เส้นทางจากพีคสุดมาสู่จุดตกต่ำจากอาการป่วย ของชายที่มีชื่อว่าVal Klimer

สวัสดีค่ะ
ตอนนี้ ภาพยนตร์เรื่องTop Gun:Marverick ก็ได้เข้าฉายเป็นทางการแล้ว
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีการขับเครื่องบินเจ็ทสุดมันส์ ที่ลุงTom Cruise การันตีว่าขับเองทุกฉาก และเรื่องราวสุดดราม่าที่ทำเอาปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
ซึ่งนักแสดงจากTop Gun(1986) ที่มาในภาคนี้อีกคนหนึ่งก็คือ ลุงVal Klimerค่ะ

ซึ่งจากการที่ลุงKlimer มาร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องTop Gun:Marverick ทั้งๆที่สุขภาพไม่ดีนัก(ป่วยเป็นมะเร็งกล่องเสียง) ก็ทำให้เกิดข้อกังขานิดหน่อย แต่ทางทีมงานบอกว่า การรับบทเป็นTom'Iceman' Kazansky ของเขาทำให้เนื้อหาสมบูรณ์แบบ และทีมงานก็ยังใช้ระบบAI Voice มาช่วยแก้ปัญหาอีกที

บทความนี้จะมาทำความรู้จักกับลุงVal Klimer ที่แจ้งเกิดในช่วงยุค80s แต่ด้วยโรคร้ายที่เป็นมากว่า7ปี(นับตั้งแต่ปี2015) ทำให้การทำงานบนเส้นทางนี้ไม่ราบรื่นนัก
พออ่านจนจบ อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ช่วงชีวิตก่อนเข้าวงการ
ลุงKlimer เกิดเมื่อวันที่31 ธันวาคม 1959 ที่Los Angeles รัฐCalifornia สหัฐอเมริกา โดยเป็นลูกคนที่2ของครอบครัว
พ่อแม่ของKlimer ได้หย่ากันเมื่อตอนอายุ8ขวบ หลังจากนั้นแม่ของเขาก็ได้แต่งงานใหม่เมื่อปี1970 หลังจากนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อน้องชายของเขาเกิดอาการลมชัก แล้วจมน้ำในอ่างจากุซซี่เสียชีวิตด้วยวัย15ปี
ลุงKlimer จบการศึกษาจากChatsworth High School พร้อมกับลุงKevin Spacey ส่วนเขาเคยมีแฟนสาวในสมัยเรียนโรงเรียนนี้คือป้าMae Winningham หลังจากนั้น ลุงKlimerกลายเป็นนักศึกษาอายุน้อยที่สุดที่เรียนในJuilliard School สาขาแผนกการละคร หลังจากนั้นเขาก็จบการศึกษาในรุ่นที่10

ผลงานแรกเริ่ม จนถึงผลงานที่เป็นที่กล่าวถึง
โดยปกติ ลุงKlimerเป็นคนที่ทำงานด้วยกันยาก อาจด้วยนิสัยอินดี้ของตัวเขาเอง
ผลงานแรกเริ่มของลุงKlimer เป็นภาพยนตร์ฟอร์มกลางๆที่ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก จนกระทั่งปี1986 ภาพยนตร์เรื่องTop Gun ก็ได้ทำให้เขาคนนี้เฉิดฉาย

หลังจากนั้น ลุงKlimer ก็มีผลงานภาพยนตร์เรื่อยมา โดยในปี1988 เขาได้ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องWillow

ปี1991 เป็นปีที่ลุงVal Klimer ประสบความสำเร็จในงานแสดง เมื่อบทJim Morrison นักร้องนำวงThe Doors ผู้ล่วงลับในภาพยนตร์กึ่งชีวประวัติเรื่องThe Doors ได้ส่งให้เขาได้มีชื่อเข้าชิงงานด้านภาพยนตร์
โดยเข้าชิงในงานChicago Film Critics Association Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และมีชื่อเข้าชิงในงานMTV Movie Award ในสาขานักแสดงนำชายด้านภาพยนตร์

ปี1993 ลุงKlimer ก็ได้ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์เรื่องTombstone ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวWestern หลงยุคที่ทำรายได้ดี และเสียงวิจารณ์ให้ไปในเชิงบวก

ปี1995 เป็นปีที่ลุงVal Klimer มีผลงานภาพยนตร์สุดปังถึง2เรื่อง
เรื่องแรกก็คือ Batman Forever โดยลุงKlimer รับบทเป็นBruce Wayne/Batman ซึ่งเป็นการส่งไม้ต่อจากลุงMichael Keaton
นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสมทบด้วยลุงJim Carry,ลุงTommy Lee Jones และคุณNicole Kidman ซึ่งตัวภาพยนตร์นั้นจะสดใสมากกว่าฉบับของลุงTim Burton

เรื่องที่2 กับการพลิกบทบาทเป็นตัวร้ายสุดขั้วของลุงKlimer ในภาพยนตร์เรื่องHeat
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวแอคชั่น-ล่าระห่ำสุดมันส์ ซึ่งนำแสดงโดยลุงRobert de Niro และลุงAl Pacino

ปี1997 ลุงKlimer ก็ได้แสดงภาพยนตร์แนวระทึกขวัญทุกนาทีเรื่องThe Saint

ปี1998 ลุงVal Klimer ได้ให้เสียงเป็นMoses และพระเจ้าในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องThe Prince of Egypt
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นลำดับต้นๆของทางค่ายDreamwork Picture โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกแบนในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม

ปี2005 ลุงKlimer กลับมาอีกครั้ง พร้อมพาคุณRobert Downey Jr. กลับมาแบบซอฟต์ๆ(ก่อนจะกลับมาแบบปังๆกับภาพยนตร์เรื่องIron Man) ในภาพยนตร์เรื่องKiss Kiss Bang Bang ที่เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ด้วยคำวิจารณ์ที่ไปในทางบวก แต่กลับรายได้ขาดทุน

ปี2006 ลุงKlimer ได้ร่วมงานกับลุงDenzel Washingtonเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์แอคชั่น-ระทึกขวัญเรื่องDéjà Vu

ปัญหาสุขภาพ
ลุงKlimer เริ่มป่วยเป็นมะเร็งในลำคอเมื่อปี2015 โดยได้ทำการรักษาแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป จนมาปี2017 อาการเริ่มแย่ลง เมื่อเซลล์มะเร็งลามไปถึงกล่องเสียง ทำให้การพูดเปลี่ยนไป
หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานกว่า4ปี ลุงKlimerก็หายจากอาการป่วย แต่กลับทำให้การพูดและการรับประทานอาหารไม่เหมือนเดิม จึงเป็นที่มาของการใช้AI Voice ในภาพยนตร์เรื่องTop Gun:Marverick

ชีวิตส่วนตัว และชีวิตครอบครัวที่ผ่านไป
ลุงVal Klimer เคยแต่งงานกับป้าJoanne Whalle นักแสดงที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องWillow เมื่อปี1988 จนกระทั่งทั้งคู่ได้แยกทางกันเมื่อปี1996
ลุงKlimer มีลูกทั้งหมด2คน ได้แก่ Mercedes(เกิดเมื่อปี1991) และJack(เกิดเมื่อปี1995)

เรื่องราวของลุงVal Klimer สามารถหาชมได้ในภาพยนตร์สารคดีเรื่องVal ทางAmazon Prime Video เท่านั้น
แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.