บำรุงผมเสียที่ต้นเหตุ ลดปัญหาหัวมันหนักมาก!!ด้วย Divyne

31 20

หลังจากที่ทำผมมาอย่างหนักหน่วงทั้งยืดผมและย้อมผม เราก็เริ่มรู้สึกว่าต้องบำรุงบ้างแล้วแหละ ก่อนหน้านี้ก็มีบำรุงนะพวกครีมหมักผมเคราตินต่างๆแต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นการบำรุงแค่ภายนอก ซึ่งตอนนี้อาการหัวเราหนักเกินเบอร์นั้นไปแล้ว55555 ก็คือหนังศรีษะและช่วงโคนผมจะมันแต่ปลายผมจะแห้งเสีย พี่ช่างทำผมเขาบอกว่าเป็นเพราะปลายผมเรามันแห้งเสียมากจนไม่สามารถดูดสารอาหารเข้ามาบำรุงเส้นผมได้แล้ว ทำให้โคนผมเราอ่ะ มัน  ฮือออออ ถึงเวลาที่ต้องเริ่มบำรุงแบบชุดใหญ่ รอบนี้เราเลยมองหาผลิณภัณฑ์ที่แก้ปัญหาผมมันบ้างไม่ใช่แค่บำรุงผมเสีย

สรุปว่ามาเจอแบรนด์นี้และสโลแกนเขาน่าสนใจมาก

‘Real beauty, real people, real result ‘

Divyne

ทรายลองกดเข้าไปอ่านข้อมูลของเขาทางหน้าเว็ปไซต์และก็ได้รู้ว่าแบรนด์นี้เขาไม่ได้เน้นที่ผมหลังสระดูเงาสลวยแต่จะเน้นไปที่การบำรุงจากต้นเหตุที่อาจจะแปลว่าหลังสระผมคุณจะไม่ได้สวยสุขภาพดีมีน้ำหนักแบบเว่อร์วังนะแต่เราจะค่อยๆบำรุงให้ผมคุณดีขึ้นเรื่อยๆซึ่งก็แปลว่าคุณต้องใจเย็นๆ....เพราะผมคุณพังมากแล้ววววววมันดีขึ้นทันตาเห็นไม่ได้ย่ะ! (อันหลังเป็นความในใจของเอง55555)

และอีกความน่าสนใจก็คือเขาค่อนข้างจะเป็นออร์แกนิกสำหรับผมที่อ่อนแอและเป็นวีแกน ไม่ทดลองกับสัตว์ ที่ทั้ง “ดีต่อคุณ” และ “ดีต่อโลก” โอโหหหหหหหห นี่แหละน่าจะเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์กับเราแถมยังไม่ทำร้ายน้อนๆอีก

ทางแบรนด์มีผลิตภัณฑ์ haircare ทั้งหมด 3 ตัว

  • Divyne Pore Exfoliating Scalp Scrub (140ml.) 990฿

  • Divyne Clear Cloud Shampoo (280ml.) 690฿

  • Divyne Strand Strengthen Hair Masque (180ml.) 990฿

ซึ่งคิดหนักมากกกกกกก เพราะราคาต่างกันมากๆๆๆๆ

ถ้าเป็นเซ็ทสครับ + แฮร์มาส์ก ราคา 1590 บาท แล้วเราก็ใช้ชมพูตัวเดิมของเราแต่...ดันไปเจออีกโปรนึง

เซ็ท 3 ชิ้นครบสูตร สครับ+แชมพู+แฮร์มาส์ก ราคา 2090 บาท เฮ้ยยยย มันถูกกว่าหนิ!! เรามันทาสการตลาดอะนะก็ต้องเซ็ทนี้ค่ะ แต่ก็ขอพูดตามตรงว่าเป็นราคาที่แรงแต่เราก็ปลอบใจตัวเองว่าไหนๆจะบำรุงแล้วก็ใช้ทั้งเซ็ทไปเลยเพราะถ้าใช้ไม่ครบเดี๋ยวมันจะไม่เห็นผลรึป่าว (ในใจน้ำตาไหลอยู่ TT^TT)

เขามีหวีมาให้ด้วยนะทุกคนนนน

น้องนอนอยู่ในห้องน้ำทรายเลยลืมหยิบมาถ่ายด้วย

สภาพผมก่อนใช้

ผมมัน หัวมัน มีรังแคเยอะขนาดนี้เลยหรอเนี่ยพึ่งเห็นหัวตัวเองชัดๆ

แล้วผมมันแบบบบตั้งไว้ทรงไหนก็อยู่ทรงนั้นเลย ลมพัดแทบไม่ขยับ

เดี๋ยวมาเริ่มใช้กันเลย

ตัวแรกไม่ใช่แชมพูแต่เป็นสครับ Divyne Pore Exfoliating Scalp Scrub หนังศีรษะของเรามันก็เหมือนกับผิวหนัง มีรูขุมขนเหมือนกันมันจึงเกิดการอุดตันได้เหมือนกัน ปัญหาที่จะตามมาก็คือ หัวมัน มีรังแคและก็คันหัว เราเลยต้องสครับก่อนเพื่อเอาพวกหนังหัวเก่าๆออกไปเหมือนกับสครับผิวหน้าเลยเอาเซลล์เก่าสร้างปัญหาออกเพื่อบำรุงเซลล์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น

ทรายจะล้างหัวด้วยน้ำเปล่าก่อนรอบนึงและก็ลงสครับบนหนังศีรษะที่เปียก ค่อยๆนวดและก็ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที

เนื้อสครับเม็ดใหญ่แต่ไม่บาดผิว ด้วยความที่เขาผสมตัวเนื้อครีมมาเยอะด้วยเลยเกลี่ยลงหนังศรีษะง่าย ล้างออกก็ง่าย ส่วนตัวคิดว่าราคาแรงนะถ้าเทียบกับปริมาณเพราะจากที่ใช้ครั้งนึงก็ใช้เยอะน่าจะเป็นตัวที่หมดก่อนเลย

หลังจากที่สครับทิ้งไว้ครบ 10 นาทีก็จะล้างด้วยน้ำเปล่าและตามด้วยแชมพู

Divyne Clear Cloud Shampoo หลักๆก็คือชำระล้างสิ่งสกปรก ลดความมันของหนังศรีษะและเส้นผม ลดรังแค อาการคัน มาพร้อมกับสารสกัดของ Ceramide NG ที่ซ่อมแซมและปกป้องเส้นผมจากความร้อนและเคมี

สำหรับผมทรายที่เป็นผมมันใช้ครั้งแรกไม่ชินเลยเพราะฟองน้อยมากกกด้วยความที่เขาเป็นออแกนิคด้วยแหละ ไม่มีซัลเฟต ซิลิโคน น้ำหอม อะไรที่อาจจะทำให้หัวเราระคายเคืองเขาเลี่ยงไม่ใส่เลยมันก็จะขัดใจหน่อย5555 ทรายจะสระวนจนกว่าจะมีฟองนิดๆเป็นอันว่าสะอาดล้างได้เลย

ปิดท้ายด้วย Divyne Strand Strengthen Hair Masque เขาเป็น “แฮร์มาส์ก” แต่ใช้แทนคอนดิชันเนอร์ได้เลย แฮร์มาส์กตัวนี้ช่วยเติมอาหารให้รากผมกระตุ้นการไหลเวียนเพื่อให้ผมที่งอกใหม่แข็งแรงส่วนผมเก่าที่เสียก็บำรุงเติมความชุ่มชื้น ปกป้องเส้นผมจากความร้อนและสารเคมีด้วย

หลังจากล้างแชมพูออกทรายจะรอให้ผมเปียกหมาดๆก่อนแล้วค่อยลงมาส์กหลังจากเกลี่ยทั่วแล้วก็จะใช้หวีที่เขาให้มาค่อยๆสางผมและนวดให้ทั่ว ทิ้งไว้15นาทีเลย ดูโดเรม่อนรอ 1 ตอน

ชอบตัวนี้ที่สุดเพราะกลิ่นหอม ใช้แล้วผ่อนคลายสุดๆเหมือนทำสปาอยู่เลย เนื้อเนียน นุ่ม ใช้นิดเดียวก็พอแล้ว

หลังสระเสร็จแล้วกลิ่นของมาส์กก็ยังติดผมอยู่ มันดีมากกกกกกกก ดีต่อใจ ดีต่อจมูก นั่งตากผมทำงานเพลินๆก็ได้กลิ่นหอมตลอด ถ้ามาส์กก่อนนอนยิ่งช่วยทำให้หลับง่ายเลย แล้วคือตอนแรกคิดว่าจะเหมือนครีมหมักผมตัวอื่นๆที่มีกลิ่นติดผมแค่ประมาณ 2 ชม.ก็จางหายไป แต่ไม่ค่ะ! ตัวนี้ติดจริงจังมากติดไป1-2วัน วันที่ 3 ยังมีกลิ่นติดอยู่อ่อนๆ เกินเบอร์มากกกก น้องมาแรงสุดแถมใช้นิดเดียวมาส์กได้ทั้งหัวน้องต้องหมดหลังสุดแน่ๆ

เฉลี่ยทรายจะใช้อาทิตย์ละ 1-2ครั้ง ถ้าผมมันมากๆเมื่อไหร่ก็สระเมื่อนั้นแหละ55555

ใช้ครั้งแรก : ผมนุ่มลื่นดี ผมหอมมมมมมม

ใช้ครั้งที่สอง : ผมแห้งไวขึ้น (ปล่อยแห้งเอง ไม่ไดร์)

ใช้ครั้งที่สาม : ผมมีสปริงมากขึ้น เหมือนปรับสมดุลของผมและหนังศรีษะให้มันน้อยลงกว่าหลังสระสองครั้งก่อนด้วย

แต่!!.......ทรายเชื่อว่าผมหลังสระอ่ะมันดูดีหมดแหละ ของจริงต้องเทียบก่อนสระ!

ถ้าเป็นเมื่อก่อนสุดๆของทรายเลยคือ 5 วัน หัวจะมันมากกกกกกยังไงก็ต้องสระ

เพราะฉะนั้นเรามาลองดูหลังจากใช้เซ็ทนี้และหลังจากสระไปแล้ว 5 วันกันค่ะ

ก็ถือว่าหัวมันแต่มันน้อยลงจากแต่ก่อน ถ้าตามภาษาคนขี้เกียจก็คือยังได้อยู่55555 ยังไม่ต้องสระ 

ปลายผมไม่ได้แห้งและก็ไม่ได้สากเท่าเมื่อก่อน

ผลลัพท์คุ้มค่ากับราคาแค่นี้ก็สบายใจแล้วจ้า ตอนแรกกลัวมากว่าจะไม่เห็นผล ฉันลุ้นมากนะ55555

ถือว่าเป็นอีกแบรนด์นึงที่จริงใจกับลูกค้ามากๆและก็เป็นการบำรุงที่ค่อยๆดีขึ้นจริงๆ ต้องใจเย็นๆนะคะ เพื่อนๆไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็ปของ Divyne ก่อนได้เลยค่ะ

เป็นกำลังจั๊ยให้เพื่อนๆที่อยากมีผมสวยเหมือนกัน แล้วเจอกันใหม่จ้า

บ๊ายบาย


Sandsannn

Sandsannn

ทรายเองนะคะ ใครอยากติชมหรืออยากให้รีวิวอะไรเพิ่มเติมสามารถติดต่อทรายมาได้เลยค่ะ
line: sandsann

FULL PROFILE