เปรียบเทียบแป้งผสมรองพื้น Sheene’
ชฎาแหลม 1 91
หมักดองไว้นานมากรีวิวอันนี้พอดีตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่แล้วก็งานเยอะ งานยุ่งมาโดยตลอด ชีพจรลงเท้าไปนั่นมานี่ ไม่ว่างเว้น อาทิตย์นี้ก็ได้ฤกษ์ซั้กทีหนอ อิอิ แอบบ่นๆ หน่อย
ตั้งแต่ได้แป้งผสมรองพื้น sheene’ ทั้ง 2 รุ่นมาลองใช้ได้พักใหญ่ไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ขอบอกว่าอิชั้นถูกอกถูกใจหลายๆ ประทับใจกับคุณภาพของแป้ง ที่คุ้มเกินราคาน่ารัก คือ ทุกวันนี้ถ้าตื่นสาย คิดอะไรไม่ออก ก็ควัก sheene' มาทา ก็เอาติดกระเป๋าไว้เลย อิอิ ของถูกและดียังมีอยู่จริงเด้อ จริงๆ แล้วก็มีหลายแบรนด์ซะด้วยจากการลองด้วยตัวเอง เอ้าเรามาเข้าเรื่องการรีวิวเปรียบเทียบคุณภาพ + คุณสมบัติของแป้งผสมรองพื้นที่ว่ากันดีกว่า ว่าดีเลิศยังไงอิชั้นถึงได้ติดใจถึงต้องมารีวิวกัน
ตั้งแต่ได้แป้งผสมรองพื้น sheene’ ทั้ง 2 รุ่นมาลองใช้ได้พักใหญ่ไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ขอบอกว่าอิชั้นถูกอกถูกใจหลายๆ ประทับใจกับคุณภาพของแป้ง ที่คุ้มเกินราคาน่ารัก คือ ทุกวันนี้ถ้าตื่นสาย คิดอะไรไม่ออก ก็ควัก sheene' มาทา ก็เอาติดกระเป๋าไว้เลย อิอิ ของถูกและดียังมีอยู่จริงเด้อ จริงๆ แล้วก็มีหลายแบรนด์ซะด้วยจากการลองด้วยตัวเอง เอ้าเรามาเข้าเรื่องการรีวิวเปรียบเทียบคุณภาพ + คุณสมบัติของแป้งผสมรองพื้นที่ว่ากันดีกว่า ว่าดีเลิศยังไงอิชั้นถึงได้ติดใจถึงต้องมารีวิวกัน
รุ่น : sheene’ white plus+ uv foundation powder
ค่าป้องกันแดด : spf 25 pa++
น้ำหนัก : net cont. 9 g
สี : C2
จากรูป white plus+ เป็นตลับด้านซ้ายมือ
จากรูป oil free cake powder เป็นตลับด้านขวามือ อันนี้เป็นรีฟิลจ้า
ความรู้สึกหลังใช้
- รุ่น white plus+ ทาแล้วโดยส่วนตัวจะหน้าเด้ง ผ่องกว่ารุ่น oil free นิดนึง
- แต่เนื้อแป้งจะไม่นุ่มละเอียดเท่ากับรุ่น oil free cake powder นะคะ
- ทาแล้วปกปิดใช้ได้เลย ทาแป้งแล้วติดหน้าดีด้วย
- โบ๊ะไปก็ดูไม่หนา ไม่หลอกตา หน้าไม่ลอย จุดนี้ดีมากๆเลย คือ เนื้อแป้งมันกระจายแสงได้ดีนั่นเอง
- แต่มีแอบมันหลังจากโบ๊ะไปซัก 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากอิชั้นเป็นคนผิวผสม ก็จะซับหน้าระหว่างวันประมาณสองหน คือ ช่วงเที่ยง ถึง บ่ายโมง และตอนเย็นก่อนกลับบ้านจ้า
- เสียตรงมีสีน้อยไปนิด
- อีกอย่างคือ มันกันแดดได้อ่ะ มีค่า spf 25 pa++
- ราคามานประหยัดแล้วชอบมีของแถม ก๊ากกก แอบงก คือ ทาได้แบบไม่ต้องงก ทาคอไปด้วยเลยก็ยังได้ ปริมาณเยอะด้วย คุ้มเนาะ
เปรียบเทียบสีระหว่าง 2 รุ่นค่ะ ทั้งคู่คือ สี c2
white plus+ ด้านซ้ายจากทั้ง 2 ภาพค่ะ
oil free cake powder ด้านขวามือจากทั้ง 2 ภาพค่ะ สีของ oil free จะออกเหลืองกว่าค่า
ของแถม happy face boost up จากรุุ่น white plus+ ภาพด้านซ้ายมือ
ของแถม oil free brightening foam จากรุ่น oil free cake powder ภาพขวามือ
อันนี้ได้มาหลายเดือนก่อน ตอนนั้นรุ่นนี้รู้สึกว่าจะแถมเจ้า Happy Face Boost Up ขวดแซมเปิ้ลที่เป็นเจลบำรุงผิวหน้าแบบ oil free มี sakura extract , nanospheres, coenzyme Q10 ในขวดปั๊มจะมี เม็ดๆ สีฟ้า ชมพู ขาว อยู่ในเนื้อเจลเวลาปั๊มออกมามันจะผสมกัน ก็ทาบำรุงก่อนใช้แป้งผสมรองพื้นช่วยให้หน้ามันน้อยลงนิดนึงด้วย เอามาทาเป็นบำรุงก่อนแต่งหน้าอ่ะดี เพราะว่าซึมไว ไม่ทิ้งความมัน ลองแล้วๆ อิอิ
-----------------------------------------------------------------------------------------
รุ่น : sheene’ oil free cake powder
ค่าป้องกันแดด : spf 25 pa++
น้ำหนัก : net cont. 9 g
สี : C2
ความรู้สึกหลังใช้
- รุ่น oil free ทาแล้วจะออกกลืนไปกับผิว ถ้าใครที่ชอบหน้าเนียนๆ แบบธรรมชาติน่าจะชอบรุ่นนี้ค่ะ
- แป้งรุ่นนี้เนื้อจะละเอียดกว่ารุ่น white plus+ ในค่าสีที่ตรงกันเช่น c2 ที่อิชั้นใช้เนี่ยของรุ่น oil free จะมีเนื้อสีที่เหลืองกว่าจ้า ทำให้ทาแล้วหน้าเนียนนน ช๊อบบบบ
- ทาแล้วปกปิดดี เนื้อแป้งเกาะติดหน้า
- โบ๊ะไปก็ดูไม่หนา ไม่หลอกตา หน้าไม่ลอย จุดนี้ดีมากๆเลย คือ เนื้อแป้งมันกระจายแสงได้ดี
- อันนี้ควมคุมมันได้ดีเลย เนื่องจากอิชั้นเป็นคนผิวผสม ลองสังเกตว่าถ้าใช้แป้งตัวนี้ซับหนเดียวคือ ตอนกลับบ้านเลย
- สีน้อยไปนิด
- แป้งผสมสารกันแดดได้ มีค่า spf 25 pa++ สบายไป
- ราคาประหยัดแล้วชอบมีของแถม ก๊ากกก แอบงก คือ ทาได้แบบไม่ต้องงก ทาคอไปด้วยเลยก็ยังได้ ปริมาณเยอะด้วย คุ้มๆ
อันนี้ได้มาสองเดือนก่อน แถม Oil Free Brightening Foam ด้วย หลอดเขียวตองอ่อน กลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อครีมจะเนื้อเบาแบบเจลสีขาวมุก ล้างหน้าแล้วสะอาดดีค่ะ แต่แอบแห้งไปนิดนึง
หมดแล้วจ้าขอบคุณที่อ่านมาจนจบ รีวิวของอิชั้นไม่เคยสั้นเล๊ยให้ตายดิ่ ขออภัยที่ทำให้ท่านอ่านนาน อิอิ
xxx ก่อนจะเชื่อ จะซื้อตาม อยากให้ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านให้ละเอียด การที่ผลิตภัณฑ์ใดๆ จะได้ผลดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆ บางคนอาจใช้แล้วดี บางคนอาจไม่เวิร์ค แต่อิชั้นขอให้ทุกคนค้นพบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองนะคะ จ๊วบๆ xxx
รีวิว Original จาก Chadalaem Bloggang
