Allergy เพลงใหม่จาก (G)I-dle สะท้อนความไม่มั่นใจของผู้หญิง อยากรักตัวเอง แต่ก็เกลียดที่ตัวเองไม่ดูดีเหมือนคนอื่น

23 12
(G)I-dle เกิร์ลกรุ๊ปที่ไม่เคยทำให้แฟนๆ ล่าสุดปล่อยเพลง Allergy เป็น Pre-Release จากมินิอัลบั้มชุดที่ 6 พร้อมมิวสิกวิดีโอที่มีกลิ่นอายแห่งยุค Y2K ทั้งแนวดนตรีที่ทำให้หลายคนนึกถึงเพลงที่เป็นนิยมในช่วงปี 2000s ความไฮสคูลเอย และตัวเนื้อเพลงที่มีความหมายสื่อถึงการรักตัวเอง (Self-Love) เปรียบเทียบความไม่มั่นใจของผู้หญิงในยุคนี้เหมือนกับการเป็นภูมิแพ้ และเชื่อว่าทุกคนต้องเคยรู้สึกแบบนี้สักครั้งในชีวิต

เราลองมาดูเนื้อเพลงไปพร้อมๆ กันได้เลยจ้า แต่ขอแอบกระซิบว่าแปลจากเกาหลีเป็นอังกฤษก่อน แล้วนำมาแปลไทยน้า ถ้าตรงส่วนไหนคลาดเคลื่อนสามารถแลกเปลี่ยนกันได้เลยค่า
ในเอ็มวีทุกคนจะถูก Beauty Standards ครอบงำเอาไว้ 
  • โซยอน = คนที่อยากดูดีเหมือนคนอื่น พยายามฝืนทำตาม แต่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบ
  • มินนี่ = สาวป็อบเดตหนุ่มฮ็อต ที่ใครๆ อยากก็เป็นแบบเธอ
  • มิยอน = ถึงจะสวยตามบิวตี้สแตนดาร์ดแล้วก็ยังไม่พอใจ มีเรื่องที่ยังคงผิดหวัง
  • อูกี & ชูฮวา = สองสาวที่ตามเทรนด์บิวตี้ พร้อมติวให้คนอื่นสวยตาม
Faceless feed, slacking followers
I'm a hater of Instagram, hater of TikTok
Locked gallery, ugly fit
What’s wrong? Not even doing any exercises
Not even knowing how to put any makeup on
Yeah, even I think of myself as ugly

เปิดมาด้วยพฤติกรรมการเสพโซเชียลของเราในยุคนี้ พอไถฟีดดูคนอื่นแล้ว ก็เทียบกับตัวเองว่าทำไมเราถึงไร้ตัวตนบนฟีดจัง ยอดฟอลก็น้อย ทุกคนดูชีวิตดีจนเกลียดไอจี เกลียดติ๊กต่อก ทำให้ไม่อยากเล่นเลย เพราะฉันแต่งตัวเห่ยๆ ไม่ออกกำลังกาย แต่งหน้าก็ไม่เป็นด้วยซ้ำ มันทำให้คิดว่าเรานี่ขี้เหร่จริงๆ 
Every night in the search tab
Am I the only one without Chanel?
Today’s teens seem more mature than I am
MZ hashtag, what the Y2K
The world goes round without me

ทุกคืนไถฟีดก่อนนอน ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ดูเหมือนฉันเป็นคนเดียวรึไงที่ไม่มี Chanel ทำไมคนอื่นถึงดูโตกว่าฉันจังนะ อะไรคือ #Y2K ที่ทุกคนมิลเลเนียมกับเจนซีชอบใช้กัน โลกยังคงหมุนไป ในขณะที่ฉันก็ยังคงไร้ตัวตน คือตัวเองนี่ไร้ตัวตนสุดๆ ดูแปลกแยกจากคนอื่น
Please give me the hate button
Because I hate myself so much (So much)
Alright (Alright), yeah
Oh my, oh my, frigging my name

ปกติเรามักจะกดปุ่ม Like ให้กันบนโซเชียล แต่สำหรับตัวฉันแล้ว ก็กดปุ่ม Hate ให้กันไปเลยยังดีซะกว่า เพราะฉันน่ะเกลียดตัวเองเอามากๆ แสดงถึงความไม่พอใจ และหงุดหงิดกับการเป็นตัวเองมากๆ
Why ain't I pretty? Why ain't I lovely?
Why ain't I sexy? Why am I me?
Love me, love me, love me, love me, love me, want
Love me, love me, love me, love me, love me, want
She's so pretty, yeah, so lovely
She got everything, why am I, not her?
Love me, love me, love me, love me, love me but
Frigging, huh, my mirror allergy

ท่อนฮุกก็บอกทุกความในใจ เปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่นที่ดูดีในโซเชียล ว่าทำไมฉันถึงไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่เซ็กซี่ แบบคนอื่นบ้าง ทำไมฉันต้องอยู่สภาพนี้ อยากให้ทุกคนรักและต้องการเราบ้าง เมื่อเทียบกับสาวสวยในโซเชียลแล้ว พวกเขาสวยมาก โคตรน่ารัก มีทุกอย่างพร้อม ทำไมชั้นไม่เป็นแบบนั้นบ้าง อยากให้ทุกคนรักและต้องการเราบ้าง พอเห็นตัวเองในกระจกก็ไม่ชอบแล้ว เพราะไม่เป็นแบบที่เราต้องการ 
I also want to dance Hype Boy
But on the screen, I’d look like TOMBOY
Yeah, I’m sure that boy would laugh at me, oh-oh
Oh God, it’s so funny
Why the way I talk is too much dope?
What am I? Even my personality is not so good
Yeah, that’s right, I might stay single till I die

ท่อนนี้เป็นท่อนที่เราชอบมาก! โซยอนเก่งจริงๆ พูดถึงเพลงของนิวจีนส์และของจีไอเดิลเทียบกัน ว่าฉันก็อยากเต้น Hype Boy นะ (เพลงฮิตของ NewJeans ที่เต้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง) แต่คงออกมาดูเหมือน Tom Boy (เพลงฮิตของตัวเองที่เข้าชิง SOTY) พวกผู้ชายต้องหัวเราะเยาะแน่ๆ สะท้อนถึงความชายเป็นใหญ่ เพราะคงโดนตัดสินจากพวกผู้ชายอีก พร้อมสื่อว่าตัวเองดูน่าสมเพชจัง สิ่งที่ทำดูน่าตลกเนอะ ท่าทางที่พูดดูก็คงเหมือนคนเมา ฉันเป็นตัวอะไร แม้แต่บุคลิกก็ยังแย่ อือ ฉันก็คงโสดจนตายนั่นแหละ
ในเอ็มวีตัดจบที่สุดท้ายโซยอน ก็ตัดสินใจทำศัลยกรรมเพื่อที่จะได้สวยเหมือนคนอื่น
เนื้อเพลงอาจจะดูค่อนข้างลบกับตัวเองมากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงถึง Insecurities หรือการขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะสังคมหล่อหลอมให้เรามีความคิดลบๆ กับตัวเอง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียวนะ แต่ละคนก็มีความไม่มั่นใจในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป มันไม่จำเป็นที่ต้องสวยตามมาตรฐานสังคม แล้วถึงจะได้รับความรักหรือมีความสุข การได้รับยอดไลก์หรือผู้ติดตามเยอะๆ ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้รู้สึกไม่เหงา เหมือนกับมิยอนในเอ็มวี ที่แม้จะเป็นสาวสวยตามมาตรฐานสังคมแล้ว ก็ยังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ดี ไม่ได้มีความสุข ยังคงเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นตลอด

ประสบการณ์ตรงจากโซยอน

โซยอน เมมเบอร์ผู้แต่งเพลงนี้ เธอเคยบอกตอนแข่งปะดิ้ว หรือ Produce 101 ว่าเธอไม่ชอบหน้าตัวเองเลย ส่องกระจกแล้วก็รู้สึกโกรธ พออยู่บนจอแล้ว ต้องอยู่ใกล้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นที่สวยๆ ตัวเองก็ดูขี้เหร่ขึ้นไปอีก สิ่งนี้น่าจะเป็นไปได้ว่า เธอแต่งเพลง Allergy ขึ้นมาจากประสบการณ์ตรง คงเป็นความรู้สึกที่เคยเป็นมาก่อน และเพลง Allergy ก็ได้นับกระแสคำชมต่างๆ ที่ดีมาก หลายคนขอบคุณที่โซยอนแต่งเพลงนี้ออกมา ทำให้พวกเขาได้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เผชิญเรื่องแบบนี้แต่เพียงลำพัง 


sweetsong13

sweetsong13

A dreamer who loves to write
www.sweetsong13.com
sweetsong13@gmail.com

FULL PROFILE