รู้หรือไม่ว่าแปรงหวีผมที่เราใช้กันอยู่ทุกวันอาจเป็นสาเหตุของผมร่วงหรือผมพันกันได้ถ้าเลือกใช้ไม่ถูกชนิด! เพราะแปรงหวีผมแต่ละแบบก็ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานและสภาพผมที่แตกต่างกัน ถ้าเราไปเลือกซื้อแปรงหวีผมโดยไม่ได้หาข้อมูลไปก่อน ก็อาจได้แปรงที่ไม่เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราและเกิดปัญหาข้างต้นได้ค่า เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักแปรงหวีผมแต่ละประเภท รวมถึงเทคนิคในการเลือกแปรงหวีผมที่เหมาะสำหรับแต่ละคนกันค่ะ

แปรงหวีผมมีกี่แบบ

แปรงหวีผมที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักหมื่น! เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้สึกสับสนและสงสัยว่าคนเราจำเป็นต้องใช้แปรงหลากหลายชนิดขนาดนั้นเลยหรอ ทั้งๆ ที่จุดประสงค์หลักของแปรงทุกชนิดก็คือ 'การหวีผม' นั่นแหละ แต่จริงๆ แล้วแปรงหรือหวีแต่ละแบบก็ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกัน และเหมาะกับการเอาไปใช้จัดแต่งทรงผมเพื่อให้ลุคที่ต่างกัน ถ้าจะให้อธิบายเกี่ยวกับแปรงหวีผมทุกประเภทก็คงจะยาวเกินไป เราเลยเลือกประเภทของแปรงและหวีที่ยังคงได้รับความนิยมมากที่สุดมาทั้งหมด 8 ชนิด ดังนี้ค่า

แปรงไม้พาย (Paddle Brush)

คุณสมบัติ
แปรงทรงไม้พายหรือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีหน้ากว้างและแบนทำให้สามารถหวีผมในบริเวณกว้างได้ในคราวเดียว ส่วนใหญ่จะมีแผ่นรองที่ทำจากยางและขนแปรงที่ทำจากพลาสติก แปรงหวีผมชนิดนี้ยังช่วยลดผมพันกันและนวดหนังศีรษะได้ด้วย เหมาะสำหรับใช้หวีผมทั่วไปและใช้ในการไดร์ผม

เหมาะสำหรับ
คนที่มีผมยาวปานกลางถึงผมยาวมาก ใช้ได้ทั้งกับผมตรง ผมหยักศก และผมหยิก

เทคนิคในการเลือก 
สำหรับคนผมหนาแนะนำให้เลือกแปรงไม้พายที่มีขนแปรงไนลอนหรือพลาสติกจะให้ความรู้สึกแข็งแรงและมั่นคงกว่าในขณะหวี

แปรงกลม (Round Brush)

คุณสมบัติ 
แปรงหวีผมแบบกลมเหมาะสำหรับใช้ในการไดร์ผม เพราะช่วยลดผมชี้ฟู เพิ่มวอลุ่มให้ผมดูเป็นลอนไม่ลีบแบน เป่ายกโคนผม ม้วนปลายผมให้ไม่เป็ดได้เริ่ดกว่าแปรงชนิดอื่นๆ โดยทั่วไปแปรงชนิดนี้อาจมีแกนที่ทำจากไม้ เซรามิค หรืออะลูมิเนียมที่สามารถทนความร้อนและกักเก็บความร้อนจากไดร์เป่าผมไว้ได้ดี ช่วยให้ไดร์ผมได้แห้งเร็วยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายแพงให้กับแกนม้วนผมไฟฟ้าได้เลยล่ะ

เหมาะสำหรับ 
ทุกสภาพผม ตั้งแต่ผมสั้นจนถึงผมยาวที่ต้องการเพิ่มวอลุ่มให้ผมลีบแบน

เทคนิคในการเลือก
ใครที่มีผมเส้นเล็กควรหลีกเลี่ยงแปรงกลมที่มีวัสดุแบบเก็บความร้อน เพราะความร้อนที่มากเป็นพิเศษอาจยิ่งทำให้ผมเส้นเล็กบอบบางแห้งเสียหรือขาดได้ง่าย นอกจากนั้นแปรงกลมยังมีหลายขนาด โดยพื้นฐานคือให้เลือกขนาดตามความยาวของผม ถ้าผมสั้นก็เลือกแปรงที่มีขนาดแกนเล็ก และผมยาวขนาดแกนใหญ่ เป็นต้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ทรงผมที่ต้องการด้วยเพราะถ้าใช้แปรงกลมที่มีแกนเล็กก็จะสามารถสร้างลอนผมที่หยักและเล็กตามไปด้วย ส่วนแปรงที่มีลอนใหญ่จะให้ผมที่ดูตรงหรือมีความเป็นคลื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แปรงแก้ผมพันกัน (Detangling Brush)

คุณสมบัติ
แปรงหวีผมชนิดนี้สามารถใช้ได้ทั้งตอนผมเปียกและผมแห้งเพื่อช่วยสางผมพันกันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ดึงหรือรั้งผมเหมือนกับแปรงหวีผมชนิดอื่นๆ มีความอ่อนโยนกับผมสามารถใช้ได้กับทุกคนแม้แต่กับเด็ก แปรงชนิดนี้อาจมีหน้าตาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ทั้งแบบที่มีด้ามจับและไม่มีด้ามจับ แต่ส่วนใหญ่จะมีขนแปรงเป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นแต่แข็งแรง

เหมาะสำหรับ
ทุกสภาพผมตั้งแต่ผมบางจนถึงผมหนามาก ผมตรง และผมหยิก

เทคนิคในการเลือก
เลือกแปรงหวีผมที่มีขนาดและรูปทรงจับถนัดมือเพื่อให้สามารถแปรงผมที่พันกันให้คลายออกโดยที่แปรงไม่หลุดมือได้ง่าย

แปรงสระผม (Shower Brush หรือ Scalp Massaging Brush)

คุณสมบัติ 
แปรงหวีผมชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ตอนสระผมโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะทำจากพลาสติกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นในส่วนของขนแปรงหรือด้ามจับ เพื่อให้สามารถโดนน้ำได้ ขนแปรงมักจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีปลายเรียวแหลม และขนแปรงอยู่ห่างจากกัน เหมาะกับการนวดหนังศีรษะให้ความรู้สึกผ่อนคลายตอนสระผม และยังช่วยสครับหนังศีรษะ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกได้ด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีปัญหารังแค

เหมาะสำหรับ 
ทุกสภาพผมที่ต้องการการนวดบำรุงหนังศีรษะหรือสครับหนังศีรษะ

เทคนิคในการเลือก 
เลือกแปรงที่มีด้ามจับถนัดมือเพื่อที่จะสามารถนวดผมได้อย่างมั่นคงไม่หลุดจากมือตอนอาบน้ำ และมีด้ามหรือเชือกสำหรับแขวนไว้ในห้องน้ำเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

แปรงที่มีฐานโปร่ง (Vent Brush)

คุณสมบัติ
แปรงชนิดนี้มีรูตรงบริเวณฐานของแปรงเหมือนกับชื่อแปรง ช่วยระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับใช้ร่วมกับไดร์เป่าผมเมื่อต้องการเป่าผมให้แห้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เน้นจัดแต่งทรงผมแบบเนี๊ยบมากนัก และอาจช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ผมได้เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ขนแปรงของแปรงหวีผมชนิดนี้จะทำจากพลาสติกและมีปุ่มกลมๆ ที่ปลาย ซึ่งขนแปรงจะไม่ได้มีจำนวนหนาแน่นมากและอยู่ค่อนข้างห่างกัน

เหมาะสำหรับ
ผมเส้นเล็กถึงปานกลาง ผมสั้นถึงผมยาวประมาณประบ่า

เทคนิคในการเลือก
เลือกขนแปรงที่มีความแข็งแรงแต่ยืดหยุ่นและไม่แข็งจนเกินไปเพราะอาจทำให้เจ็บหนังศีรษะตอนไดร์ผมแบบรีบๆ ได้

แปรงยีผม (Tease Brush)

คุณสมบัติ 
แปรงที่ออกแบบมาเพื่อยีผมให้พองดูมีวอลุ่มเพื่อหลอกตาให้ผมดูเยอะหรือหนากว่าจริง ส่วนใหญ่จะมาพร้อมด้ามแปรงที่เรียวแหลมซึ่งสามารถใช้ในการแบ่งผมเป็นเซ็กชันได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแปรง Must have ที่ช่างทำผมทุกคนต้องมี และถึงแม้ว่าแปรงชนิดนี้ดูจะตอบโจทย์คนที่มีผมน้อยสุดๆ แต่เราก็แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรยีผมบ่อยเกินจำเป็นเพราะอาจทำให้ผมอ่อนแอ ขาดหลุดร่วงได้ง่ายๆ ค้า

เหมาะสำหรับ 
ทุกสภาพผม

เทคนิคในการเลือก 
แปรงยีผมมีขนแปรงทั้งแบบที่เป็นขนสัตว์และขนสังเคราะห์ ซึ่งขนแปรงที่ทำจากขนสัตว์จะเหมาะกับคนที่มีผมเส้นเล็ก ผมบาง และผมอ่อนแอ เพราะมีความอ่อนโยนต่อผมมากกว่าขนแปรงสังเคราะห์

หวีซี่ห่าง (Wide-toothed Comb)

คุณสมบัติ 
หวีที่มีลักษณะเหมือนกับชื่อนั่นก็คือมีซี่ที่ห่างออกจากกัน เป็นหวีอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะสำหรับสางผมพันกันในขณะที่ผมเปียกโดยไม่ทำร้ายผมหรือดึงผม นอกจากนั้นยังเหมาะสำหรับใช้ตอนมาสก์ผมเพื่อหวีให้ผลิตภัณฑ์กระจายทั่วทั้งศีรษะ หรือจะใช้หวีผมหลังสเปรย์ Leave-in Conditioner เพื่อช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ให้ทั่วเส้นผมได้เช่นกันค่า

เหมาะสำหรับ 
ทุกสภาพผม

เทคนิคในการเลือก 
ถ้าใครที่มีผมชี้ฟูง่าย ไม่มีน้ำหนัก ลองเลือกหวีซี่ห่างที่ทำจากไม้แทนแบบพลาสติก เพราะช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ดีกว่า

หวีปลายแหลม (Rat Tail Comb)

คุณสมบัติ 
หวีปลายแหลมมีด้ามหวีที่เรียวแหลมและซี่แปรงถี่ เหมาะสำหรับการแบ่งผมเป็นเซ็กชันและหวีผมได้เรียบเป๊ะ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ในการยีผมให้โป่งพองได้ด้วย ส่วนใหญ่มักทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือเหล็ก เรียกได้ว่าเป็นหวีที่มีประโยชน์หลากหลายมาก ใครที่ชอบเปลี่ยนสไตล์ทรงผมเป็นประจำต้องมีหวีปลายแหลมติดกรุไว้เลยค้า

เหมาะสำหรับ 
ทุกสภาพผม

เทคนิคในการเลือก 
หากต้องการจัดแต่งทรงผมให้เนี๊ยบหรือเป๊ะเป็นพิเศษ ให้เลือกใช้หวีปลายแหลมที่ตัวด้ามทำจากเหล็ก เนื่องจากมีความเรียวแหลมกว่าแบบพลาสติก แต่เวลาใช้ก็ต้องระวังเป็นพิเศษด้วยน้าเพราะอาจบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลยค่า

ขนแปรงมีกี่แบบ 

นอกจากการเลือกประเภทของแปรงให้เข้ากับการใช้งานและสภาพผมของเราแล้วก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกขนแปรงที่เหมาะกับเราเช่นกัน เพราะขนแปรงแต่ละชนิดก็อาจเหมาะกับคนผมบางผมหนาแตกต่างกันไป ถ้าอยากจะให้ผมเรามีสุขภาพดีแข็งแรง ไม่หลุดร่วงเกินจำเป็นก็ควรเลือกขนแปรงที่ใช่ด้วยค่า

ขนแปรงธรรมชาติ 
ขนแปรงธรรมชาติที่นำมาใช้ทำแปรงหวีผมส่วนใหญ่มาจากขนสัตว์ เช่น ขนหมูป่า ขนม้า หรือขนกระรอก ซึ่งขนหมูป่าได้รับความนิยมและหาซื้อได้ง่ายมากที่สุด เพราะให้สัมผัสที่นุ่มละมุน และยังแปรงแล้วทำให้ผมเงางามดูสุขภาพดี เพราะช่วยกระตุ้นหนังศีรษะให้ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติ

ขนแปรงสังเคราะห์ 
ขนแปรงสังเคราะห์ที่พบได้บ่อยในแปรงหวีผมทั่วไปก็คือขนแปรงไนลอนและพลาสติก ซึ่งจะเหมาะสำหรับการสางผมพันกันและลดผมชี้ฟูได้มากกว่าขนแปรงธรรมชาติ นอกจากนั้นขนแปรงสังเคราะห์ยังเหมาะสำหรับใช้ร่วมกับการไดร์ผมให้แห้งเพราะสามารถใช้ในขณะผมเปียกและระบายความร้อนได้ดี

ขนแปรงแบบผสม 
แปรงหวีผมที่มีทั้งขนแปรงธรรมชาติและขนแปรงสังเคราะห์ในตัวเดียว รวมคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของแปรงทั้งสองชนิดไว้ด้วยกัน นั่นก็คือสามารถบำรุงผมให้เงางามในขณะที่สามารถสางผมพันกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ทำให้แปรงชนิดนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะทุกคนสามารถใช้ได้ 

เลือกขนแปรงยังไงให้เหมาะกับผมเรา

ผมเส้นเล็กถึงปานกลาง 

คนที่มีผมเส้นเล็กถึงปานกลางมักสามารถจัดแต่งดูแลผมให้เรียบสวยได้ไม่ยาก แต่สำหรับคนที่มีปัญหาผมบาง ผมเปราะบางขาดง่าย หรือผมเสียร่วมด้วย ยิ่งควรเลือกแปรงหวีผมที่มีขนแปรงทำจากขนหมูป่า 100% เพราะมีความอ่อนโยน ไม่ดึงผมให้ขาดหลุดร่วงได้ง่าย แถมยังช่วยบำรุงหนังศีรษะทุกครั้งที่หวี ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่รากผม กระตุ้นให้ผมมีสุขภาพดีตามธรรมชาติ

ผมปานกลางถึงผมเส้นใหญ่ 

แปรงหวีผมที่มีขนแปรงแบบผสมจากขนหมูป่าและไนลอนนั้นเหมาะกับคนที่มีผมหนาปานกลางถึงผมเส้นใหญ่อย่างยิ่ง เพราะแทนที่จะเลือกขนแปรงแบบใดแบบหนึ่ง แต่แปรงหวีผมที่มีขนแปรงแบบผสมรวมข้อดีของขนแปรงแต่ละชนิดไว้ด้วยกัน สามารถช่วยหวีผมได้เรียบลื่นไม่พันกันแต่ก็สามารถช่วยกระตุ้นหนังศีรษะให้ผลิตน้ำมันธรรมชาติให้ผมสุขภาพดีได้อีกด้วย

ผมเส้นใหญ่มาก

สำหรับคนที่มีผมเส้นใหญ่มาก แปรงหวีผมทีทำจากขนหมูป่าอ่อนนุ่มอาจเอาไม่อยู่ ลองเลือกใช้แปรงที่มีขนแปรงไนลอน เพราะมีความแข็งและยืดหยุ่นน้อยกว่าขนแปรงธรรมชาติ สามารถหวีผมเส้นใหญ่และหนาได้เรียบลื่นและมีความมั่งคงกว่า

ผมหยิก 

หลายคนที่ดัดผมหยิกอาจไม่กล้าที่จะหวีผมเพราะกลัวว่าจะทำให้ลอนคลายเร็วกว่าที่ควร แต่การละเลยที่จะไม่หวีผมเลยก็อาจทำให้ผมพันกันและดูยุ่งเหยิงไม่เป็นลอนสวยได้นะค้า หากต้องการสางผมพันกันโดยไม่ทำให้ลอนผมคลายหรือผมขาดหลุดร่วงให้เลือกใช้หวีซี่ห่างหรือแปรงที่มีขนแปรงทำจากไม้ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ลอนผมคลายแล้วยังสามารถช่วยลดไฟฟ้าสถิตหรือผมชี้ฟูได้อย่างดีอีกด้วย

ผมม้าหรือผมสั้นมาก 

สำหรับคนที่ไว้ผมม้าหรือไว้ผมสั้นมากๆ ลองเลือกใช้แปรงกลมที่มีขนแปรงหมูป่า โดยเลือกแปรงที่มีแกนขนาดเล็กพิเศษหรือขนาดที่พอดีกับความยาวของผม ขนแปรงหมูป่าจะช่วยจัดแต่งทรงผมได้อย่างแม่นยำมากกว่าขนแปรงชนิดอื่นๆ ช่วยสไตล์ผมให้เรียบลื่น ดูมีวอลุ่มได้ตามต้องการ

เป็นยังไงกันบ้างค้า หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับแปรงหวีผมที่เราได้แชร์ไปในวันนี้จะให้ไอเดียกับเพื่อนๆ ในการเลือกซื้อแปรงหวีผมที่ใช่กันนะค้า แต่ไม่ว่าจะเลือกแปรงแบบไหน ก็อย่าลืมใช้งานให้ถูกวิธีและล้างทำความสะอาดแปรงเป็นประจำทุกๆ 2-3 อาทิตย์ด้วยสบู่เด็กด้วยล่ะ เพราะผมที่สะอาดก็ต้องเริ่มจากแปรงหวีผมที่สะอาดจริงมั้ยคะ เพื่อนๆ มีสภาพผมแบบไหนแล้วชอบใช้แปรงอันไหนกันบ้างก็มาแชร์ให้ฟังกันได้น้า เผื่อเป็นไอเดียให้คนอื่นๆ ได้ไปซื้อตามกันบ้างค้า

References 

• https://www.allthingshair.com/th-th/การดูแลผม/ประเภทของหวีและแปรง/
• https://www.stylecraze.com/articles/hair-brush-types/
• https://www.luxyhair.com/blogs/hair-blog/your-ultimate-hairbrush-guide
• https://www.holleewoodhair.com/types-of-hair-brushes/
• https://www.healthline.com/health/hair-brush-types#hairbrush-types
• https://www.byrdie.com/how-to-pick-the-right-hair-brush
• https://www.bigelowchemists.com/blog/ask-a-beauty-expert/hairbrush-bristles-natural-vs-synthetic/