตร ใจดี ถ้าเราพร้อมจะคุย เค้าก็พร้อมจะช่วยเหลือเราอยุ่แล้วค่ะ
ทำงานที่แมคโดนัล แล้วขอเค้าทำกะดึกอย่างเดียว เพราะกลางวันเก็บไว้เที่ยว ทำงานพวกร้านอาหารจะดีตรงที่เราจะได้ของกินกลับมาด้วย แต่ไม่ว่างานไหนๆก็หนักเหมือนกัน งานโรงแรมบางทีก็ไม่ได้ทิปอย่างที่คิดน่ะค่ะ เพราะบางทีเค้าก็จะมีคนคุมเราอีกที แล้วคนนั้นก็จะเก็บทิปไปก่อนตอนตรวจเช็คห้องก่อนให้เราเข้าทำงาน
ตอนที่เลือกไปฮาวายเพราะเป็นภาคอินเตอร์ไป ตอนซัมเมอร์เดียวกับที่อเมริกาซัมเมอร์ เลยอยากจะไปทะเลมาก เลยเลือกที่ๆเป็นทะเลแล้วก็ได้ไปเล่นทะเลเกือบทุกวันกลับมาดำปี๋ เลือกตามความชอบว่าอยากไปเมืองแบบไหนดีกว่าน่ะค่ะ เมืองไหนที่อยากไป เพราะว่าเราต้องไปใช้ชีวิตที่นั้นตั้งหลายเดือน
ถ้าถามเรื่องภาษา ถ้าไปกับเพื่อนคนไทยแล้วอยู่แต่กับเพื่อนๆไม่ไปคุยเล่นกับคนอื่นก็คงไม่ได้อะไร แต่เราไปมีคนไทยไปด้วยอีก 2 คน ไม่สนิทกันมาก เราก็ไปหาเพื่อนที่โน้นเยอะแยะค่ะ ได้ใช้ภาษาตลอดทุกวัน วันอาทิตย์ก็มีลุงป้ามารับไปโบสถ์ด้วยกัน แล้วก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆที่นั้น ไปล่องเรือเที่ยว ดูอารัยเยอะแยะ ส่วนใหญ่ฟรีเกือบหมด เพราะเรารู้จักคนเยอะเค้าเลยให้เข้าฟรี อีกอย่างเค้ารู้ด้วยว่าเราเสียค่าโครงการไปแพง แล้วเราไปคนเดียว เราทำงานค่อนข้างขยันมาก ไม่ได้ชมตัวเองน่ะค่ะ แต่แบบว่าทำโคตรเยอะ เวลาคนมันเยอะจัดๆ เราวิ่งคิดเงิน 2 ประตู เทคออร์เดอร์เอง ทำเบอร์เกอร์เอง ทอดเฟรชฟรายแล้วก็นักเก็ตของอื่นไปพร้อมกันหมด เพราะว่าคนที่จะมาส่งของให้เราก็ทำงานไม่ทันเลยต้องทำเอง อีกอย่างเราเป็นคนใจร้อน ใครทำอะไรไม่ทันใจก็จะรีบทำเองเลย แต่ว่าเราเป็นโรคจิตยิ้มทั้งวัน ไม่ว่าลูกค้าจะชมจะว่าก็นยิ้มรับไว้ก่อน เพราะว่าเวลาลูกค้าโกรธ เห็นเรายิ้มเค้าก็จะลดความโกรธลง ส่วนใหญ่ลูกค้าน่ารัก ลูกค้าก็เลยเอ็นดูค่ะ

4. จริงที่พักแล้วแต่สถานที่น่ะค่ะ อย่างที่ไปพักนี้ แพงมาก 400 ต่อเดือน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเคเบิ้ลโทรศัพท์แยกหมด เวลาเซ็นสัญญาดูดีดีน่ะค่ะว่าพวก utility cost เค้าคิดยังไงบ้าง แพงมากน้อยแค่ไหน ตอนที่ไปนี้ ค่าบ้าน 400 แล้วเจอค่าสาธรณูปโภคเค้าไปอีก 100 กว่า น้ำตาจะไหลเลยค่ะ ส่วนเรื่องขนาดของที่พัก พักได้กี่คนนี้ มันแล้วแต่สถานที่เลยค่ะ ถ้าได้นายจ้างแล้วลองสอบถามไปก่อนที่จะไปก็ได้ค่ะ
บางที่เวลาทำงานแล้วเค้าจะมีสวัสดิการช่วยเหลือเรื่องค่าบ้าน อย่างที่ทำแมคนี้ ถ้าทำงานได้เวลาขั้นต่ำของเค้า เค้าจะมีเงินช่วยค่าบ้าน 150 เหรียญต่อเดือนให้ค่ะ อันนี้จะมีเขียนในสัญญาเลย

5. ไม่ได้ค่ะ เพราะไปอยู่น้อย ขาดทุนไปประมาณ 2 หมื่นก่าได้ เหนื่องจากมีเวลาซัมเมอร์แึ้ค่ 2 เดือนนิดหน่อย เลยอยู่ได้น้อย แต่เพื่อนคนที่เป็นภาคไทยไปอยู่ก่อนเค้าอยู่เต็มเกือบ 4 เดือนนี้ ได้กำไรกลับมา ใช้ชีวิตอย่างราชาเลยค่ะตอนอยู่ที่นั้น

ps. ค่าแรงที่ไป 7.85 OT 1.5 ค่ะ
ตอนก่อนกลับขอเค้าทำงานเพิ่ม 22 วันติดกันไม่มีวันหยุด แล้วทำวันเฉลี่ยนประมาณวันละ 10 ชั่วโมง
ได้ทิปจากลูกค้าที่น่ารักมาอีกเกือบ 500 เหรียญ
ของฝากแทบไม่ได้ซื้อเพราะลูกค้าเอามาให้จนแบกกลับไม่ไหวค่ะ รวมของเล่นแมคที่แอบเอากลับมาด้วย หุหุ
ขอให้โชคดีน่ะค่ะ

ชราภาพแบบอายุ 30 up สามารถไปได้ป่ะจ๊ะ เด็ก ๆ ช่วยตอบหน่อยจ๊ะ