สื่อเลือกข้างหรือไม่ในกรณี Depp VS Heard?

44 19

ความพ่ายแพ้ของ Johnny Depp ในการฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทเมื่อสองที่ก่อนมี impact ใหญ่หลวงต่ออาชีพแสดงที่โลดแล่นมาเกือบสี่ทศวรรษ แม้ยังผู้คนอีกไม่น้อยที่แสดงความเชื่อมั่นและสนับสนุนเขาไม่เปลี่ยนแปลง แต่พระเอกดังก็ได้เปิดใจว่าวงการ Hollywood กำลัง boycott เขาจนไม่สามารถนำเสนอ project การแสดงออกมาได้อีก

นอกจากพิพากษาจากศาลLondon จะตัดสินว่า เป็นเรื่องไม่ผิดหากใครๆจะตั้งฉายา 'Wife Beater' ให้กับ Johnny Depp แต่ The Sun ไม่ได้เป็นสื่อเจ้าเดียวที่โจมตีและโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อว่าเขาคือ abuser โฉดชั่วที่ข่มเหงเหยื่อที่ไร้ทางสู้และยังตามจองเวรด้วยคำกล่าวหาทำลายชื่อเสียงของอดีตภรรยา


แน่นอนว่าพลังสื่อได้สร้าง impact  ของภาพลักษณ์ของทั้งสองฝ่ายจนเกิดข้อถกเถียงไม่มีที่สิ้นสุดในสังคม    แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า    การนำเสนอข่าวจากสื่อหลายเจ้าดูสวนทางกับกระแสจาก Twitter  และวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกับคนร่วมวงการ  

จะเป็นอย่างไร  มาติดตามกันได้เลยค่ะ


   


Johnny Deppถูกสื่อพิพากษาภาพลักษณ์ superstar เจ้าปัญหาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี


บท Jack Sparrow และบทนำจากภาพยนตร์โด่งดังอีกหลายเรื่องจะทำให้ JD กำหัวใจแฟนๆได้อย่างเหนียวแน่นและกลายมาเป็นไอดอลของลูกเล็กเด็กแดงที่ได้รับเสียงชื่นชมมาตลอดหลายปี แต่อีกด้านหนึ่ง ก่อนหน้านี้มาเนิ่นนาน เขาก็เคยเปิดเผยเรื่องปัญหาทางจิตใจที่ผลักดันให้พึ่งพาเหล้ายา    แม้ว่าแฟนๆจะเปิดใจยอมรับตัวตนด้านนี้ของเขา     แต่เมื่อมาพบจุดเปลี่ยนจากการหย่าร้างกับนางเอกสาวสวย  ปัญหาการใช้สารเสพติดก็กลับมาทำลายความน่าเชื่อถือ  ในระดับที่มีเสียงวิจารณ์ว่า   เขาไม่สามารถปล่อยวางเรื่องการปิดฉากชีวิตคู่แบบพังพินาศ  แล้วหันมากล่าวหาอีกฝ่ายด้วยคำพูดเหลวไหลราวกับอยู่ในภาวะประสาทหลอนซึ่งอาจจะเกิดขึ้นมาจากการใช้ยาเสพติด!


JD คือนักแสดงทรงอิทธิพลที่สร้างมิตรภาพมั่นคงกับกลุ่มนักดนตรี rock ระดับตำนานนับตั้งแต่อยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ แล้วอะไรเอ่ยที่อยู่คู่กับวงการเพลง rock? นักดนตรีจำนวนมากยอมรับเรื่องอาการติดยาเสพติดอย่างเปิดเผย รวมถึงคนที่พ่ายแพ้จนต้องจากโลกไปก่อนวัยด้วยอาการเสพยาเกินขนาด เพียงเท่านี้หลายคนคงจินตนาการภาพออกว่า การสังสรรค์ของพระเอกผู้โด่งดังกับ rockstar รุ่นเก๋าคงไม่ได้มีแต่การดื่มไวน์แบบชิลๆเท่านั้น

แม้แต่การพิจารณาคดีล่าสุด สื่อดังก็ยังยกเรื่องHollywoods' boy club และการเสพยามาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของJD  ทั้งๆที่ในอดีตได้ชื่นชมมิตรภาพของพวกเค้าซะด้วยซ้ำ

เรื่องการใช้ยาเสพติดของJD อาจจะไม่ใช่ความลับที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง แต่เมื่อถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในครอบครัว มันจึงกลายมาเป็นที่คู่กรณีใช้ยืนยันคำพูดตัวเองว่า JD คือ abuserที่ไม่สามารถควบคุมสติอันมาจากพิษยาเสพติด ภาพที่เขาเมามายหมดสภาพและผงยาเสพติดจากภาพที่AH นำมาเป็นหลักฐานสู้คดีในศาลกลายมาเป็นพาดหัวข่าว 'ช็อค'ความรู้สึกของผู้คน

สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงไป เมื่อเพื่อนสนิทอย่าง Marilyn Manson ถูกผู้หญิงหลายคนกล่าวหาเรื่องใช้ความรุนแรงและทารุณทางเพศจนถูก cancel ตามมาติดๆ จนทำให้ผู้สันนิษฐานว่า abuser ก็คงคบ abuser ที่มี mindset บิดเบี้ยวเหมือนกัน กลุ่มคนที่ประนาม JD ได้แสดงความมั่นใจว่า นี่ไม่ต่าวงจากคำยืนยันว่า ข้อกล่าวหาจาก AH ย่อมเป็นความจริง เพราะเขาทั้งเล่นยาและสนิทสนมกับrockerผู้มีรสนิยมทางเพศที่รุนแรงและล่อลวงผู้หญิงมาล่วงละเมิด


แต่ในขณะเดียวกัน  นักแสดงที่เคยร่วมงานกับJDและเพื่อนฝูงของเขาก็ออกโรงปกป้องเต็มที่ว่า เขาเป็นชายแสนดีที่ยากจะเชื่อว่าจะทำร้ายใคร ในขณะที่เราจะไม่ได้เห็นเพื่อนร่วมวงการบันเทิงออกตัวแรงสนับสนุนAHเท่าใดนัก




จากพระเอกหนุ่มใหญ่ที่มีเสน่ห์ชวนหลงไหล  วิกฤติชีวิตคู่ที่ผ่านมาทำให้สื่อร่วมใจประโคมข่าวเรื่องวิกฤติชีวิตที่เข้าขั้น 'ตกต่ำ'


ข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นหลังจากที่JD แตกหักกับอดีตภรรยาไม่ได้มีแต่การตั้งข้อสงสัยว่า เขาเป็น abuser หรือเป็นผู้บริสูทธิ์ที่ถูกใส่ร้ายกันแน่ เพราะหลังจากหย่าร้าง สื่อก็ร่วมประโคมข่าวเรื่องพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ รวมถึงเรื่องเงินๆทองๆจนเดือดร้อนตัวเอง

เขาเผยผ่าน Rolling Stone ว่า ข่าวเรื่องเขาจ่ายงินสามหมื่นดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับไวน์นั้นเหมือนดูถูกกัน เพราะทุ่มไปกว่านั้นมากโข หรือจะเป็นค่าใช้จ่ายในการยิงเถ้ากระดูกของเพื่อนสนิทผู้ล่วงลับ Hunter S. Thompson ด้วยปืนใหญ่ที่เขาแก้ว่า ไม่ได้ใช้เงินไปสามล้านดังที่สื่อลงข่าว แต่ทุ่มไปห้าล้านต่างหาก!

ทั้งยังมีรายงานแจกแจงตัวเงินที่ใช้สำหรับ lifestyle สุดหรูอย่างเครื่องบินส่วนตัว เรือยอร์ช บ้านหรูหลายโลเชั่น สต๊าฟหลายสิบชีวิตที่คอยดูแลเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว การลงทุนกับค่ายเพลง ค่าใช้จ่ายทางกฏหมายและการรักษาความปลอดภัย

และสิ่งนี้ที่ทำให้คู่กรณีทั้งThe Sunและ AH นำมาโจมตีเขาJDในศาล

แต่มีความเป็นไปได้ว่า การไต่สวนพิตจารคดีครั้งใหม่ที่มีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆให้สาธารณชนรับชมจะทำให้ท่าทีของสื่อหลายเจ้าเริ่มเปลี่ยนไป เพราะเริ่มมีการนำเสนอความย้อนแย้งของคำพูดฝ่ายจำเลย และแสดงน้ำเสียงเห็นใจฝ่ายโจกท์เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ว่าที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องการส่งบทความพิพากษาพฤติกรรมของเขาและเชิดชูอดีตภรรยามาโดยตลอด



ฟังแล้วก็ดูไม่ต่างจากชีวิตคนดังระดับ superstar ร่วมวงการ แต่ตัวเขาเองก็มาค้นพบว่า ทรัพย์สินร่อยหรอลงไปมากและกล่าวหาThe Management Group บริษัทจัดการทรัพย์สินว่า ทำหน้าที่ผิดพลาดและฉ้อโกงจนเขาต้องสูญเสียเงินไปมากมาย ในขณะที่คู่กรณีฟาดฟันกลับว่า ทรัพย์สินที่ลดลงฮวบฮาบของเขามาจากการใช้จ่ายสวนทางกับรายได้ที่ลดลงหลังจากเริ่มถูกกีดกันจาก Hollywood แม้คดีนี้ยุติลงด้วยการเจรจาหาข้อตกลงนอกศาล แต่ภาพลักษณ์ของเขาก็ยิ่งดำดิ่งลงไปยิ่งกว่าเดิม หลายปีก่อน บรรดาสื่ออาจจะชื่นชมยินดีเมื่อเขาเดินทางไปสร้าง surprise ให้กับเด็กๆในลุค Jack Sparrow แต่หลังจากถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาจนถูกฟ้องหย่า   ภาพของ JD ที่ปรากฏตามหน้าสื่อคือ  ชายที่กำลังเผชิญวิกฤติวัยกลางคนจนถลุงเงินอย่างไร้ความคิด และยากจพลิกสถานการณ์ดึงชื่อเสียงอันดีงามกลับมา

ในขณะที่ประชันกันนำเสนอภาพsuperstarเจ้าปัญหา  AH ก็ได้รับพื้นที่ให้สร้างชื่อเสียงในฐานะ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีที่สื่อเชิดชู


ทีมกฎหมายฝ่าย JD จับประเด็น 'แผนการสร้างภาพ' ขึ้นมาโจมตี AH หลายครั้ง  เนื่องจากเห็นว่า  เธอได้รับประโยชน์จากการเปิดเผยประสบการณ์เหยื่อความรุนแรง เป็น survivor ผู้หาญกล้าต่อสู้กับชายทรงอิทธิพล และยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหยื่อให้ออกมาเปิดเผยความจริง     ชื่อเสียงของเธอในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่ออุทิศตัวเพื่อส่วนรวมก็ยิ่งพุ่งสูง  มีบทสัมภาษณ์และบทความที่เชิดชูความดีงามของเธอออกมาแทบไม่ห่างหาย
หลังจาก 'ใครบางคน' เริ่มปล่อยข้อมูลเพื่อโจมตีเธอในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นภาพสิ่งปฏฺกูลบนเตียง    ภาพจากวงจรปิดในขณะขึ้นลิฟท์กับเพื่อนชายไปยังเพนท์เฮาส์  ภาพรอยบาดเแผลฟกช้ำของ JD และอื่นๆ  หลายคนคงทราบดีว่ากระแสต่อต้านจาก social media  นั้นดุเดือดเลือดพล่านสักเพียงใด  เธอเผยว่าถูกแฟนของ JD ขู่ฆ่าอยู่บ่อยครั้ง และถูกตราหน้าด้วยคำเหยียดหยามต่างๆนานา  แม้เธอจะได้รับกำลังใจจากผู้ที่ประกาศตัวว่าเป็น team Amber    แต่บน Twitter นั้นเต็มไปด้วยเสียงแช่งชักให้เธอภินท์พัง  แตกต่างจากภาพลักษณ์ของนางเอกชื่อเสียงดีงามที่ปรากฏบนหน้าสื่อ  รวมถึงรางวัล Woman Of The Year


แม้จะถูกชาวเน็ทรังควาน  แต่เธอยังได้รับแรงสนับสนุนจากสื่อไม่เสื่อมคลาย  รวมถึง Mashable  ที่ยกย่อง AH ที่ใช้ social media เป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มชาวเพศทางเลือก ผู้ลี้ภัยสงครามจากซีเรีย และผู้อพยพที่ชายแดนอเมริกาโดยไม่หวั่นต่อข้อความเกลียดชังที่โผล่ขึ้นมาในโพสต์ต่างๆเสมอ  และชี้ว่า  เหล่า haters อาจจะคอยจับผิดเธอว่าแค่สร้างภาพด้วยการเสแสร้งแสดงเป็นนักรณรงค์เพื่อสังคม แต่มันจะไม่กระทบกระเทือนต่อความรู็สึกของผู้ที่เข้าใจเรื่องความทุ่มเทของเธอ


เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สื่อไม่พยายามปิดบังเลยว่าเลือกอยู่ฝ่ายใด






ข้อสังเกต   สื่อแทบลอยด์จาก  USA  หลายเจ้าไม่แตะต้องเรื่องภาพวงจรปิดในลิฟท์


คนดังที่ตกอยู่ในความสนใจของสังคมต้องถูกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวจนกลายมาเป็น ดังกรณี Kristen Stewart, Lily James, Tristan Thompson และ Kevin Hart ที่ตกเป็นscandal นอกใจจากภาพที่ถูกแอบถ่าย แม้ว่าภาพที่กล้องจับไว้ได้จะไม่ใช่หลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นการนอกใจจริงๆหรือไม่ แต่เพียงแค่มีแนวโน้มหรือสื่อว่าพวกเค้ากำลังแนบชิดอยู่กับใครบางคนที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองก็กลายเป็นข่าวครึกโครมบนหน้าข่าวแทบลอยด์ได้แล้ว

แต่ภาพวงจรปิดที่ปรากฏ James Franco ที่ขึ้นไปยังเพนท์เฮาส์พร้อมกับ AH เพียงคืนเดียวหลังจากเกิดเหตุการณ์วิวาทจนแตกหักกับ JD และ Elon Musk ที่พนักงานรักษาความปลอดภัยระบุว่า มาเยี่ยมเยือนเธอถึงเพนท์เฮาส์ก่อนที่จะยื่นหย่าจาก JD (ภาพที่ถูกแชร์บน internet แสดงวันเวลาหลังจากที่พวกเค้าแยกกันอยู่แล้ว) ไม่ได้ส่ง effect เดียวกัน แม้แต่สื่อจอมขุดคุ้ยอย่าง TMZ ก็ดูระมัดระวังที่จะแตะต้องประเด็นนี้ magazine หลายเจ้า ไม่นำภาพวงจรปิดที่สร้างเสียงวิจารณ์เกรียวกราวในsocial mediaมาทำเป็นสกู๊ปข่าว แต่รายงานตรงกันว่า JD กล่าวหาอดีตภรรยาเรื่องคบชู้สู่ชายหลายคน โดยที่ไม่ได้เน้นเจาะลึกถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่เธอจะนอกใจ JD
แต่เน้นไฮไลท์คำปฏิเสธของ AH ว่า ไม่เคยมีชู้แต่อย่างใด เป็นฝ่ายJD ต่างหากที่ระแวงหึงหวงจนใช้ความรุนแรงกับเธอหลายครั้ง


เปรียบเทียบได้ชัดเจนก็คือ หากเซเลบรายอื่นถูกโจมตีด้วยข่าวนอกใจ ไม่ว่าจะมีภาพหลักฐานหรือไม่  แทบลอยด์ย่อมตามขุดคุ้ยหาข้อมูลมาขยายความต่อ ที่ขาดไม่ได้คือการอ้างคำพูดของคนใกล้ตัวคนดังเพื่ออธิบายที่มาที่ไปของข่าวลือ แต่ดูเหมือนว่า พวกเค้าจะไม่พยายามต่อความยาวสาวความยืดกับกรณีภาพในลิฟท์มากนัก

ข้อสันนิษฐาน   หลายสื่อไม่ร่วมเสนอข่าว discredit คนดังที่เป็นตัวแทนของ survivor จากความรุนแรงในครอบครัว



Daily Mail  สื่อจอมแฉจากอังกฤษนำเสนอด้านฉาวจากทั้งสองฝ่ายไม่หยุดยั้ง


สื่ออเมริกันอาจจะเสนอข่าวในด้านลบของ AH อย่างระมัดระวัง แต่ดูเหมือนว่า แทบลอยด์จอมแฉอย่าง Daily Mail จะมาแรงที่สุดในการเสาะหาหลักฐานจากมหากาพย์ความขัดแย้งมาเรียกร้องความสนใจจากผู้ติดตาม ทั้งภาพวงจรปิดในลิฟท์ เอกสารที่ยืนยันข้อกล่าวหาเรื่องหมกเม็ดเงินบริจาค และเทปเสียงจากการบำบัดที่ฝ่ายหญิงยอมรับว่าเคยทำร้ายร่างกายอดีตสามี

มีการวิเคราะห์ว่า  นี่คือยุทธิวิธีเพื่อประชันขันแข่งกับ The Sun ที่ต้องประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระเอกA List    อันเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้คดีหมิ่นประมาท      ในขณะที่สื่อดังหลายเจ้าจะเน้นรายงานเรื่องการอุทิศตัวเพื่องานสังคมของ AH  และวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมเจ้าปัญหาของ JD      แต่ Daily Mail กลับฉีกแนวออกมาด้วยการตั้งข้อสงสัยกับคำพูดของเธอ     แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้โจมตีฝ่ายหญิงอยู่คนเดียว หากมีข้อมูลใดที่เรียกยอด view ได้ ไม่ว่าจะเป็นความฉาวโฉ่ของฝ่ายใด แทบลอยด์ทรงอิทธิพลจากอังกฤษก็ไม่ลังเลจะนำมาเสิร์ฟ!

AH ให้สัมภาษณ์เต็มปากเต็มคำหลายครั้ง บริจาคเงิน 7 ล้านให้กับ 2 องค์กรการกุศล


พิธีกร: "คุณได้ทำสิ่งหนึ่งที่กลบเสียงถกเถียงในเรื่องนี้ คุณทำยังไงกับเงินจากการข้อตกลงการหย่า"
AH: " ทั้งหมด7 ล้าน ฉันแบ่งบริจาคเป็นสองส่วนให้กับ ACLU และโรงพยาบาลเด็กLos Angeles"

และเธอได้ลงท้ายอย่างหนักแน่นว่า

"ฉันไม่ต้องการเงินเลยสักนิด"



ACLU พลิกคำพูด  จากที่ยกย่อง AH ในการสนับสนุนเงินบริจาคก้อนใหญ่เพือช่วยเหยื่อความรุนแรง  เพราะถูกศาลสั่งให้เปิดเผยความจริง


การยืนยันข้อมูลจากองค์กรเพื่อสังคมคือสิ่งสำคัญที่ทำให้สื่อหลายเจ้าพร้อมใจยกย่องเธอว่า ได้ลบคำปรามาสเรื่องความพยายามกอบโกยเงินจากอดีตสามีที่อายุมากกว่ารุ่นราวคราวพ่อไปได้อย่างหมดจด และมันเป็นข้อมูลที่หนักแน่นในระดับที่ผู้พิพากษาจากคดีหมิ่นประมาทในอังกฤษยกเป็นผลประโยชน์ให้กับ AHว่าเธอไม่ได้เป็นนักขุดทองตามที่ถูกกล่าวหา มันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ JD แพ้คดี และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเธอ จากมุมมองที่ว่า หากเธอวางแผนเหนือเมฆฟ้องหย่าเพื่อเงินล้านจริงๆ ก็คงไม่บริจาคให้กับการกุศลไปทั้งหมด

ไม่เพียงแต่ ACLU จะยืนยันว่า ได้รับเงินบริจาคเลขเจ็ดหลักจากเธอ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อดังเพื่อเชิดชูการกระทำอันดีงามที่ปรารถนาจะช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรง จะมีใครเล่าที่ตั้งข้อกังขาว่าเธอไม่ได้บริจาคเงินทั้งหมดให้กับการกุศลจริงๆ

ยกเว้นแต่ทีมกฎหมายของ JD ที่พยายามสืบหาข้อมูลและวิ่งเต้นเพื่อร้องขอต่อศาลเพื่อออกคำสั่งให้องค์กรที่ไม่ยอมร่วมมือเปิดเผยข้อมูลในตอนต้นให้แสดงตัวเลขเงินบริจาคจาก AH อย่างตรงไปตรงมา กลายเป็นว่า ACLU ถูกบีบเพื่อให้การด้วยความจริงว่า ได้รับเงินบริจาคมา 1.3 ล้าน และสันนิษฐานว่า เงินบริจาคส่วนใหญ่มาจากกองทุนที่ Elon Musk มีส่วนเกี่ยวข้อง และเงินบริจาคจาก AH โดยตรงมีจำนวนเพียง 1 ใน 10 ที่ได้ให้คำมั่นไว้ และยังขอให้องค์กรปกปิดเรื่องนี้จากสื่อ






หากเป็นเซเลบรายอื่น คุณอาจจะพอนึกภาพออกว่า สื่อหลายเจ้าคงพาดหัวข่าวไปแล้วว่า ถูกจับโป๊ะ (caught lying) แม้ทนายของเธอจะเคยออกมาชี้แจงว่า เธอต้องใช้เงินมากมายไปกับการต่อสู้ทางกฎหมายเพราะJDเล่นงานเธอด้วยคำกล่าวหาเป็นเท็จจนต้องทุ่มเงินไปกับการจ้างทนายและค่าใช้จ่ายทางกฎหมายอื่นๆ แต่ที่จริงแล้ว หลังจากAHได้เขียนบทความลง Washington Post เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ที่ถูกชายทรงอิทธิพลแห่งHollywoodตามจองเวรจนชวดงานแสดงเพราะออกมาเปิดเผยเรื่องการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงโดยไม่ได้เอ่ยชื่อของอดีตสามี ส่งผลให้JD ตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทในปี2019 เป็นเวลาสามปีหลังจากที่เธอได้รับเงินจากการทำข้อตกลงการหย่า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่บางคนมองว่า ยาวนานพอที่จะบริจาคเงินให้ครบตามที่เธอประกาศออกสื่อ

แต่ถึงตอนนี้  สื่อหลายเจ้าก็ยังนำเสนอข้อมูลด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า  เธอไม่ได้บริจาคเงินในจำนวนใกล้เคียงกับที่เคยบอกไว้   และไม่ได้ quote คำพูดออกสื่อขัดแย้งกับความเป็นจริง หรือเรียกเธอว่าเป็นคนโกหกแต่อย่างใด



 ล่าสุด การพาดหัวข่าวจากสื่อที่มีน้ำเสียงเปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้ AH เปลี่ยนบริษัทประชาสัมพันธ์

หลายปีที่ผ่านมา ท่าทีของสื่อที่ระมัดระวังในการลงข่าวในด้านเสียหายจากฝั่งAH  เริ่มดูเปลี่ยนแปลงไป เมื่อการพิจารณาไต่สวนคดีแบบเปิดเผยให้สาธารณชนเฝ้าติดตามได้ทำให้หลายฝ่ายหันมารับฟังความจาก JD และคล้ายกับจะเป็นสัญญาณว่า ลมอาจจะเปลี่ยนทิศ และมีหัวข้อข่าวในแง่ลบเรื่องเธอมากขึ้น

The New York Post รายงานว่า กระแสโจมตีทำให้AHตัดสินใจยุติการร่วมงานกับ PR เจ้าเดิม แล้วว่าจ้างเฟิร์มใหม่เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้นก่อนจะขึ้นให้การ


คุณคงสัมผัสได้ว่า การเตรียมตัวเดินเกมของฝ่ายกฎหมายJD ส่งกระทบกับAH จนเธอต้องเร่งแก้เกมแล้ว


บางคนวิจารณ์ว่า การไต่สวนพิจารณาคดีที่จะกินเวลาไปอีกหลายวันนี้จะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สื่อปรับท่าที แต่ก็มีการคาดคะเนว่า หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย JD แพ้คดีเป็นครั้งที่ 2 อนาคตของเขาอาจจะดับวูบจนยากจะกลับมาเปล่งประกายอีก

สิ่งที่ผู้คนมากมายน่าจะสัมผัสได้ชัดเจนก็คือ แม้สื่อจะ portray JD ให้ดูเป็น bad boy เจ้าปัญหา ทั้งเรื่องเหล้ายาและการใช้จ่ายเงิน และไม่ลังเลจะวิจารณ์ว่าเขาเป็นชายที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ความคิด แต่ภาพของพระเอกดังในการไต่สวนล่าสุดกลับสวนทางกับภาพลักษณ์ที่สื่อโจมตี เขาดูนิ่งสงบ ไม่วอกแวกกับการยั่วยุ ทั้งยังแสดงไหวพริบโต้กลับฝ่ายตรงข้ามได้เรื่อยๆ  คดีหมิ่นประมาทครั้งนี้ อาจจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้คนได้ตระหนักเรื่องtreatmentจากสื่อที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตของคนดังอย่างใหญ่หลวง พวกเค้าให้ความเป็นธรรมมากแค่ไหนกับคนที่ถูกกล่าวหา?  หากสร้างความเสียหายที่ยากจะแก้ไขไปแล้ว มันสายไปหรือไม่ที่พวกเค้าจะหันมานำเสนอข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายโดยที่ไม่ด่วนพิพากษาใครก่อนที่จะพิจารณาหลักฐานพยานอย่างเท่าเทียม?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE