How To พลีชีพ โครงการ3 : แต่งหน้ารับปริญญามาทางนี้ (สาวทำงานเอาไปประยุกต์ได้นะ) <------ --------- ---------

สวัสดีค่า...
อาทิตย์ที่แล้วเห็นน้องๆมาตั้งกระทู้คำถามเกี่ยวกับการแต่งหน้ารับปริญญากันแบบอุ่นหนาฝาคั่ง
ไอ้เราก็อ่านแล้วก็อยากตอบนะแต่เรื่องบางเรื่องก็อธิบายด้วยการพิมพ์ยาก เลยว่าทำฮาวทูมาให้ดูเล่นกันดีกว่า เผื่อจะเก็บไว้เป้นไอเดียนะคะ

อย่างเคยว่าฝีมือจะไม่ได้ระดับเมคอัพอาร์ตติสแต่งมาเป๊ะๆๆๆ แต่จะชอบแต่งหน้าเองมากกว่าเพราะเรานีแหละที่รู้เครื่องหน้าของตัวเองดีที่สุด รู้ว่าแต่งตรงไหนยังไงจะกลบจุดเด่นเน้นจุดด้อยออกมา

ว่าแล้วมาดูกันดีกว่า .. จริงๆทำมา3ลุคแต่กลัวยาวไปเอาไว้ลงลุคเดียวก่อน เย็นนี้ค่อยเพิ่มอีก2ลุคค่า..

^^"

 

ภาพบนนี่แสดงให้เห้นว่ายัยนี่เดินแบกกระเป่าเครื่องสำอางเติมหน้าได้ทั้งวันจนพี่ช่างกล้องอดไม่ไหว ถ่ายมาประจานกันซะงั้น..

เอาล่ะมาเริ่มจากหน้าบวมอืด เป้นฝีมือการถ่ายภาพบีฟอร์ขั้นยอดออกมาอืดได้ใจมากมาย

 


ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งหน้าวันรับปริญญาคร่าวๆ

จริงๆไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับเรื่องนี้ แต่งยังไงก็ตามใจเลย เอาให้คิดว่าออกมาสวยมั่นใจที่สุด
แต่ก็มีจุด2-3จุดที่เราควรคำนึง

ขอยกเป็นคำทางพุทธศาสนาว่า

"กาละ เทศะ บุคคละ"

นั่นคือ

1.เวลา - รับตอนไหนคะ เช้า..เย็น ยังไง แล้วรับบ่ายไปแต่เช้ารึเปล่า
อันนี้ต้องแบ่งเวลาให้ดีว่าเราใช้เวลาแต่งหน้าเท่าไหร่ นอกจากนั้นต้องคิดด้วยว่าหน้าที่เราแต่งไปต้องแบกเดินนานแค่ไหน ทั้งวันมั้ย เพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญคือ "แต่งหน้าให้ทนทานอยู่ได้นานทั้งวัน"นั่นเอง

2.สถานที่ - แต่งยังไงก็ได้จริงแต่เคารพสถานที่ด้วยค่ะ ออกมาสนุกสนานได้แต่อย่าให้เกินไปนัก เคารพสถานที่ด้วยนะ

3.คน - ใครมาร่วมงานเราบ้าง และ ใครเห้นหน้าเราบ้าง รวมถึงครูอาจารย์ไปจนถึงจนพระราชทาน หรือ มอบ ปริญญาให้เราด้วยนะคะ ถ้าเป็นวันซ้อมอาจแต่งเเบบเปรี้ยวเข็ดฟันทองฝังเพชรขนตาปลอมยาวทุละเพดานติดเพชรอะไรไปตามเรื่อง แต่วันจริงคงต้องสุภาพนิดหน่อย

รู้งี้แล้วไปต่อเลยนะ..
ขั้นตอนเดิมค่ะ ปรับชั้นตาที่ไม่เท่ากันและไม่กว้างพอด้วยการติดเทปสามเอ็ม

 


สังเกตคิ้วพลอยดีๆจะเห็นว่าช่างกันได้ทุเรศมากกกกก คือนอกจากไม่เท่ากันยังทิ้งแผลไว้ให้อีก ไม่เป็นไรเอาไว้จัดการต่อคราวหน้า
ขอเตือนเรื่องกันคิ้วว่าไปหาร้านดีๆนะคะไม่งั้นน้ำตาตกในจริงๆ

กลับมาที่เดิมว่าพอแปะไปก็จะได้ชั้นตาสวยๆแบบนี้ ขั้นตอนนี้คนไม่ชินอาจต้องตัดแปะๆลองกันหลายรอบหน่อย แต่รับรองว่าออกมาสวยคุ้มค่ะ

 


ไปอ่านบล๊อกพี่ฟลุคมาพบเทคนิคว่าวันนี้ไม่ควรลงครีมบำรุง เพื่อความทนทานที่มากขึ้นของเครื่องสำอาง

เลยลงกันแดดเลย ยังใช้ตัวเดิมที่ถูก ดี และปรับสภาพผิวได้เล็กน้อย บีโอเรขวดชมพู ทาถูทั่วใบหน้า ปรื้ดๆ

 


จากนั้นหยิบคอนซีลเลอร์มาแงะ เพราะใกล้หมดเเล้ว คราวนี้งกจัดใช้ไม้จิ้มฟันแคะๆๆๆออกมาเลย -"-

คอนซีลเลอร์นี่อย่าพอกไปหนาๆนะคะ ต้องลงบางๆอย่างเบามือทีละนิด ไม่งั้นจับเป็นก้อนแน่ๆ ลงแป้งไประหว่างวันอาจตกเป้นร่องๆ ไม่สวย

การลงคอนก็คือ ลงให้ห่างขอบตาล่างระดับหนึ่ง แล้วค่อยๆใช้นิ้วนางเกลี่ยขึ้นไป ลงให้ทั่วบริเวณที่วาดให้ดูกัน

 


ยังไม่หมดเรื่องกับคอนซีลเลอร์ค่ะ เพื่อความเนี้ยบแต้มๆๆๆลงไปที่ริ้วรอยที่ไม่ต้องการ(ไป๊ ชิ่วว คนจะสวย) ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงดำช้ำหนองอะไรไล่ออกไปให้หมด

ให้แต้มนิดเดียวพอแล้ว้นิ้วแตะ(แตะจะห้ามปาด)ให้กลืนกับผิว

 


ต่อกันดีกว่า
หลังจากนั้นขอเพิ่มความไบรท์นิดหน่อย ด้วย บีบีครีมจากสกิน79
รุ่นนี้เป็นรุ่นไดมอนวาวๆ

แต้มทาจุดแล้วเกลี่ยค่ะ

 


ต่อไปรองพื้นค่ะ
เลือกใช้คอเวอมาร์คสีชมพู
แต่สีเงินเริ่ดกว่านะขอบอก ทาเกลี่ยให้ทั่วหน้าแล้วใช้นิ้วแตะเพิ่มความทน พอลงรองพื้นเสร็จรอซัก1-2นาทีให้เซ็ตตัวค่อยลงแป้งนะคะ

 


จริงๆส่วนมากคนนิยมเฉดดิ้งล้อมกรอบหน้า แต่ประสบการณ์ของพลอยคนที่เฉดดิ้งไปจัดๆ(ช่างแต่งหน้าแต่งให้) ส่วนมากจะไม่มั่นใจในหน้าตัวเองเลย ทำให้อารมณ์ไม่ดี รูปไม่สวย(เผ็นผลต่อเนื่อง) ของพลอยนี่เฉดแค่ปีกจมูกพอ โดยเอาของที่มีอยู่แล้วมาใช้ไม่ซื้อเพิ่ม เป็นรองพื้นมิเนรัลของลอรีอัล สีเอ็น6ค่ะ

 


จากนั้นตบแป้งฝุ่น แล้วใช้แปรงหัวใหญ่ปัดๆแป้งส่วนเกินออก

 


เรียบร้อยแล้วมาเปรียบเทียบความปกปิดจากการกอบกู้ใบหน้าที่ผ่านสมรภูมิสิวมาอย่างตรากตรำ

 


เอาล่ะมาถึงขั้นตอนสีสันกันแล้วนะ
เปลี่ยนเป็นสีเขียว แว้บบ

เริ่มจากดวงตาของเรา จัดการปัดคิ้วให้เป็นระเบียบและดึงที่รกๆออกหน่อย(กันได้แย่มากจริงๆต้องมานั่งถอนเพิ่มคิดดู)

 


มาต่อกันที่ดวงตาค่ะ สีแรกที่ใช้มาจากพาเลตต์แมครุ่นพระเจ้าเหา
ไม่ต้องสนใจสีค่ะ ถ้าอยากแต่งตามเลือกสีจากยี่ห้อไหนก็ได้ที่โทนใกล้กัน

มีคนถามเยอะว่าใช้ของถูกได้มั้ย ยี่ห้อนั้นนี้ได้มั้ย

คำตอบคือได้เลยค่ะ แต่ว่านะแต่ว่า

มันทนแค่ไหนเอ่ย บางทีหนึ่งชั่วโมงหลุดหมดต้องแต่งใหม่ก็มีนะคะ คำนึงถึงตรงนี้ด้วยค่ะ

 


สีที่เลือกมาคือ สีขาวสว่างวาว และ สีเนื้อๆน้ำตาลๆ

ว่าแล้วทาตามเลขและบริเวณที่วาดไว้ค่ะ

 


มาต่ออีกสีกับน้ำตาลอ่อนแบบแมตต์ไม่มีความวาวและประกายใดๆทั้งสิ้น เลือกของบ๊อบบี้ บราวน์ มาค่ะ

 


ป้ายลงไป(นิ้วหรือแปรงตามถนัด)ที่บริเวณที่วาดไว้ ตาจะมีมิติขึ้นนิดนึงละ

 


สีต่อไปคือลูกรักในกรุเลยค่ะกับน้ำตาลทองเข้มๆวิ้งนิดนึง กัลลาปากอสจากนาร์ส

 


ทาตามบริเวณที่กำหนด(เหมือนลงสีสมัยอนุบาลเนอะ)

 


ต่อด้วยสีดำซีรีย์ไนท์ของนาร์ส ตัวนี้ใช้สีดำไม่ประกายก็ได้นะคะ แต่ควรมีประกายซักตัวนึงตาจะได้โดดเด่น แต่วาววิ้งไปก้อไม่ดีค่ะถ่ายรูปแล้วจะดูมันๆเยิ้มๆ

 


มาตามรูปและเลขเหมือนเดิมค่ะ

 


จากนั้นขุดน้องคาสเซิลดิวส์ เพนลายเนอร์ออกมา ตอนนี้กำลังหาลู่ทางหาซื้ออยู่ค่ะ ขาดไม่ได้ ลงแดง

 


วาดขอบตาให้เลยขอบตาจริง เพื่อสร้างภาพว่าตาชั้นยาวและคมนะจ๊ะ ก่อนตวัดหางขึ้นเล็กน้อยให้เนียนกับแนวขนตาตามภาพ

 


เอาล่ะมาต่อกันที่ขอบตาล่าง ขั้นตอนนี้ควรใช้แปรงหรือแปรงฟองน้ำเล็กๆก็ได้นะคะ

ใช้สีที่4(น้ำตาลเข้ม กัลลาปากอส) วาดตามเส้น เน้นให้ปลายหนากว่า วาดไม่ต้องหมดขอบตาล่างเอาแค่3/4พอค่ะ

 


ใช้แปรงเหมือนเดิมค่ะ จุ่มน้ำนิดนึงก่อน
จากนั้นจิ้มสีดำ(สีที่5)

 


ปลิ้นขอบตาล่างออกมาให้เห็นขอบตาล่างส่วนในที่เป้นวสีแดงเรื่อๆ ก่อนจะวาดแปรงที่จิ้มน้ำและสีดำแล้วไปตามแนวขอบตาล่างด้านในเลย

 


จากนั้นใช้แปรงหัวใหญ่หน่อยนะคะ
จิ้มสีโทนขาว(ยี่ห้อไหนก็ได้วันนี้ใช้นาร์สตามประสาสาวกที่ดีค่ะ)

 


แล้วปัดเพิ่มความสว่างบริเวณโหนกคิ้ว ใต้ตา และสันจมูกค่ะ

 


จากนั้นดัดขนตาและเตรียมมาสคาร่าให้พร้อม

ที่ผูกใจกับฟาสิโอ้เพราะยกขนตาได้ดี ตอนเช้าเด้งยังไงตอนเย็นก็เด้งอย่างงั้น บางตัวนี่ชั่วโมงนึงก็ตกแล้วค่ะ นอกจากนั้นเจ้านี่ไม่ค่อยแพนด้า ปลื้ม

 


เวลารอบแรกให้ปัดเอียงแปรงแนวนอนสำหรับขนตายาวค่ะ
ปัดเสร็จรอแห้งแล้วตั้งแปรงขึ้นก่อนปัดเรียงเส้นอีกครั้ง

ส่วนขนตาล่างตั้งแปรงแนวตั้งแล้วปัดทีละเส้น ใครไม่มั่นใจแนะนำวางทิชชู่ลองใต้ขนตาก่อนจะได้ไม่เลอะนะคะ

 


มาต่อกันที่แก้มดีกว่าเนอะ ใช้สีชมพูน้ำตาลจากนาร์สชื่อว่า madly ค่ะ สีนี้ดูจะไม่สวยแต่ปัดจริงแล้วสวยกำลังดีมากๆ

ลุคนี้เน้นตากับปากแก้มเลยไม่อยากให้สีสดมากค่ะ ตัวนี้กะลังดีเลย

วิธีปัดคือปัดขึ้นบนเป็นแนวยาวค่ะ หน้าอืดๆจะได้ลดลง

 


ต่อกันที่ปากค่ะ
ลงลิปคอนดิชั่นเนอร์ของแมคก่อน เพื่อปากที่นุ่มชุ่มชื่น
จากนั้นเลือกสีแดงที่ไม่สดมากมา ตัวนี้จะเรื่อๆเหมือนลิปกลอสแต่ไม่วาวมาก ชื่อสียิปซีของนาร์สอีกล่ะ ใช้พู่กันทาตามรูปปาก ขั้นตอนนี้ใครจะใช้ลิปไลเนอร์ก็ดีค่ะ แต่รูปปากพลอยชัดมากอยู่แล้วเลยขอข้ามไป

 


จากนั้นเป็นเทคนิคลิปสติกติดทน
คือลอกกระดาษทิชชู่ออกให้เหลือชั้นเดียว เอาไปทาบที่ปาก จากนั้นใช้แปรงแตะแป้งฝุ่น เคาะให้แป้งส่วนเกินออกไปเล็กน้อย แล้วเอามาปัดบนปากที่มีทิชชู่รองไว้

 


ลงลิปสติกตามอีกรอบ เลือกตัวใหม่มาค่ะ
ตัวแรกนี่พลอยเลือกเนื้อด้านหน่อยจะได้ทนๆ ตัวใหม่นี่เลือกที่วาวๆ(แต่ไม่มากค่ะ) เป็นสีแดงเหมือนกันแต่ไม่สด ออกปนชมพู กลัวจะดูกินเลือดกินเนื้อเกินไป

ใช้สีrd374จากมากียาจค่ะ

 


โอ้ เสร็จแล้วค่ะ ง่ายแบบไม่น่าเชื่อ 555 (จริงหรอ)
เลือกเสื้อดำกับรวบผมให้พออินๆกับบรรยากาศ

มีแนะนำน้องบัณฑิตดังนี้

1.ควรมีกระเป๋าเครื่องสำอางติดตัว
พกรองพื้นใส่กระปุกเล็กๆไปก็ดีค่ะ ในกรณีที่หน้าเป็นคราบห้ามเอาแป้งปาดแต่ให้ใช้รองพื้นปริมาณน้อยๆแตะๆๆเกลี่ยๆลงไปประสานผิว

 


2. เตรียมกิ๊บและเจลใส่ผมไปด้วยกันผมลุ่ย
3.เตรียมบลัชออน ลิปสติก อายชาโดว์สีน้ำตาลเข้มไปเติม พร้อมแป้งและทิชชู่ด้วยนะคะ

 


ในกรณีแต่งเอง ลองแต่งก่อนวันงานและลองใช้กล้องถ่ายดูก่อนค่ะ
แสงจากกล้องจะทำให้เครื่องสำอางดูอ่อนกว่าความเป็นจริง จะได้รู้ว่าต้องเข้มแค่ไหนจะกำลังดี

ลองแต่งแล้วเดินออกนอกบ้านทำกิจกรรมตามปกติค่ะ จะได้รู้ว่ารองพื้นนี่เหมาะมั้ย ระหว่างวันหมองมั้ยเป็นคราบมั้ย และความทนของบลัช อายชาโดว์ ลิป เป็นไงบ้าง

บางทีจะได้รู้ว่าแพนด้ามั้ยด้วย จะได้เตรียมรับมือถูก

 


เอารูปเมื่อปีที่แล้วมาอวดค่ะ อันนั้นแต่งเองแต่เครื่องสำอางยังมีน้อยและคุณภาพด้อยกว่านี้ ฝีมือก็ยังด้อยค่ะ

มาต่อกับเคล็ดลับ... น้องๆที่จะจ้างช่างแนะนำอย่างแรงให้ขอรูปคนที่เค้าเคยแต่งมาดูก่อนค่ะ
เพราะเพื่อนพลอยบางคนนี่ไปแต่งร้านแล้วไม่มั่นใจเอามากๆ บ่นตลอดเวลาว่าไม่สวย เสียบุคลิกและความมั่นใจซึ่งเป็นปัจจัยหลักของความงามเลยค่ะ

 


วันนั้นแต่งไปประมาณสามหน้า เพื่อนๆกันหมด แต่ละคนก็แต่งให้แต่ละแบบ อย่างเพื่อนสนิทนี่โทนน้ำตาลชมพู ลุคนี้ทำฮาวทูมาด้วยกำลังตัดสินใจว่าจะแยกเป็นอีกกระทู้ดีมั้ยกลัวจะยาวเกิน

จากรูปนี้ชัดเลยว่าหน้าแต่งไปจัดแค่ไหนเจอแฟลชเจอแดดจะดูอ่อนไปเลย เลยเเนะนำให้เลือกสีสดๆโดยเฉพาะปาก แต่อันนี้ตามความชิบเหมือนเดิมค่ะ

 


อย่าลืมนะคะว่างานนี้พ่อแม่พี่น้องไปร่วมเยอะ
แต่งแบบไม่เป็นตัวเองมากๆอาจจอดของขวัญได้ (เน้นตลกบริโภคเหมือนเดิม)

 


ลาไปก่อนกับลุคแรก อีก2ลุคนี่ขอดูจังหวะก่อนค่ะว่าจะเอาลงทางไหนยังไงดี เป้นลุคเก๋ๆ กับลุคหวานๆนะคะ ยังไงรอติดตามด้วย ^^"

ลุคที่เอามาลงวันนี้เป็นแบบProfessionalค่ะ เหมาะกับสาวทำงาน ถ้าจะเอาไปใช้ก็ลดความหนารองพื้นลง อาจจะลดสีตาให้ดูชอฟต์ลงและไม่ต้องเขียนขอบตาล่างก็ออกมาดูดีค่ะ

หรือสาวๆที่จะสมัครแอร์(กาตาร์มาวันที่4 กค นี้นะจ๊ะ) ก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะไม่ต้องปรับเลย

ขอแสดงความยินดีกับน้องบัณฑิตทุกคน อย่าลืมซ้อมส่องกระจกแล้วยิ้มเพื่อหามุมสวย(สำคัญมากนะหนูๆ) อ้อ ฝากไว้ว่าเอียงหน้า45องศามักจสวยกว่าหน้าตรงนะคะ

 

Discussion (24)

สาว JC เองงง สวยค่า
ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ ช้อบ ชอบ ไม่ต้องหนามาก ไป แต่ดูดี
งามมากเลยค่ะ ขั้นตอนระเอียดดีมากเลย ^^
เก็บเทคนิคไว้ใช้ได้อีก 2 ปีถึงได้รับปริญญา
ตอนนี้มุ่ยคงซ้อมแต่งไปก่อน ฮ่าๆ
เรารับไปตั้งกะต้นปี.. หาฮาวทูช่วยเหลือไม่ได้เลย
กระซิกๆ
ไม่งั้นวันรับต้องงามแน่ๆ งุงิๆๆๆ
555555+

สวยจังค่ะ ชอบมากกกกก
ดูสมาร์ทดีค่ะ ชอบบบบ
ครีมรองพื้น Covermark กระปุกเนี่ยะ ช่างแต่งหน้าใช้กันประจำเลยเนอะ
แนะนำสำหรับคนจะแต่งหน้าเอง ก็คือฝึกแต่งเองบ่อยๆ จะรู้มุมที่ทำให้ดูดีขึ้นคะ
เช่น เฉดดิ้งจมูก บางคนจำเป็นต้องเฉดข้างแก้มด้วยเช่นกัน .......

แต่ติดขนตาปลอมจะถ่ายรูปออกมาสวยนะค่ะ ^^/ แล้วแต่คนชอบละกัน
เรื่องลิปเนี่ยะ ต้องพกไปเติมจะดีที่สุด กินข้าวไป ก็เลือนหายหมดแล้ว อิอิ
แต่ดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย เป็นลมละยุ่งเลย