Review:: สกินแคร์เซ็ท Origins Make A Difference
feonalita42วันนี้ขอมารีวิว Skincare นะคะ หลังจากใช้มาได้ครึ่งนึงแล้วค่ะ
เริ่มใช้เซ็ทนี้ตั้งแต่วันที 15 สิงหาที่ผ่านมาค่ะ จนถึงตอนนี้หมดไปอย่างละครึ่ง
เราว่าเห็นผลแล้วหละ เห็นจนหลายๆคนอึ้งไปเลยค่ะ ^^
"ทำความเข้าใจกันก่อนว่า รีวิวนี้เป็นผลจากการใช้จริง ไม่ใช่เพื่อการค้า
เพราะทรายเสียเงินซื้อจริงใช้กับหน้าตัวเองจริงและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ
และจะซื้อต่อในอนาคต รูปภาพทั้งหมด ไม่มีการตบแต่งอะไรทั้งสิ้น
ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลธรรมดา แค่แปะลายน้ำใน photoscape เท่านั้นค่ะ"
ข้อมูลผิวเบื้องต้น :
1. ผิวขาวอมชมพู เนื้อผิวค่อนข้างละเอียด
2. ผิวแพ้ง่าย ไวต่อการระคายเคือง
3. มีสิว และรูขุมขนกว้าง
4. ไม่ค่อยมีริ้วรอยเหี้ยวย่น แต่มีรอยแผลเป็นรอยแดง รอยดำ
5. ผิวแห้งขาดน้ำ
Background:
เริ่มใช้สกินแคร์มาตั้งแต่อายุประมาณ 14 ปีค่ะ ก็ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนและมีสิวนั่นแหละค่ะ
เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมันค่ะ เพราะว่าชอบมีน้ำมันบนใบหน้า และสิวขึ้น จำนวนมาก
เมื่อไม่นามนี้เพิ่งรู้ตัว จากการไปเช็คสภาพผิว ว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้ง น้ำในชั้นผิวแทบไม่มี
ที่รู้สึกว่าหน้ามีน้ำมันมาก ก็เพราะว่า ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมัน ทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันออกมา
เพื่อที่จะหล่อเลี้ยง ไม่ให้ผิวแห้ง บวกกับแต่งหน้าด้วย ทำให้น้ำมันอุดตันรูขุมขนและเกิดสิว
ทางแก้คือ เลือกสกินแคร์ให้ถูกกับสภาพผิว และแก้ปัญหาให้ตรงจุด ทั้งนี้ รอยู่ในห้องแอร์ตลอด
เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้นค่ะ
สกินแคร์ที่เลือกใช้ :
ตั้งใจเลือกซื้อออริจินมาใช้ค่ะ เคยได้ตัวtreatment มาใช้แล้วไม่แพ้ เพราะปกติเป็นคนแพ้ง่ายมาก
เลยไม่ค่อยกล้าที่จะลองสกินแคร์เท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจลองใช้แบรนด์นี้จริงจังคะ ปรึกษาปัญหาให้ BA ฟัง
เค้าแนะนำเซ็ท Make a Difference เพราะว่าจะช่วยบำรุงฟื้นฟูและเติมน้ำให้ผิว จากไลฟ์สไตล์ที่ทำร้าย
ผิวหน้าของทราย คือ นอนดึก อยู่แอร์ตลอด และอาบน้ำอุ่น ทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้ว แห้งกร้านกว่าเดิมค่ะ
----------------------------
Before: ก่อนจะใช้ Make A Difference
หน้าเปล่าลงสกินแคร์แล้ว
หลังจากแต่งหน้ากลบรอยสุดๆแล้ว ก็ยังคงเห็นรอยสิว และอื่นๆมากมากมายค่ะ
After: หลังจากใช้Make A Difference ได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง
หน้าเปล่าลงสกินแคร์แล้ว
หลังแต่งหน้าแล้ว
--------------------------
Review ผลิตภัณฑ์ [ขอใช้ภาพจากเว็ปนะ ไม่ได้ถ่ายแยกไว้ทิ้งกล่องไปแล้วค่ะ
รีวิวเรียงตามขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ผิดถูกมะรู้เน้อ]
1.Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating Cleansing Milk
ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งน้ำนม ลักษณะเนื้อเป็นกึ่งครีมนะคะไม่เหนียวมาก แต่ก็เป็นครีมๆ
ตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นตัวที่ทำความสะอาดในขั้นตอนเดียวค่ะ จริงๆเวลาใช้จะรู้สึกว่า
ทำไมมันเหมือนไม่สะอาดเลย เพราะมันไม่มีฟอง เราเคยถาม BA ว่าแน่ใจหรอ
ใช้ล้างหน้าแทนพวกโฟมอะไรอย่างงี้ได้ เพราะรู้สึกเหมือนไม่ได้ล้างเลย เค้าบอกว่า
ใช้ได้แน่นอน เราก็เลยใช้มาตลอด แต่ก่อนที่จะล้างตัวนี้เราก็เช็ดเครื่องสำอางค์ออกแล้ว
เสต็ปนึงด้วยนะคะ ที่เราชอบมากคือกลิ่นหอมสุดๆแล้วล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง กำลังสบายๆ
เหมือนที่เค้าเคลมว่า ออกแบบเพื่อสาวเอเชียและไม่ทำให้เสียสมดุลผิว แต่ว่าบีบเยอะหน่อย
ไม่งั้นไหลตามน้ำหมดแน่ๆ
2. Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment Lotion
หลังจากล้างหน้าเสร็จก็เทตัวนี้ลงบนสำลีแล้วก็ทาให้ทั่วหน้าค่ะ ถ้าเราจำไม่ผิดตัวนี้จะช่วยประโลมผิว
จากการระคายเคือง และเตรียมพร้อมสำหรับครีมที่จะลงต่อไป เราใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่า ถ้าไม่ล้างด้วยCleanser
ของออริจินส์เอง จะรู้สึกแสบๆหน้าค่ะ ไม่แน่ใจว่ามันมีผลอะไรกันหรือเปล่า แต่ก็ชอบเวลาที่เช็ดกับผิวหน้า
รู้สึกว่าผิวผ่อนคลายดีค่ะ จริงๆยี่ห้อนี้มีกลิ่นผ่อนคลายแทบทุกตัว ฮ่าๆ
3. Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment Serum
ซีรั่มตัวนี้แพงที่สุดในเซ็ทค่ะ ถ้าจำไม่ผิด 2300 ได้ ขวดเล็กจิดเดียว ตอนแรกก็คิดนาน
ว่าจะทาได้สักกี่หน้า เรามันคนเนื้อที่หน้าเยอะอีกต่างหาก แต่ก็ลองเอามาดู เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น
ไหนๆก็คิดจะใช้แล้ว ก็เอามา ถึงตอนนี้ก็หมดไปแค่ครึ่งขวดเองค่ะ ใช้คุ้มมมม เนื้อซีรั่ม
เป็นแบบนุ่ม และเหมือนน้ำๆหน่อย ไม่เหนียว ซึมเร็วเราว่าทาแล้วรู้สึกผิวมันนุ่มขึ้น
ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่สุดกว่าทุกตัวในไลน์นี้ค่ะ จากความคิดเราเองตัวนี้จะบำรุงลึกล้ำ
กว่าตัวอื่น ก็มันเป็นเซรั่มนี่เนอะ - -' ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้เยอะที่สุดค่ะ
4. Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment
ตัวนี้เป็นทรีทเมนต์ค่ะ เป็นตัวแรกที่เราเอามาลองใช้ แล้วไม่แพ้ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ทั้งเซ็ท
ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เราชอบที่สุดในบรรดาทุกตัว เพราะว่าเนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก
ตัวนี้เป็นเนื้อเจล ไม่เหนียวเลย สบายผิวหน้ามาก แถมตอนที่ทา กลิ่นของครีมจะเป็นกลิ่นเหมือน
ในสปาเค้าใช้กัน ผ่อนคลายมาก ปลื้มค่ะ พนักงานบอกว่า ทรีทเมนต์ตัวนี้ขายดี เราก็ว่าน่าจะขายดี
ขนาดเราลองใช้กระปุกแรกยังติดใจ ใช้แล้วผิวรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมากเลยค่ะ จริงๆคุณสมบัติของตัวนี้
คือจะช่วยประโลมผิว และทำให้ริ้วรอย หมองคล้ำแห้งเสียดูจางลงและผิวดีขึ้นค่ะ
5.Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating moisturizer
ตัวนี้กลิ่นแรงนิดหน่อยค่ะ เนื้อไม่นุ่ม แต่ซึมเร็วมากเหมือนกัน ไม่เหนียวเลย
เป็นมอยเจอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แล้วก็รักษาความชุ่มชื้นของผิว ทาแล้วรู้สึกเหมือนพรมน้ำให้หน้า
เวอร์มะ เรารู้สึกแบบนั้นนะ หลังจากที่ทาหมดทุกตัวแล้ว ^^ ผิวมันสบายเหมือนได้สปาผิวทุกวัน
ด้านราคา :
สำหรับเรา เราว่าไม่แพงถ้าเทียบกับปริมาณที่ใช้จริง ณ ปัจจุบันเราใช้ได้สองเดือนแล้วทุกอย่างหมดไป
แค่ครึ่งขวด ก็เท่ากับว่าเราจะใช้ได้อีกประมาณ 3เดือนครึ่ง ถึงสี่เดือน หารกันเป็นรายเดือนแล้วถูกมากค่ะ
(ราคาเราจำได้ไม่หมด รบกวนสอบถามเคาเตอร์เองนะคะ)ล
ด้านคุณภาพ :
เราพอใจมาก เพราะเราเห็นผลจริง และเราไม่แพ้โชคดีมากๆ ที่ได้เจอสกินแคร์ถูกกับผิว
อีกอย่างของเค้าทำจากธรรมชาติและให้อารมณ์ผ่อนคลายมาก เราชอบตรงนี้ที่สุดค่ะ
ด้านแพ็คเกจจิ้ง :
ขวดกระปุกเป็นกระปุกแก้ว เราเคยทำตกพื้นไม่แตกค่ะ แต่ปาแรงๆก็คงไม่รอด
แพ็คเกจปิดสนิทดี ไม่เลอะเทอะ ไม่หก พกง่าย ขวดเซรั่มก็มีที่ครอปกันกดมาให้ด้วยค่ะ
สรุป :
เราจะไม่ให้คะแนนกับสกินแคร์ที่เรารีวิว เพราะว่าเราชอบเซ็ทนี้ ก็คงได้เกือบเต็มหมด
เพราะว่าเราใช้แล้วถูกกับผิว และเห็นผลจริงๆ ดังนั้นอย่าถามเราว่าผิวแบบนี้ๆจะใช้แล้วดีมั๊ย?
จะเห็นผลไหม? จะแพ้ไหม? เราบอกตรงๆเราไม่ทราบค่ะ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนในโลกนี้
ไม่มีใครที่ผิวเหมือนกัน อยากรู้ต้องลองค่ะ แต่ก่อนจะลองก็ต้องคิดดีๆก่อน เพราะว่า
ถ้าหน้าแหกครั้งนึงแล้ว จะเละไปอีกนาน จำไว้นะคะ แผลหนึ่งแผลใช้เวลาสมานและหายเป็น
สีผิวปกติใช้เวลา 6 เดือนสำหรับรอยสิวเล็กๆค่ะ
วันนี้ก็ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ ขอให้สาวๆโชคดีเจอกับสกินแคร์ที่ถูกใจและมีผิวสวยใสจากภายในค่า
Discussion (42)
1. mask หน้า Drink Up
2. Make A Difference Cleasing Milk
3. Make A Difference Skin rejuvenating treatment
4. High Potency Night-A-Mins
5. Night Health Bedtime Balm
6. Peace Of Mind
เราเพิ่งเริ่มใช้ได้ 2-3 วันเอง ก่อนหน้านี้ หน้าเราแพ้ง่าย ผิวบางมาก ปกติจะใช้เครื่องสำอางค์ตัวไหนก็มักจะ 3 วันดี 4 วัน ลอกเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาหน้าลอกต้องทายาหมอ 1-2 วันถึงจะหาย ก่อนหน้านี้เราใช้เครื่องสำอางค์อยู่หลายยี่ห้อ ก่อนจะมาใช้ Origins เราใช้ Clarins, Shiseido, Cosme decorte และ Biotherm อยู่ ซึ่ง Clarins ตัว Hydra-Matte Lotion ที่ใช้อยู่นี้กับ Biotherm Aquasource Non Stop สีเขียว ทั้ง 2 ตัวนี้ ก็ถือว่าใช้ดีอยู่แล้ว เหมาะกับผิวแห้งและขาดน้ำอย่างเรา แต่พอลองใช้ Make a Dif Skin rejuvenating treatment และ Night-A-Mins แล้ว รู้สึกดีมากเลย ก่อนที่เราจะเริ่มใช้ หน้าเราลอกเป็นขุย ๆ แห้งและคัน หลังจากเมื่อคืนที่เริ่มใช้ตื่นมา หน้าที่เคยลอก หายไปเป็นปลิดทิ้งเลย ถูกใจมาก ๆ ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ mask หน้า Drink Up ซึ่งสามารถทาทิ้งไว้แล้วตามด้วยตัว treatment แล้วเข้านอนเลย ตื่นเช้ามาหน้าจะดีมาก ๆ เลย แต่ตอนนี้ Clarins กับ Biotherm ยังไม่หมด คิดว่าจะเอามาใช้ด้วยกันได้เลยค่ะ เพราะ BA บอกว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ คิดว่าต่อไปคงเปลี่ยนมาใช้ origins ทั้งหมดเลยค่ะ
ผิวหน้าดีขึ้นมากๆ เลยค่ะ
ยินดีด้วยนะคะ