Review:: สกินแคร์เซ็ท Origins Make A Difference

วันนี้ขอมารีวิว Skincare นะคะ หลังจากใช้มาได้ครึ่งนึงแล้วค่ะ

เริ่มใช้เซ็ทนี้ตั้งแต่วันที 15 สิงหาที่ผ่านมาค่ะ จนถึงตอนนี้หมดไปอย่างละครึ่ง

เราว่าเห็นผลแล้วหละ เห็นจนหลายๆคนอึ้งไปเลยค่ะ ^^

"ทำความเข้าใจกันก่อนว่า รีวิวนี้เป็นผลจากการใช้จริง ไม่ใช่เพื่อการค้า

เพราะทรายเสียเงินซื้อจริงใช้กับหน้าตัวเองจริงและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ

และจะซื้อต่อในอนาคต รูปภาพทั้งหมด ไม่มีการตบแต่งอะไรทั้งสิ้น

ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลธรรมดา แค่แปะลายน้ำใน photoscape เท่านั้นค่ะ"

ข้อมูลผิวเบื้องต้น :

1. ผิวขาวอมชมพู เนื้อผิวค่อนข้างละเอียด

2. ผิวแพ้ง่าย ไวต่อการระคายเคือง

3. มีสิว และรูขุมขนกว้าง

4. ไม่ค่อยมีริ้วรอยเหี้ยวย่น แต่มีรอยแผลเป็นรอยแดง รอยดำ

5. ผิวแห้งขาดน้ำ

Background:

เริ่มใช้สกินแคร์มาตั้งแต่อายุประมาณ 14 ปีค่ะ ก็ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนและมีสิวนั่นแหละค่ะ

เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมันค่ะ เพราะว่าชอบมีน้ำมันบนใบหน้า และสิวขึ้น จำนวนมาก

เมื่อไม่นามนี้เพิ่งรู้ตัว จากการไปเช็คสภาพผิว ว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้ง น้ำในชั้นผิวแทบไม่มี

ที่รู้สึกว่าหน้ามีน้ำมันมาก ก็เพราะว่า ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมัน ทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันออกมา

เพื่อที่จะหล่อเลี้ยง ไม่ให้ผิวแห้ง บวกกับแต่งหน้าด้วย ทำให้น้ำมันอุดตันรูขุมขนและเกิดสิว

ทางแก้คือ เลือกสกินแคร์ให้ถูกกับสภาพผิว และแก้ปัญหาให้ตรงจุด ทั้งนี้ รอยู่ในห้องแอร์ตลอด

เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้นค่ะ

สกินแคร์ที่เลือกใช้ :

ตั้งใจเลือกซื้อออริจินมาใช้ค่ะ เคยได้ตัวtreatment มาใช้แล้วไม่แพ้ เพราะปกติเป็นคนแพ้ง่ายมาก

เลยไม่ค่อยกล้าที่จะลองสกินแคร์เท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจลองใช้แบรนด์นี้จริงจังคะ ปรึกษาปัญหาให้ BA ฟัง

เค้าแนะนำเซ็ท Make a Difference เพราะว่าจะช่วยบำรุงฟื้นฟูและเติมน้ำให้ผิว จากไลฟ์สไตล์ที่ทำร้าย

ผิวหน้าของทราย คือ นอนดึก อยู่แอร์ตลอด และอาบน้ำอุ่น ทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้ว แห้งกร้านกว่าเดิมค่ะ

----------------------------

Before: ก่อนจะใช้ Make A Difference

หน้าเปล่าลงสกินแคร์แล้ว

หลังจากแต่งหน้ากลบรอยสุดๆแล้ว ก็ยังคงเห็นรอยสิว และอื่นๆมากมากมายค่ะ

After: หลังจากใช้Make A Difference ได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง

หน้าเปล่าลงสกินแคร์แล้ว

หลังแต่งหน้าแล้ว

--------------------------

Review ผลิตภัณฑ์ [ขอใช้ภาพจากเว็ปนะ ไม่ได้ถ่ายแยกไว้ทิ้งกล่องไปแล้วค่ะ

รีวิวเรียงตามขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ผิดถูกมะรู้เน้อ]


 

1.Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating Cleansing Milk

ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งน้ำนม ลักษณะเนื้อเป็นกึ่งครีมนะคะไม่เหนียวมาก แต่ก็เป็นครีมๆ

ตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นตัวที่ทำความสะอาดในขั้นตอนเดียวค่ะ จริงๆเวลาใช้จะรู้สึกว่า

ทำไมมันเหมือนไม่สะอาดเลย เพราะมันไม่มีฟอง เราเคยถาม BA ว่าแน่ใจหรอ

ใช้ล้างหน้าแทนพวกโฟมอะไรอย่างงี้ได้ เพราะรู้สึกเหมือนไม่ได้ล้างเลย เค้าบอกว่า

ใช้ได้แน่นอน เราก็เลยใช้มาตลอด แต่ก่อนที่จะล้างตัวนี้เราก็เช็ดเครื่องสำอางค์ออกแล้ว

เสต็ปนึงด้วยนะคะ ที่เราชอบมากคือกลิ่นหอมสุดๆแล้วล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง กำลังสบายๆ

เหมือนที่เค้าเคลมว่า ออกแบบเพื่อสาวเอเชียและไม่ทำให้เสียสมดุลผิว แต่ว่าบีบเยอะหน่อย

ไม่งั้นไหลตามน้ำหมดแน่ๆ


2.
 Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment Lotion

หลังจากล้างหน้าเสร็จก็เทตัวนี้ลงบนสำลีแล้วก็ทาให้ทั่วหน้าค่ะ ถ้าเราจำไม่ผิดตัวนี้จะช่วยประโลมผิว

จากการระคายเคือง และเตรียมพร้อมสำหรับครีมที่จะลงต่อไป เราใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่า ถ้าไม่ล้างด้วยCleanser

ของออริจินส์เอง จะรู้สึกแสบๆหน้าค่ะ ไม่แน่ใจว่ามันมีผลอะไรกันหรือเปล่า แต่ก็ชอบเวลาที่เช็ดกับผิวหน้า

รู้สึกว่าผิวผ่อนคลายดีค่ะ จริงๆยี่ห้อนี้มีกลิ่นผ่อนคลายแทบทุกตัว ฮ่าๆ


3. Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment Serum

ซีรั่มตัวนี้แพงที่สุดในเซ็ทค่ะ ถ้าจำไม่ผิด 2300 ได้  ขวดเล็กจิดเดียว ตอนแรกก็คิดนาน

ว่าจะทาได้สักกี่หน้า เรามันคนเนื้อที่หน้าเยอะอีกต่างหาก แต่ก็ลองเอามาดู เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น

ไหนๆก็คิดจะใช้แล้ว ก็เอามา ถึงตอนนี้ก็หมดไปแค่ครึ่งขวดเองค่ะ ใช้คุ้มมมม เนื้อซีรั่ม

เป็นแบบนุ่ม และเหมือนน้ำๆหน่อย ไม่เหนียว ซึมเร็วเราว่าทาแล้วรู้สึกผิวมันนุ่มขึ้น

ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่สุดกว่าทุกตัวในไลน์นี้ค่ะ จากความคิดเราเองตัวนี้จะบำรุงลึกล้ำ

กว่าตัวอื่น ก็มันเป็นเซรั่มนี่เนอะ - -' ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้เยอะที่สุดค่ะ


4.
 Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating treatment

ตัวนี้เป็นทรีทเมนต์ค่ะ เป็นตัวแรกที่เราเอามาลองใช้ แล้วไม่แพ้ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ทั้งเซ็ท

ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เราชอบที่สุดในบรรดาทุกตัว เพราะว่าเนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก

ตัวนี้เป็นเนื้อเจล ไม่เหนียวเลย สบายผิวหน้ามาก แถมตอนที่ทา กลิ่นของครีมจะเป็นกลิ่นเหมือน

ในสปาเค้าใช้กัน ผ่อนคลายมาก ปลื้มค่ะ พนักงานบอกว่า ทรีทเมนต์ตัวนี้ขายดี เราก็ว่าน่าจะขายดี

ขนาดเราลองใช้กระปุกแรกยังติดใจ ใช้แล้วผิวรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมากเลยค่ะ จริงๆคุณสมบัติของตัวนี้

คือจะช่วยประโลมผิว และทำให้ริ้วรอย หมองคล้ำแห้งเสียดูจางลงและผิวดีขึ้นค่ะ


5.Make A DifferenceTM Skin Rejuvenating moisturizer

ตัวนี้กลิ่นแรงนิดหน่อยค่ะ เนื้อไม่นุ่ม แต่ซึมเร็วมากเหมือนกัน ไม่เหนียวเลย

เป็นมอยเจอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แล้วก็รักษาความชุ่มชื้นของผิว ทาแล้วรู้สึกเหมือนพรมน้ำให้หน้า

เวอร์มะ เรารู้สึกแบบนั้นนะ หลังจากที่ทาหมดทุกตัวแล้ว ^^ ผิวมันสบายเหมือนได้สปาผิวทุกวัน


ด้านราคา :

สำหรับเรา เราว่าไม่แพงถ้าเทียบกับปริมาณที่ใช้จริง ณ ปัจจุบันเราใช้ได้สองเดือนแล้วทุกอย่างหมดไป

แค่ครึ่งขวด ก็เท่ากับว่าเราจะใช้ได้อีกประมาณ 3เดือนครึ่ง ถึงสี่เดือน หารกันเป็นรายเดือนแล้วถูกมากค่ะ

(ราคาเราจำได้ไม่หมด รบกวนสอบถามเคาเตอร์เองนะคะ)ล


ด้านคุณภาพ :

เราพอใจมาก เพราะเราเห็นผลจริง และเราไม่แพ้โชคดีมากๆ ที่ได้เจอสกินแคร์ถูกกับผิว

อีกอย่างของเค้าทำจากธรรมชาติและให้อารมณ์ผ่อนคลายมาก เราชอบตรงนี้ที่สุดค่ะ


ด้านแพ็คเกจจิ้ง :

ขวดกระปุกเป็นกระปุกแก้ว เราเคยทำตกพื้นไม่แตกค่ะ แต่ปาแรงๆก็คงไม่รอด

แพ็คเกจปิดสนิทดี ไม่เลอะเทอะ ไม่หก พกง่าย ขวดเซรั่มก็มีที่ครอปกันกดมาให้ด้วยค่ะ


สรุป :

เราจะไม่ให้คะแนนกับสกินแคร์ที่เรารีวิว เพราะว่าเราชอบเซ็ทนี้ ก็คงได้เกือบเต็มหมด

เพราะว่าเราใช้แล้วถูกกับผิว และเห็นผลจริงๆ ดังนั้นอย่าถามเราว่าผิวแบบนี้ๆจะใช้แล้วดีมั๊ย?

จะเห็นผลไหม? จะแพ้ไหม? เราบอกตรงๆเราไม่ทราบค่ะ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนในโลกนี้

ไม่มีใครที่ผิวเหมือนกัน อยากรู้ต้องลองค่ะ แต่ก่อนจะลองก็ต้องคิดดีๆก่อน เพราะว่า

ถ้าหน้าแหกครั้งนึงแล้ว จะเละไปอีกนาน จำไว้นะคะ แผลหนึ่งแผลใช้เวลาสมานและหายเป็น

สีผิวปกติใช้เวลา 6 เดือนสำหรับรอยสิวเล็กๆค่ะ

วันนี้ก็ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ ขอให้สาวๆโชคดีเจอกับสกินแคร์ที่ถูกใจและมีผิวสวยใสจากภายในค่า

 

Discussion (42)

ว้าว ดีใจด้วยนะน้องทราย
ขอมา review ด้วยคนค่ะ ตอนนี้เพิ่งเริ่มใช้ origins รุ่น Make A Difference เหมือนกันค่ะ เป็นคนผิวบาง แห้ง แล้วแพ้ง่าย ก่อนหน้านี้ BA เคยให้ตัวอย่าง mask หน้าตัวใหม่ ชื่อ Drink Up Intensive มาลองใช้ดู ก็ชอบกลิ่นมาก ๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเกิดอาการคลั่ง origins ขึ้นมาก โดยลองซื้อ
1. mask หน้า Drink Up
2. Make A Difference Cleasing Milk
3. Make A Difference Skin rejuvenating treatment
4. High Potency Night-A-Mins
5. Night Health Bedtime Balm
6. Peace Of Mind

เราเพิ่งเริ่มใช้ได้ 2-3 วันเอง ก่อนหน้านี้ หน้าเราแพ้ง่าย ผิวบางมาก ปกติจะใช้เครื่องสำอางค์ตัวไหนก็มักจะ 3 วันดี 4 วัน ลอกเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาหน้าลอกต้องทายาหมอ 1-2 วันถึงจะหาย ก่อนหน้านี้เราใช้เครื่องสำอางค์อยู่หลายยี่ห้อ ก่อนจะมาใช้ Origins เราใช้ Clarins, Shiseido, Cosme decorte และ Biotherm อยู่ ซึ่ง Clarins ตัว Hydra-Matte Lotion ที่ใช้อยู่นี้กับ Biotherm Aquasource Non Stop สีเขียว ทั้ง 2 ตัวนี้ ก็ถือว่าใช้ดีอยู่แล้ว เหมาะกับผิวแห้งและขาดน้ำอย่างเรา แต่พอลองใช้ Make a Dif Skin rejuvenating treatment และ Night-A-Mins แล้ว รู้สึกดีมากเลย ก่อนที่เราจะเริ่มใช้ หน้าเราลอกเป็นขุย ๆ แห้งและคัน หลังจากเมื่อคืนที่เริ่มใช้ตื่นมา หน้าที่เคยลอก หายไปเป็นปลิดทิ้งเลย ถูกใจมาก ๆ ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ mask หน้า Drink Up ซึ่งสามารถทาทิ้งไว้แล้วตามด้วยตัว treatment แล้วเข้านอนเลย ตื่นเช้ามาหน้าจะดีมาก ๆ เลย แต่ตอนนี้ Clarins กับ Biotherm ยังไม่หมด คิดว่าจะเอามาใช้ด้วยกันได้เลยค่ะ เพราะ BA บอกว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ คิดว่าต่อไปคงเปลี่ยนมาใช้ origins ทั้งหมดเลยค่ะ
 คุณทรายมาแอบถาม พอรุ็ว่าผิวเราแห้งแล้วเราเปลี่ยนพวกสกินแคร์ในการบำรุงลแล้วหน้าหายมันปะคะ เพราะแพรวไม่เคยเชคเลยว่าผิวมันหรือแห้งอะแต่เหมือนจะเป็นเหมือนคุณทรายในตอนแรกๆที่หน้าจะมันตลอดเวลา ต้องแอบไปเชคมั้งละ แต่เห็นผลจริงๆคะ 1 เดือนหน้าคุณทรายเรียบขึ้นมากๆเลย
ดูจากรูป Before - After

ผิวหน้าดีขึ้นมากๆ เลยค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ
เห็นความแตกต่างเลย อยากลอง Origins เหมือนกันค่ะ