สำหรับคนที่กำลังคิดจะเสริมจมูกจ้า....มีรูปๆ
vava71 7 72
พอดีวาไปอ่านเจอในเวปหนึ่งเข้า เลยหยิบมาฝากเพื่อนๆชาวจีบันที่กำลังคิดจะไปทำจมูกกันน่ะค่ะ
แบ่งปันประสบการณ์ ทำจมูกตอนที่ 1
วันนี้ 13 มิ.ย. 49 กันการเขียน Blog ครั้งแรก
แต่เรื่องราวนี้เคยเขียนลงในห้องโภชนาการและความงาม เมื่อเดือน มี.ค.ค่ะ
หวัดดีค่ะ เพื่อนๆ
หลังจากที่อ่าน และเก็บข้อมูลเรื่องเสริมจมูก จากเพื่อนๆที่โพสต์ในนี้ และเว็บอื่นๆมาร่วมปี ก็ตัดสินใจทำจมูกแล้วค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่แบ่งปันข้อมูลกัน คราวนี้ถึงตาเราบ้างแล้ว หวังว่าเรื่องราวของเราคงเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะเสริมจมูกนะ
เริ่มกันเลย
จมูกของเรา ของมีดั้งนิดหน่อยรูปจมูกไม่ใหญ่มาก แต่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนไม่มีดั้งเลย ไม่มีมิติด้วย จึงอยากทำ เผื่อจะดูดีขึ้น แต่ก็หวั่นๆเหมือนกัน กลัวว่าทำแล้วไม่สวยเหมือนเดิม (พูดซะ ไม่อายตัวเองเลยเรา) อยากได้จมูกที่เสริมดูเป็นธรรมชาติน่ะ
ตัดสินใจนัดพบหมอ 2 ท่าน 2 ที่ค่ะ ที่เลือกพิจารณา สองที่นี้ เพราะ
1. ได้ข้อมูล ลักษณะการทำของหมอน่าจะเข้ากับจมูกเรา
2. เดินทางสะดวก
3. ราคาปานกลาง ไม่แพงมาก (เกรงใจคนจ่ายตังค์อ่ะ)
ปรึกษา วันที่ 14 มี.ค. 49 กับคุณหมอ P ที่ Y
เวลา 10.40 น. (ก่อนไปช็อปเอลก้าเซลแหละ)
ใช้เวลาคุยกับหมอแค่ ราวๆ 5 นาทีเอง งงๆมาก ใจความที่คุยกับคุณหมอท่านนี้ก็
-หมอเสริมช่วงบนถึงปลาย โดยที่จะเหลาซิลิโคนช่วงปลายให้บางๆ
-จมูกคงเปลี่ยนนิดหน่อย แต่ช่วงปลายจะเหมือนเดิม
-เสริมให้ดูเป็นธรรมชาติ
-บวม 2 วัน วันที่ 3 จะเริ่มยุบ
-ตอนทำจะฉีดยานอนหลับก่อน แล้วค่อยฉีดยาชา (น่ากลัวจังอ่ะ แล้วหมอจะทำอะไรเราไหมเนี่ย แอบกลัวเวอร์เลยเรา)
-หันหน้าตรงและด้านข้างให้หมอดู
-ช่วงตรงกลางจมูกสูงกว่าต้นจมูก
-ประมาณ 1 เดือนก็จะเริ่มยึดติดแน่น
-ถ้าจมูกดุบางๆใสๆ แสดงว่าเสริมสูงเกินหมอก็แก้ให้มันดีขึ้น (หมายความว่า หลังทำเสร็จแล้ว กลับไปแล้วเหรอ)
-จมูกเล็กๆเสริมแล้วจะดูดีขึ้น
หมอไม่ได้ให้ดูภาพงานเก่าๆของท่านเลย เราเองก็ลืมถาม สรุป ปรึกษาออกมายังเฉยๆ ไม่ค่อยมั่นใจหมอเท่าไร
ไม่เป็นไร ยังเหลืออีกที่ ถ้าที่นั่นไม่โอเค คงต้องหาที่อื่นเพิ่ม
และแล้วก็แวะไปช้อปปิ้งงานเอลก้า หมดไปหลายบาทเลย
นัดพบคุณหมอ C ที่ L
เวลา 14.40-15.00 ราวๆ 20 นาทีได้
ใจความสำคัญก็ดังนี้จ้า
-เมื่อพบหมอ ท่านถามว่า คิดยังไงกับจมูกตัวเอง เป็นแบบไหน อยากให้เป็นอย่างไร
-จมูกมีดั้งอยู่แล้วเพียงแต่เห็นไม่ชัดเพราะจมูกไม่ลาดชัน
-หมอจะเสริมให้มันเป็นสันเงาขึ้น แต่คงรูปจมูกเดิม ปลายจมูกก็โอเคอยู่แล้ว
- ตอนทำฉีดยาชา เมือใส่ซิลิโคนเข้าไปแล้ว หมอจะให้ดูว่าจมูกแบบนี้ เราโอเคไหม (วิธีคนละแบบกับหมอคนเมื่อเช้าเลย)
-หมอจะช่วยดูรูปทรงให้อยู่แล้ว ถ้าพิสดารไปก็ไม่ทำให้ (แอบขำแหละ)
-เอารูปจมูกที่ชอบมาให้หมอดูได้วันที่จะทำ
-หลังทำเสร็จจะมีการนัดมาพบอีก ต้องมาทุกครั้ง
-หมอถามว่าเคยแพ้ยาอะไรไหม
-หมอจะช่วยมองจมูกในสายตาของคนทั่วไปว่า ดูสวยไหม
จมูกของเราถ้าเอาขึ้นเป็นสันมาก หน้าจะดูแข็งๆ เอาแค่นิดเดียว พอเป็นเงาก็พอ หน้าจะได้ดูหวานๆ
-หมอให้ดูรูปจมูกคนไข้ที่ทำให้เป็นสันเงา คนๆนั้นดูดีขึ้น
สรุป
เลือกทำกับคุณหมอ C ที่ L เพราะคุยแล้วมั่นใจว่า เราคงได้จมูกที่เป็นธรรมชาติ ดูมีมิติ ไม่โด่งเกิน
มั่นใจว่าหมอคงดูแล เสริมให้เราอย่างดี
ตัดสินใจนัดทำวันรุ่งขึ้นเลย ตกใจตัวเองเหมือนกัน ก็เรื่องเวลาด้วยล่ะ เดี๋ยวหายไม่ทันไปเรียนวันเสาร์ที่ 25 อ้อตอนนี้เราลาออกจากงานแล้ว กำลังหางานใหม่อยู่ ก็เลยคิดว่าทำช่วงนี้เหมาะที่สุด
-- ยาวไปหน่อยอ่ะ แล้วครั้งหน้าจะมาเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันเปลี่ยนชีวิต (เว่อร์ซะ) 15 มีค. 49---
ตอนที่ 2 วันผ่าตัด ทำจมูก
เขียนไว้เมื่อวันที่ 23 มี.ค 49 ณ.ห้องโภชนาการและความงาม
หลังจากที่เล่าเรื่องเลือกหมอไปแล้วในตอนที่ 1 ครั้งนี้เป็นตอนที่ 2 วันที่ทำจมูกค่ะ
ตอนนี้เที่ยง วันที่ 15 มี.ค. 49 ตื่นเต้นมากๆ กลัวมากๆด้วย ไม่รู้จะเป็นอย่างไร กลับไปจะบวกมากไหม คนใกล้ชิดก็โทรมาให้กำลังใจตอนเช้าว่า ไม่ต้องกลัว อย่าคิดมาก เดี๋ยวก็สวยแล้ว ใจเย็นๆ
เรามาถึงก่อนคุณหมอเข้ามา นั่งรอสักพัก หมอมาแล้ว 13.10 จะเริ่มแล้วล่ะ
-หมอมาถ่ายรูปหน้าเราก่อนหน้าตรง หันข้าง เงยหน้า หลายช็อตเหมือนกัน จากนั้นเราก็ไปนอนที่เตียง
-หมอวัดจมูก แล้วหันไปตัดซิลิโคนที่โต๊ะข้างๆ เราก็นอนอยู่อย่างนั้น หมอเอาซิลิโคนมาทาบเป็นพักๆ
-คุณหมอใช้เวลาตัดซิลิโคนนานมากๆ เกือบ 1 ช.ม. เห็นจะได้ ระหว่างนั้นพยาบาลเอาครีมเช็ดเครื่องสำอางมาให้ใช้และให้เรากินยาแก้ปวด2 เม็ดแล้วก็ยาแก้ติดเชื้อ 1เม็ด
-เมือ่เหลาซิลิโคนเสร็จแล้ว คุณหมอก็ขึ้นไปรอที่ห้องผ่าตัด
-พยาบาลให้เราสวมชุดคลุม หมวกคลุมผม ล้างหน้า ล้างจมูก แคะจมูกให้สะอาด
.....โอจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ตื่นเต้นมากๆๆๆๆๆๆ
-ห้องผ่าตัดเป็นห้องเล็กๆ มีวิทยุเปิดเพลงสากลเบาๆด้วย
-เราขึ้นไปนอนบนเตียง หมอบอกว่าห้ามเอามือขึ้นมาเด็ดขาด เพื่อความสะอาด จากนั้นท่านกับพยาบาลก็ก็เอาผ้ามาคลุมเหลือแต่ช่วงใบหน้า โผล่ออกมาเท่านั้น
-หมอเอาน้ำอะไรไม่รู้มาเช็ดหน้า เดาว่าคงเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นก็ฉีดยาชาที่แก้มด้านขวา ตามด้วยด้านซ้าย เจ็บนิดๆ เหมือนกัน โอ้....ตื่นเต้นมากขึ้นอีก........
-จากนั้นหมอทำอะไรกับจมูกก็ไม่รู้ เจ็บเหมือนกัน เป็นช่วงๆ มือเย็น เปียกเหงื่อ ด้วยความกลัวและกังวลด้วยอ่ะ คิในใจว่า เราคิดถูกไหมเนี่ย......เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ หมอก็หยุด เราก็คิดว่าเสร็จแล้ว แต่จริงๆไม่ใช่ หมอหยุดพักให้เราหายตื่นเต้น และฉีดยาชาเพิ่ม
-หมอเริ่มลงมือต่อ ตอนนี้หมอบอกว่าหลังจากนี้ต้องไม่เจ็บ ถ้าเจ็บให้บอกทันที อาจจะรู้สึก ครืดๆ ด้วย
-หมอก็เริ่มทำวิธีพิเศษนี้ ตลอดเวลานั้นไม่เจ็บเลย หมอจะคอยถามตลอด เราก็สึกเหมือนหมอขูดๆ ไขๆที่จมูก
-เวลาผ่านไปสักพัก หมอก็หยุด เราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ในใจคิดว่าคงเสร็จแล้ว หมอบอกว่าให้ดูจมูกตัวเองในกระจก ว่า ชอบไหม รับได้ไหม ต่อไปเราจะมีจมูกแบบนี้ ตื่นมาหน้าแบบนี้ตลอดชีวิต...
-ตอนนั้นกลัว ตกใจ งงๆ แปลกๆ กับหน้าเรามาก มีผ้าคลุมอยู่ เหมือนคนอิสลามเลย จมูกดูใหญ่ขึ้น มีดั้งขั้น หน้าแปลกบอกไม่ถูก
-หมอก็ถามว่าเป็นยังไง เราบอกว่าไม่รู้ ถามหมอกับพยาบาลกลับว่า มันสวยไหม หมอตอบว่า ให้เราดู เราก็บอกโอเคค่ะ แบบงงๆ
-หมอก็เริ่มทำต่อ คิดว่าคงเป็นเย็บแผล ก็ไม่เจ็บเหมือนเดิม
เสร็จแล้ว......
-หมอปรับเบาะให้นั่ง สักพักพยาบาลก็พาออกจากห้องผ่าตัด
-ตื่นเต้นมากๆๆๆๆ ลงมาดูกระจกข้างล่าง ความรู้สึกตอนนั้น ร่างกายปกติ ไม่มึน
-เห็นตัวเองในกระจกเต็มๆ.........โอ้เหมือนหนูเลยอ่ะ (คิดมากไปเรา) อธิบายไม่ถูก ออกแขกๆ แหม่งๆ เฮ้อ...พูดไม่ถูกอ่ะ
-หมอเรียกมาถ่ายรูปหลังทำ โดยที่แต่ละท่าจะเป็นแบบเดียวกับตอนที่ถ่ายครั้งแรกก่อนทำ
-จากนั้นพยาบาลก็พามานั่งประคบจมูกด้วยถุงน้ำเย็น
-สักพักหมอเรียกให้มาดูรูปก่อนทำ-หลังทำ จมูกดูมีสันเงาขึ้น หน้ามีมิติขึ้น หมอบอกว่ากลับไปให้ประคบเย็นตลอด จะได้ยุบเร็วๆ ตรงช่วงระหว่างลูกตาจะบวมมาก แล้วก็มียาแก้ติดเชื้อกับยาแก้ปวดมากินด้วย
-หมอนัดพบอีกครั้ง 22 มี.ค.49
จากนั้นเราก็กลับ ราวๆ 4 โมงเย็นได้ ตอนนั้นก็รู้สึกกังวลมากๆ ว่าตอนบวมจะเป็นยังไง ยุบแล้วจะเป็นยังไง
ถ้าคิดแล้วตอนนั้นมีความมั่นใจ พอใจ 80% ได้ ต้องรอดูต่ออีกทีตอนยุบ
ตอนหน้าจะเอารูปตอนช่วงที่บวมและรูปหลังจากที่ทำมาอาทิตย์กว่าๆ มาให้ดูนะคะ.....ว่าเพื่อนๆคิดว่ามันเป็นยังไง จมูกอันใหม่ของเรา..............
แบ่งปันประสบการณ์ ทำจมูกตอนที่ 1
วันนี้ 13 มิ.ย. 49 กันการเขียน Blog ครั้งแรก
แต่เรื่องราวนี้เคยเขียนลงในห้องโภชนาการและความงาม เมื่อเดือน มี.ค.ค่ะ
หวัดดีค่ะ เพื่อนๆ
หลังจากที่อ่าน และเก็บข้อมูลเรื่องเสริมจมูก จากเพื่อนๆที่โพสต์ในนี้ และเว็บอื่นๆมาร่วมปี ก็ตัดสินใจทำจมูกแล้วค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่แบ่งปันข้อมูลกัน คราวนี้ถึงตาเราบ้างแล้ว หวังว่าเรื่องราวของเราคงเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะเสริมจมูกนะ
เริ่มกันเลย
จมูกของเรา ของมีดั้งนิดหน่อยรูปจมูกไม่ใหญ่มาก แต่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนไม่มีดั้งเลย ไม่มีมิติด้วย จึงอยากทำ เผื่อจะดูดีขึ้น แต่ก็หวั่นๆเหมือนกัน กลัวว่าทำแล้วไม่สวยเหมือนเดิม (พูดซะ ไม่อายตัวเองเลยเรา) อยากได้จมูกที่เสริมดูเป็นธรรมชาติน่ะ
ตัดสินใจนัดพบหมอ 2 ท่าน 2 ที่ค่ะ ที่เลือกพิจารณา สองที่นี้ เพราะ
1. ได้ข้อมูล ลักษณะการทำของหมอน่าจะเข้ากับจมูกเรา
2. เดินทางสะดวก
3. ราคาปานกลาง ไม่แพงมาก (เกรงใจคนจ่ายตังค์อ่ะ)
ปรึกษา วันที่ 14 มี.ค. 49 กับคุณหมอ P ที่ Y
เวลา 10.40 น. (ก่อนไปช็อปเอลก้าเซลแหละ)
ใช้เวลาคุยกับหมอแค่ ราวๆ 5 นาทีเอง งงๆมาก ใจความที่คุยกับคุณหมอท่านนี้ก็
-หมอเสริมช่วงบนถึงปลาย โดยที่จะเหลาซิลิโคนช่วงปลายให้บางๆ
-จมูกคงเปลี่ยนนิดหน่อย แต่ช่วงปลายจะเหมือนเดิม
-เสริมให้ดูเป็นธรรมชาติ
-บวม 2 วัน วันที่ 3 จะเริ่มยุบ
-ตอนทำจะฉีดยานอนหลับก่อน แล้วค่อยฉีดยาชา (น่ากลัวจังอ่ะ แล้วหมอจะทำอะไรเราไหมเนี่ย แอบกลัวเวอร์เลยเรา)
-หันหน้าตรงและด้านข้างให้หมอดู
-ช่วงตรงกลางจมูกสูงกว่าต้นจมูก
-ประมาณ 1 เดือนก็จะเริ่มยึดติดแน่น
-ถ้าจมูกดุบางๆใสๆ แสดงว่าเสริมสูงเกินหมอก็แก้ให้มันดีขึ้น (หมายความว่า หลังทำเสร็จแล้ว กลับไปแล้วเหรอ)
-จมูกเล็กๆเสริมแล้วจะดูดีขึ้น
หมอไม่ได้ให้ดูภาพงานเก่าๆของท่านเลย เราเองก็ลืมถาม สรุป ปรึกษาออกมายังเฉยๆ ไม่ค่อยมั่นใจหมอเท่าไร
ไม่เป็นไร ยังเหลืออีกที่ ถ้าที่นั่นไม่โอเค คงต้องหาที่อื่นเพิ่ม
และแล้วก็แวะไปช้อปปิ้งงานเอลก้า หมดไปหลายบาทเลย
นัดพบคุณหมอ C ที่ L
เวลา 14.40-15.00 ราวๆ 20 นาทีได้
ใจความสำคัญก็ดังนี้จ้า
-เมื่อพบหมอ ท่านถามว่า คิดยังไงกับจมูกตัวเอง เป็นแบบไหน อยากให้เป็นอย่างไร
-จมูกมีดั้งอยู่แล้วเพียงแต่เห็นไม่ชัดเพราะจมูกไม่ลาดชัน
-หมอจะเสริมให้มันเป็นสันเงาขึ้น แต่คงรูปจมูกเดิม ปลายจมูกก็โอเคอยู่แล้ว
- ตอนทำฉีดยาชา เมือใส่ซิลิโคนเข้าไปแล้ว หมอจะให้ดูว่าจมูกแบบนี้ เราโอเคไหม (วิธีคนละแบบกับหมอคนเมื่อเช้าเลย)
-หมอจะช่วยดูรูปทรงให้อยู่แล้ว ถ้าพิสดารไปก็ไม่ทำให้ (แอบขำแหละ)
-เอารูปจมูกที่ชอบมาให้หมอดูได้วันที่จะทำ
-หลังทำเสร็จจะมีการนัดมาพบอีก ต้องมาทุกครั้ง
-หมอถามว่าเคยแพ้ยาอะไรไหม
-หมอจะช่วยมองจมูกในสายตาของคนทั่วไปว่า ดูสวยไหม
จมูกของเราถ้าเอาขึ้นเป็นสันมาก หน้าจะดูแข็งๆ เอาแค่นิดเดียว พอเป็นเงาก็พอ หน้าจะได้ดูหวานๆ
-หมอให้ดูรูปจมูกคนไข้ที่ทำให้เป็นสันเงา คนๆนั้นดูดีขึ้น
สรุป
เลือกทำกับคุณหมอ C ที่ L เพราะคุยแล้วมั่นใจว่า เราคงได้จมูกที่เป็นธรรมชาติ ดูมีมิติ ไม่โด่งเกิน
มั่นใจว่าหมอคงดูแล เสริมให้เราอย่างดี
ตัดสินใจนัดทำวันรุ่งขึ้นเลย ตกใจตัวเองเหมือนกัน ก็เรื่องเวลาด้วยล่ะ เดี๋ยวหายไม่ทันไปเรียนวันเสาร์ที่ 25 อ้อตอนนี้เราลาออกจากงานแล้ว กำลังหางานใหม่อยู่ ก็เลยคิดว่าทำช่วงนี้เหมาะที่สุด
-- ยาวไปหน่อยอ่ะ แล้วครั้งหน้าจะมาเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันเปลี่ยนชีวิต (เว่อร์ซะ) 15 มีค. 49---
ตอนที่ 2 วันผ่าตัด ทำจมูก
เขียนไว้เมื่อวันที่ 23 มี.ค 49 ณ.ห้องโภชนาการและความงาม
หลังจากที่เล่าเรื่องเลือกหมอไปแล้วในตอนที่ 1 ครั้งนี้เป็นตอนที่ 2 วันที่ทำจมูกค่ะ
ตอนนี้เที่ยง วันที่ 15 มี.ค. 49 ตื่นเต้นมากๆ กลัวมากๆด้วย ไม่รู้จะเป็นอย่างไร กลับไปจะบวกมากไหม คนใกล้ชิดก็โทรมาให้กำลังใจตอนเช้าว่า ไม่ต้องกลัว อย่าคิดมาก เดี๋ยวก็สวยแล้ว ใจเย็นๆ
เรามาถึงก่อนคุณหมอเข้ามา นั่งรอสักพัก หมอมาแล้ว 13.10 จะเริ่มแล้วล่ะ
-หมอมาถ่ายรูปหน้าเราก่อนหน้าตรง หันข้าง เงยหน้า หลายช็อตเหมือนกัน จากนั้นเราก็ไปนอนที่เตียง
-หมอวัดจมูก แล้วหันไปตัดซิลิโคนที่โต๊ะข้างๆ เราก็นอนอยู่อย่างนั้น หมอเอาซิลิโคนมาทาบเป็นพักๆ
-คุณหมอใช้เวลาตัดซิลิโคนนานมากๆ เกือบ 1 ช.ม. เห็นจะได้ ระหว่างนั้นพยาบาลเอาครีมเช็ดเครื่องสำอางมาให้ใช้และให้เรากินยาแก้ปวด2 เม็ดแล้วก็ยาแก้ติดเชื้อ 1เม็ด
-เมือ่เหลาซิลิโคนเสร็จแล้ว คุณหมอก็ขึ้นไปรอที่ห้องผ่าตัด
-พยาบาลให้เราสวมชุดคลุม หมวกคลุมผม ล้างหน้า ล้างจมูก แคะจมูกให้สะอาด
.....โอจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ตื่นเต้นมากๆๆๆๆๆๆ
-ห้องผ่าตัดเป็นห้องเล็กๆ มีวิทยุเปิดเพลงสากลเบาๆด้วย
-เราขึ้นไปนอนบนเตียง หมอบอกว่าห้ามเอามือขึ้นมาเด็ดขาด เพื่อความสะอาด จากนั้นท่านกับพยาบาลก็ก็เอาผ้ามาคลุมเหลือแต่ช่วงใบหน้า โผล่ออกมาเท่านั้น
-หมอเอาน้ำอะไรไม่รู้มาเช็ดหน้า เดาว่าคงเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นก็ฉีดยาชาที่แก้มด้านขวา ตามด้วยด้านซ้าย เจ็บนิดๆ เหมือนกัน โอ้....ตื่นเต้นมากขึ้นอีก........
-จากนั้นหมอทำอะไรกับจมูกก็ไม่รู้ เจ็บเหมือนกัน เป็นช่วงๆ มือเย็น เปียกเหงื่อ ด้วยความกลัวและกังวลด้วยอ่ะ คิในใจว่า เราคิดถูกไหมเนี่ย......เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ หมอก็หยุด เราก็คิดว่าเสร็จแล้ว แต่จริงๆไม่ใช่ หมอหยุดพักให้เราหายตื่นเต้น และฉีดยาชาเพิ่ม
-หมอเริ่มลงมือต่อ ตอนนี้หมอบอกว่าหลังจากนี้ต้องไม่เจ็บ ถ้าเจ็บให้บอกทันที อาจจะรู้สึก ครืดๆ ด้วย
-หมอก็เริ่มทำวิธีพิเศษนี้ ตลอดเวลานั้นไม่เจ็บเลย หมอจะคอยถามตลอด เราก็สึกเหมือนหมอขูดๆ ไขๆที่จมูก
-เวลาผ่านไปสักพัก หมอก็หยุด เราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ในใจคิดว่าคงเสร็จแล้ว หมอบอกว่าให้ดูจมูกตัวเองในกระจก ว่า ชอบไหม รับได้ไหม ต่อไปเราจะมีจมูกแบบนี้ ตื่นมาหน้าแบบนี้ตลอดชีวิต...
-ตอนนั้นกลัว ตกใจ งงๆ แปลกๆ กับหน้าเรามาก มีผ้าคลุมอยู่ เหมือนคนอิสลามเลย จมูกดูใหญ่ขึ้น มีดั้งขั้น หน้าแปลกบอกไม่ถูก
-หมอก็ถามว่าเป็นยังไง เราบอกว่าไม่รู้ ถามหมอกับพยาบาลกลับว่า มันสวยไหม หมอตอบว่า ให้เราดู เราก็บอกโอเคค่ะ แบบงงๆ
-หมอก็เริ่มทำต่อ คิดว่าคงเป็นเย็บแผล ก็ไม่เจ็บเหมือนเดิม
เสร็จแล้ว......
-หมอปรับเบาะให้นั่ง สักพักพยาบาลก็พาออกจากห้องผ่าตัด
-ตื่นเต้นมากๆๆๆๆ ลงมาดูกระจกข้างล่าง ความรู้สึกตอนนั้น ร่างกายปกติ ไม่มึน
-เห็นตัวเองในกระจกเต็มๆ.........โอ้เหมือนหนูเลยอ่ะ (คิดมากไปเรา) อธิบายไม่ถูก ออกแขกๆ แหม่งๆ เฮ้อ...พูดไม่ถูกอ่ะ
-หมอเรียกมาถ่ายรูปหลังทำ โดยที่แต่ละท่าจะเป็นแบบเดียวกับตอนที่ถ่ายครั้งแรกก่อนทำ
-จากนั้นพยาบาลก็พามานั่งประคบจมูกด้วยถุงน้ำเย็น
-สักพักหมอเรียกให้มาดูรูปก่อนทำ-หลังทำ จมูกดูมีสันเงาขึ้น หน้ามีมิติขึ้น หมอบอกว่ากลับไปให้ประคบเย็นตลอด จะได้ยุบเร็วๆ ตรงช่วงระหว่างลูกตาจะบวมมาก แล้วก็มียาแก้ติดเชื้อกับยาแก้ปวดมากินด้วย
-หมอนัดพบอีกครั้ง 22 มี.ค.49
จากนั้นเราก็กลับ ราวๆ 4 โมงเย็นได้ ตอนนั้นก็รู้สึกกังวลมากๆ ว่าตอนบวมจะเป็นยังไง ยุบแล้วจะเป็นยังไง
ถ้าคิดแล้วตอนนั้นมีความมั่นใจ พอใจ 80% ได้ ต้องรอดูต่ออีกทีตอนยุบ
ตอนหน้าจะเอารูปตอนช่วงที่บวมและรูปหลังจากที่ทำมาอาทิตย์กว่าๆ มาให้ดูนะคะ.....ว่าเพื่อนๆคิดว่ามันเป็นยังไง จมูกอันใหม่ของเรา..............
ตอนที่ 3 --จมูกใหม่ของเรา- ภาพหลังวันผ่าตัด หลังจากที่เลือกหมอไปแล้วในตอนที่ 1 และก็ไปผ่าตัด ในตอนที่ 2 คราวนี้ตามที่สัญญาไว้ค่ะ วันนี้จะเล่าอาการหลังวันผ่าตัด จมูกอันใหม่ของเรา เป็นตอนที่ 3 จ้ะ..... คุยและตกลงกับคุณหมอไว้ว่าเสริมนิดเดียว พอเป็นสันเงา คงรูปและปลายจมูกเดิมไว้ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ตอนนี้ผ่านมา 11 วันแล้ว จมูกเริ่มเข้าที่ หายบวมแล้ว แต่ยังรู้สึกเจ็บๆ (เวลามือพลาดไปโดน) ตึงๆอยู่บ้างค่ะ จมูกของเราอาจไม่ได้สวย เหมือนของเพื่อนๆ หรือดาราบางท่าน แต่เราคิดว่า การทำจมูกครั้งนี้ทำให้ใบหน้าของเราดูดีขึ้น เมื่อวานไปเรียนมีเพื่อนๆ บางคนเท่านั้นที่สังเกตเห็นความผิดปกติบนหน้าตาของเรา แต่เพื่อนๆก็บอกว่าทำออกมาดูเป็นธรรมชาติดี โดยรวมแล้วตอนนี้ พอใจ 95% 5% ที่หายไปขอเก็บไว้ พิจารณาตอนเวลาผ่านไป 1-3 เดือน อ่ะค่ะ ก่อนทำ จะเห็นว่า ระหว่างลูกตามีดั้งน้อยมาก |
วันที่ 16 มี.ค. 49
หลังทำวันแรกจมูกเริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยประคบเย็นตลอดเวลา จะได้ยุบเร็วๆ ตามที่คุณหมอบอก ช่วงใต้ตาก็เริ่มเป็นรอยช้ำด้วย หมอบอกว่า วันสองวันนี้ หน้าเราอาจจะบวมเหมือนสิงโต แต่ของเราไม่เป็นแฮะ กลับเป็นช้างน้อยแทน บวมมากแค่ที่ช่วงจมูก
วันที่ 17 มี.ค.49
จมูกก็ยังบวมเป็นช้างน้อยอยู่ แต่..ใต้ตาช้ำมากๆๆๆๆ
วันที่ 18 มี.ค.49
จมูกเริ่มยุบ รอยช้ำใต้ตาเป็นสีม่วงๆ
วันที่ 20 มี.ค. 49
ตรงระหว่างตัวตายังบวมอยู่
วันที่ 21 มี.ค. 49
รอยช้ำเริ่มจางลงไปมากแล้
วันที่ 22 มี.ค. 49วันนี้มีนัดพบหมอค่ะ ก็เลยแต่งหน้า ทาคอนซีลเลอร์ปกปิดรอยช้ำ จมูกเริ่มสวยแล้ว (สวยแบบของเรานะ)
เมื่อไปถึงหมอ C ยังไม่มา หมออีกท่านนีงมาตรวจแทน
-หมอมาจับๆ กดๆ ดันๆที่จมูก (เจ็บอ่ะ) และก็บอกเราว่า ตรงดั้งจะยุบช้าที่สุด รวมทั้งปลายจมูกด้วย ส่วนไหมในจมูกจะหลุดไปเอง
-ช่วงกลางจมูกถึงปลายจะดูใสๆ ให้โปะแป้งทับได้ มันเป็นช่วงปรับสภาพผิวของผิวหนังจมูก
-หมอนัดอีกทีวันที่ 28 มี.ค.49
วันที่ 25 มี.ค. 49
จมูกดีขึ้นมากแล้วค่ะ ตรงระหว่างคิ้วก็หายบวมแล้ว
พอใจและมั่นใจมากค่ะ กับจมูกใหม่ของเรา
ในภาพจะดูหน้ามันๆ เพราะไม่ได้ทาแป้งเลย ทาแต่พวกบำรุงตามปกติอ่ะคะ
หวังว่าเรื่องราวของเราคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่คิดจะทำจมูกนะคะ
ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจจากทุกคนค่ะ
ติดตามตอนที่ 4 เร็วๆนี้ค่ะ
ตอนที่ 4 ภาพปัจจุบัน - จมูก- อีก 2 วัน ครบ 2 เดือน
หวัดดีค่ะ ทุกคน
มีเพื่อนๆ หลายท่าน หลังไมค์มาถามอาการ และลักษณะจมูกตอนนี้ ว่าเป็นยังไงบ้าง
วันนี้ มีเวลาว่าง ก็มาโพสต์ให้ดูกันค่ะ เก็บไว้เป็นข้อมูลเนอะ
ผ่านมา อีก 2 วัน จะครบ 2 เดือนแล้วค่ะ จมูกเข้าที่แล้ว รู้สึกพอใจมาก 99% เลยค่ะ (อีก 1 % ไว้ดูตอน 1ปีผ่านไป) ความรู้สึกเรา จมูก ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โด่งมากแบบที่อยากได้ แต่บางทีเวลาส่องกระจกก็รู้สึกว่า มันโด่งน้อยไปหน่อยรึเปล่านะ อิอิ
สรุปความเปลี่ยนแปลงโดยรวม
ด้านบวก
-มีดั้งตรงระหว่างลูกตาเพิ่มขึ้น ทำให้หน้ามีมิติ ปลายจมูกก็สูงขึ้นนิดหน่อย
-ช่วงตาดูคมขึ้นอีก เป็นผลพลอยได้ไป
ด้านลบ
-หน้าดูแก่ขึ้น เอ...ใช้คำว่า เป็นสาวขึ้นดีกว่า ก่อนทำหน้าดูเด็กกว่านี้อ่ะ (คนใกล้ตัวและพี่ๆที่ทำงานบอกนะ) เราก็เห็นแบบนั้นเหมือนกัน
-ต้องคอยระวังจมูกตลอดเวลา กลัวใครจะเอามือมาโดน ล้างหน้าไม่ค่อยสะดวกเหมือนเมื่อก่อน กลัวมือพลาดไปโดนจมูกแรงๆ
มาดูภาพกันเลย
28/03/06
ไปหาหมอตามนัดครั้งที่ 2 ท่านบอกว่าตรงดั้งและปลายจะยุบลงอีก โดยรวม โอเคแล้ว หมอบอก
5/04/06
เหมือนตรงปลายยังบวมอยู่เลย ดูจากภาพนี้
11/04/06
13/04/06
ตรงดั้งยุบลงอย่างเห็นได้ชัดเลย
15/04/06
ครบ 1 เดือนพอดีเลย ดูบวมๆนิดๆเนอะ แต่ก็เริ่มเข้าที่แล้ว
18/04/06
2/05/06
กับโครงหน้าโดยรวมจ้ะ ขำอ่ะ 555555
ไปพบหมอครั้งที่ 3 ท่านบอกว่าจมูกเข้าที่แล้ว นัดอีกทีก็ครึ่งปีเลย
12/05/06
เพิ่งถ่ายเมื่อกี้นี้เอง
12/05/06
ด้านข้าง
หมดแล้วค่ะ
คิดว่าประสบการณ์ของเราคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะเสริมจมูกบ้างนะ
ตอนที่ 5 - - 6 เดือนแล้ว กับซิลิโคนในจมูก
หวัดดีค่ะ ทุกคน
6 เดือนแล้วจ้ะ กับซิลิโคนในจมูกเรา ตอนนี้ซิลิโคนเข้ากับตัวจมูกมากแล้วจนรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแล้วล่ะ (เอ..มันดีไหมเนี่ย) เพื่อนๆหลายท่านถามว่าตอนนี้เป็นไงบ้างแล้ว อยากเห็นรูป วันนี้ก็เลยลงอัพเดตให้ดูกันจ้า
ไปพบหมอครบรอบ 6 เดือนเมื่อ 16/09/06
พอเจอหน้ากัน หมอพูดคำแรก ผอมลงไปเยอะเลยนะ หน้าตอบไปเลย จะทำให้เห็นสันจมูกชัดขึ้น
หมอบอกว่าโดยรวม ก็โอเคแล้ว จมูกไม่มีปัญหา
หลังทำแล้วรู้สึกโพรงจมูกด้านในกว้างขึ้น ขี้มูกเยอะขึ้น แต่หมอบอกว่าไม่เกี่ยวอ่ะ เรื่องขี้มูก อิอิ
จากนั้นก็ถ่ายรูป
แล้วนัดอีกที 1 ปีเลย แต่ถ้ามันเป็นไรก่อนหน้านั้นก็มาพบได้ตลอด (อย่าให้มีเลยเนอะ)
จากที่เราสังเกตการเปลี่ยนแปลง
ดั้งระหว่างลูกตา- ยุบลง ทำให้ช่วงตาดูลึกขึ้น แต่ไม่รั้ง
ความโด่ง- รู้สึกว่าไม่ค่อยโด่งมาก เป็นธรรมชาติ (ก็อยากได้แบบนี้นี่เรา)
ปลายจมูก ? ยุบลงมากๆๆๆๆเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนแรกๆที่ทำ
รูปจมูกทั้งหมด- ก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้ข้อมูลและเป็นกำลังใจให้นะคะ
สำหรับเพื่อนๆที่อยากทำ ลองหาข้อมูลมากๆๆๆก่อนตัดสินใจนะ เราไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน เพียงแต่อยากให้คิดหนักๆ ใช้เวลามากๆ ในการตัดสินใจว่าจะไปทำ ผลของมันมีสองด้านล่ะค่ะ
ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าของบทความดีๆนี้ด้วยน่ะค่ะที่แบ่งปันประสบการณ์กับเรา