สวัสดีค่าทุกคน 

อย่างที่เพื่อนๆได้เห็นกันตลอดมาว่า หนึ่งเป็นคนผมยาวมาก และชอบทำผมมาก 

ไม่ว่าจะเป็นทำสี ม้วนผม หนีบผม คือไม่เคยขาด ไม่เคยพัก ยิ่งทำร้ายผมมากเท่าไหร่ 

ก็ต้องฟื้นบำรุงผมมากกว่าเป็น 2 เท่า !! ซึ่งการทำการใช้แชมพู ครีมนวด อาจไม่เพียงพอ 

สำหรับคนทำเคมีหรือผมเสียหนักๆค่ะ ต้องมีการบำรุงมากกว่านั้น  แต่จะเข้าร้านทำทรีทเม้นท์ 

อบไอน้ำตลอด กระเป๋าตังคงแบนพอดีค่ะ วันนี้หนึ่งเลยมีวิธีการฟื้นบำรุงผมเสีย 

ที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยค่ะ 

และผู้ช่วยของผมก็คือ………. 

 Dr.PONG Hair Core ฟื้นฟูสภาพเส้นผมล้ำลึกถึงแกนผม !!

เค้าทำได้ยังไง ไปดูกันเลยค่ะ 

มาเป็นเซ็ทเลยค่าวันนี้ เน้นบำรุงให้หนักไปเลยสำหรับคนชอบทำร้ายผมแบบหนึ่ง 

3 ชิ้นนี้คือ ครีมนวด ทรีทเม้นท์ และเอสเซนส์ ใช้ควบคู่กันเพื่อกู้ชีพแกนเส้นผมที่ถูกทำร้ายมา

เป็นเวลานาน 

โดยการทำงานของ Dr.PONG Hair Core เซ็ทนี้ก็คือ เค้ามีเทคโนโลยีที่เรียกว่า 

Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate เป็นสารที่ช่วยซ่อมแซม พันธะไดซัลไฟด์ที่แก่น

กลางเส้นผม พูดง่ายๆเลยคือเป็นสารที่สามารถซึมเข้าเส้นผมได้อย่างล้ำลึก 

เพื่อซ่อมบำรุงเส้นผมที่เสียจากการทำเคมี และความร้อน ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวา และสุขภาพดีอีกครั้ง  โดยที่ผมของเรา จะได้รับการบำรุงตั้งแต่แก่นกลางเส้นผมภายใน (Core Repair) 

ไปจนถึงผมชั้นนอกสุด (Surface repair)  จึงถือเป็นการบำรุง และดูแลเส้นผมจริงๆ

 ไม่ใช่สารเคลือบให้ผมนุ่ม เงาเพียงภายนอกเท่านั้นค่ะ 

 หนึ่งขอเล่าไปตามลำดับการใช้งานเลยนะคะ ว่าเราจะฟื้นบำรุงผมเสียยังไงได้บ้าง

Step 1 : Dr.PONG 001 Hair Core - Essence

เอสเซนส์ที่เป็นน้ำใสเหลว มีกลิ่นคล้ายถั่วเหลืองแบบธรรมชาติ ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการ 

เปิดเกล็ดผม ให้พร้อมรับกับการบำรุง โดยเราจะใช้ขวดนี้ เป็นอันดับแรก ก่อนสระผม

 ในขณะที่ผมแห้งอยู่ค่ะ

วิธีการก็คือ ฉีดเอสเซนส์ตามช่อผมเล็กๆ โดยฉีดห่างจากศีรษะประมาณ 1 นิ้ว ชโลมให้ทั่ว

แต่ไม่ต้องเน้นหนังศีรษะ ฉีดที่เส้นผมได้โดยตรง โดยชโลมให้ผมเปียกที่สุด 

ทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนสระผมค่ะ

Step 2 : Dr.PONG 003 Hair Core - Treatment

ทรีทเม้นท์เนื้อครีม มีความกึ่งเหลวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมและเข้มข้น ไม่ต้องใช้เยอะมากในแต่ละครั้งก็สามารถบำรุงผมได้อย่างทั่วถึง ล้ำลึก ขั้นตอนนี้จะเป็นการเชื่อมแกนผม 

ตัวทรีทเม้นท์จะเข้าไปซ่อมแซมแกนผมเสียโดยสมานอนุภาคแกนเส้นผมให้เชื่อมเข้าหากัน 

ทำให้ผมไม่กลวง ไม่ชี้ฟู ไม่หักง่าย เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นผมได้อย่างดี

ทรีทเม้นท์จะใช้เป็น Step ที่ 2 ต่อจากเอสเซนส์โดยไม่ต้องล้างออกค่ะ 

บีบทรีทเม้นท์ลงบนฝ่ามือ ชโลมและนวดให้ทั่วทั่งศีรษะ ตั้งแต่โคนถึงปลายผม 

แล้วจึงหวีเพื่อให้ทรีทเม้นท์กระจายสม่ำเสมอ  สำหรับใครที่ผมยาวมากๆแบบหนึ่ง 

ถ้าหวีผมแล้วกลัวผมจะพันกัน หรือผมขาด หนึ่งแนะนำให้ใช้มือสางก่อนได้ค่ะ เพราะเรา

สามารถคุมน้ำหนักได้ดีกว่า โดยไม่ต้องกระชากเส้นผมที่พันกันอยู่ เมื่อทรีทเม้นท์

กระจายทั่วทั้งศีรษะแล้ว ให้ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาดค่ะ 

จบขั้นตอนนี้ ก็ได้เวลาสระผมกันแล้ว

Step 3 : Dr.PONG 007 Hair core - Conditioner

หลังจากสระผมด้วยแชมพูแล้ว ขาดไม่ได้ทุกครั้งเลยก็คือ ครีมนวดค่ะ

 ขั้นตอนนี้จะทำหน้าที่ในการบำรุงผมนุ่มและสร้างเกราะป้องกันเส้นผม โดยทำหน้าที่ยึดติด

บริเวณภายนอกของเส้นผมที่เสียหาย ทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน และหวีง่ายขึ้นหลังใช้ค่ะ 

เนื้อครีมนวดสีขาวเข้มข้น มีกลิ่นหอมมาก และไม่ต้องใช้เยอะเลยค่ะ บีบพอประมาณ 

ก็ใช้ได้ทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งครีมนวดตัวนี้ สามารถชโลมผมได้ทุกส่วน โดยไม่ทำให้ผมมันเร็วด้วยค่ะ

วิธีการใช้ เหมือนครีมนวดทั่วไปคือ ใช้ทุกครั้งหลังสระผมด้วยแชมพู นวดให้ทั่ว

โดยเน้นปลายผม และทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีให้ครีมนวดได้ซึมเข้าเส้นผม แล้วล้างออก

ด้วยน้ำสะอาด ซึ่งครีมนวดตัวนี้ จัดว่าล้างออกง่ายเลยค่ะ 

แม้ครีมนวดจะมีความเข้มข้นมากก็ตาม

สรุป 3 ขั้นตอน ฟื้นบำรุงผมเสียที่บ้าน 

Step 1 เปิดเกล็ดผมด้วย Essence 

Step 2 เชื่อมแกนผมด้วย Treatment 

Step 3 บำรุงผมให้นุ่มลื่นด้วย Conditioner

ใช้แล้ว แชร์ได้

หลังจากได้ลองใช้ทั้ง 3 Step หนึ่งประทับใจกับผลลัพธ์มากเลยค่ะ 

ผมสีทองเป็นภาพ Before ที่ก่อนหน้านี้หนึ่งมีทำผมสีเทา ทำให้ผ่านการฟอก 

และสีหลุดจนผมสีอ่อนชัดเจนมากๆ และก็อ่อนแอ ชี้ฟู แต่ด้วยความที่เราชอบทำผม

ก็ไม่อาจมีอะไรมาหยุดได้ค่ะ ไปต่อด้วยการทำสีไฮไลท์ซะเลย >< 

แต่อย่างที่หนึ่งบอกตอนต้น ยิ่งทำร้ายผมมากเท่าไหร่ ก็ต้องดูแลเพิ่มเป็น 2 เท่า

หลังใช้ Dr. PONG Hair Core ผมนุ่มลื่น และมีน้ำหนักขึ้น แม้จะผ่านการทำสีไฮไลท์

มาสดๆร้อนๆ ผมไม่แห้งกรอบ หวีง่ายขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเข้าซาลอนไปทำ

ทรีทเม้นท์ เพราะการบำรุงทั้ง 3 ขั้นตอน คือ ล้ำลึกจริง ผมดีขึ้นจริง หนึ่งใช้ความร้อน

จัดแต่งผมทุกวัน แต่ผมก็ยังมีน้ำหนัก ดูสุขภาพดีอยู่ ซึ่งประทับใจมาก 

ถ้าเทียบกับคนที่ทำร้ายผมมาขนาดนี้ แต่สภาพผมก็ยังไปต่อได้อยู่ ไม่แห้งเสียเลยค่ะ 

เรียกว่า คืนชีพที่แท้ทรู ประทับใจ 

สาวๆ หนุ่มๆที่รักผม และอยากดูแลแบบล้ำลึก ต้องลองให้ได้เลยค่ะ 

ไม่จำเป็นต้องรอให้ผมเสียก่อน และค่อยมาดูแลนะคะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : เพจ Dr.PONG Hair core – เชื่อมแกนผมแก้ผมเสีย

Shopee : Dr. Pong Shop เสิร์ชว่า “Hair Core”

Thank you.